2010–2019
ดวงตาแห่งศรัทธา
การประชุมใหญ่สามัญ เมษายน 2019


ดวงตาแห่งศรัทธา

ถ้าเราเลือกยอมรับเฉพาะสิ่งที่เราชอบในถ้อยแถลง แสดงว่าเราบดบังทัศนวิสัยนิรันดร์ของเรา ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของเราที่นี่ขณะนี้มากเกินไป

ไม่นานก่อนการตรึงกางเขน มีคนพาพระเยซูไปอยู่ต่อหน้าปีลาตในห้องพิจารณาคดี “เจ้าเป็นกษัตริย์ของพวกยิวหรือ? ปีลาตถามอย่างดูถูก พระเยซูตรัสตอบว่า “ราชอำนาจของเราไม่ได้เป็นของโลกนี้ … เรา [เข้ามาในโลก] เพื่อเป็นพยานให้กับสัจจะ ทุกคนที่อยู่ฝ่ายสัจจะย่อมฟังเสียงของเรา”

ปีลาตถามอย่างหยามเหยียดว่า “สัจจะคืออะไร?”1

ในโลกทุกวันนี้ คำถามว่า “สัจจะคืออะไร?” สามารถเป็นเรื่องที่ซับซ้อนอย่างหนักหน่วงของคนไม่มีศาสนา

การค้นหา “สัจจะคืออะไร” ทางกูเกิลให้คำตอบเกินหนึ่งล้าน เรามีข้อมูลในโทรศัพท์มือถือของเรามากกว่าในหนังสือของห้องสมุดก่ออิฐและฉาบปูน เราอยู่กับข้อมูลและความคิดเห็นท่วมท้น เสียงยั่วยวนล่อใจตามเราไปทุกที่

เพราะความสับสนทุกวันนี้ จึงไม่แปลกที่คนจำนวนมากเชื่อถ้อยคำที่โปรตากอรัสพูดกับโสเครติสวัยหนุ่มเมื่อ 2,500 ปีก่อนว่า “อะไรจริงสำหรับคุณ” เขากล่าว “ก็จริงสำหรับผม อะไรจริงสำหรับผมก็จริงสำหรับคุณ”2

ความจริงผ่านพระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟูของพระเยซูคริสต์

เพราะพระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟูของพระเยซูคริสต์ เราจึงประกาศอย่างนอบน้อมว่ามีบางเรื่องที่จริงอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ ความจริงนิรันดร์เหล่านี้เป็นเหมือนเดิมสำหรับบุตรธิดาทุกคนของพระผู้เป็นเจ้า

พระคัมภีร์สอนว่า “ความจริงคือความรู้ถึงสิ่งทั้งหลายดังที่เป็นอยู่, และดังที่เป็นมา, และดังที่จะเป็น”3 ความจริงมองไปข้างหลังและข้างหน้า ขยายมุมมองของสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน

พระเยซูตรัสว่า “เราเป็นทางนั้น เป็นความจริง และเป็นชีวิต”4 ความจริงแสดงให้เราเห็นทางสู่ชีวิตนิรันดร์ ซึ่งมาโดยผ่านพระผู้ช่วยให้รอดพระเยซูคริสต์เท่านั้น ไม่มีทางอื่น

พระเยซูคริสต์ทรงสอนให้เรารู้วิธีดำเนินชีวิต โดยผ่านการชดใช้และการฟื้นคืนพระชนม์ พระองค์ทรงให้อภัยเราจากบาปและมอบความเป็นอมตะหลังความตายให้เรา จริงแท้แน่นอน

พระองค์ทรงสอนเราว่าไม่ใช่เรื่องสำคัญว่าเราจะร่ำรวยหรือยากจน มีชื่อเสียงหรือไม่เป็นที่รู้จัก หรูหราหรือเรียบง่าย ตรงกันข้าม ชีวิตมรรตัยของเราคือเสริมสร้างศรัทธาของเราในพระเจ้าพระเยซูคริสต์ เพื่อเลือกความดีเหนือความชั่ว และรักษาพระบัญญัติ แม้เราจะยกย่องนวัตกรรมของวิทยาศาสตร์และการแพทย์ แต่ความจริงของพระผู้เป็นเจ้าไปไกลกว่าการค้นพบเหล่านี้

