2022
แอกของพระองค์ก็พอเหมาะและภาระของพระองค์ก็เบา
พฤศจิกายน 2022


แอกของพระองค์ก็พอเหมาะและภาระของพระองค์ก็เบา

ขอให้เราจดจำว่าแต่ละคนบนโลกนี้คือลูกพระผู้เป็นเจ้าและพระองค์ทรงรักทุกคน

มีเรื่องเล่าถึงชายคนหนึ่งชื่อแจ็คผู้มีสุนัขล่านกแสนรักชื่อแคสซี แจ็คภูมิใจในแคสซีมากและมักคุยโอ้อวดว่าเธอช่างเป็นสุนัขที่มีทักษะดีเยี่ยม เพื่อพิสูจน์เรื่องนี้ แจ็คชวนเพื่อนบางคนมาดูแคสซีแสดงความสามารถ หลังมาถึงสโมสรล่าสัตว์ แจ็คปล่อยให้แคสซีวิ่งเล่นรอบบริเวณขณะที่เขาเข้าไปเช็คอิน

เมื่อถึงเวลาเริ่ม แจ็คกระวนกระวายที่จะอวดทักษะอันยอดเยี่ยมของแคสซี แต่แคสซีทำตัวแปลกๆ เธอไม่ทำตามคำสั่งของแจ็คตามที่ปกติเคยทำอย่างเต็มใจ เธอไม่อยากทำอะไรเลยนอกจากอยู่ข้างๆ เขา

แจ็คทั้งหงุดหงิด อับอาย และโกรธแคสซี ไม่นานเขาก็ชวนทุกคนกลับ แคสซีไม่แม้แต่จะกระโดดขึ้นท้ายรถกระบะ ทำให้แจ็คต้องอุ้มเธอขึ้นรถอย่างหมดความอดทนแล้วดันเธอเข้าไปในบ้านสุนัข เขาพลุ่งพล่านด้วยความโกรธเมื่อคนที่มาด้วยล้อเลียนพฤติกรรมสุนัขของเขาตลอดทางกลับบ้าน แจ็คไม่เข้าใจเลยว่าทำไมแคสซีจึงมีพฤติกรรมแปลกไป เธอถูกฝึกมาอย่างดี และความปรารถนาทั้งหมดของเธอที่ผ่านมาคือเอาใจและรับใช้เขา

หลังจากมาถึงบ้าน แจ็คเริ่มตรวจแคสซีเพื่อหาการบาดเจ็บ เมล็ดหนาม หรือเห็บอย่างที่เคยทำตามปกติ ขณะเขาวางมือบนอกของเธอ เขารู้สึกว่ามีอะไรเปียกๆ และพบว่ามือของเขาเปื้อนเลือด เขาละอายใจและตกใจเมื่อพบว่าแคสซีมีแผลยาวลึกไปถึงกระดูกหน้าอก เขาพบอีกแผลที่ขาหน้าข้างขวา ซึ่งลึกจนถึงกระดูกเช่นกัน

แจ็คดึงแคสซีเข้ามากอดแล้วเริ่มร้องไห้ เขาเต็มไปด้วยความละอายใจที่ตัดสินและปฏิบัติต่อเธอไม่ดีแบบนั้น ที่แคสซีไม่ได้ทำตัวตามปกติวิสัยก่อนหน้านี้ก็เพราะเธอบาดเจ็บ ความเจ็บปวด ความทุกข์ทรมาน และบาดแผลส่งผลต่อพฤติกรรมของเธอ ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆ เลยกับการไม่เชื่อฟังหรือการไม่รักแจ็ค1

ดิฉันได้ยินเรื่องนี้เมื่อหลายปีก่อนและจำได้ไม่เคยลืม มีผู้บาดเจ็บกี่คนในหมู่พวกเรา? บ่อยเพียงใดที่เราตัดสินคนอื่นจากลักษณะและการกระทำภายนอก หรือจากการ ไม่ได้ ทำอะไร ซึ่งหากเราเข้าใจอย่างถ่องแท้ เราจะตอบสนองด้วยความเห็นอกเห็นใจและความปรารถนาที่จะช่วยแทนการเพิ่มภาระให้พวกเขาด้วยการตัดสินของเรา

