2017
ได้รับเรียกให้ทำงาน
มิถุนายน 2017


ข่าวสารจากฝ่ายประธานสูงสุด

ได้รับเรียกให้ทำงาน

ภาพ
man in wheat field

เหงื่ออาบหน้า, โดย แกรีย์ สมิธ

เมื่อศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธเรียกเอ็ลเดอร์ฮีเบอร์ ซี. คิมบัลล์ (1801–1868) เป็นผู้สอนศาสนาไป “เปิดประตูแห่งความรอด” ในอังกฤษ ความรู้สึกไม่คู่ควรครอบงำจิตใจเอ็ลเดอร์คิมบัลล์

“ข้าแต่พระเจ้า” ท่านเขียน “ข้าพระองค์เป็นคนพูดตะกุกตะกัก และไม่เหมาะกับงานนี้ด้วยประการทั้งปวง”

แม้กระนั้นเอ็ลเดอร์คิมบัลล์ก็ยังยอมรับการเรียก โดยกล่าวเพิ่มว่า “ความคิดคำนึงเหล่านี้มิได้ถ่วงข้าพเจ้าจากเส้นทางแห่งหน้าที่ ทันทีที่ข้าพเจ้าเข้าใจพระประสงค์ของพระบิดาบนสวรรค์ ข้าพเจ้ารู้สึกตั้งใจมั่นว่าจะเสี่ยงภยันตรายทุกสิ่งทุกอย่าง โดยเชื่อว่าพระองค์จะทรงสนับสนุนข้าพเจ้าโดยเดชานุภาพอันเกรียงไกรของพระองค์และประสาทพรข้าพเจ้าด้วยคุณสมบัติทุกอย่างที่ข้าพเจ้าจำเป็นต้องมี”1

พี่น้องรุ่นเยาว์ทั้งหลายที่ได้รับเรียกให้รับใช้เป็นผู้สอนศาสนาเต็มเวลา ท่านได้รับเรียกให้ทำงานนี้เพราะท่าน “มีความปรารถนาจะรับใช้พระผู้เป็นเจ้า” (คพ. 4:3) เหมือนเอ็ลเดอร์คิมบัลล์ และเพราะท่านพร้อมและมีค่าควร

สามีภรรยาอาวุโสทั้งหลาย ท่านได้รับเรียกให้ทำงานนี้ด้วยเหตุผลเดียวกัน อย่างไรก็ดี ท่านไม่เพียงนำความปรารถนาจะรับใช้มาเท่านั้น แต่ท่านนำปัญญาที่ได้จากช่วงเวลาหลายปีของการเสียสละ ความรัก และประสบการณ์มาด้วยเพื่อให้พระบิดาในสวรรค์จะทรงสามารถใช้สัมผัสใจบุตรธิดาผู้กำลังมองหาความจริง ไม่เป็นที่น่าสงสัยว่าท่านได้เรียนรู้มาแล้วแน่นอนว่าเราไม่มีวันรักพระเจ้าได้จริงจนกว่าเรารับใช้พระองค์โดยรับใช้ผู้อื่น

ท่านจะเพิ่มศรัทธาและความทรหด ความกล้าหาญและความเชื่อมั่น ความตั้งใจและความสามารถในการปรับตัว ความมุ่งมั่นและการอุทิศตนเข้ากับความปรารถนาจะรับใช้เป็นผู้สอนศาสนาของท่าน ผู้สอนศาสนาที่อุทิศตนสามารถทำให้เกิดปาฏิหาริย์ในสนามเผยแผ่

ประธานจอห์น เทย์เลอร์ (1808–1887) สรุปคุณสมบัติจำเป็นของผู้สอนศาสนาไว้ดังนี้ “ชาย [และหญิงและคู่สามีภรรยา] ในแบบที่เราต้องการให้เป็นผู้เสนอข่าวสารพระกิตติคุณนี้คือคนที่มีศรัทธาในพระผู้เป็นเจ้า คนที่มีศรัทธาในศาสนาของเขา คนที่ให้เกียรติฐานะปุโรหิตของเขา คนที่ … พระผู้เป็นเจ้าทรงมีความเชื่อมั่นในตัวเขา … เราต้องการคนที่เปี่ยมด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์และพลังอำนาจของพระผู้เป็นเจ้า … คนที่น่านับถือ มีคุณธรรมและความบริสุทธิ์”2

