2010–2019
การปกป้องให้พ้นสื่อลามก—บ้านที่มุ่งเน้นพระคริสต์
เมษายน 2014


การปกป้องให้พ้นสื่อลามก—บ้านที่มุ่งเน้นพระคริสต์

ตัวกรองที่ดีที่สุดในโลก…คือตัวกรองภายในของแต่ละคนซึ่งเกิดจากประจักษ์พยานที่ลึกซึ้งและแนบสนิท

พี่น้องที่รักทั้งหลาย วันนี้ดิฉันได้รับพรที่มีหลานที่อายุมากสุด 13 คนอยู่ในที่ประชุมนี้ เรื่องนี้ทำให้ดิฉันต้องถามว่า “ดิฉันต้องการให้หลานๆ รู้เรื่องอะไร” เช้าวันนี้ดิฉันต้องการเปิดใจสนทนากับครอบครัวของดิฉันและของท่าน

เราในฐานะผู้นำกังวลมากขึ้นทุกที เรื่องสื่อลามกเป็นเหตุบ่อนทำลายชีวิตสมาชิกศาสนจักรและครอบครัว ซาตานกำลังโหมโจมตีอย่างโกรธเกรี้ยวกว่าที่เคย

เหตุผลที่เรามายังแผ่นดินโลกนี้คือ เรียนรู้การควบคุมความต้องการและความรู้สึกแห่งร่างมรรตัยของเรา ความรู้สึกเหล่านี้ที่พระผู้เป็นเจ้าประทานให้ช่วยให้เราปรารถนาที่จะแต่งงานและมีลูก นอกจากนั้นสัมพันธภาพการแต่งงานที่แน่นแฟ้นระหว่างชายหญิงซึ่งนำลูกๆ มาสู่ความเป็นมรรตัยนี้ ยังหมายถึงประสบการณ์ที่งดงาม เปี่ยมด้วยความรักซึ่งผูกพันดวงใจซึ่งอุทิศตนเข้าด้วยกัน เป็นหนึ่งเดียวกันทั้งร่างและวิญญาณและนำมาซึ่งปีติและความสุขอันสมบูรณ์เมื่อเราต่างเรียนรู้ที่จะยกให้อีกฝ่ายสำคัญกว่าตนเอง ประธานสเป็นเซอร์ ดับเบิลยู. คิมบัลล์สอนว่า ในการแต่งงาน “คู่สมรส…จึงมาก่อนสิ่งอื่นใดในชีวิตของสามีหรือภรรยา และ…[ไม่] ว่าความสนใจใดๆ [หรือ] ผู้คน [หรือ] สิ่งของจะต้องไม่มีอิทธิพลเหนือคู่สมรสเป็นอันขาด…

“ชีวิตการแต่งงานเรียกร้องความจงรักภักดีและความซื่อสัตย์รักเดียวใจเดียว”1

หลายปีมาแล้วลูกเราคนหนึ่งซึมเศร้าอย่างเห็นได้ชัด ดิฉันเข้าไปในห้องนอนของลูก ที่นั่นเธอเปิดใจและอธิบายให้ดิฉันฟังว่าเธอไปบ้านเพื่อนและบังเอิญได้เห็นภาพและการแสดงที่ทำให้ตกใจและรู้สึกไม่ดีในโทรทัศน์ระหว่างชายและหญิงที่ไมมีเสื้อผ้าพันกาย เธอสะอึกสะอื้นและแสดงให้เห็นว่าเธอรู้สึกแย่เพียงใดที่ได้เห็นภาพนั้นและอยากลบมันออกจากใจ ดิฉันสำนึกคุณยิ่งที่เธอวางใจให้ดิฉันมีโอกาสปลอบประโลมหัวใจที่ไร้เดียงสาและปวดร้าวของเธอและช่วยเธอให้รู้วิธีที่จะปลดเปลื้องความทุกข์ผ่านการชดใช้ของพระผู้ช่วยให้รอด ดิฉันจำความรู้สึกอันศักดิ์สิทธิ์นั้นได้เมื่อเราคุกเข่าลงด้วยกันแบบแม่กับลูกเพื่อวิงวอนขอความช่วยเหลือจากพระบิดาบนสวรรค์ของเรา