ตรงข้ามกับความจริงของนิรันดรมักมีสิ่งปลอมแปลงที่ทำให้บุตรธิดาของพระผู้เป็นเจ้าเขวจากความจริงเสมอ ข้อโต้แย้งของปฏิปักษ์เหมือนเดิมเสมอ ลองฟังถ้อยคำนี้ พูดไว้เมื่อ 2,000 ปีก่อน นั่นคือ

“ท่านไม่อาจรู้ได้ถึงสิ่งที่ท่านไม่เห็น … อะไรก็ตามที่ [คนหนึ่ง] ทำไปย่อมไม่เป็นความผิด”

“[พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้ให้พรท่าน แต่ทุกคนรุ่งเรือง] ตามอัจฉริยภาพของตน”5

“หาใช่สิ่งที่มีเหตุผลไม่ที่คนเช่นพระคริสต์ … [จะ] ทรงเป็นพระบุตรของพระผู้เป็นเจ้า”6

“[สิ่งที่ท่านเชื่อเป็นประเพณีโง่เขลาและเป็น] จิตใจที่ไร้สติของท่าน”7 ฟังดูเหมือนสมัยนี้ใช่ไหม

พร้อมกับการฟื้นฟูพระกิตติคุณ พระผู้เป็นเจ้าประทานวิธีให้เราเรียนและรู้ความจริงที่จำเป็นทางวิญญาณ นั่นคือ เราเรียนรู้ผ่านพระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ ผ่านการสวดอ้อนวอนส่วนตัว และประสบการณ์ของเราเอง ผ่านคำแนะนำของศาสดาพยากรณ์และอัครสาวกที่มีชีวิต และผ่านการนำทางของพระวิญญาณบริสุทธิ์ผู้ทรงสามารถช่วยให้เรา “รู้ความจริงของทุกเรื่อง”8

ความจริงต้องวินิจฉัยโดยพึ่งพระวิญญาณ

เราสามารถรู้พระดำริของพระผู้เป็นเจ้าเมื่อเราแสวงหาทางวิญญาณ เปาโลกล่าวว่า “พระดำริของพระผู้เป็นเจ้าไม่มีใครหยั่งรู้ได้ เว้นแต่พระวิญญาณของพระผู้เป็นเจ้า … [เพราะ] ต้องวินิจฉัยโดยพึ่งพระวิญญาณ”9

ลองดูศิลปะชิ้นนี้ของไมเคิล เมอร์ฟี จากมิตินี้ ท่านแทบไม่อยากเชื่อว่าเป็นภาพศิลปะของดวงตามนุษย์ แต่เมื่อท่านมองดูจุดต่างๆ จากอีกมิติหนึ่ง ท่านจะเห็นความงามจากการสร้างสรรค์ของศิลปิน

ในทำนองเดียวกัน เราเห็นความจริงทางวิญญาณของพระผู้เป็นเจ้าผ่านมิติของดวงตาแห่งศรัทธา เปาโลกล่าวว่า “คนทั่วไปจะไม่รับสิ่ง‍เหล่า‍นี้ซึ่งเป็นของพระ‍วิญ‌ญาณแห่งพระ‍เจ้า เพราะ‍ว่าเขาเห็นว่าเป็นเรื่องโง่ และเขาไม่สามารถเข้า‍ใจ เพราะจะเข้า‍ใจสิ่ง‍เหล่า‍นี้ได้ก็ต้องวินิจ‌ฉัยโดยพึ่งพระ‍วิญญาณ”10

พระคัมภีร์ การสวดอ้อนวอนของเรา ประสบการณ์ของเราเอง ศาสดาพยากรณ์ยุคปัจจุบัน และของประทานแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์นำความจริงที่จำเป็นในมิติทางวิญญาณมาให้เราขณะเดินทางที่นี่บนแผ่นดินโลก

