2010–2019
พลังอำนาจในฐานะปุโรหิต
ตุลาคม 2013


พลังอำนาจในฐานะปุโรหิต

ชายอาจเป็นผู้เปิดม่านเพื่อให้แสงแดดอันอบอุ่นส่องเข้ามาในห้อง แต่ชายผู้นั้นไม่ได้เป็นเจ้าของดวงอาทิตย์ หรือแสงสว่าง หรือความอบอุ่นที่มากับแสง

พรฐานะปุโรหิตมีไว้เพื่อทุกคน

ขณะที่เด็กๆ ในการประชุมศีลระลึกร้องเพลงปฐมวัย “รักได้เอ่ยที่นี่” อย่างมีความสุข ทุกคนยิ้มด้วยความพึงพอใจ คุณแม่ผู้กล้าหาญเลี้ยงดูลูกห้าคนตั้งใจฟังจนถึงข้อสอง “นี่คือบ้านฉัน ทุกวันได้รับพรโดยอำนาจฐานะปุโรหิต”1 เธอคิดอย่างเศร้าใจว่า “ลูกๆ ของฉันไม่เคยรู้จักบ้านแบบนั้นเลย”2

ข่าวสารของข้าพเจ้าถึงสตรีที่ซื่อสัตย์และทุกคนคือเราสามารถดำเนินชีวิตทุกโมงยาม “ได้รับพรโดยอำนาจฐานะปุโรหิต” ไม่ว่าสภาวการณ์ของเราจะเป็นเช่นไร

บางครั้งเราเชื่อมโยงพลังอำนาจของฐานะปุโรหิตเข้ากับผู้ชายในศาสนจักรมากเกินไป ฐานะปุโรหิตเป็นพลังอำนาจและสิทธิอำนาจของพระผู้เป็นเจ้าที่ประทานไว้เพื่อความรอดและพรของคนทั้งปวง—ชาย หญิง และเด็ก

ชายอาจเป็นผู้เปิดม่านเพื่อให้แสงแดดอันอบอุ่นส่องเข้ามาในห้อง แต่ชายผู้นั้นไม่ได้เป็นเจ้าของดวงอาทิตย์ หรือแสงสว่าง หรือความอบอุ่นที่มากับแสง พรของฐานะปุโรหิตยิ่งใหญ่กว่าบุคคลที่ทำหน้าที่ปฏิบัติของประทานนี้อย่างสุดประมาณ

การรับพร พลังอำนาจและสัญญาของฐานะปุโรหิตในชีวิตนี้และชีวิตหน้าคือหนึ่งในโอกาสและความรับผิดชอบสำคัญของความเป็นมรรตัย ขณะเรามีค่าควร ศาสนพิธีของฐานะปุโรหิตสร้างเสริมชีวิตเราบนแผ่นดินโลกและเตรียมเราให้พร้อมรับสัญญาอันวิจิตรของโลกหน้า พระเจ้าตรัสว่า “ในศาสนพิธี … พลังอำนาจของความเป็นเหมือนพระผู้เป็นเจ้าจึงแสดงให้ประจักษ์”3

มีพรพิเศษจากพระผู้เป็นเจ้าสำหรับผู้มีค่าควรทุกคนที่รับบัพติศมา รับพระวิญญาณบริสุทธิ์ และรับส่วนศีลระลึกอย่างเป็นประจำ พระวิหารเพิ่มพูนความสว่างและนำความเข้มแข็งมาพร้อมกับสัญญาแห่งชีวิตนิรันดร์4

ศาสนพิธีทั้งหมดเชื้อเชิญให้เราเพิ่มศรัทธาในพระเยซูคริสต์และทำและรักษาพันธสัญญากับพระผู้เป็นเจ้า ขณะที่เรารักษาพันธสัญญาศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ เราได้รับพลังอำนาจและพรฐานะปุโรหิต

