เป้าหมาย การเติบโต และความก้าวหน้า—ข่าวสารล่าสุดจากศาสดาพยากรณ์และอัครสาวก

“ข้าพเจ้ามั่นใจว่าพวกท่านหลายคนกำลังจัดสรรเวลาในวันนี้เพื่อจดปณิธานสำหรับปีหน้า ข้าพเจ้าขอให้คำแนะนำเล็กน้อย

“หนึ่ง จงตั้งใจแน่วแน่ที่จะเสริมสร้างรากฐานทางวิญญาณของท่านให้มั่นคง ซึ่งอาจรวมถึงการกำหนดเวลาบางช่วงและสถานที่เพื่อศึกษาพระคัมภีร์ สวดอ้อนวอนบ่อยขึ้น ให้ความสำคัญกับการนมัสการในพระวิหารมากขึ้น และให้พระผู้เป็นเจ้าทรงมีชัยในทุกด้านของชีวิตท่าน

“สอง จงมุ่งมั่นในการมีเมตตาต่อผู้อื่น เมื่อพระผู้ช่วยให้รอด พระเยซูคริสต์เสด็จเยือนทวีปอเมริกา ดังที่บันทึกไว้ในพระคัมภีร์มอรมอน หนึ่งในสิ่งแรกที่พระองค์ทรงสอนคือความจำเป็นที่จะขจัดความขัดแย้งในชีวิตเรา ดังนั้นโปรดแสดงความเห็นอกเห็นใจ เข้าใจ ช้าในการตัดสิน และเร็วในการให้อภัย

“สาม จงตั้งใจแน่วแน่ว่าจะซื่อสัตย์ พระเจ้าทรงรักความพยายาม พระเจ้าทรงรักความสม่ำเสมอ พระเจ้าทรงรักความแน่วแน่ แม้เราจะต้องล้มเหลวอย่างแน่นอนในบางครั้ง แต่ความพยายามอย่างไม่ลดละของเราที่จะได้ยินพระองค์และทำตามการดลใจที่พระองค์ประทานแก่เราจะช่วยให้เรา ‘มั่นคงขึ้นในพระวิญญาณ’ (โมไซยาห์ 18:26)

“ขอพระผู้เป็นเจ้าทรงอวยพรท่าน เพื่อนที่รักของข้าพเจ้า และขอให้ปีนี้เป็นปีแห่งจุดประสงค์และความเป็นไปได้ที่ยอดเยี่ยมสำหรับพวกเราทุกคน”

“ถึงเพื่อนรุ่นเยาว์ทั้งหลาย ข้าพเจ้าหวังว่าท่านจะเข้าใจคุณค่าของการทำงานและการได้รับการศึกษาที่สูงขึ้น และข้าพเจ้าหวังว่าท่านจะเรียนรู้จากความเสียใจของข้าพเจ้า

“สมัยที่ข้าพเจ้าเรียนวิชาบริหารธุรกิจจากอาจารย์ที่มหาวิทยาลัย ข้าพเจ้ารู้ว่าตัวเองหาเงินได้มากกว่าที่อาจารย์หาได้ ข้าพเจ้าคิดว่าตนเองเป็นนักขายที่เก่งกาจ จำได้ว่าข้าพเจ้าคิดว่า: ‘ถ้าลาออกจากโรงเรียนและทำงานขายเต็มเวลา ก็คงจะมีความมั่นคงทางการเงินจริงๆ’

“ดูเหมือนเป็นความคิดที่สมเหตุสมผลในเวลานั้น ข้าพเจ้าจึงเรียนไม่จบในปีสุดท้าย ข้าพเจ้าเสียใจกับการตัดสินใจนั้นมาตลอดชีวิต

“ใครจะรู้ว่ามีโอกาสอื่นอีกมากที่อาจจะเกิดขึ้นหากข้าพเจ้าเรียนปีสุดท้ายนั้นให้จบ ท่านต้องเผชิญกับการตัดสินใจที่สำคัญอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับความสัมพันธ์ งานอาชีพ และการเรียน และท่านอาจไม่รู้ขั้นตอนที่แน่ชัดว่าต้องทำอะไรบ้างในอนาคต ความสำเร็จด้านการศึกษาจะทำให้มั่นใจได้ว่าขั้นตอนเหล่านั้นจะนำท่านไปสู่ทิศทางที่ดี