ถ้อยแถลงผ่านดวงตาแห่งศรัทธา

ขอให้เรามาดูถ้อยแถลงเรื่องครอบครัวผ่านดวงตาแห่งศรัทธา

ประธานกอร์ดอน บี. ฮิงค์ลีย์กล่าวอารัมภบทใน “ครอบครัว: ถ้อยแถลงต่อโลก” ดังนี้ “ด้วยการอ้างเหตุผลมากมายจนหลอกให้คนยอมรับว่าเป็นความจริง ด้วยการหลอกลวงมากมายเกี่ยวกับมาตรฐานและค่านิยม ด้วยสิ่งยั่วยวนและสิ่งล่อใจมากมายให้ยอมรับความสกปรกโสมมที่เกิดขึ้นช้าๆ ของโลก เราจึงรู้สึกว่าต้องเตือน [ท่าน]”11

ถ้อยแถลงเริ่มดังนี้ “มนุษย์ทั้งหลาย—ชายและหญิง—ได้รับการสร้างในรูปลักษณ์ของพระผู้เป็นเจ้า แต่ละคนเป็นปิยบุตรหรือปิยธิดาทางวิญญาณของพระบิดาพระมารดาบนสวรรค์ และด้วยเหตุนี้แต่ละคนจึงมีลักษณะและจุดหมายปลายทางแห่งสวรรค์”

นี่คือความจริงนิรันดร์ ท่านและข้าพเจ้าไม่ใช่อุบัติเหตุของธรรมชาติ

ข้าพเจ้าชอบถ้อยคำเหล่านี้ “ในอาณาจักรก่อนชีวิตมรรตัย บุตรธิดาที่เป็นวิญญาณรู้จักและนมัสการพระผู้เป็นเจ้าเป็นพระบิดานิรันดร์ของพวกเขาและยอมรับแผนของพระองค์”12

เรามีชีวิตก่อนเราเกิด อัตลักษณ์ของเราแต่ละคนประทับตราในเราตลอดกาล มีหลายด้านที่เราไม่เข้าใจถ่องแท้ แต่การเติบโตทางวิญญาณที่นั่นในโลกก่อนเกิดมีผลต่อตัวเราที่นี่แน่นอน13 เรายอมรับแผนของพระผู้เป็นเจ้า เรารู้ว่าเราจะประสบความยุ่งยาก ความเจ็บปวด และความโศกเศร้าบนแผ่นดินโลก14 เรารู้เช่นกันว่าพระผู้ช่วยให้รอดจะเสด็จมาและเมื่อเราพิสูจน์ตัวว่ามีค่าควร เราจะลุกขึ้นในการฟื้นคืนชีวิตโดยมี “รัศมีภาพเพิ่มเติมบนศีรษะ [เรา] ตลอดกาลและตลอดไป”15

ถ้อยแถลงตรงไปตรงมา “เราขอประกาศว่าวิถีทางที่ชีวิตมรรตัยได้รับการสร้างขึ้นนั้นเป็นการแต่งตั้งจากสวรรค์ เรายืนยันถึงการชำระชีวิตให้บริสุทธิ์และความสำคัญของสิ่งนี้ในแผนนิรันดร์ของพระผู้เป็นเจ้า”

แผนของพระบิดาสนับสนุนสามีภรรยาให้นำบุตรธิดาเข้ามาในโลกและผูกมัดเราให้พูดปกป้องทารกในครรภ์

หลักธรรมของถ้อยแถลงเชื่อมโยงกันอย่างสวยงาม

ถ้าเราเลือกยอมรับเฉพาะสิ่งที่เราชอบในถ้อยแถลง แสดงว่าเราบดบังทัศนวิสัยนิรันดร์ของเรา ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของเราที่นี่ขณะนี้มากเกินไป โดยไตร่ตรองถ้อยแถลงร่วมกับการสวดอ้อนวอนผ่านดวงตาแห่งศรัทธา เราจะเข้าใจดีขึ้นว่าหลักธรรมเชื่อมโยงกัน สนับสนุนกัน และเปิดเผยแผนของพระบิดาสำหรับบุตรธิดาของพระองค์อย่างไร16