เราไม่รู้สึกถึงพลังอำนาจของฐานะปุโรหิตนี้ในชีวิตของเราเองและเห็นอยู่ท่ามกลางสมาชิกศาสนจักรที่รักษาพันธสัญญาหรอกหรือ เราเห็นสิ่งนี้ในผู้เปลี่ยนใจเลื่อมใสใหม่ขณะก้าวขึ้นจากน้ำแห่งบัพติศมาด้วยความรู้สึกถึงการให้อภัยและสะอาด เราเห็นเด็กและเยาวชนของเราไวต่อการกระตุ้นเตือนและการนำทางของพระวิญญาณบริสุทธิ์มากขึ้น เราเห็นศาสนพิธีพระวิหารเป็นประภาคารแห่งความเข้มแข็งและแสงสว่างสำหรับชายหญิงที่ชอบธรรมทั่วโลก

เดือนที่แล้วข้าพเจ้าเฝ้าดูคู่สามีภรรยาหนุ่มสาวที่ได้รับความเข้มแข็งมากมายจากสัญญาการผนึกในพระวิหารเนื่องจากทารกชายผู้ล้ำค่าของพวกเขาเกิดและอยู่ได้เพียงหนึ่งสัปดาห์ โดยผ่านศาสนพิธีของฐานะปุโรหิต สามีภรรยาหนุ่มสาวคู่นี้และเราทุกคนได้รับการปลอบโยน ความเข้มแข็ง ความคุ้มครอง สันติสุข และสัญญานิรันดร์5

เรารู้อะไรเกี่ยวกับฐานะปุโรหิต

บางคนอาจถามด้วยความจริงใจว่า “ถ้าพลังอำนาจและพรของฐานะปุโรหิตมีไว้สำหรับทุกคน ทำไมผู้ชายจึงเป็นผู้ปฏิบัติศาสนพิธีของฐานะปุโรหิต”

เมื่อเทพถามนีไฟว่า “เจ้ารู้จักพระจริยวัตรอันอ่อนน้อมของพระผู้เป็นเจ้าไหม?” นีไฟตอบอย่างซื่อสัตย์ว่า “ข้าพเจ้ารู้ว่าพระองค์ทรงรักลูกๆ ของพระองค์; กระนั้นก็ตาม, ข้าพเจ้าไม่รู้ความหมายของเรื่องทั้งหมด” 6

เมื่อเราพูดถึงฐานะปุโรหิต มีหลายสิ่งที่เรารู้

ทุกคนเหมือนกันหมด

เรารู้ว่าพระผู้เป็นเจ้าทรงรักลูกๆ ทุกคนของพระองค์และไม่ทรงเลือกหน้าผู้ใด “พระองค์ไม่ทรงปฏิเสธผู้ใดที่มาหาพระองค์เลย … ชาย [หรือ] หญิง; … และทุกคนเหมือนกันหมดสำหรับพระผู้เป็นเจ้า”7

แน่นอนเช่นเดียวกับที่เรารู้ว่าความรักของพระผู้เป็นเจ้า “เหมือนกัน” สำหรับบุตรธิดาของพระองค์ เรารู้เช่นกันว่าพระองค์ไม่ได้ทรงสร้างชายและหญิงให้เหมือนกันทุกประการ เรารู้ว่าเพศคือลักษณะอันสำคัญยิ่งของทั้งอัตลักษณ์และจุดประสงค์มรรตัยและนิรันดร์ของเรา ทั้งสองเพศต่างมีหน้าที่รับผิดชอบอันศักดิ์สิทธิ์8

จากกาลเริ่มต้น

เรารู้ว่านับจากกาลเริ่มต้นพระเจ้าทรงสถาปนาวิธีปฏิบัติฐานะปุโรหิตของพระองค์ “อาดัมได้รับฐานะปุโรหิตเป็นคนแรก”9 โนอาห์ อับราฮัม และโมเสส ทุกท่านปฏิบัติศาสนพิธีฐานะปุโรหิต พระเยซูคริสต์ทรงเคยเป็นและทรงเป็นมหาปุโรหิตผู้ยิ่งใหญ่ พระองค์ทรงเรียกอัครสาวก “ท่านไม่ได้เลือกเรา” พระองค์ตรัส “แต่เราเลือกพวกท่านและแต่งตั้งท่าน”10 ในยุคของเราพระผู้เป็นเจ้าทรงส่งทูตสวรรค์ ยอห์นผู้ถวายบัพติศมา เปโตร ยากอบและยอห์น มาฟื้นฟูฐานะปุโรหิตบนแผ่นดินโลกผ่านศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธ11 นี่คือวิธีที่พระบิดาในสวรรค์ของเราทรงปฏิบัติฐานะปุโรหิตของพระองค์12