“หากทำได้ ขอให้ท่านมีปริญญาเป็นองค์ประกอบสำคัญของแผนชีวิต พระผู้เป็นเจ้าทรงอวยพรเราสำหรับการเริ่มต้นและทำสิ่งที่ท้าทายเราให้สำเร็จ”

“เมื่อเริ่มปีใหม่ เราควรพยายามหาประโยชน์จากสิ่งที่ผ่านมา ข้าพเจ้าวิงวอนท่านให้ระลึกว่าอดีตมีไว้เพื่อเรียนรู้ไม่ใช่ให้อยู่กับมัน เราเหลียวกลับไปมองเพื่อรับเอาถ่านที่ยังคุอยู่จากประสบการณ์อันโชติช่วงแต่ไม่ใช่เถ้าถ่าน

“เมื่อใดที่เรารู้แล้วว่าเราต้องเรียนรู้อะไรและรับเอาส่วนดีที่สุดที่เราเคยประสบมา เมื่อนั้นเราควรจะมองไปข้างหน้าและจำไว้ว่า ศรัทธาชี้บอกอนาคตเสมอ ศรัทธาเกี่ยวกับพรและความจริงและเหตุการณ์ที่จะยังไม่ส่งผลในชีวิตเราเสมอ

“พวกท่านบางคนอาจสงสัย—โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเราดำเนินชีวิตผ่านความโกลาหลทุกวันในโลกรอบตัวเราในทุกวันนี้—ว่า ‘มีอนาคตสำหรับฉันไหม?’ ปีใหม่จะเป็นอย่างไรบ้างสำหรับฉัน? ฉันจะปลอดภัยไหม? ชีวิตจะสดใสหรือไม่? ฉันจะวางใจในพระเจ้าและในอนาคตได้ไหม?

“โปรดจำไว้ว่า: ศรัทธาวางใจว่าพระผู้เป็นเจ้าทรงมีสิ่งที่ยิ่งใหญ่รอเราแต่ละคน และพระคริสต์ทรงเป็น ‘มหาปุโรหิตแห่งบรรดาสิ่งประเสริฐซึ่งมาถึงแล้ว’ อย่างแท้จริง [ฮีบรู 9:11]

“จงมุ่งมั่นกับความฝันไม่ว่าจะอยู่ห่างไกลแค่ไหน จงดำเนินชีวิตจนเห็นปาฏิหาริย์แห่งการกลับใจและการให้อภัยด้วยความวางใจและความรักอันสูงส่งซึ่งจะเปลี่ยนชีวิตท่านวันนี้ วันพรุ่ง และตลอดไป นั่นคือปณิธานปีใหม่ที่ข้าพเจ้าขอให้ท่านรักษาไว้”

ภาพ

พระคริสต์ทรงสอนสานุศิษย์ของพระองค์

“ข้าพเจ้าเรียนรู้ตั้งแต่วัยเยาว์ว่าไม่จำเป็นต้องรอให้ถึงปีใหม่แล้วค่อยเริ่มต้นใหม่กับชีวิตส่วนตัว ทุกๆ วันใหม่ที่รุ่งอรุณมาถึง—ไม่เฉพาะสำหรับแผ่นดินโลกแต่สำหรับท่านและข้าพเจ้าด้วย และทุกๆ วันใหม่มาพร้อมกับการเริ่มต้นใหม่—โอกาสที่จะเริ่มต้นใหม่อีกครั้งและหลีกเลี่ยงอันตรายจากการผัดวันประกันพรุ่ง

“มีหลายครั้งในชีวิตที่ข้าพเจ้านอนไม่หลับทั้งคืนเพราะต่อสู้กับปัญหา ความกังวล หรือความเศร้าโศกในเรื่องส่วนตัว แต่ไม่ว่ากลางคืนจะมืดเพียงใด ข้าพเจ้ามักนึกถึงความคิดที่ว่า ‘พระอาทิตย์จะมาเวลาเช้า’ (ดู สดุดี 30:5)