เราควรประหลาดใจจริงหรือเมื่อศาสดาพยากรณ์ของพระเจ้าประกาศพระประสงค์ของพระองค์และยังมีบางคนสงสัย แน่นอน บางคนปฏิเสธเสียงของศาสดาพยากรณ์ทันที17 ขณะที่บางคนไตร่ตรองร่วมกับการสวดอ้อนวอนถึงคำถามที่จริงใจของตน—คำถามซึ่งจะได้รับการแก้ไขด้วยความอดทนและดวงตาแห่งศรัทธา ถ้าถ้อยแถลงได้รับการเปิดเผยในศตวรรษอื่น ก็จะยังคงมีคำถาม แต่เป็นคำถามที่ต่างออกไปจากที่มีในวันนี้ จุดประสงค์อย่างหนึ่งของศาสดาพยากรณ์คือเพื่อช่วยเราตอบคำถามที่จริงใจ18

ก่อนเป็นประธานศาสนจักร ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันกล่าวว่า “ศาสดาพยากรณ์มองเห็นล่วงหน้า พวกท่านเห็นอันตรายที่ปฏิปักษ์วางไว้หรือจะยังวางไว้ในเส้นทางของเรา ศาสดาพยากรณ์เห็นล่วงหน้าเช่นกันว่าความเป็นไปได้และสิทธิพิเศษคอยท่าคนที่ฟัง ด้วยเจตนาจะเชื่อฟัง19

ข้าพเจ้าเป็นพยานถึงความจริงและพลังทางวิญญาณของเสียงที่เป็นเอกภาพของฝ่ายประธานสูงสุดและโควรัมอัครสาวกสิบสอง

โลกเดินจากไป

ชั่วชีวิตข้าพเจ้า เราเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในความเชื่อของโลกเกี่ยวกับหลักธรรมมากมายที่สอนในถ้อยแถลง ช่วงข้าพเจ้าเป็นวัยรุ่นและแต่งงานใหม่ๆ หลายคนในโลกเดินออกจากมาตรฐานของพระเจ้าที่เราเรียกว่ากฎแห่งความบริสุทธิ์ทางเพศ ว่าความสัมพันธ์ทางเพศพึงเกิดขึ้นระหว่างชายหญิงที่แต่งงานตามกฎหมายเท่านั้น ในทศวรรษ 20 และ 30 ของข้าพเจ้า หลายคนเดินออกจากความคุ้มครองทารกในครรภ์ขณะที่คนทั่วไปยอมรับการทำแท้งมากขึ้น เมื่อไม่กี่ปีมานี้ หลายคนเดินออกจากกฎของพระผู้เป็นเจ้าที่ว่าการแต่งงานเป็นการสมรสอันศักดิ์สิทธิ์ระหว่างชายกับหญิง20

การเห็นหลายคนเดินออกจากเขตที่พระเจ้าทรงกำหนดทำให้เรานึกถึงวันนั้นในคารเปอรนาอุมเมื่อพระผู้ช่วยให้รอดทรงประกาศความเป็นพระเจ้าของพระองค์และเสียพระทัยที่ “สาวกของพระองค์หลายคน … [เดินจาก] ไป”

พระผู้ช่วยให้รอดหันไปตรัสแก่อัครสาวกสิบสองต่อจากนั้นว่า “พวก‍ท่านก็จะจากเราไปด้วยหรือ?”

เปโตรตอบว่า

“องค์พระผู้เป็นเจ้า พวกข้าพระองค์จะจากไปหาใครได้? พระองค์ทรงมีถ้อยคำแห่งชีวิตนิรันดร์

“และพวกข้าพระองค์ก็เชื่อและทราบแล้วว่าพระองค์ทรงเป็นองค์บริสุทธิ์ของพระเจ้า”21

ไม่สอดคล้องทั้งหมดกับถ้อยแถลง

มีคนมากมายทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่ภักดีต่อพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ แม้ประสบการณ์ปัจจุบันของพวกเขาไม่สอดคล้องทั้งหมดกับถ้อยแถลงเรื่องครอบครัว อาทิ เด็กที่ชีวิตสั่นคลอนเพราะการหย่าร้าง เยาวชนที่เพื่อนๆ เย้ยหยันกฎแห่งความบริสุทธิ์ทางเพศ ชายหญิงผู้หย่าร้างแล้วที่บาดเจ็บสาหัสเพราะความไม่ซื่อสัตย์ของคู่ครอง สามีภรรยาที่ไม่สามารถมีบุตรได้ ชายหญิงที่แต่งงานกับคู่สมรสผู้ที่ไม่ได้มีความเชื่อเดียวกับพวกเขาในพระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟู หญิงโสดชายโสดที่ไม่สามารถแต่งงานได้ด้วยเหตุผลต่างกันไป