เด็ก เยาวชนและผู้ใหญ่จำนวนมากเห็นสื่อลามกโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่จำนวนชายหญิงที่เลือกจะดูสิ่งนี้มีมากขึ้นทุกทีและถูกดึงดูดใจให้กลับไปดูซ้ำจนเสพติด บุคคลเหล่านี้อาจต้องการอย่างสุดจิตสุดใจที่จะหลุดพ้นจากกับดักนี้ แต่พวกเขามักเอาชนะมันด้วยตนเองไม่ได้ เราสำนึกคุณเพียงใดเมื่อบุคคลอันเป็นที่รักเหล่านี้เลือกที่จะวางใจเราในฐานะบิดามารดาหรือผู้นำศาสนจักร จะดีกว่าถ้าเราไม่มีปฏิกิริยาที่ตกใจ โกรธ หรือปฏิเสธ ซึ่งอาจทำให้พวกเขาอยู่ในความเงียบอีกครั้ง

เราในฐานะบิดามารดาและผู้นำต้องให้คำปรึกษากับเด็กและเยาวชนอย่างต่อเนื่อง โดยฟังด้วยความรักความเข้าใจ พวกเขาต้องรู้เกี่ยวกับอันตรายของสื่อลามก และวิธีที่สิ่งนี้คุกคามชีวิต เป็นเหตุให้สูญเสียพระวิญญาณ บิดเบือนความรู้สึก หลอกลวง ทำลายสัมพันธภาพ สูญเสียการควบคุมตนเอง และสิ้นเปลืองเวลาความคิดและพลังงานโดยเปล่าประโยชน์

สื่อลามกเลวร้ายขึ้น ชั่วร้ายขึ้นและแสดงภาพชัดเจนขึ้นกว่าแต่ก่อน เมื่อเราปรึกษากับลูกของเรา เราสามารถช่วยกันสร้างแผนครอบครัวให้มีมาตรฐานและขอบเขต โดยเป็นฝ่ายรุกในการปกป้องครอบครัวด้วยตัวกรองบนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ บิดามารดาทั้งหลาย เราทราบไหมว่าเครื่องมือพกพาที่ใช้อินเทอร์เน็ตได้ซึ่งไม่ใช่คอมพิวเตอร์คือตัวปัญหาร้ายสุด2

เยาวชนและผู้ใหญ่ ถ้าท่านติดกับดักแห่งสื่อลามกของซาตาน จงจำไว้ว่าพระผู้ช่วยให้รอดผู้ทรงเป็นที่รักของเราทรงเมตตาเพียงใด รู้หรือไม่พระเจ้าทรงรักและหวงแหนท่านเพียงใด แม้จนบัดนี้ พระผู้ช่วยให้รอดของเราทรงมีอำนาจที่จะชำระและรักษาท่านได้ พระองค์ทรงสามารถขจัดความปวดร้าวเศร้าโศกที่ท่านรู้สึกและทำให้ท่านสะอาดอีกครั้งด้วยอำนาจแห่งการชดใช้

เราในฐานะผู้นำ กังวลมากเช่นกันเกี่ยวกับคู่สมรสและครอบครัวของผู้ที่ทุกข์ทรมานจากการเสพติดสื่อลามก เอ็ลเดอร์ริชาร์ด จี. สก๊อตต์วิงวอนว่า “หากท่านเป็นอิสระจากบาปที่ร้ายแรงแล้ว อย่าได้ทุกข์ทรมานโดยไม่จำเป็นจากบาปของผู้อื่นอีกเลย…ท่านรู้สึกเห็นใจได้…แต่ท่านไม่ควรรับเอาความรู้สึกรับผิดชอบต่อบาปที่เกิดขึ้นมาไว้เสียเอง”3 จงรู้ว่าท่านไม่ได้อยู่เพียงลำพัง มีความช่วยเหลือ มีการประชุมบำบัดการเสพติดสำหรับคู่สมรส รวมถึงการประชุมทางโทรศัพท์ซึ่งเปิดโอกาสให้คู่สมรสโทรศัพท์มาร่วมการประชุมจากที่บ้านได้

พี่น้องทั้งหลาย เราจะปกป้องเด็กและเยาวชนอย่างไร ตัวกรองเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ แต่ตัวกรองที่ดีที่สุดในโลก ตัวเดียวที่จะทำงานได้ผลสูงสุด คือตัวกรองภายในของแต่ละคนซึ่งเกิดจากประจักษ์พยานที่ลึกซึ้งและแนบสนิทในความรักของพระบิดาบนสวรรค์และการพลีพระชนม์ชีพของพระผู้ช่วยให้รอดเพื่อเราแต่ละคน

