บทบาทสำคัญของสตรี

ข้าพเจ้าพูดมาหลายปีเกี่ยวกับพลังของสภาที่มีสตรีผู้ซื่อสัตย์เข้าร่วม ข้อคิดและคำแนะนำของท่านจำเป็นอย่างยิ่ง ปัจจุบันพระเจ้าประทานพรมากมายแก่ศาสนจักรและโลกเพราะมีซิสเตอร์ผู้สอนศาสนารับใช้อย่างซื่อสัตย์ในตำแหน่งผู้นำงานเผยแผ่และเข้าร่วมสภาผู้นำงานเผยแผ่มากขึ้น อีกหลายคนรับเอ็นดาวเม้นท์เร็วขึ้น ด้วยเหตุนี้จำนวนสตรีที่ทำพันธสัญญาพระวิหารและรับใช้ในศาสนจักรจึงมีเพิ่มขึ้น ผู้นำสตรีในฝ่ายประธานสามัญสวดอ้อนวอนและพูดในการประชุมใหญ่สามัญ

สตรีบางท่านประสงค์ให้ตนเองพบเรื่องราวของสตรีในพระคัมภีร์และในประวัติศาสนจักรมากขึ้น เราจำเป็นต้องพัฒนาทักษะในการหาอิทธิพลของพวกเธอให้เจอ เหมือนกับสตรีสาวคนหนึ่งหาเจอ เธอกล่าวว่า “มอรมอนคงมีภรรยาที่น่าทึ่งเลี้ยงลูกชายที่ไม่ธรรมดาอย่างโมโรไนให้เขาแน่เลย!”

ถ้าท่านพิจารณาให้ถี่ถ้วนและด้วยเจตนาที่ถูกต้อง ท่านจะพบปรากฏการณ์คล้ายกันของการอบรมเลี้ยงดูที่มีประสิทธิภาพทั่วพระคัมภีร์

ศาสนจักรมุ่งให้ความสนใจกับพี่น้องสตรีที่ซื่อสัตย์ในศาสนจักรและผลงานของพวกเธอมาหลายปีแล้ว ตัวอย่างเช่น ข้าพเจ้าเชิญชวนให้ท่านสำรวจหัวข้อ “Women of Conviction” ที่ history.ChurchofJesusChrist.org

บทบาทของพี่น้องสตรีผู้บุกเบิกน่าทึ่งมาก เมื่อเขียนเกี่ยวกับผู้บุกเบิก นักเขียนคนหนึ่งที่ไม่ได้เป็นวิสุทธิชนยุคสุดท้ายกล่าวว่า “สตรีของพวกเขาเหลือเชื่อจริงๆ”¹

ขณะที่เรามองหาและค้นหาสตรีในพระคัมภีร์และในประวัติของเรา เราจะเห็นพลังและอิทธิพลที่สตรีมีในครอบครัวเรา ชุมชน ศาสนจักร และโลกชัดขึ้น

ภาพ

eye doctor examining a woman’s eyes

ในชั่วชีวิตข้าพเจ้าเราเห็นสตรีจำนวนมากได้รับแต่งตั้งและได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่รัฐ ตำแหน่งซีอี-โอของบริษัทและองค์กรใหญ่ๆ หลายแห่ง โรงเรียนธุรกิจ โรงเรียนกฎหมาย และโรงเรียนแพทย์รับพวกเธอเข้าเรียนมากขึ้นเรื่อยๆ

โจเซฟ สมิธบอกสมาคมสงเคราะห์ในปี 1842 ว่า “บัดนี้ข้าพเจ้าไขกุญแจให้ท่านในพระนามของพระผู้เป็นเจ้า และสมาคมนี้จะปลื้มปีติ ความรู้และสติปัญญาจะหลั่งไหลมานับจากนี้—นี่คือการเริ่มต้นวันที่ดีกว่า [สำหรับสตรี]”²

เรากำลังเห็นสัมฤทธิผลจากวิสัยทัศน์ของศาสดาพยากรณ์นี้เมื่อสตรีมีโอกาสใหม่ๆ และความก้าวหน้าอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน การทำให้ทุกอย่างในบรรดาตัวเลือกที่มีอยู่ทั้งหมดสมดุลเป็นเรื่องท้าทาย สุดท้ายแล้วพวกเราส่วนใหญ่ต้องเลือกระหว่างตัวเลือกที่ประชันกัน