ของประทานมากมายจากพระผู้เป็นเจ้า

เรารู้ว่าพลังอำนาจของฐานะปุโรหิตศักดิ์สิทธิ์ทำงานโดยขึ้นอยู่กับศรัทธา พระวิญญาณบริสุทธิ์และของประทานฝ่ายวิญญาณ พระคัมภีร์เตือนว่า “ไม่ให้ปฏิเสธของประทานของพระผู้เป็นเจ้า, เพราะมีอยู่หลายอย่าง…และมีวิธีต่างๆ กันที่จะให้ของประทานเหล่านี้; แต่เป็นพระผู้เป็นเจ้าเดียวกันทรงทำงานในทุกสิ่งและใน [พวกเขา] ทุกคน”13

ความมีค่าควร

เรารู้ว่าความมีค่าควรเป็นศูนย์กลางในการประกอบและรับศาสนพิธีฐานะปุโรหิตเสมอ ซิสเตอร์ลินดา เค. เบอร์ตัน ประธานสมาคมสงเคราะห์สามัญกล่าวว่า “ความชอบธรรมคือสิ่งที่บ่งบอกคุณสมบัติเหมาะสม ... ที่จะเปิดทางให้อำนาจฐานะปุโรหิตเข้ามาในชีวิตเรา”14

ตัวอย่างเช่น เมื่อพิจารณาการแพร่ระบาดของสื่อลามกที่ลุกลามไปทั่วโลก มาตรฐานแห่งความมีค่าควรของพระเจ้าไม่เปิดโอกาสให้สื่อลามกเข้ามาในหมู่ผู้คนที่ปฏิบัติหน้าที่ในศาสนพิธีของฐานะปุโรหิต พระผู้ช่วยให้รอดตรัสว่า

“จงกลับใจจาก … ความน่าชิงชังลับๆ ของเจ้า”15

“ตาเป็นประทีปของร่างกาย … ถ้าตาของท่านผิดปกติ ทั้งตัวของท่านก็พลอยมืดไปด้วย”16

“[เพราะ] ใครมองผู้หญิงด้วยใจกำหนัดในหญิงนั้น คนนั้นได้ล่วงประเวณีในใจของเขากับหญิงนั้นแล้ว”17

เอ็ลเดอร์เดวิด เอ. เบดนาร์กล่าวว่าการปฏิบัติหรือส่งผ่านศีลระลึก การให้พรผู้ป่วย หรือมีส่วนร่วมในศาสนพิธีฐานะปุโรหิตอื่นๆ โดยไม่มีค่าควรเป็นการใช้พระนามของพระผู้เป็นเจ้าโดยไม่สมควร18 ถ้าคนใดไม่มีค่าควร เขาพึงถอนตัวจากการปฏิบัติหน้าที่ในศาสนพิธีฐานะปุโรหิตและเข้าพบอธิการร่วมกับการสวดอ้อนวอนเป็นขั้นตอนแรกของการกลับใจและกลับสู่พระบัญญัติ

ความอ่อนน้อมถ่อมตน

เรารู้อีกอย่างหนึ่งว่ามีพรของฐานะปุโรหิตมากมายในครอบครัวที่บิดามารดาผู้ชอบธรรมเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในการนำทางลูกๆ ของพวกเขา แต่เรารู้เช่นกันว่าพระผู้เป็นเจ้าทรงจัดเตรียมพรเดียวกันนี้ให้แก่ผู้ที่อยู่ในสถานการณ์อื่นอีกมากมายด้วยความกระตือรือร้น19