เราจะนำลูกๆ ไปสู่การเปลี่ยนใจเลื่อมใสอย่างลึกซึ้งและเข้าถึงการชดใช้พระผู้ช่วยให้รอดได้อย่างไร ดิฉันชอบข้อประกาศของศาสดาพยากรณ์นีไฟถึงสิ่งที่ผู้คนของท่านทำเพื่อเสริมกำลังของเยาวชนในยุคนี้ที่ว่า “และเราพูดถึงพระคริสต์, เราชื่นชมยินดีในพระคริสต์, เราสั่งสอนเรื่องพระคริสต์, [และ] เราพยากรณ์ถึงพระคริสต์ …เพื่อลูกหลานของเราจะรู้ว่าพวกเขาจะมองหาแหล่งใดเพื่อการปลดบาปของพวกเขา”4

เราจะทำเรื่องนี้ที่บ้านได้อย่างไร บางคนเคยได้ยินดิฉันเล่าว่าดิฉันกับเมลสามีของดิฉันรู้สึกมีภาระท่วมท้นอย่างไรที่เป็นบิดามารดาของลูกเล็กๆ สี่คน ขณะเราเผชิญความยากลำบากของการเป็นบิดามารดาและพยายามประคับประคองให้มีสิ่งจำเป็นต่อการดำรงชีวิต เรารู้สึกสิ้นหวังที่จะได้รับการช่วยเหลือ เราสวดอ้อนวอนและวิงวอนเพื่อรู้ว่าจะต้องทำอะไร คำตอบชัดเจนมาก “ไม่เป็นไร ถ้าบ้านจะรกและลูกๆ ยังอยู่ในชุดนอน และหน้าที่รับผิดชอบบางอย่างยังไม่เสร็จ สิ่งซึ่งจำเป็นจริงๆ ที่ต้องทำให้สำเร็จในครอบครัวคือ ศึกษาพระคัมภีร์และสวดอ้อนวอนทุกวัน สังสรรค์ในครอบครัวทุกสัปดาห์”

เราพยายามทำสิ่งต่างๆ ดังกล่าวอยู่แล้ว แต่ไม่ได้ให้ความสำคัญก่อนเรื่องอื่น และท่ามกลางความวุ่นวาย บางครั้งก็ละเลยไป เราเปลี่ยนเรื่องมุ่งเน้นเสียใหม่และพยายามไม่กังวลกับสิ่งที่สำคัญน้อยกว่า เรามุ่งเน้นที่จะสนทนา ชื่นชมยินดี สั่งสอนและเป็นพยานถึงพระคริสต์ด้วยความพยายามในการสวดอ้อนวอนและศึกษาพระคัมภีร์ทุกวันและมีการสังสรรค์ในครอบครัวทุกสัปดาห์

ไม่นานมานี้เพื่อนคนหนึ่งเตือนว่า “เมื่อคุณขอให้พี่น้องสตรีอ่านพระคัมภีร์และสวดอ้อนวอนมากขึ้น นั่นทำให้พวกเขาเครียด พวกเขายิ่งรู้สึกอยู่แล้วว่ามีสิ่งที่ต้องทำมากมายเหลือเกิน”

พี่น้องทั้งหลาย เพราะดิฉันรู้จากประสบการณ์ของตนเองและของสามีดิฉัน ดิฉันจึงต้องเป็นพยานถึงพรของการศึกษาพระคัมภีร์ประจำวัน และการสวดอ้อนวอน และการสังสรรค์ในครอบครัวทุกสัปดาห์ ข้อปฏิบัติเหล่านี้จะช่วยขจัดความเครียด ชี้ทางชีวิตเรา และเพิ่มความคุ้มครองแก่ครอบครัว ถ้าสื่อลามกหรือสิ่งท้าทายอื่นๆ มาสั่นคลอนครอบครัวเรา เราขอความช่วยเหลือจากพระเจ้าได้ และคาดหวังได้ว่าจะมีการทรงนำอันประเสริฐจากพระวิญญาณ โดยรู้ว่าเราได้ทำสิ่งที่พระบิดาทรงขอให้ทำแล้ว

พี่น้องทั้งหลาย ถ้าสิ่งเหล่านี้ยังไม่เป็นข้อปฏิบัติในบ้านเรา เราทุกคนจะเริ่มทำได้เดี๋ยวนี้ ถ้าลูกๆ ของเราอายุมากขึ้นและปฏิเสธที่จะทำด้วย เราเริ่มต้นที่ตัวเราเองก็ได้ ขณะเราทำ อิทธิพลของพระวิญญาณจะเริ่มเต็มเปี่ยมในบ้านและในชีวิตเรา และเมื่อเวลาผ่านไปลูกๆ จะตอบรับ

จงจำไว้ว่าอัครสาวกที่ยังมีชีวิตอยู่สัญญาด้วยว่าเมื่อเราค้นหาบรรพชนและเตรียมรายชื่อคนในครอบครัวของเราไปพระวิหาร เราจะได้รับการปกป้องตั้งแต่บัดนี้ไปจนตลอดชีวิตเมื่อเรารักษาตนเองให้มีค่าควรถือใบรับรองพระวิหาร5 ช่างเป็นสัญญาที่ดีเยี่ยม!

