2010–2019
ธิดาในพันธสัญญา
เมษายน 2014


ธิดาในพันธสัญญา

เส้นทาง…ที่เราต้องใช้เดินทางกลับไปหาพระบิดาบนสวรรค์ของเรา…มีพันธสัญญาศักดิ์สิทธิ์กับพระผู้เป็นเจ้าเป็นจุดสังเกต

คืนนี้ เราได้รับการสอนด้วยพลังทางวิญญาณ ข้าพเจ้าสวดอ้อนวอนขอให้ถ้อยคำที่ผู้นำสตรีเหล่านี้พูดจะฝังลึกในใจท่านอย่างที่ฝังลึกในใจข้าพเจ้า

นี่เป็นการประชุมครั้งประวัติศาสตร์ สตรีทุกคนของศาสนจักรอายุตั้งแต่แปดขวบขึ้นไปได้รับเชิญให้เข้าร่วมกับเราคืนนี้ พวกเราหลายคนสวดอ้อนวอนขอพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงสถิตกับเรา เราได้รับพรนั้นขณะฟังพี่น้องสตรีเหล่านี้พูดและฟังบทเพลงจรรโลงใจ ข้าพเจ้าสวดอ้อนวอนขอพระวิญญาณทรงสถิตกับเราต่อไปขณะข้าพเจ้ากล่าวถ้อยคำให้กำลังใจและประจักษ์พยานนอกเหนือจากที่มีกล่าวมาแล้ว—โดยเฉพาะอย่างยิ่งขอทรงเป็นพยานว่าสิ่งที่ผู้พูดกล่าวกับเราเป็นสิ่งที่พระเจ้าทรงประสงค์ให้เราได้ยิน

คืนนี้ ข้าพเจ้าจะพูดเกี่ยวกับเส้นทาง—ซึ่งมีอธิบายไว้อย่างสวยงามในวันนี้—ที่เราต้องใช้เดินทางกลับไปหาพระบิดาบนสวรรค์ของเรา เส้นทางนั้นมีพันธสัญญาศักดิ์สิทธิ์กับพระผู้เป็นเจ้าเป็นจุดสังเกต ข้าพเจ้าจะพูดกับท่านเกี่ยวกับปีติของการทำและรักษาพันธสัญญาเหล่านั้นและการช่วยผู้อื่นรักษาพันธสัญญา

พวกท่านจำนวนหนึ่งเพิ่งรับบัพติศมาและได้รับของประทานแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์โดยการวางมือ ท่านยังจำได้ชัดเจน หลายท่านรับบัพติศมานานแล้ว ด้วยเหตุนี้จึงจำความรู้สึกเกี่ยวกับประสบการณ์ของพันธสัญญาครั้งนั้นไม่ชัดเจนนัก แต่ความรู้สึกเหล่านั้นบางส่วนกลับมาทุกครั้งที่ท่านฟังคำสวดอ้อนวอนศีลระลึก

เราจำวันที่เราทำพันธสัญญาบัพติศมาอันศักดิ์สิทธิ์และรับของประทานแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ไม่เหมือนกัน แต่เราต่างรู้สึกถึงความเห็นชอบจากพระผู้เป็นเจ้า เราปรารถนาจะให้อภัยและได้รับการให้อภัย เราตั้งใจแน่วแน่มากขึ้นว่าจะทำสิ่งที่ถูกต้อง

ความรู้สึกเหล่านั้นจะฝังลึกเพียงใดในใจท่าน ส่วนใหญ่แล้วขึ้นอยู่กับวิธีที่คนรักท่านเตรียมท่าน ข้าพเจ้าหวังว่าท่านที่เพิ่งเข้ามาในอาณาจักรนี้กำลังนั่งอยู่ข้างๆ มารดาของท่าน หากนั่งอยู่ ท่านอาจจะส่งยิ้มขอบคุณมารดาท่านตอนนี้ ข้าพเจ้าจำได้ถึงปีติและความซาบซึ้งขณะนั่งอยู่หลังมารดาระหว่างทางกลับบ้านจากพิธีบัพติศมาในฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนีย

มารดาข้าพเจ้าเป็นผู้เตรียมข้าพเจ้าอย่างดีให้พร้อมทำพันธสัญญานั้นและพันธสัญญาอื่นทั้งหมดที่จะตามมา เธอซื่อสัตย์ต่อความรับผิดชอบนี้จากพระเจ้า

“และอนึ่ง, ตราบเท่าที่บิดามารดามีลูกในไซอัน, หรือในสเตคหนึ่งสเตคใดของนาง, ซึ่งจัดตั้งขึ้น, ที่มิได้สอนพวกเขาให้เข้าใจหลักคำสอนเรื่องการกลับใจ, ศรัทธาในพระคริสต์พระบุตรของพระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงพระชนม์, และเรื่องบัพติศมาและของประทานแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์โดยการวางมือ, เมื่ออายุแปดขวบ, บาปย่อมอยู่บนศีรษะของบิดามารดา.

“เพราะนี่จะเป็นกฎให้ผู้อยู่อาศัยของไซอัน, หรือในสเตคหนึ่งสเตคใดของนางซึ่งจัดตั้งขึ้น.

“และลูกๆ ของพวกเขาพึงรับบัพติศมาเพื่อการปลดบาปของพวกเขาเมื่ออายุแปดขวบ, และรับ [พระวิญญาณบริสุทธิ์]”1

มารดาข้าพเจ้าทำส่วนของเธอ เธอเตรียมลูกๆ ด้วยคำพูดเหมือนคำพูดของแอลมา ดังที่บันทึกไว้ในพระคัมภีร์มอรมอน

“และเหตุการณ์ได้บังเกิดขึ้นคือท่านกล่าวแก่พวกเขา: ดูเถิด, นี่คือผืนน้ำแห่งมอรมอน (เพราะคนเรียกมันเช่นนั้น) และบัดนี้, เมื่อท่านปรารถนาจะเข้ามาสู่คอกของพระผู้เป็นเจ้า, และเรียกว่าเป็นผู้คนของพระองค์, และเต็มใจจะแบกภาระของกันและกัน, เพื่อมันจะได้เบา;

“แท้จริงแล้ว, และเต็มใจที่จะโศกเศร้ากับคนที่โศกเศร้า; แท้จริงแล้ว, และปลอบโยนคนที่ต้องการการปลอบโยน, และยืนเป็นพยานเกี่ยวกับพระผู้เป็นเจ้าทุกเวลาและในทุกสิ่ง, และในทุกแห่งที่ท่านอยู่, แม้จนถึงความตาย, เพื่อท่านจะได้รับการไถ่จากพระผู้เป็นเจ้า, และนับอยู่กับบรรดาคนของการฟื้นคืนชีวิตครั้งแรก, เพื่อท่านจะมีชีวิตนิรันดร์---

“บัดนี้ข้าพเจ้ากล่าวแก่ท่าน, หากนี่เป็นความปรารถนาของใจท่านแล้ว, ท่านมีอะไรขัดข้องเล่าที่จะรับบัพติศมาในพระนามของพระเจ้า, เพื่อเป็นพยานต่อพระพักตร์พระองค์ว่าท่านเข้ามาในพันธสัญญากับพระองค์, ว่าท่านจะรับใช้พระองค์และรักษาพระบัญญัติของพระองค์, เพื่อพระองค์จะเทพระวิญญาณของพระองค์ลงมาให้ท่านให้มากมายยิ่งขึ้น?

