30 วิธีง่ายๆ ที่จะช่วยรวบรวมอิสราเอล

ประธานสเป็นเซอร์ ดับเบิลยู. คิมบัลล์ (1895–1985) สอนว่า “การเติบโตที่เกิดขึ้นกับศาสนจักรในยุคสุดท้ายนี้ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นเพราะสตรีที่ดีจำนวนมากของโลก … ได้ร้บการชักนำเข้ามาสู่ศาสนจักรมากขึ้น เรื่องเช่นนี้จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อสตรีของศาสนจักรสะท้อนควานชอบธรรมและ ความชัดเจนในชืวิด จนถึงระดับที่เธอเหล่านั้นมองเห็นว่าสตรีของศาสนจักร ผิดแผกและแตกต่างอย่างมีความสุขจากสตรีของโลก”⁴ ผู้ชายอาจมีอิทธิพลมากในการชักชวนผู้อื่นมาหาพระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์โดยทำตามแบบอย่างของพระผู้ช่วยให้รอด

เมื่อเราดำเนินชีวิตตามพระกิตติคุณ คนอื่นๆ จะดึงดูดเข้าหาความสว่าง ปีติ ศรัทธา และความจดจ่อของเรา และอาจสร้างแรงบันดาลใจให้พวกเขาต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับพระบิดาบนสวรรค์ พระเยซูคริสต์ หลักธรรมและศาสนพิธีพระกิตติคุณมากขึ้น เราสามารถช่วยผู้อื่นให้มาหาพระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์ได้เมื่อเรา:

• ยืนหยัดในสิ่งที่เราเชื่อด้วยความกรุณาและช่วยให้ผู้อื่นเข้าใจว่าเหตุใดหลักคำสอนจึงสำคัญต่อเรา

• พูดคุยเกี่ยวกับวิธีที่การอ่านพระคัมภีร์มอรมอนและพระคัมภีร์อื่นๆ เป็นพรแก่เรา และแบ่งปันหนังสือพระคัมภีร์มอรมอนกับผู้อื่นหรือกระตุ้นให้พวกเขาดาวน์โหลด แอปพระคัมภีร์มอรมอน

• ดำเนินชีวิตตามมาตรฐานพระกิตติคุณ รวมทั้งมาตรฐานใน เพื่อความเข้มแข็งของเยาวชน ไม่ว่าเราจะอายุเท่าใด เตรียมพร้อมที่จะพูดถึง สาเหตุ ที่เราเลือกดำเนินชีวิตตามมาตรฐานที่เราทำและการทำเช่นนั้นเป็นพรแก่ชีวิตเราอย่างไร

• เชื้อเชิญให้ผู้อื่นมีส่วนร่วมกับเราในการดำเนินชีวิตตามพระกิตติคุณ—ตั้งแต่การรับใช้ไปจนถึงการดำเนินชีวิตตามมาตรฐานพระกิตติคุณ—เพื่อประสบปีติที่เรารู้สึก

• เข้าร่วม โปรแกรมเด็กและเยาวชน จากนั้นพูดคุยกับคนอื่นๆ ว่าพระคริสต์กำลังช่วยให้เราเติบโตและก้าวหน้าในทุกด้านของชีวิตอย่างไร

• บันทึกประสบการณ์ทางวิญญาณลงในบันทึกส่วนตัวของเรา แบ่งปันประสบการณ์ดังกล่าววันนี้ตามความเหมาะสมและตามที่ได้รับการกระตุ้นเตือนกับครอบครัวของเราและเก็บประสบการณ์ดังกล่าวเพื่อให้คนรุ่นต่อไปสามารถพบความเข้มแข็งผ่านประสบการณ์ที่ซื่อสัตย์ของเราได้

• ศึกษาและพยายามพัฒนาคุณลักษณะเหมือนพระคริสต์ให้มากขึ้น แนวคิดในบทที่หกของ สั่งสอนกิตติคุณของเรา จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี

การช่วยให้ผู้อื่นมาหาพระคริสต์เริ่มต้นได้ด้วยการสร้างสายสัมพันธ์กับพวกเขา ยิ่งเรารู้จักคนมากเท่าไร เราก็ยิ่งสามารถช่วยพาคนมาหาพระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์ได้มากเท่านั้น พิจารณาว่าเราจะทำสิ่งต่อไปนี้ได้ด้วยวิธีใด:

• แนะนำตนเองกับคนที่เราพบในชุมชนของเรา สร้างมิตรภาพใหม่ๆ เพื่อให้คนอื่นๆ อยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับชีวิตและความเชื่อของเรา

• “จงเตรียมพร้อมเสมอ ที่จะอธิบายกับทุกคนที่ขอทราบเหตุผลเกี่ยวกับความหวังของ [เรา]” (1 เปโตร 3:15)

• เรียนรู้ภาษาต่างๆ เพื่อให้เราสามารถช่วยเหลือผู้คนจากประเทศของเราหรือประเทศอื่นๆ ได้ดียิ่งขึ้น อ่านว่า ประธานเนลสันยอมรับคำเชื้อเชิญให้เรียนภาษาจีนอย่างไร และคำเชื้อเชิญดังกล่าวช่วยให้ท่านรับใช้ประชาชนจีนได้อย่างไร

• “สวดอ้อนวอนทุกวันว่าบุตรธิดาทุกคนของพระผู้เป็นเจ้าจะรับพรแห่งพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์”⁵

• สวดอ้อนวอนว่าประชาชาติทั้งปวงจะเปิดรับการสั่งสอนพระกิตติคุณ

• แบ่งปันประสบการณ์บนสื่อสังคมออนไลน์หรือแบบพูดคุยกันตรงหน้าว่าพระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์ทรงอวยพรชีวิตเราอย่างไรและศรัทธาในพระองค์ทำให้เราเข้มแข็งได้อย่างไร

• รับใช้ผู้อื่นในพระนามของพระคริสต์และให้พวกเขารู้ว่าเรากำลังรับใช้พวกเขาเพื่อพระองค์

เพื่อช่วยผู้อื่นเตรียมทำและรักษาพันธสัญญาศักดิ์สิทธิ์กับพระผู้เป็นเจ้า เราจำเป็นต้องทำเช่นเดียวกัน เราสามารถ:

• สวดอ้อนวอนทุกวันเพื่อให้รู้ว่าเราจะเป็นเครื่องมือในพระหัตถ์ของพระเจ้าได้อย่างไร จากนั้นทำตามการกระตุ้นเตือนที่มาในวันนั้น

• ศึกษาพระคัมภีร์ทุกวัน รวมทั้งมีส่วนร่วมใน การศึกษาจงตามเรามา ยิ่งเรารู้เกี่ยวกับพระกิตติคุณมากเท่าไร เราก็จะสามารถแบ่งปันพระกิตติคุณกับผู้อื่นได้มากเท่านั้น

• ประธานเนลสันสอนว่า “เปลี่ยนบ้าน [ของเรา] เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งศรัทธา” และ “ทำงานอย่างขยันหมั่นเพียรเพื่อปรับเปลี่ยนบ้าน [ของเรา] ให้เป็นศูนย์การเรียนรู้พระกิตติคุณ”⁶

• ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับพันธสัญญาในพระคัมภีร์และที่ temples.ChurchofJesusChrist.org เตรียมพูดถึงพันธสัญญาที่เราทำและเหตุผลที่เราทำพันธสัญญานั้น

• ศึกษา หัวข้อพระกิตติคุณ ที่ผู้คนมักมีคำถาม เพื่อเราจะได้รู้ว่าต้องเปิด พระคัมภีร์ บทใด และศึกษาถ้อยคำของศาสดาพยากรณ์ที่มีชีวิตผ่านข่าวสาร การประชุมใหญ่สามัญ เมื่อมีคำถามเกิดขึ้น