แน่นอนว่าเรามีแบบแผนจากพระเจ้าให้ทำตามดังที่สรุปไว้ใน “ครอบครัว: ถ้อยแถลงต่อโลก” แต่เรารู้ว่าความเป็นมรรตัยจะซับซ้อน สตรีจำนวนมากเป็นโสดยาวนาน สตรีบางท่านแต่งงานแล้ว อีกหลายท่านกลายเป็นโสดเมื่อคู่ครองสิ้นชีวิตหรือเมื่อพวกเธอหย่าร้าง และบางท่านไม่เคยแต่งงาน

กระนั้นก็ตาม ถ้าเราซื่อสัตย์และอดทนจนกว่าชีวิตจะหาไม่ พระองค์ย่อมไม่ปฏิเสธความปรารถนาอันชอบธรรม และ เราจะได้รับ พรทุกประการ ในท้ายที่สุด แต่ละท่านต้องรู้ว่าพระเจ้าทรงต้องการให้ท่านเลือกอะไรหากการเลือกอยู่ตรงหน้าท่าน

ทันทีที่ท่านรู้พระประสงค์ของพระเจ้าท่านจะสามารถเดินหน้าได้ด้วยศรัทธาเพื่อบรรลุจุดประสงค์ของตัวท่าน

ถ้าสมาชิกของศาสนจักรผู้นมัสการในพระวิหารปรับตัวเข้ากับพระวิญญาณ พวกเธอจะตระหนักว่าพระเจ้าทรงมีพรอัศจรรย์เตรียมไว้ให้ธิดาและบุตรที่ซื่อสัตย์ตลอดนิรันดร

และพรเหล่านั้นคืออะไร? ข้อคิดตามบริบทนี้จากประธานดัลลิน เอช. โอ๊คส์ ที่ปรึกษาที่หนึ่งในฝ่ายประธานสูงสุดอธิบายว่า “จุดประสงค์ของชีวิตมรรตัยและพันธกิจของศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้ายคือเตรียมบุตรและธิดาของพระผู้เป็นเจ้าให้พร้อมรับจุดหมายของพวกเขา นั่นคือ การเป็นเหมือนพระบิดาพระมารดาบนสวรรค์ของเรา”³

เรื่องราวพระกิตติคุณเป็นเรื่องราวครอบครัว—ไม่มีอะไรมากหรือน้อยไปกว่านี้ เริ่มต้นด้วยพระบิดาพระมารดาบนสวรรค์ และจบด้วยบุตรธิดาฟันฝ่าความท้าทายของมรรตัยที่สุขใจบ้างทุกข์ใจบ้างและกลับบ้านบนสวรรค์ของพวกเขาโดยรับศาสนพิธีที่จำเป็นทั้งหมดของความสูงส่งนิรันดร์

นั่นคือเรื่องราวของชีวิตเรา พระผู้เป็นเจ้าประทานโครงร่างให้เรา แต่ทรงปล่อยให้เรากรอกรายละเอียดผ่านการเลือกและความซื่อสัตย์ของเรา มีตอนจบที่สุขเป็นพิเศษเตรียมไว้ให้ทุกคนที่ปรารถนา แต่ก่อนเราจะได้ความสุขนั้น เราต้องเป็นมากกว่าบุตรธิดาของพระองค์—เราต้องเป็นสานุศิษย์ของพระองค์

ชีวิตเต็มไปด้วยสิ่งรบกวนที่มีศักยภาพจะนำเราออกห่างจากคำสอนหลักของศาสนจักร—โดยเฉพาะอย่างยิ่งการชดใช้ของพระเยซูคริสต์

ศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธกล่าวว่า “หลักธรรมพื้นฐานของศาสนาเราคือประจักษ์พยานของเหล่าอัครสาวกและศาสดาพยากรณ์เกี่ยวกับพระเยซูคริสต์ ว่าพระองค์สิ้นพระชนม์ ทรงถูกฝัง ทรงคืนพระชนม์อีกครั้งในวันที่สาม และเสด็จขึ้นสู่สวรรค์ เรื่องอื่นทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับศาสนาเราล้วนเป็นเพียงส่วนประกอบของเรื่องดังกล่าว”⁴