เพื่อนคนหนึ่งที่รู้จักกันมาเกือบ 20 ปี เป็นคนที่ข้าพเจ้าชื่นชมมาก เขาไม่แต่งงานเพราะชอบพอเพศเดียวกัน เขายังคงซื่อสัตย์ต่อพันธสัญญาพระวิหาร ขยายพรสวรรค์ที่สร้างสรรค์แบบมืออาชีพของเขา และรับใช้อย่างดีเยี่ยมทั้งในศาสนจักรและชุมชน เขาพูดกับข้าพเจ้าเมื่อเร็วๆ นี้ว่า “ผมเห็นใจคนในสถานการณ์เดียวกับผมที่เลือกไม่รักษากฎแห่งความบริสุทธิ์ทางเพศในโลกที่เราอยู่ แต่พระคริสต์ไม่ทรงขอหรอกหรือว่า ‘อย่าเป็นของโลกนี้’ เห็นชัดว่ามาตรฐานของพระผู้เป็นเจ้าต่างจากมาตรฐานของโลก”

กฎของมนุษย์มักจะเคลื่อนออกนอกขอบเขตของกฎที่พระผู้เป็นเจ้ากำหนดไว้ สำหรับคนที่ปรารถนาจะทำให้พระผู้เป็นเจ้าพอพระทัย พวกเขาจำเป็นต้องมีศรัทธา ความอดทน และความขยันหมั่นเพียร22

ข้าพเจ้ากับเคธีภรรยารู้จักสตรีโสดคนหนึ่ง ปัจจุบันเธออายุ 40 ปีเศษ มีความสามารถด้านอาชีพและรับใช้อย่างกล้าหาญในวอร์ดของเธอ เธอรักษากฎของพระผู้เป็นเจ้าเช่นกัน เธอเขียนว่า

“ดิฉันฝันถึงวันที่ดิฉันจะได้รับพรให้มีสามีและลูก ดิฉันรออยู่ บางครั้งสถานการณ์ของดิฉันทำให้รู้สึกว่าถูกลืมและโดดเดี่ยว ดิฉันพยายามไม่สนใจสิ่งที่ดิฉันไม่มี แต่สนใจสิ่งที่ดิฉันมีและวิธีที่ดิฉันจะช่วยผู้อื่นได้แทน

“การรับใช้ญาติพี่น้อง ในวอร์ด และในพระวิหารช่วยดิฉัน ดิฉันไม่ถูกลืมและไม่โดดเดี่ยวเพราะดิฉันเป็นส่วนหนึ่ง และเราทุกคนเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวใหญ่”

มีผู้ที่เข้าพระทัย

บางคนจะพูดว่า “คุณไม่เข้าใจสถานการณ์ของฉันหรอก” ข้าพเจ้าอาจจะไม่ แต่ข้าพเจ้าเป็นพยานว่ามีผู้ที่เข้าพระทัย23 มีผู้ที่ทรงรู้ภาระของท่านเพราะการเสียสละที่ทรงทำในสวนและบนกางเขน เมื่อท่านแสวงหาพระองค์และรักษาพระบัญญัติ ข้าพเจ้าสัญญากับท่านว่าพระองค์จะทรงอวยพรท่านและยกภาระที่หนักเกินกว่าจะแบกคนเดียว พระองค์จะประทานเพื่อนนิรันดร์และโอกาสให้ท่านรับใช้ สำคัญกว่านั้นคือพระองค์จะทรงทำให้ท่านเปี่ยมด้วยพระวิญญาณแรงกล้าของพระวิญญาณบริสุทธิ์และฉายความเห็นชอบจากสวรรค์มายังท่าน ไม่มีการเลือกหรือทางเลือกใดคู่ควรให้เราพิจารณาถ้าสิ่งนั้นทำให้เราไม่ได้รับความเป็นเพื่อนของพระวิญญาณบริสุทธิ์หรือพรของนิรันดร