“พระคัมภีร์สัญญาว่า ‘ความ​รัก‍มั่น‍คง​ของ​พระ‍ยาห์‌เวห์​ไม่​เคย​หยุด‍ยั้ง และ​พระ‍กรุณา​ของ​พระ‍องค์​ไม่‍มี​สิ้น‍สุด เป็นของใหม่ทุกเวลาเช้า’ (เพลงคร่ำครวญ 3:22–23, เวอร์ชันมาตรฐานภาษาอังกฤษ) และพระเจ้าทรงเชื้อเชิญให้เรา ‘จงส่องสว่าง … เพื่อ‍ว่า​เมื่อ​เขา‍ทั้ง‍หลาย​ได้​เห็น​ความ​ดี​ที่​ท่าน​ทำ พวก‍เขา​จะ​ได้​สรร‌เสริญ​พระ‍บิดา​ของ​ท่าน​ผู้​สถิต​ใน​สวรรค์’ (มัทธิว 5:16, เวอร์ชันมาตรฐานภาษาอังกฤษ)

“ในวัน สัปดาห์ และเดือนเหล่านี้ยืดยาวออกไป แต่ความรักของพระผู้เป็นเจ้าและผลของพระวิญญาณจะช่วยให้เราเข้าถึงคนรอบข้าง (ครอบครัว มิตรสหาย ทุกคน) และช่วยให้พวกเขารับมือกับสภาวการณ์ที่ท้าทายของพวกเขาได้ดีขึ้น ‘ส่วนผลของพระวิญญาณนั้นคือ ความรัก ความยินดี สันติสุข ความอดทน ความกรุณา ความดี ความซื่อสัตย์ ความสุภาพอ่อนโยน การรู้จักบังคับตน เรื่อง​อย่าง‍นี้​ไม่‍มี​ธรรม‍บัญญัติ​ห้าม​ไว้​เลย’ (กาลาเทีย 5:22–23, เวอร์ชันสากลใหม่)”

“แม้จะมีความเสียใจในอดีต เราแต่ละคนสามารถเริ่มต้นใหม่ได้ … เราเริ่มต้นใหม่ได้เพราะพระบิดาบนสวรรค์ของเราทรงเป็นพระผู้เป็นเจ้าแห่งการเริ่มต้นใหม่

“ทุกวัน ทุกชั่วโมง สามารถเป็นการเริ่มต้นใหม่ได้—เป็นโอกาสในการเชื่อมตนเองใหม่อีกครั้งในพระวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ พระเมตตาของพระผู้เป็นเจ้าเพียงพอที่จะเยียวยาบาดแผลของเรา เป็นแรงบันดาลใจให้เรามุ่งไปข้างหน้า ชำระเราให้สะอาดจากบาป ทำให้เราเข้มแข็งขึ้นต่อการทดลองที่จะเกิดขึ้น และอวยพรเราด้วยความหวังและสันติสุขของพระองค์ นี่เป็นข่าวสารที่บุตรธิดาทุกคนของพระผู้เป็นเจ้าต้องได้ยิน”

“เฟร็ด แอสแตร์เป็นนักแสดง นักเต้น และนักร้องเพลงชื่อดังของวงการภาพยนตร์อเมริกัน เขาแสดงนำในละครบรอดเวย์และรายการฮอลลีวูดหลายสิบรายการ หนึ่งในการออดิชันช่วงแรก เขาได้รับการประเมินด้วยคำพูดเหล่านี้: ‘แสดงไม่ได้หรอก หัวล้านเล็กน้อย เต้นได้นิดหน่อย’

“แทบจะไม่มีแววเอาซะเลย!

“ด้วยความพากเพียรและการทำงานหนัก เขาพัฒนาความสามารถจนกระทั่งกลายเป็นหนึ่งในนักแสดงผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล—เป็นที่รู้จักในเรื่อง ‘สง่างาม นุ่มนวล แปลกใหม่ และแม่นยำ’

“เขาไม่ใช่คนเดียวที่ต่อสู้กับความสงสัยในตนเองหรืออดทนต่อเสียงวิพากษ์วิจารณ์

“วอลท์ ดิสนีย์ถูกไล่ออกจากสำนักงานหนังสือพิมพ์เพราะเขา ‘ขาดจินตนาการและไม่มีความคิดสร้างสรรค์’

“วินเซนต์ แวนโก๊ะขายภาพวาดเพียงไม่กี่ภาพในช่วงชีวิตของเขา—หลายภาพขายให้กับครอบครัวและเพื่อนสนิท

“เออร์เนสต์ เฮมิงเวย์เคยได้รับคำปฏิเสธจากบรรณาธิการที่พบว่างานเขียนของเขา ‘ทั้งน่าเบื่อและน่ารังเกียจ’ โดยอ้างว่า ‘ลูกชายคนเล็กของฉันยังทำได้ดีกว่านี้!’