แม่คนหนึ่งผู้แบกภาระเลี้ยงดูครอบครัวทั้งทางโลกและทางวิญญาณ อธิบายด้วยความรู้สึกละเอียดอ่อนว่าการเรียกผู้สอนประจำบ้านมาให้พรลูกของเธอคนหนึ่งต้องใช้ความนอบน้อม แต่เธอเสริมด้วยความเข้าใจที่ลึกซึ้งว่าเธอไม่ต้องใช้ความนอบน้อมมากไปกว่าผู้สอนประจำบ้านของเธอที่ต้องใช้เพื่อเตรียมให้พรลูกของเธอ20

กุญแจของฐานะปุโรหิต

เรารู้ว่าสมาชิกในฝ่ายประธานสูงสุดและโควรัมอัครสาวกสิบสองถือกุญแจฐานะปุโรหิตเพื่อกำกับดูแลงานของพระเจ้าบนแผ่นดินโลก ประธานสเตคและอธิการได้รับการประสาทกุญแจฐานะปุโรหิตที่มีอำนาจเฉพาะสำหรับหน้าที่รับผิดชอบในเขตภูมิศาสตร์ของตน และโดยการเปิดเผยพวกเขาเรียกชายหญิงผู้ได้รับการสนับสนุนและวางมือมอบหน้าที่ให้ใช้สิทธิอำนาจที่ได้รับมอบเพื่อสอนและปฏิบัติ21

ขณะที่เรารู้ว่ามีเรื่องมากมายเกี่ยวกับฐานะปุโรหิตที่การมองผ่านเลนส์แห่งความเป็นมรรตัยทำให้ไม่อาจเข้าใจการทำงานของพระผู้เป็นเจ้าได้อย่างถ่องแท้เสมอไป  แต่พระดำรัสเตือนอย่างอ่อนโยนที่ว่า “เพราะความคิดของเราไม่ใช่ความคิดของเจ้า และทางของพวกเจ้าก็ไม่ใช่ทางของเรา”22 ทำให้เรามั่นใจว่าด้วยเวลาและมุมมองนิรันดร์เราจะเห็นเรื่องต่างๆ “ดังที่มันเป็นจริง”23 และเข้าใจความรักที่สมบูรณ์แบบของพระองค์อย่างถ่องแท้มากขึ้น

เราทุกคนเต็มใจรับใช้ บางครั้งเรารู้สึกว่าการเรียกของเรานั้นน้อยเกินไปและปรารถนาจะทำมากขึ้น ครั้งอื่นๆ เราซาบซึ้งใจเมื่อถึงเวลาได้รับการปลด เราไม่ได้ตัดสินใจสำหรับการเรียกของเรา24 ข้าพเจ้าเรียนรู้บทเรียนนี้ในช่วงแรกของชีวิตแต่งงาน ในฐานะคู่สมรสหนุ่มสาว ข้าพเจ้ากับเคธีภรรยาข้าพเจ้าอยู่ในฟลอริดา วันอาทิตย์นั้นที่ปรึกษาในฝ่ายประธานเสตคบอกข้าพเจ้าว่าพวกเขารู้สึกประทับใจที่จะเรียกแคธีเป็นครูเซมินารีเช้าตรู่

“เราจะทำอย่างไร” ข้าพเจ้าถาม “เรามีลูกเล็กๆ เซมินารีเริ่มตีห้า และข้าพเจ้าเป็นประธานเยาวชนชายวอร์ด”

ที่ปรึกษายิ้มพลางพูดว่า “เรื่องนั้นไม่เป็นปัญหา บราเดอร์แอนเดอร์เซ็น เราจะเรียกเธอแล้วปลดคุณ”

และนั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น

ผลงานจากการอุทิศตนของสตรี

การสอบถาม การฟังความคิดเห็นและข้อกังวลจากสตรีเป็นเรื่องสำคัญยิ่งในชีวิต ในการแต่งงาน และการสร้างอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้า

ยี่สิบปีก่อนในการประชุมใหญ่สามัญ เอ็ลเดอร์เอ็ม. รัสเซลล์ บัลลาร์ดกล่าวถึงการสนทนาของท่านกับประธานสมาคมสงเคราะห์สามัญ มีการตั้งคำถามเกี่ยวกับการเสริมสร้างความมีค่าควรของเยาวชนเพื่อเตรียมรับใช้งานเผยแผ่ ซิสเตอร์อีเลน แจ็คยิ้มพลางกล่าวว่า “ท่านทราบไหมคะ เอ็ลเดอร์บัลลาร์ด [สตรี] ในศาสนจักรอาจให้คำแนะนำที่ดีได้ … ถ้าจะถามพวกเธอ ถึงอย่างไร … เราก็ เป็น แม่พวกเขา!”25