“และบัดนี้เมื่อผู้คนได้ยินถ้อยคำเหล่านี้, พวกเขาปรบมือด้วยปีติ, และร้องว่า: นี่คือความปรารถนาของใจเรา”2

ท่านอาจไม่ได้ปรบมือเมื่อท่านได้ยินการเชื้อเชิญครั้งแรกให้รับพันธสัญญาโดยบัพติศมา แต่ท่านรู้สึกแน่นอนถึงความรักของพระผู้ช่วยให้รอดและตั้งใจมั่นมากขึ้นว่าจะบำรุงเลี้ยงผู้อื่นแทนพระองค์ ข้าพเจ้ากล่าวได้ว่า “แน่นอน” เพราะความรู้สึกเหล่านั้นอยู่ลึกในใจธิดาทุกคนของพระบิดาบนสวรรค์ นั่นเป็นส่วนหนึ่งของมรดกอันสูงส่งจากพระองค์

พระองค์ทรงสอนท่านก่อนท่านมาสู่ชีวิตนี้ พระองค์ทรงช่วยให้ท่านเข้าใจและยอมรับว่าท่านจะมีการทดลอง การทดสอบ และโอกาสให้เลือกอย่างครบครัน ท่านเรียนรู้ว่าพระบิดาทรงมีแผนแห่งความสุขให้ท่านผ่านการทดลองเหล่านั้นอย่างปลอดภัยและท่านจะช่วยนำคนอื่นๆ ผ่านการทดลองของพวกเขาอย่างปลอดภัย แผนนี้มีพันธสัญญากับพระผู้เป็นเจ้าเป็นจุดสังเกต

เราเลือกได้อย่างเสรีว่าจะทำและรักษาพันธสัญญาเหล่านั้นหรือไม่ มีธิดาของพระองค์เพียงไม่กี่คนมีโอกาสเรียนรู้จากพันธสัญญาเหล่านั้นในชีวิตนี้ ท่านเป็นหนึ่งในไม่กี่คนนั้น พี่น้องสตรีที่รักทั้งหลาย แต่ละท่านเป็นธิดาในพันธสัญญา

พระบิดาบนสวรรค์ทรงสอนท่านก่อนเกิดเกี่ยวกับประสบการณ์ที่ท่านจะมีเมื่อจากพระองค์มาแผ่นดินโลก พระองค์ทรงสอนท่านว่าทางกลับบ้านไปหาพระองค์จะไม่ราบรื่น พระองค์ทรงทราบว่าการเดินทางจะยากเกินไปสำหรับท่านหากปราศจากความช่วยเหลือ

ท่านได้รับพรไม่เพียงพบวิธีทำพันธสัญญาเหล่านั้นในชีวิตนี้ แต่ท่านยังรายล้อมไปด้วยผู้ช่วยเช่นกัน—ผู้ช่วยที่เป็นธิดาแห่งพันธสัญญาของพระบิดาบนสวรรค์เช่นเดียวกันกับท่าน

คืนนี้ ทุกท่านรู้สึกถึงพรของการอยู่ร่วมกับธิดาของพระผู้เป็นเจ้าผู้อยู่ใต้พันธสัญญาเช่นกันว่าจะช่วยและชี้นำท่านตามที่พวกเธอสัญญาว่าจะทำ ข้าพเจ้าเคยเห็นสิ่งที่ท่านเคยเห็นขณะพี่น้องสตรีในพันธสัญญารักษาคำมั่นสัญญานั้นว่าจะปลอบโยนและช่วยเหลือ --- และทำเช่นนั้นด้วยรอยยิ้ม

ข้าพเจ้าจำรอยยิ้มของซิสเตอร์รูบี เฮจได้ เธอเป็นภรรยาของเอ็ลเดอร์เดวิด บี. เฮจผู้เป็นสมาชิกโควรัมอัครสาวกสิบสอง สมัยหนุ่มท่านรับใช้เป็นประธานสเตคแพโลแอลโตในแคลิฟอร์เนีย ท่านห่วงใยและสวดอ้อนวอนให้เด็กสาวในชั้นเรียนยุวนารีในวอร์ดของท่าน

ด้วยเหตุนี้ประธานเฮจจึงได้รับการดลใจให้ขออธิการเรียกรูบี เฮจสอนเด็กสาวกลุ่มนั้น ท่านทราบว่าเธอจะเป็นพยานของพระผู้เป็นเจ้าผู้จะหนุนใจ ปลอบโยน และรักเด็กสาวในชั้นเรียนนั้น