ดิฉันเคยทำความผิดเช่นนี้หลายครั้งในชีวิต แต่พระเจ้าทรงสอนดิฉันอย่างอดทนผ่านประสบการณ์ส่วนตัวและขณะฟังประสบการณ์ของคนอื่นๆ หลายคน ดิฉันซาบซึ้งอย่างเต็มเปี่ยมมากขึ้นในแบบอย่างของพระผู้ช่วยให้รอดที่รักของเราเมื่อทรงให้เวลามากมาย ของพระองค์ กับการปฏิบัติศาสนกิจต่อผู้อื่นด้วยความรัก

ประสบการณ์ชีวิตของลูกสาวคนสุดท้องของดิฉันมีปัญหาด้านสุขภาพทางอารมณ์มาตั้งแต่เด็ก ตลอดชีวิตที่ผ่านมามีหลายครั้งที่เธอรู้สึกว่าไปต่อไม่ไหวแล้ว เราจะสำนึกคุณตลอดกาลต่อเหล่าเทพบนโลกที่คอยช่วยเหลือในช่วงเวลาเหล่านั้น: ที่คอยนั่งกับเธอ ฟังเธอ ร้องไห้กับเธอ รวมทั้งการแบ่งปัน ให้กันและกัน ในเรื่องของประทานพิเศษ ความเข้าใจทางวิญญาณ และสัมพันธภาพแห่งความรักจากทั้งสองฝ่าย ในสภาวการณ์ ที่เปี่ยมด้วยรัก เช่นนั้น ภาระต่างๆ มักถูกยกออกไปจาก ทั้งสองฝ่าย

เอ็ลเดอร์โจเซฟ บี. เวิร์ธลินยกข้อความใน 1 โครินธ์ โดยกล่าวว่า “แม้ข้าพเจ้าจะพูดภาษาแปลกๆ ที่เป็นภาษามนุษย์หรือทูตสวรรค์ได้ แต่ไม่มี [จิตกุศล] ข้าพเจ้าเป็นเหมือนฆ้องหรือฉาบที่กำลังส่งเสียง”2

ท่านกล่าวต่อไปว่า:

“ข่าวสารของเปาโลถึงวิสุทธิชนกลุ่มใหม่เรียบง่ายและตรงไปตรงมา: สิ่งที่ท่านทำจะไม่เกิดผลอะไรมากนัก หากท่านไม่มีจิตกุศล ท่านสามารถพูดภาษาแปลกๆ มีของประทานแห่งการพยากรณ์ เข้าใจความล้ำลึกทั้งปวง และมีความรู้ทั้งสิ้น ถึงแม้ท่านมีศรัทธาพอที่จะยกภูเขาได้ แต่ถ้าไม่มีจิตกุศล ย่อมไม่เกิดประโยชน์อันใดต่อท่าน

“‘จิตกุศลคือความรักอันบริสุทธิ์ของพระคริสต์’ [โมโรไน 7:47] พระผู้ช่วยให้รอดทรงเป็นแบบอย่างถึงความรักนั้น”3

ในหนังสือยอห์นเราอ่านว่า “ดังนี้แหละ ทุกคนก็จะรู้ว่าท่านเป็นสาวกของเรา ถ้าท่านรักกันและกัน4

ผู้นำศาสนจักรของเราพูดหลายครั้งเกี่ยวกับจิตกุศล ความเป็นหนึ่งเดียว ความรัก ความมีน้ำใจ ความเห็นอกเห็นใจ การให้อภัย และความเมตตา ดิฉันเชื่อว่าพระผู้ช่วยให้รอดทรงกำลังเชื้อเชิญให้เราดำเนินชีวิตในวิธีที่สูงส่งขึ้นและศักดิ์สิทธิ์ขึ้น4—วิธีแสดงความรัก แบบพระองค์ ซึ่ง ทุกคน รู้สึกได้จริงๆ ว่าตนเป็นส่วนหนึ่งและเป็นที่ต้องการ

เราได้รับพระบัญชาให้ รัก ผู้อื่น6 ไม่ใช่ตัดสินพวกเขา7 จงวางภาระหนักนั้นลงเสีย นั่นไม่ใช่สิ่งที่เราต้องแบก8 แต่เราสามารถแบกแอกแห่งความรักและความเห็นอกเห็นใจของพระผู้ช่วยให้รอดแทนได้