ข้าพเจ้าทราบว่าพระผู้ช่วยให้รอดทรงพระชนม์ ข้าพเจ้าเป็นพยานว่าพระองค์ทรงเป็นบ่อเกิดแห่งความจริงทั้งมวลที่สำคัญจริงๆ และพระองค์จะประทานพรทั้งหมดที่สัญญาไว้แก่ผู้รักษาพระบัญญัติ ในพระนามของพระเยซูคริสต์ เอเมน

อ้างอิง

  1. ยอห์น 18:33, 36–38.

  2. William S. Sahakian and Mabel Lewis Sahakian, Ideas of the Great Philosophers (1966), 28.

  3. หลักคำสอนและพันธสัญญา 93:24.

  4. ยอห์น 14:6.

  5. แอลมา 30:15, 17.

  6. ฮีลามัน 16:18.

  7. ดู แอลมา 30:14, 23, 27.

  8. โมโรไน 10:5.

  9. Joseph Smith Translation, 1 Corinthians 2:11 [ใน 1 Corinthians 2:11, footnote c]; 1 Corinthians 2:14.

  10. 1 โครินธ์ 2:14.

  11. กอร์ดอน บี. ฮิงค์ลีย์, “ยืนหยัดต่อต้านแผนการร้ายของโลก,” เลียโฮนา, ม.ค. 1996, 112. ไม่นานมานี้ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันอธิบายประวัติบางอย่างของถ้อยแถลง ตามที่เชอริ ดิวสรุปไว้ใน Insights from a Prophet’s Life: Russell M. Nelson (2019), 208 ว่า

    “วันหนึ่งในปี 1994 โควรัมอัครสาวกสิบสองใช้เวลาหนึ่งวันในห้องสภาในพระวิหารซอลท์เลคสนทนาถึงปัญหาเกี่ยวกับครอบครัว พวกท่านพิจารณาทุกสิ่งตั้งแต่สื่อลามกที่แพร่หลายขึ้นเรื่อยๆ ไปจนถึงกฎหมายที่อาจจะต่อต้านครอบครัวในหลากหลายรูปแบบ นี่ไม่ใช่การสนทนาใหม่ แต่วันนั้นวาระประชุมทั้งหมดเกี่ยวข้องกับหัวข้อที่สำคัญนี้

    “อัครสาวกสิบสองทบทวนทั้งหลักคำสอนและนโยบาย พิจารณาสิ่งที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้—หลักคำสอน—และสิ่งเหล่านั้นที่อาจเปลี่ยนแปลงได้—นโยบาย พวกท่านสนทนาถึงปัญหาที่พวกท่านเห็นว่ากำลังจะเกิดขึ้น รวมถึงการผลักดันทางสังคมที่รุนแรงขึ้นเพื่อให้มีการแต่งงานเพศเดียวกันสิทธิของคนข้ามเพศ ‘แต่นั่นไม่ใช่จุดสิ้นสุดของสิ่งที่เราเห็น’ เอ็ลเดอร์เนลสันอธิบาย ‘เราเห็นความพยายามของหลากหลายกลุ่มที่จะล้มเลิกมาตรฐานและข้อจำกัดทั้งหมดเกี่ยวกับกิจกรรมทางเพศ เราเห็นการสับสนเรื่องเพศ เราเห็นทั้งหมดที่จะเกิดขึ้นได้’

    “การสนทนาที่ยาวนานขึ้น รวมถึงการสนทนาอื่นๆ ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง นำไปสู่บทสรุปว่าอัครสาวกสิบสองควรเตรียมเอกสารฉบับหนึ่ง บางทีแม้เป็นถ้อยแถลง ซึ่งกล่าวโดยสังเขปถึงจุดยืนของศาสนจักรเรื่องครอบครัวเพื่อนำเสนอให้ฝ่ายประธานสูงสุดพิจารณา”

  12. ครอบครัว: ถ้อยแถลงต่อโลก,” เลียโฮนา, พ.ค. 2017, 145.