ซิสเตอร์เฮจอายุมากกว่าเด็กสาวที่เธอสอนอย่างน้อย 30 ปี ทว่า 40 ปีหลังจากสอนพวกเธอ ทุกครั้งที่เธอพบภรรยาข้าพเจ้าผู้เคยเป็นเด็กสาวคนหนึ่งในชั้นเรียน เธอจะยื่นมือให้และยิ้ม พลางพูดกับเคธีว่า “โอ้! ยุวนารีของฉัน” ข้าพเจ้าเห็นมากกว่ารอยยิ้มนั้น ข้าพเจ้ารู้สึกถึงความรักอันลึกซึ้งของเธอต่อพี่น้องสตรีคนหนึ่งที่เธอยังห่วงใยประหนึ่งเป็นบุตรสาวของเธอเอง รอยยิ้มและการทักทายที่อบอุ่นเกิดจากการเห็นว่าพี่น้องสตรีและธิดาคนหนึ่งของพระผู้เป็นเจ้ายังอยู่บนเส้นทางพันธสัญญาเพื่อกลับบ้าน

พระบิดาบนสวรรค์ทรงแย้มพระสรวลให้ท่านเช่นกันเมื่อทรงเห็นท่านช่วยธิดาคนหนึ่งของพระองค์เดินไปตามเส้นทางพันธสัญญาสู่ชีวิตนิรันดร์ พระองค์พอพระทัยทุกครั้งที่ท่านพยายามเลือกสิ่งถูกต้อง พระองค์ทรงเห็นไม่เพียงสิ่งที่ท่านเป็นแต่สิ่งที่ท่านจะเป็นด้วย

ท่านอาจมีบิดามารดาทางโลกผู้คิดว่าท่านดีกว่าที่ท่านคิดว่าตนจะเป็นได้ ข้าพเจ้ามีมารดาเช่นนั้น

สิ่งที่ข้าพเจ้าไม่ทราบเมื่ออายุยังน้อยคือพระบิดาบนสวรรค์ของข้าพเจ้า พระบิดาบนสวรรค์ของท่าน ทรงเห็นศักยภาพในบุตรธิดาของพระองค์มากกว่าเราหรือแม้แต่มารดาทางโลกเห็นในเรา เมื่อใดที่ท่านเดินขึ้นไปบนเส้นทางนั้นสู่ศักยภาพของท่าน พระองค์ทรงมีความสุข และท่านรู้สึกได้ถึงความเห็นชอบจากพระองค์

พระองค์ทรงเห็นศักยภาพนั้นในธิดาทุกคนของพระองค์ไม่ว่าพวกเธออยู่ที่ใด ทรงวางความรับผิดชอบอันสำคัญยิ่งไว้ให้ท่านแต่ละคน พระองค์ทรงคาดหวังให้ท่านปฏิบัติต่อทุกคนที่ท่านพบเหมือนลูกของพระผู้เป็นเจ้า นั่นคือเหตุผลที่พระองค์ทรงบัญชาเราให้รักเพื่อนบ้านเหมือนรักตัวเราเองและให้อภัยพวกเขา ความรู้สึกเมตตาและให้อภัยผู้อื่นเป็นมรดกอันสูงส่งที่พระองค์ทรงมอบให้ท่านในฐานะธิดาของพระองค์ คนแต่ละคนที่ท่านพบเป็นลูกทางวิญญาณที่พระองค์ทรงรัก

เมื่อท่านรู้สึกถึงความเป็นพี่น้องเช่นนั้น สิ่งที่ท่านคิดว่าแบ่งแยกเราจะลดลง ตัวอย่างเช่น พี่น้องสตรีที่เยาว์วัยและสูงวัยบอกความรู้สึกของพวกเธอเกี่ยวกับความคาดหวังให้อีกฝ่ายเข้าใจและยอมรับ ในฐานะธิดาของพระผู้เป็นเจ้าท่านเหมือนกันมากกว่าต่างกัน