ประธานโธมัส เอส. มอนสันมีประวัติการถามและตอบรับข้อกังวลของสตรียาวนานตลอดชีวิตท่าน สตรีผู้มีอิทธิพลต่อท่านมากที่สุดคือซิสเตอร์ฟรานเซส มอนสัน เราทุกคนคิดถึงเธอเหลือเกิน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมานี้เอง ประธานมอนสันเตือนเจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่ในเรื่องเดียวกันนี้ว่าในฐานะอธิการท่านเรียนรู้จากหญิงม่าย 84 คนในวอร์ดของท่านอย่างไร พวกเธอมีอิทธิพลอย่างมากต่อการรับใช้ของท่านและตลอดชีวิต

ก่อนการตัดสินใจร่วมกับการสวดอ้อนวอนของประธานมอนสันเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงอายุผู้รับใช้เป็นผู้สอนศาสนา ไม่น่าแปลกใจที่มีการสนทนากันหลายครั้งกับฝ่ายประธานสามัญองค์การสมาคมสงเคราะห์ เยาวชนหญิง และปฐมวัย

อธิการทั้งหลาย เมื่อท่านทำตามแบบอย่างของประธานมอนสัน ท่านจะรู้สึกว่าพระหัตถ์แห่งการนำทางของพระเจ้าเป็นพรต่องานศักดิ์สิทธิ์ของท่านอย่างล้นเหลือ

เราอยู่ในบราซิลหลายปี ไม่นานหลังจากไปถึงที่นั่น ข้าพเจ้าพบกับอเดลสัน ปาเฮลลา ซึ่งรับใช้เป็นสาวกเจ็ดสิบ และน้องชายของเขาอดิลสันรับใช้ในฝ่ายประธานสเตคของเรา ต่อมาข้าพเจ้าพบอดัลตันพี่ชายพวกเขาซึ่งรับใช้เป็นประธานสเตคในโฟลเรียนอโปลิส และอเดลโมน้องชายอีกคนหนึ่งรับใช้เป็นอธิการ ข้าพเจ้าประทับใจศรัทธาของพี่น้องชายเหล่านี้จึงถามถึงบิดามารดาของพวกเขา

เมื่อ 42 ปีก่อน ครอบครัวนี้รับบัพติศมาที่ซานตูส บราซิล อดิลสัน ปาเฮลลากล่าวว่า “ช่วงแรก คุณพ่อดูจะตื่นเต้นมากที่เป็นสมาชิกศาสนจักร แต่ [ไม่นาน] ท่านกลับแข็งขันน้อยและขอคุณแม่ไม่ไปโบสถ์”

อดิลสันเล่าว่า คุณแม่เย็บเสื้อผ้าให้เพื่อนบ้านพอได้ค่ารถประจำทางให้ลูกๆ ของเธอไปโบสถ์ เด็กชายตัวเล็กสี่คนเดินไปด้วยกันไกลกว่าสองกิโลเมตรเพื่อไปอีกเมืองหนึ่ง ขึ้นรถประจำทางนาน 45 นาที จากนั้นเดินอีก 20 นาทีถึงอาคารนมัสการ

ถึงแม้จะไปโบสถ์กับลูกไม่ได้ แต่ซิสเตอร์ปาเฮลลายังอ่านพระคัมภีร์กับลูกชายและลูกสาว สอนพระกิตติคุณให้ลูกและสวดอ้อนวอนด้วยกัน บ้านหลังเล็กของพวกเขาเปี่ยมไปด้วยพรของอำนาจฐานะปุโรหิต เด็กชายตัวเล็กๆ สี่คนเติบโต รับใช้คณะเผยแผ่ ได้รับการศึกษา และแต่งงานในพระวิหาร บ้านของพวกเขาเปี่ยมไปด้วยพรของฐานะปุโรหิต