เยาวชนจงรับผิดชอบต่อความผาสุกทางวิญญาณของตนเอง ปิดโทรศัพท์เมื่อจำเป็น ร้องเพลงปฐมวัย สวดอ้อนวอนขอความช่วยเหลือ นึกถึงพระคัมภีร์สักข้อหนึ่ง เดินออกมาจากโรงภาพยนตร์ นึกภาพพระผู้ช่วยให้รอด รับศีลระลึกอย่างมีค่าควร ศึกษา เพื่อความเข้มแข็งของเยาวชน เป็นแบบอย่างให้เพื่อน บอกความในใจกับพ่อแม่ ขอพบอธิการ ขอความช่วยเหลือ และแสวงหาคำแนะนำจากผู้ให้คำปรึกษาวิชาชีพ หากต้องการ

ดิฉันต้องการให้หลานๆ ของดิฉันรู้อะไร ดิฉันต้องการให้พวกเขาและพวกท่านรู้ว่าดิฉันรู้ว่าพระผู้ช่วยให้รอดทรงพระชนม์และรักเรา ทรงชดใช้บาปของเราแล้ว แต่เราต้องคุกเข่าต่อพระบิดาในสวรรค์ด้วยความถ่อมตนอย่างที่สุด สารภาพบาปของเรา และวิงวอนขอพระองค์ประทานการให้อภัย เราต้องอยากเปลี่ยนแปลงใจและความปรารถนาของเราและอ่อนน้อมถ่อมตนพอที่จะขอความช่วยเหลือและขอการให้อภัยจากผู้ที่เราอาจเคยทำร้ายหรือทอดทิ้ง

ดิฉันรู้ว่าโจเซฟ สมิธเห็นพระผู้เป็นเจ้า พระบิดาบนสวรรค์และพระผู้ช่วยให้รอด พระเยซูคริสต์ ดิฉันเป็นพยานว่าเรามีศาสดาพยากรณ์ที่มีชีวิตบนแผ่นดินโลก ประธานโธมัส เอส. มอนสัน ดิฉันเป็นพยานด้วยว่าเราจะไม่มีวันหลงทางถ้าเราเอาใจใส่คำแนะนำของศาสดาพยากรณ์ของพระผู้เป็นเจ้า ดิฉันเป็นพยานถึงพลังอำนาจแห่งพันธสัญญาของเราและพรพระวิหาร

ดิฉันรู้ว่าพระคัมภีร์มอรมอนจริง! ดิฉันอธิบายพลังของพระคัมภีร์ยิ่งใหญ่เล่มนี้ไม่ได้ ดิฉันรู้เพียงว่า ร่วมกับการสวดอ้อนวอนพระคัมภีร์มอรมอนให้พลังที่จะปกป้องครอบครัว เสริมสร้างสัมพันธภาพให้แข็งแกร่ง และให้ความมั่นใจส่วนตัวต่อพระพักตร์พระเจ้า ดิฉันเป็นพยานถึงสิ่งเหล่านี้ในพระนามอันศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูคริสต์ เอเมน

อ้างอิง

  1. คำสอนของประธานศาสนจักร: สเป็นเซอร์ ดับเบิลยู. คิมบัลล์ (2006), 199–200.

  2. ดู เคลย์ โอลเซ็น, “What Teens Wish Parents Knew” (คำปราศรัยที่การประชุม Utah Coalition Against Pornography Conference, 22 มี.ค. 2014); utahcoalition.org.

  3. ริชาร์ด จี. สก๊อตต์, “การเป็นอิสระจากภาระหนัก,”  เลียโฮนา, พ.ย. 2002, 110.

  4. 2 นีไฟ 25:26.

  5. ดู เดวิด เอ. เบดนาร์, “ใจของลูกหลานจะหันไป,”  เลียโฮนา, พ.ย. 2011, 29–33; ริชาร์ด จี. สก๊อตต์, “ปีติจากการไถ่คนตาย,”  เลียโฮนา, พ.ย. 2012, 93–95; นีล แอล. แอนเดอร์เซ็น, “Find Our Cousins” (คำปราศรัยที่ RootsTech 2014 Family History Conference, 8 ก.พ. 2014); lds.org/prophets-and-apostles/unto-all-the-world/find-our-cousins.