ด้วยทัศนะเช่นนั้น เยาวชนหญิงควรมองว่าการเข้าสมาคมสงเคราะห์เป็นโอกาสให้ขยายแวดวงพี่น้องสตรีผู้ซึ่งพวกเธอจะได้รู้จัก ชื่นชม และรัก

ความสามารถในการมองเห็นสิ่งที่เราเป็นได้กำลังเพิ่มขึ้นในครอบครัวและในปฐมวัย กำลังเกิดขึ้นที่การสังสรรค์ในครอบครัวและโปรแกรมปฐมวัย เด็กเล็กได้รับการดลใจให้พูดเรื่องสำคัญและน่าอัศจรรย์ดังที่พวกเขาทำเมื่อพระผู้ช่วยให้รอดทรงปล่อยลิ้นพวกเขาเมื่อทรงสอนพวกเขาหลังจากพระองค์ฟื้นคืนพระชนม์3

แม้ซาตานอาจกำลังโจมตีพี่น้องสตรีที่อายุยังน้อย แต่พระเจ้าทรงกำลังยกระดับพี่น้องสตรีไปสู่ความเข้มแข็งทางวิญญาณที่สูงขึ้น ตัวอย่างเช่น เยาวชนหญิงกำลังสอนมารดาให้รู้วิธีใช้ FamilySearch หาและช่วยบรรพชนให้รอด สตรีสาวบางคนที่ข้าพเจ้ารู้จักกำลังเลือกตื่นแต่เช้าตรู่ไปประกอบพิธีบัพติศมาแทนคนตายในพระวิหารโดยไม่ต้องให้อะไรมากระตุ้นนอกจากวิญญาณของเอลียาห์

ในคณะเผยแผ่ทั่วโลก พี่น้องสตรีได้รับเรียกให้รับใช้เป็นผู้นำ พระเจ้าทรงประสงค์การรับใช้ของพวกเธอโดยทรงสัมผัสใจพี่น้องสตรีจำนวนมากขึ้นให้รับใช้ ประธานคณะเผยแผ่หลายคนได้เห็นซิสเตอร์ผู้สอนศาสนาเป็นผู้เผยแผ่ศาสนาที่ทรงพลังมากขึ้นและโดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นผู้นำที่ให้การบำรุงเลี้ยง

ไม่ว่าท่านจะรับใช้หรือไม่รับใช้เป็นผู้สอนศาสนาเต็มเวลา ท่านมีความสามารถในการยกระดับชีวิตแต่งงานได้เหมือนกันและสามารถเลี้ยงดูบุตรธิดาให้น่ายกย่องได้โดยทำตามแบบอย่างของสตรีที่ยิ่งใหญ่

ลองนึกถึงเอวา มารดาของผู้มีชีวิตทั้งปวง เอ็ลเดอร์รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันกล่าวถึงเอวาดังนี้ “เราและมนุษยชาติทั้งปวงได้รับพรตลอดกาลเพราะความกล้าหาญอย่างยิ่งและปัญญาของเอวา โดยรับส่วนผลนั้นก่อน เธอจึงทำสิ่งที่จำเป็นต้องทำ อาดัมฉลาดพอจะทำเช่นเดียวกัน”4

ธิดาทุกคนของเอวามีศักยภาพที่จะนำพรเดียวกันนั้นมาสู่ครอบครัวเธอเช่นเดียวกับเอวา เธอสำคัญยิ่งในการสถาปนาครอบครัวจนเรามีรายงานถึงการสร้างเธอดังนี้ “และบรรดาพระผู้เป็นเจ้าตรัส: ขอให้เรารังสรรค์ผู้ช่วยที่เหมาะสมสำหรับชายผู้นั้น, เพราะไม่ดีเลยที่ชายคนนี้จะอยู่คนเดียว, ฉะนั้นเราจะประกอบผู้ช่วยที่เหมาะสมสำหรับเขา”5