เราสามารถทำงานในพระวิหารเพื่อให้คนที่อยู่ในอีกด้านหนึ่งของม่านผู้เลือกยอมรับการรับใช้ของเราสามารถรับศาสนพิธีที่พวกเขาไม่สามารถรับได้ด้วยตนเอง เรายังสามารถช่วยให้คนที่มีชีวิตอยู่เห็นได้ด้วยว่าศาสนพิธีพระวิหารสามารถเป็นพรแก่ชีวิตพวกเขาเวลานี้และช่วยให้ครอบครัวของพวกเขาอยู่ด้วยกันตลอดไปอย่างไร พิจารณาว่าเราจะทำสิ่งต่อไปนี้ได้ด้วยวิธีใด:

• เตรียมชื่อของคนในครอบครัวคนอื่นๆ สำหรับพระวิหารผ่านทาง FamilySearch.org

• ช่วยให้ผู้อื่นทราบและเรียนรู้วิธีใช้ FamilySearch.org และค้นหาชื่อครอบครัวของ พวกเขา

• ดัชนีบันทึก ใน FamilySearch.org จะช่วยให้คนอื่นๆ ค้นหาข้อมูลดิจิทัลสำหรับสมาชิกในครอบครัวได้ง่ายขึ้น

• พูดคุยเกี่ยวกับครอบครัวนิรันดร์กับผู้อื่น สอนพวกเขาเกี่ยวกับพระวิหาร ศาสนพิธีที่เกิดขึ้นที่นั่น และวิธีที่ครอบครัว—ทั้งคนเป็นและคนตาย—สามารถผนึกด้วยกันตลอดไป

• หาเวลาเข้าพระวิหารและไปเข้าพระวิหารเป็นประจำ

• เชิญผู้อื่นมาร่วมนมัสการในพระวิหารกับเรา

เราทุกคนต่างมีชีวิตที่วุ่นวาย จึงไม่ง่ายเสมอไปที่จะหาเวลาทำสิ่งต่างๆ ที่จะช่วยให้เราสามารถรวบรวมอิสราเอลได้ แต่เมื่อเรารวมการกระทำที่เรียบง่ายเหล่านี้เข้ากับชีวิตประจำวันและประสบการณ์ของเรา เราจะพบว่ามีเวลามากพอที่จะทำสิ่งต่างๆ ที่พระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์ทรงทราบว่าจะมีความสำคัญต่อเราและคนอื่นๆ ที่เราสามารถช่วยให้เข้าใกล้พระองค์มากขึ้น พิจารณาวิธีต่อไปนี้:

• ประเมินตารางเวลาของเราเพื่อดูว่าเราควรหยุดทำหรือเริ่มทำอะไรเพื่อให้มีเวลาในการรวบรวมอิสราเอลมากขึ้น

• ลดเวลาจ้องหน้าจอในแต่ละวันเพื่อมีส่วนร่วมในการรวบรวมอิสราเอลได้อย่างเต็มที่ยิ่งขึ้น

• จงมีสติเกี่ยวกับจุดประสงค์และความเป็นไปได้ในการอยู่บนสื่อสังคมออนไลน์ให้มากขึ้น—โดยใช้เป็นเครื่องมือในการรวบรวมอิสราเอล

• ตั้งใจที่จะติดต่อกับผู้อื่นในกิจกรรมที่เราเข้าร่วมอยู่แล้ว

• จำไว้ว่า “อย่าแสวงหาสิ่งต่างๆ ของโลกนี้ แต่เจ้าจงแสวงหา เพื่อสร้างอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้าก่อน, และ สถาปนาความชอบธรรมของพระองค์, และสิ่งทั้งหลายทั้งปวงเหล่านี้จะมีเพิ่มเติมมาให้เจ้า” (งานแปลของโจเซฟ สมิธ, มัทธิว 6:38 [ในภาคผนวกงานแปลของโจเซฟ สมิธ])