พระเจ้าทรงประกาศว่า

“เพราะดูเถิด ทุ่งขาวพร้อมที่จะเก็บเกี่ยว; และดูสิ, คนที่ยื่นเคียวเข้ามาด้วยเรี่ยวแรงของเขา, คนคนนั้นย่อมสะสมไว้เพื่อเขาจะหาพินาศไม่, แต่นำความรอดมาสู่จิตวิญญาณของเขา;

“และศรัทธา, ความหวัง, จิตกุศลและความรัก, โดยดวงตาที่เห็นแก่รัศมีภาพของพระผู้เป็นเจ้าอย่างเดียว, ย่อมทำให้เขาสมกับงาน” (คพ. 4:4–5)

การเรียกของท่านผ่านมาทางการดลใจ ข้าพเจ้าเป็นพยานว่าผู้ที่พระผู้เป็นเจ้าทรงเรียก พระองค์ทรงทำให้คู่ควร ท่านจะได้รับความช่วยเหลือจากสวรรค์เมื่อท่านทำงานในสวนองุ่นของพระเจ้าร่วมกับการสวดอ้อนวอน

สัญญาอันไพเราะที่พระเจ้าประทานแก่ผู้สอนศาสนายุคแรกในสมัยการประทานนี้ ดังที่กล่าวไว้ในพระคัมภีร์หลักคำสอนและพันธสัญญา จะเป็นของท่าน คือ “เราจะไปเบื้องหน้าเจ้า เราจะอยู่ทางขวามือเจ้าและทางซ้ายเจ้า, และพระวิญญาณของเราจะอยู่ในใจเจ้า, และเหล่าเทพของเราห้อมล้อมเจ้า, เพื่อประคองเจ้าไว้” (คพ. 84:88)

ขณะที่ท่านรับใช้ ท่านจะสร้างมิตรภาพและความทรงจำนิรันดร์อันล้ำค่า ข้าพเจ้ารู้ว่าไม่มีทุ่งใดให้ผลเก็บเกี่ยวของความสุขมากไปกว่าสนามเผยแผ่

ตอนนี้ ข้าพเจ้าขอกล่าวกับเหล่าเอ็ลเดอร์ ซิสเตอร์ และคู่สามีภรรยา ที่ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตามอาจจะไม่สามารถรับใช้จนจบเวลาที่มอบหมายในสนามเผยแผ่ได้ พระเจ้าทรงรักท่าน พระองค์ทรงชื่นชมการรับใช้ของท่าน พระองค์ทรงทราบความผิดหวังของท่าน จงรู้ว่าพระองค์ยังคงมีงานให้ท่านทำ อย่าปล่อยให้ซาตานบอกท่านเป็นอย่างอื่น อย่าเศร้าใจ อย่าท้อแท้ อย่าหมดหวัง

ตามที่ข้าพเจ้ากล่าวไว้ในการประชุมใหญ่สามัญหลังจากได้รับเรียกให้นำศาสนจักรไม่นานว่า “อย่ากลัว จงรื่นเริงเถิด อนาคตของท่านสดใสเท่าศรัทธาของท่าน”3 สัญญานั้นยังเป็นจริงสำหรับท่าน ฉะนั้นอย่าสิ้นศรัทธา เพราะพระเจ้าไม่ทรงสิ้นศรัทธาในตัวท่าน จงรักษาพันธสัญญาและเดินหน้าต่อไป

ชาวโลกต้องการพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ ขอพระเจ้าทรงอวยพรวิสุทธิชนทุกคนของพระองค์—ไม่ว่าเราจะรับใช้ที่ใด—ให้มีใจผู้สอนศาสนา

อ้างอิง

  1. ฮีเบอร์ ซี. คิมบัลล์ ใน ออร์สัน เอฟ. วิทนีย์, Life of Heber C. Kimball, 3rd ed. (1967), 104.

  2. คำสอนของประธานศาสนาจักร: จอห์น เทย์เลอร์ (2001) หน้า 72.

  3. โธมัส เอส. มอนสัน “จงรื่นเริงเถิด,” เลียโฮนา, พ.ค. 2009, 113.