เราไม่ทราบความช่วยเหลือทั้งหมดที่เอวาให้อาดัมและครอบครัว แต่เราทราบว่ามีของประทานสำคัญยิ่งอย่างหนึ่งที่เธอให้ ซึ่งท่านแต่ละคนสามารถให้ได้เช่นกัน นั่นคือ เธอช่วยให้ครอบครัวเห็นทางกลับบ้าน เมื่อทางข้างหน้าค่อนข้างยาก “และเอวาภรรยาท่าน,ได้ยินเรื่องทั้งหลายทั้งปวงเหล่านี้และยินดี, โดยกล่าวว่า: หากมิใช่เพราะการล่วงละเมิดของเรา เราจะไม่มีวันได้มีพงศ์พันธุ์, และจะไม่มีวันรู้ความดีและความชั่ว, และปีติของการไถ่ของเรา, และชีวิตนิรันดร์ซึ่งพระผู้เป็นเจ้าประทานแก่ปวงชนที่เชื่อฟัง.”6

ท่านมีแบบอย่างของเธอให้ดำเนินตาม

โดยการเปิดเผย เอวามองเห็นทางกลับบ้านไปหาพระผู้เป็นเจ้า เธอรู้ว่าการชดใช้ของพระเยซูคริสต์ทำให้ชีวิตนิรันดร์เกิดขึ้นในครอบครัว เธอมั่นใจเช่นเดียวกับท่านว่าเมื่อเธอรักษาพันธสัญญากับพระบิดาบนสวรรค์ พระผู้ไถ่และพระวิญญาณบริสุทธิ์จะทรงช่วยให้เธอและครอบครัวผ่านพ้นโทมนัสและความผิดหวังทุกอย่างที่จะเกิดขึ้น เธอรู้ว่าเธอวางใจพระองค์ได้

“จงวางใจในพระยาห์เวห์ด้วยสุดใจของเจ้า และอย่าพึ่งพาความรอบรู้ของตนเอง

“จงยอมรับรู้พระองค์ในทุกทางของเจ้า แล้วพระองค์จะทรงทำให้วิถีของเจ้าราบรื่น”7

ข้าพเจ้าทราบว่าเอวาประสบโทมนัสและความผิดหวัง แต่ข้าพเจ้าทราบเช่นกันว่าเธอพบปีติในความรู้ที่ว่าเธอและครอบครัวจะได้กลับไปอยู่กับพระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้าทราบว่าหลายท่านที่นี่ประสบโทมนัสและความผิดหวัง ข้าพเจ้าฝากพรไว้กับท่าน ขอให้ท่านรู้สึกถึงปีติเช่นเดียวกันกับเอวาขณะที่ท่านเดินทางกลับบ้าน

ข้าพเจ้ามีพยานแน่นอนว่าพระผู้เป็นเจ้าพระบิดาทรงดูแลท่านด้วยความรัก พระองค์ทรงรักท่านแต่ละคน ท่านเป็นธิดาในพันธสัญญา เพราะพระองค์ทรงรักท่าน จึงประทานความช่วยเหลือที่ท่านต้องการเพื่อให้ตัวท่านและคนอื่นๆ เดินขึ้นไปตามทางกลับที่ประทับของพระองค์

ข้าพเจ้าทราบว่าพระผู้ช่วยให้รอดทรงจ่ายค่าบาปทั้งหมดของเราและพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงเป็นพยานถึงความจริง ท่านรู้สึกถึงการปลอบโยนนั้นในการประชุมนี้ ข้าพเจ้ามีประจักษ์พยานว่ากุญแจทั้งหมดซึ่งผูกมัดพันธสัญญาศักดิ์สิทธิ์ได้รับการฟื้นฟูแล้ว ศาสดาพยากรณ์ที่มีชีวิต ประธานโธมัส เอส. มอนสันถือและใช้กุญแจเหล่านั้นในปัจจุบัน ข้าพเจ้าฝากถ้อยคำแห่งการปลอบโยนและความหวังไว้กับท่าน ธิดาในพันธสัญญาของพระองค์ ในพระนามอันศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูคริสต์ เอเมน