หลายปีต่อมา ในฐานะสตรีโสด วานีย์ ปาเฮลลาเข้าพระวิหารเพื่อรับเอ็นดาวเมนท์ของตนเองและยังคงรับใช้ในคณะเผยแผ่ที่บราซิลสามครั้ง ปัจจุบันเธออายุ 84 ปี ศรัทธาของเธอดำเนินต่อไปเพื่อเป็นพรแก่คนในรุ่นต่อๆ มา

ประจักษ์พยานและพระสัญญา

พลังอำนาจฐานะปุโรหิตอันศักดิ์สิทธิ์ของพระผู้เป็นเจ้ามีอยู่ในศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย ข้าพเจ้าเป็นพยานว่า เมื่อท่านมีส่วนร่วมอย่างมีค่าควรในศาสนพิธีของฐานะปุโรหิต พระเจ้าจะประทานความเข้มแข็ง สันติสุข และทัศนคตินิรันดร์แก่ท่าน ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นไร บ้านของท่านจะ “เป็นสุขด้วยความเข้มแข็งของพลังอำนาจฐานะปุโรหิต” และผู้ที่อยู่ใกล้ชิดท่านจะเต็มใจปรารถนาพรเหล่านี้ให้ตนเอง

ในฐานะบุรุษและสตรี พี่น้องชายหญิง บุตรธิดาของพระผู้เป็นเจ้า เรารุดหน้าไปด้วยกัน นี่คือโอกาสและความรับผิดชอบของเรา และพรของเรา นี่คือจุดหมายของเรา—ที่จะเตรียมอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้าเพื่อรับการเสด็จกลับมาของพระผู้ช่วยให้รอด ในพระนามของพระเยซูคริสต์ เอเมน

อ้างอิง

  1. “รักได้เอ่ยที่นี่,” หนังสือเพลงสำหรับเด็ก, 102–103.

  2. อีเมลส่วนตัว, 5 สิงหาคม 2013.

  3. หลักคำสอนและพันธสัญญา 84:20.

  4. ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 138:37, 51.

  5. ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 84:35; 109:22.

  6. 1 นีไฟ 11:16, 17.

  7. 2 นีไฟ 26:33.

  8. ดู “ครอบครัว: ถ้อยแถลงต่อโลก,”เลียโฮนา, พฤศจิกายน 2010, 165.

  9. คำสอนของประธานศาสนจักร:โจเซฟ สมิธ (2007), 112; ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 84:16 ; 107:40–53; 128:18, 21; รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน “บทเรียนจากเอวา” Ensign, พฤศจิกายน 1987, 86–89 ด้วย.

  10. ยอห์น 15:16.

  11. ดู โจเซฟ สมิธ—ประวัติ 1:72; ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 13; 27 ด้วย.

  12. ดู รัสเซลล์ เอ็ม. บัลลาร์ด “Let Us Think Straight” (BYU Campus Education Week Devotional, 20 สิงหาคม 2013); speeches.byu.edu เอ็ลเดอร์บัลลาร์ดกล่าวว่า “ทำไมผู้ชายได้รับการวางมือแต่งตั้งสู่ฐานะปุโรหิตแต่ผู้หญิงไม่ได้รับ” ประธานกอร์ดอน บี.ฮิงค์ลีย์อธิบายว่าเป็นเรื่องของพระเจ้าไม่ใช่มนุษย์ ‘ที่ทรงกำหนดให้ผู้ชายมีฐานะปุโรหิตในศาสนจักรของพระองค์’ และเป็นเรื่องของพระเจ้าเช่นกันที่ประทานแก่สตรี ‘ความสามารถเพื่อดำเนินแนวทางให้องค์การที่ยิ่งใหญ่และมหัศจรรย์นี้สำเร็จได้ นั่นคือศาสนจักรและอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้า’ (“สตรีในศาสนจักร,” เลียโฮนา ม.ค. 1997 หน้า 80) เมื่อพิจารณาทุกอย่างแล้ว พระเจ้ามิได้ทรงเปิดเผยว่าเหตุใดพระองค์จึงทรงจัดระเบียบศาสนจักรเช่นนั้น”

  13. โมโรไน 10:8.