  13. ประธานดัลลิน เอช. โอ๊คส์กล่าวว่า “มนุษย์ทุกคนที่เกิดมาบนโลกนี้เลือกแผนของพระบิดาและต่อสู้เพื่อแผนนั้น พวกเราจำนวนมากทำพันธสัญญากับพระบิดาเช่นกันเกี่ยวกับสิ่งที่เราจะทำในความเป็นมรรตัย มีหลายด้านที่ยังไม่เปิดเผย แต่การกระทำของเราในโลกวิญญาณมีผลต่อเราในความเป็นมรรตัยแน่นอน” (“The Great Plan of Happiness,” Ensign, Nov. 1993, 72).

  14. ดู ดัลลิน เอช. โอ๊คส์, “ความจริงและแผน,” เลียโฮนา, พ.ย. 2018, 25–28.

  15. อับราฮัม 3:26.

  16. ประธานดัลลิน เอช. โอ๊คส์กล่าวว่า

    “วิสุทธิชนยุคสุดท้ายผู้เปลี่ยนใจเลื่อมใสเชื่อว่าถ้อยแถลงเรื่องครอบครัว ที่ออกมาเกือบยี่สิบห้าปีแล้วและปัจจุบันมีแปลในหลายภาษามากมายนั้น เป็นการที่พระเจ้าทรงเน้นย้ำอีกครั้งถึงความจริงพระกิตติคุณที่เราต้องการเพื่อจะค้ำจุนเราตลอดความท้าทายในปัจจุบันที่เกิดกับครอบครัว …

    “ข้าพเจ้าเป็นพยานว่าถ้อยแถลงเรื่องครอบครัวเป็นคำแถลงความจริงนิรันดร์ พระประสงค์ของพระเจ้าสำหรับบุตรธิดาของพระองค์ผู้แสวงหาชีวิตนิรันดร์ ถ้อยแถลงนี้เป็นพื้นฐานของคำสอนและธรรมเนียมปฏิบัติของศาสนจักรใน 22 ปีที่ผ่านมาและจะเป็นเช่นนี้ต่อไปอีกในอนาคต จงพิจารณาว่าเป็นเช่นนั้น จงสอนและดำเนินชีวิตตามนั้น และท่านจะได้รับพรขณะที่ท่านรุดหน้าสู่ชีวิตนิรันดร์ …

    “… ข้าพเจ้าเชื่อว่าเจตคติของเราที่มีต่อถ้อยแถลงเรื่องครอบครัวตลอดจนการใช้ถ้อยแถลงนั้นเป็นการทดสอบอย่างหนึ่งสำหรับคนรุ่นนี้ ข้าพเจ้าสวดอ้อนวอนเพื่อวิสุทธิชนยุคสุดท้ายทุกคนขอจงยืนหยัดอย่างมั่นคงในการทดสอบนั้น” (“แผนและถ้อยแถลง,” เลียโฮนา, พ.ย. 2017, 30–31).

  17. ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันกล่าวว่า “มีคนที่เรียกพวกเราว่าคนดื้อรั้น แต่คนดื้อรั้นคือคนที่ไม่ยอมให้เรารู้สึกเหมือนที่เรารู้สึกแต่ต้องการให้เรารู้สึกเหมือนที่พวกเขารู้สึก สุดท้ายแล้วจุดยืนของเรากลับมาที่กฎแห่งความบริสุทธิ์ทางเพศ พระบัญญัติสิบประการยังคงใช้อยู่ ไม่เคยถูกเพิกถอน … เราไม่มีสิทธิ์เปลี่ยนแปลงกฎที่พระผู้เป็นเจ้าทรงบัญญัติไว้” (ใน Dew, Insights from a Prophet’s Life, 212).