“บางทีเราทุกคนอาจมองตัวเองด้อยกว่าที่เราเป็นอยู่ ไม่มีค่าควร ไม่มีพรสวรรค์ ไม่มีอะไรพิเศษ ขาดแคลนทางใจ ความคิด ทรัพยากร ความสามารถพิเศษ หรือรูปร่างที่จะเป็นประโยชน์อย่างมากมายต่อพระผู้เป็นเจ้า

“ท่านบอกว่าตัวเองไม่สมบูรณ์แบบใช่ไหม? ท่านยังดีไม่พอใช่ไหม? ยินดีต้อนรับสู่ชมรม!

“ท่านอาจเป็นคนที่พระผู้เป็นเจ้าทรงกำลังมองหา

“พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้ทรงต้องการให้ท่านเป็นคนพิเศษเลิศเลอ ไม่แม้แต่จะต้องสมบูรณ์แบบ

“พระองค์จะทรงใช้พรสวรรค์กับความสามารถของท่านและขยายสองสิ่งนี้ให้พัฒนายิ่งขึ้น—แม้ว่าอาจหาได้ยากพอๆ กับขนมปังไม่กี่ก้อนและปลาสองสามตัว หากท่านวางใจพระองค์และซื่อสัตย์ พระองค์จะทรงขยายคำพูดและการกระทำของท่าน และใช้สิ่งเหล่านั้นเพื่อเป็นพรและปฏิบัติศาสนกิจต่อมวลชน!

“บางครั้งเราใคร่ครวญความรับผิดชอบทั้งหมดของเราที่บ้าน ที่โรงเรียน ที่ทำงาน และที่โบสถ์และสงสัยว่าเราจะมีสมดุลได้อย่างไรในเมื่อมีหลายอย่างแข่งกันเรียกร้องเวลาของเรา แทนที่จะพยายามทำทุกอย่างในคราวเดียวกันจนประสาทเสีย เราควรระบุสิ่งพื้นฐานสำคัญบางอย่างที่เป็นลำดับความสำคัญสูงสุดของเรา จากนั้นค่อยพยายามให้ความเอาใจใส่—ทีละอย่าง”

“เมื่อท่านอยู่ที่บ้าน ต้องเลือกทำให้บ้านสำคัญอันดับแรก เมื่อท่านอยู่ที่โรงเรียน ต้องเลือกทำให้โรงเรียนสำคัญอันดับแรก เมื่อท่านอยู่ที่ทำงาน ต้องเลือกทำให้งานสำคัญอันดับแรก เมื่อท่านนมัสการที่บ้านหรือที่โบสถ์ ต้องเลือกให้การนมัสการสำคัญอันดับแรก

“อาจฟังดูเรียบง่าย แต่เราไม่ควรหงุดหงิดและเสียแรงเสียเวลาไปกับการพยายามทำสิ่งสำคัญทุกอย่างที่เราต้องทำให้สมดุลครบถ้วน ขณะที่เราสวดอ้อนวอนอย่างจริงใจขอให้พระผู้เป็นเจ้าทรงช่วยให้เราทราบว่าอะไรสำคัญที่สุด พระองค์จะทรงนำทางและช่วยเราจดจ่ออยู่กับความพยายามของเราวันต่อวัน”

“ข้าพเจ้าสังเกตเหตุซ้ำๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตของตนเองและของผู้อื่น—ความล้มเหลวและความสำเร็จ ความโศกเศร้าและความสุข การทำลายและการสร้างใหม่ เรื่องสลดใจและชัยชนะ ความขัดแย้งและความสามัคคี ความคับข้องใจและสัมฤทธิผล และอื่นๆ อีกนับไม่ถ้วน

“แต่ถ้าวันนี้ ด้วยความช่วยเหลือจากพระผู้เป็นเจ้า เราเรียนรู้จากความล้มเหลว เราจะประสบความสำเร็จได้มากขึ้นขณะที่เรามุ่งไปข้างหน้า