“บรรดาผู้เหน็ดเหนื่อยและแบกภาระหนัก จงมาหาเรา และเราจะให้ท่านทั้งหลายได้หยุดพัก

“จงเอาแอกของเราแบกไว้ แล้วเรียนจากเรา …

“ด้วยว่าแอก ของเรา ก็พอเหมาะ และภาระ ของเรา ก็เบา”9

พระผู้ช่วยให้รอดไม่ได้ทรงยอมรับบาป แต่ทรงมอบความรักและประทานอภัยเมื่อเรากลับใจ กับหญิงที่ถูกจับเพราะล่วงประเวณี พระองค์ตรัสว่า “เรา ก็ไม่เอาโทษเหมือนกัน จงไปเถิดและจากนี้ไปอย่าทำบาปอีก”10 ผู้ที่พระองค์สัมผัสรู้สึกถึง ความรัก ของพระองค์ และความรักนั้นเยียวยาและเปลี่ยนแปลงพวกเขา ความรัก ของพระองค์ ดลใจให้พวกเขา ต้องการ เปลี่ยนแปลงชีวิต การดำเนินชีวิตในทาง ของพระองค์ นำมาซึ่งปีติและสันติสุข พระองค์ทรงเชื้อเชิญให้ผู้อื่นมาสู่วิถีชีวิตเช่นนั้นด้วยความอ่อนโยน ความเมตตา และความรัก

เอ็ลเดอร์แกรีย์ อี. สตีเวนสันกล่าวว่า: “เมื่อเราปะทะลมและพายุฝนของชีวิต ความป่วยไข้และการบาดเจ็บ พระเจ้า—พระเมษบาลของเรา พระองค์ผู้ทรงดูแลเรา—จะทรงบำรุงเลี้ยงเราด้วยความรักและพระเมตตากรุณา พระองค์จะทรงเยียวยาจิตใจและฟื้นฟูจิตวิญญาณเรา”11 ในฐานะผู้ติดตามพระเยซูคริสต์ เราไม่ควรทำเหมือนพระองค์หรือ?

พระผู้ช่วยให้รอดทรงขอให้เราเรียนรู้จากพระองค์12 และทำสิ่งต่างๆ ที่เราเห็นพระองค์ทรงทำ13 พระองค์ทรงเป็นรูปธรรมของจิตกุศล ของความรักอันบริสุทธิ์ ขณะเรียนรู้มากขึ้นที่จะทำสิ่งที่ทรงขอให้เราทำ—ไม่ใช่ทำเพราะหน้าที่หรือเพื่อพรที่อาจได้รับ แต่ทำจากความรักที่มีต่อพระองค์และพระบิดาบนสวรรค์ด้วยความบริสุทธิ์ใจ14—ความรักของพระองค์จะหลั่งไหลผ่านเราและทำให้ทุกสิ่งที่ทรงขอไม่เพียงเป็นไปได้เท่านั้น แต่ในที่สุดแล้วจะง่ายขึ้นและเบาขึ้นอย่างมาก15 และเปี่ยมปีติเกินกว่าที่เราจะจินตนาการได้ เรื่องนี้ต้องใช้การฝึกฝน ซึ่งอาจใช้เวลาหลายปีเช่นเดียวกับดิฉัน แต่ถึงแม้เราปรารถนาที่จะให้ความรักเป็นแรงจูงใจ พระองค์ก็ทรงยอมรับความปรารถนา16หรือเมล็ดนั้นได้ และในที่สุดจะทรงเปลี่ยนเมล็ดนั้นให้เป็นต้นไม้ที่สวยงาม เต็มไปด้วยผลอันแสนหวาน17

เราร้องเพลงสวดแสนรักของเราบทหนึ่งว่า: “ข้าเป็นใครใยไปตัดสินพี่น้อง เมื่อยังบกพร่องนานา? ในใจเงียบงันนั้นซ่อนโศกา ซึ่งดวงตาค้นหาไม่พบ”18 มีใครในหมู่ พวกเรา ซ่อนโศกาไว้บ้าง? เด็กหรือวัยรุ่นที่ดูเหมือนชอบกบฏ เด็กครอบครัวหย่าร้าง แม่หรือพ่อตัวคนเดียว คนที่มีปัญหาสุขภาพกายหรือสุขภาพจิต คนที่สงสัยศรัทธาตนเอง คนที่เผชิญกับอคติเรื่องเชื้อชาติหรือวัฒนธรรม คนที่อ้างว้าง คนที่อยากแต่งงาน คนที่มีพฤติกรรมเสพติดอันไม่พึงประสงค์ และอีกหลายๆ คนที่กำลังรับมือกับความท้าทายหลากหลายในประสบการณ์ชีวิต—ซึ่งบ่อยครั้งมักจะเป็นคนที่ดูผิวเผินมีชีวิตที่เพียบพร้อม

ไม่มีใครมีชีวิตหรือครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ ไม่ใช่ดิฉันแน่นอน เมื่อเราพยายามเห็นใจคนอื่นที่ประสบเรื่องท้าทายและความบกพร่อง เช่นเดียวกับเรา นั่นจะช่วยให้พวกเขาไม่รู้สึกโดดเดี่ยวในการต่อสู้ดิ้นรน ของตนเอง ทุกคน จำเป็นต้องรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งอย่างแท้จริง จริงๆ และ เป็นที่ ต้องการในพระวรกายของพระคริสต์19 ซาตานปรารถนาอย่างยิ่งที่จะแบ่งแยกบุตรธิดาของพระผู้เป็นเจ้า และเขาประสบความสำเร็จมามาก แต่มีพลังยิ่งใหญ่ในความเป็นหนึ่งเดียว20 และจำเป็นเพียงใดที่เราจะต้องคล้องแขนกันเดินในเส้นทางท้าทายแห่งชีวิตมรรตัยนี้!

ศาสดาพยากรณ์ของเรา ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันกล่าวว่า: “การข่มเหง หรือ อคติ ต่อกันเพราะสัญชาติ เชื้อชาติ รสนิยมทางเพศ เพศสภาพ ระดับการศึกษา วัฒนธรรม หรือคำระบุตัวตนอื่นๆ ล้วนทำให้พระผู้รังสรรค์ของเราขุ่นเคือง! การทำร้ายเช่นนั้นเป็นเหตุให้เราดำเนินชีวิตต่ำว่าสถานะบุตรธิดาแห่งพันธสัญญาของพระองค์!”21

ขณะที่ประธานเนลสันเชื้อเชิญทุกคนให้เข้ามาอยู่บนเส้นทางพันธสัญญาซึ่งนำเรากลับไปยังพระบิดาในสวรรค์ พระองค์ทรงให้คำแนะนำต่อไปนี้ไว้ด้วย: “ถ้าเพื่อนและครอบครัว … ก้าวออกไปจากศาสนจักร จงรักพวกเขาต่อไป ไม่ใช่หน้าที่ท่านที่จะไปตัดสินการเลือกของผู้อื่น พอๆ กับที่ท่านไม่ควรถูกวิพากษ์วิจารณ์จากการยังคงซื่อสัตย์”22

เพื่อนทุกท่าน ขอให้เราจดจำว่าแต่ละคนบนโลกนี้คือลูกพระผู้เป็นเจ้า23 และพระองค์ทรงรักทุกคน24 มีคนในเส้นทาง ของท่าน ที่ท่านรู้สึกอยากตัดสินหรือไม่? ถ้ามี พึงระลึกว่านั่นคือโอกาสอันมีค่ายิ่งสำหรับเราในการ ฝึกฝน ที่จะรักอย่างที่พระผู้ช่วยให้รอดทรงรัก25 ขณะเราทำตามแบบอย่าง ของพระองค์ เราสามารถแบกแอกกับ พระองค์ และช่วยส่งเสริมความรู้สึกรักและเป็นส่วนหนึ่งให้อยู่ในใจของบุตรธิดาทุกคนของพระผู้เป็นเจ้า

“เรารักพระองค์ ก็เพราะพระ‍องค์ทรงรักเราก่อน”26 เมื่อเราเต็มเปี่ยมด้วยความรักของพระผู้ช่วยให้รอด แอกของพระองค์ก็ สามารถ พอเหมาะได้อย่างแท้จริง และภาระของพระองค์ก็ สามารถ รู้สึกเบาได้27 ดิฉันเป็นพยานถึงสิ่งนี้ในพระนามของพระเยซูคริสต์ เอเมน