  14. ลินดา เค. เบอร์ตัน “Priesthood: ‘A Sacred Trust to Be Used for the Benefit of Men, Women, and Children’” (คำปราศรัยในการประชุมใหญ่ของสตรีมหาวิทยาลัยบริคัม ยังก์ 3 พฤษภาคม 2013); ce.byu.edu/cw/womensconference/pdf/archive/2013/lindaBurtonTalk.pdf.

  15. 3 นีไฟ 30:2.

  16. มัทธิว 6:22–23.

  17. มัทธิว 5:28; ดู แอลมา 39:9 ด้วย ประธานโธมัส เอส. มอนสันกล่าวว่า “สื่อลามกอันตรายเป็นพิเศษ และเป็นสิ่งเสพติด การดูสื่อลามกด้วยความใคร่รู้สามารถกลายเป็นนิสัยที่ควบคุมเรา นำไปสู่สื่อที่หยาบช้ายิ่งกว่าและการล่วงละเมิดทางเพศ จงหลีกเลี่ยงสื่อลามกไม่ว่าต้องแลกกับอะไรก็ตาม” (“การเตรียมตัวนำมาซึ่งพร” Ensign หรือเลียโฮนา, พฤษภาคม 2010, หน้า 80)“ที่น่าตกใจอย่างยิ่ง…คือรายงานจำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อจุดประสงค์อันชั่วร้ายและเสื่อมทราม และแพร่หลายที่สุดคือการใช้อินเทอร์เน็ตดูภาพอนาจาร พี่น้องทั้งหลาย การทำเช่นนั้นจะทำลายวิญญาณท่าน จงเข้มแข็ง จงสะอาด จงหลีกเลี่ยงสิ่งเลวทรามและรูปแบบของการบ่อนทำลายทุกวิถีทาง—ไม่ว่าเนื้อหาเหล่านี้จะพบได้ในที่ใด! ข้าพเจ้าเปล่งเสียงเตือนนี้ไปยังทุกคนทุกแห่งหน” (“จนกว่าเราจะพบกันอีก” Ensign หรือเลียโฮนา, พฤษภาคม 2009, หน้า 137)“จงหลีกเลี่ยงสื่อลามกทุกรูปแบบเพราะจะทำให้วิญญาณเฉื่อยชาและกัดกร่อนมโนธรรม พระคัมภีร์หลักคำสอนและพันธสัญญาบอกเราว่า ‘สิ่งซึ่งไม่จรรโลงใจมิได้มาจากพระผู้เป็นเจ้า, และเป็นความมืด.’ [หลักคำสอนและพันธสัญญา 50:23] (“แน่วแน่ต่อศรัทธา” Ensign หรือเลียโฮนา, พฤษภาคม 2006, หน้า 21–25).

  18. ดู เดวิด เอ. เบดนาร์, Act in Doctrine (2012), 53.

  19. ดู ดัลลิน เอช. โอ๊คส์, “อำนาจฐานะปุโรหิตในครอบครัวและศาสนจักร,”Ensign หรือเลียโฮนา, พฤศจิกายน 2005, 28–32.

  20. อีเมลส่วนตัว, 5 สิงหาคม 2013; ดู ยากอบ 5:14.

  21. ดู ฮีบรู 5:4.

  22. อิสยาห์ 55:8.

  23. เจคอบ 4:13.

  24. ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 81:4; ประธานกอร์ดอน บี. ฮิงค์ลีย์กล่าวไว้ว่า “ภาระหน้าที่ในขอบเขตความรับผิดชอบของท่านจริงจังเท่ากับภาระหน้าที่ของข้าพเจ้าในขอบเขตของข้าพเจ้า ไม่มีการเรียกใดในศาสนจักรนี้เล็กน้อยหรือเกิดผลเพียงน้อยนิด” (“This Is the Work of the Master,” Ensign, พฤษภาคม 1995, 71; พระคัมภีร์มอรมอน คู่มือนักศึกษา ศาสนา 121–122 [2009], 337).

  25. เอ็ม. รัสเซลล์ บัลลาร์ด, “Strength in Counsel,” Ensign, พฤศจิกายน 1993, หน้า 76.