การชดใช้ของพระเยซูคริสต์อยู่ใจกลางข่าวสารของเรา! เป็นความเชื่อหลักของเรา เป็นศูนย์รวมหลักคำสอนของเรา เป็นหัวใจและจิตวิญญาณของศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย

หากท่านยังไม่รู้สึกถึงความจริงและพลังแห่งการชดใช้ของพระผู้ช่วยให้รอดในชีวิตท่าน ข้าพเจ้าขอเชื้อเชิญให้ท่านมุ่งเน้นข่าวสารหลักของการฟื้นฟูอีกครั้ง—ข่าวสารที่ประกาศว่าเราสามารถรับการทำให้ “ดีพร้อมโดยผ่านพระเยซู สื่อกลางแห่งพันธสัญญาใหม่, ผู้ทรงทำให้เกิดการชดใช้ที่สมบูรณ์นี้โดยผ่านการหลั่งพระโลหิตของพระองค์เอง” (หลักคำสอนและพันธสัญญา 76:69)

พี่น้องสตรีทั้งหลาย โปรดทำสิ่งจำเป็นทุกอย่างเพื่อจดจ่ออยู่กับข่าวสารหลักที่เรียบง่ายของการฟื้นฟู ยอมรับ เข้าใจ น้อมรับ รัก แบ่งปัน และปกป้องข่าวสารดังกล่าว

ภาพ

woman in wheelchair teaching a class

บัดนี้ ข้าพเจ้าใคร่ขอให้ท่านทำสิ่งเดียวกับที่ศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธขอให้พี่น้องสตรีสมาคมสงเคราะห์ทำ “สมาคมสงเคราะห์ … ไม่เพียงบรรเทาทุกข์คนยากจนเท่านั้น แต่ช่วยจิตวิญญาณให้รอดด้วย” ท่านกล่าว⁵

“พี่น้องสตรีทุกท่านในศาสนจักรนี้ที่ทำพันธสัญญากับพระเจ้าได้รับบัญชาจากสวรรค์ให้ช่วยจิตวิญญาณให้รอด นำสตรีของโลก เสริมสร้างบ้านแห่งไซอันและสร้างอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้า”⁶ โปรดช่วยเราทำให้ศาสนจักรก้าวหน้าต่อไปโดยช่วยทำให้เกิดศรัทธาเพิ่มมากขึ้นในชีวิตสมาชิกแต่ละคนของเรา

สตรีที่ชอบธรรมและซื่อสัตย์มีบทบาทจำเป็นเสมอมาในการช่วยจิตวิญญาณให้รอดและปกป้องอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้า อย่างไรก็ดี ท่านผู้เป็นสตรีของสมัยการประทานสุดท้ายนี้มีบทบาทและความรับผิดชอบสำคัญเป็นพิเศษที่จะทำให้เกิดสัมฤทธิผล ท่านเป็นสตรีที่มีความมุ่งมั่น ศรัทธา การอุทิศตน และการกระทำ

เหมือนสตรีที่ซื่อสัตย์ในอดีต ท่านจำเป็นต้องเรียนรู้วิธีใช้สิทธิอำนาจฐานะปุโรหิตซึ่งท่านได้รับประสาทพรมาเพื่อให้ได้พรนิรันดร์ทั้งหมดที่จะเป็นของท่าน

ข้าพเจ้าทูลขอให้พระบิดาบนสวรรค์ทรงอวยพรท่านเพื่อท่านจะมีสันติสุขและความมั่นใจอันสุขุมว่าสิ่งที่ท่านทำภายในศาสนจักรจำเป็นต่อการเติบโตและการเตรียมโลกนี้ให้พร้อมรับวันนั้นเมื่อพระเจ้าและพระผู้ช่วยให้รอดจะตรัสว่า “พอแล้ว” และจะเสด็จมาปกครอง

งานแห่งอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้าจะก้าวหน้า แต่จะบรรลุจุดหมายแท้จริงไม่ได้หากท่านไม่ร่วมมือกับพี่น้องสตรีที่ยอดเยี่ยมและซื่อสัตย์ของศาสนจักรเพื่อทำให้งานนี้ก้าวหน้า