  18. “ถึงแม้ครอบครัวจะถูกโจมตีทั่วทั้งโลก แต่ความจริงของถ้อยแถลงเรื่องครอบครัวจะเสริมกำลังท่าน

    คนหนุ่มสาวที่ยอดเยี่ยม ผู้มีสิทธิกำเนิดอันสูงส่งทั้งหลาย ท่านต้องเข้าใจผลกระทบยาวไกลของการปะทะกันในสังคมปัจจุบันเรื่องนิยามของการแต่งงาน การถกเถียงในปัจจุบันเกี่ยวข้องกับคำถามที่ว่าคนเพศเดียวกันสองคนแต่งงานกันได้หรือไม่ ถ้าท่านมีคำถามเกี่ยวกับจุดยืนของศาสนจักรในเรื่องนี้หรือประเด็นสำคัญอื่นๆ จงไตร่ตรองร่วมกับการสวดอ้อนวอน แล้วตั้งใจฟังข่าวสารของศาสดาพยากรณ์ในการประชุมใหญ่สามัญของศาสนจักรเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ คำปราศรัยที่ได้รับการดลใจเหล่านั้น รวมทั้งการดลใจจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ จะนำความเข้าใจมาสู่ความนึกคิดของท่านมากขึ้นและแท้จริงยิ่งขึ้น” (Russell M. Nelson, “Youth of the Noble Birthright: What Will You Choose?” [การให้ข้อคิดทางวิญญาณระบบการศึกษาของศาสนจักรสำหรับคนหนุ่มสาว, 6 ก.ย. 2013], broadcasts.ChurchofJesusChrist.org).

  19. รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน, “เป็นตัวแทนชาวมิลเลเนียมตัวจริง,” เลียโฮนา, ต.ค. 2016, 53.

  20. ประธานเนลสันกล่าวว่า “รัฐบาลถูกอิทธิพลครอบงำอย่างหนักจากกระแสสังคมและปรัชญาทางโลกเมื่อร่างกฎหมาย แก้ไข และนำไปบังคับใช้ ไม่ว่ารัฐจะบัญญัติกฎหมายไว้อย่างไร หลักคำสอนของพระเจ้าเกี่ยวกับการแต่งงานและศีลธรรม จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง พึงระลึกว่า บาป ถึงแม้มนุษย์จะทำให้ชอบด้วยกฎหมาย แต่ก็ยังเป็นบาปในสายพระเนตรของพระผู้เป็นเจ้าอยู่ดี! ” (“การตัดสินใจเพื่อนิรันดร,” เลียโฮนา, พ.ย. 2013, 108).

  21. ยอห์น 6:66–69.

  22. ดู แอลมา 32:41–43; ข้าพเจ้าประทับใจมาเสมอว่าในบทที่ดีเยี่ยมนี้เรื่องการทำให้ศรัทธาของเราเติบโต มีการกล่าวถึงคุณธรรมแห่งศรัทธา ความอดทน และความขยันหมั่นเพียรด้วยกันในสามข้อสุดท้ายทุกข้อ.

  23. ดู แอลมา 7:12; พระเยซูคริสต์ทรงทนทุกข์ไม่ใช่เพียงเพื่อบาปของเราเท่านั้นแต่ความทุพพลภาพของเราด้วย: “พระองค์จะทรงรับเอาความตาย, เพื่อพระองค์จะทรงทำให้สายรัดแห่งความตายที่ผูกมัดผู้คนของพระองค์หลุดออก; และพระองค์จะทรงรับเอาความทุพพลภาพของพวกเขา, เพื่ออุทรของพระองค์จะเปี่ยมไปด้วยพระเมตตา, ตามเนื้อหนัง, เพื่อพระองค์จะทรงรู้ตามเนื้อหนังว่าจะทรงช่วยผู้คนของพระองค์ตามความทุพพลภาพของพวกเขาได้อย่างไร” (คำพ้องความหมายของ ความทุพพลภาพ คือ ความเจ็บไข้ได้ป่วย, ความอ่อนแอ, ความทุกข์, ความขาดตกบกพร่อง.) ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 88:6: “พระองค์เสด็จลงต่ำกว่าสิ่งทั้งปวงด้วย, ในการนั้นพระองค์ทรงเข้าพระทัยสิ่งทั้งปวง, เพื่อพระองค์จะได้อยู่ในสิ่งทั้งปวงและผ่านสิ่งทั้งปวง, แสงสว่างแห่งความจริง.”