“ถ้าวันนี้ ด้วยความช่วยเหลือจากพระผู้เป็นเจ้า เราเอาชนะความโศกเศร้า เราจะประสบความสุขที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นเมื่อเรารับใช้และให้เกียรติพระองค์ต่อไป

“และถ้าวันนี้ ด้วยความช่วยเหลือจากพระผู้เป็นเจ้า เรารับมือกับความคับข้องใจในช่วงเวลานั้นอย่างเหมาะสม เราจะได้รับพรเพื่อรับสัมฤทธิผลที่ยั่งยืน

“กุญแจสำคัญคือการระลึกถึงความยิ่งใหญ่และพระคุณความดีของพระผู้เป็นเจ้าเสมอ—และยอมรับการพึ่งพาพระองค์เพื่อการนำทางและความเข้มแข็งในชีวิตของเราแต่ละคน

“คำเชื้อเชิญของข้าพเจ้าถึงทุกท่าน—ทั้งเด็กและผู้ใหญ่—คือรักพระผู้เป็นเจ้าและเพื่อนบ้าน ดูแลคนขัดสน และรักษามุมมองนิรันดร์เกี่ยวกับแผนแห่งความสุขของพระผู้เป็นเจ้าเสมอ—มุมมองที่ไกลกว่าการทดลองชั่วคราวและความวุ่นวายของชีวิตมรรตัย”

“แรงผลักดันสู่ความสำเร็จสามารถนำไปสู่ความสำเร็จที่สำคัญ แน่นอน แรงผลักดันนี้สามารถเป็นพลังและให้ผลตอบแทนที่ยอดเยี่ยมและมีส่วนในความสุขของคนที่ท่านรักและแม้กระทั่งสังคมโดยรวม อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงจุดต่ำสุด ภาระหนักอึ้งกับความคาดหวังของท่านเองหรือความคาดหวังของผู้อื่น สามารถนำไปสู่ความวิตกกังวล การยึดติดความสมบูรณ์แบบ หรือความหดหู่ใจ และอาจครอบงำชีวิตแต่งงาน ครอบครัว การรับใช้ผู้อื่น หรือแม้แต่การเป็นสานุศิษย์ชาวคริสต์ ท่านจะแน่ใจได้อย่างไรว่าจะได้รับผลในเชิงบวกและหลีกเลี่ยงด้านลบในชีวิต?

“จากประสบการณ์ของข้าพเจ้าเอง ข้าพเจ้าพูดได้อย่างชัดเจนว่า: รักษาพระบัญญัติข้อสำคัญสองข้อและจัดลำดับความสำคัญที่ได้รับ—‘จงรักองค์‍พระ‍ผู้‍เป็น‍เจ้าของท่านด้วยสุดใจของท่าน ด้วยสุดจิตของท่าน และด้วยสุดความคิดของท่าน นั่นแหละเป็นพระ‍บัญญัติข้อสำคัญอันดับแรก ข้อที่สองก็เหมือนกันคือจงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง’ การรักและติดตามพระเยซูคริสต์จะให้จุดประสงค์ ความสงบใจ และความหมายแก่ชีวิตท่าน และจะมุ่งเน้นชีวิตท่านในการรับใช้”

ภาพ

หน้าตุ๊กตาดารุมะที่ระบายสีไว้บางส่วน

“ตุ๊กตาดารุมะเป็นสัญลักษณ์ของความโชคดีและความอุตสาหะของญี่ปุ่น ใช้เพื่อกำหนดเป้าหมายและเฉลิมฉลองการบรรลุเป้าหมายและความสำเร็จ เมื่อมีคนให้คำมั่นต่อเป้าหมาย พวกเขาจะระบายสีในดวงตาหนึ่งข้างและขอความช่วยเหลือจากสวรรค์เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย หลังจากบรรลุเป้าหมายแล้ว พวกเขาจะระบายสีในดวงตาอีกข้างเพื่อแสดงถึงความสำนึกคุณ

“แม้เป้าหมายปีใหม่ของเราอาจรวมถึงวิธีปรับปรุงทางร่างกายหรือทางโลก แต่ข้าพเจ้าขอให้ท่านหารือกับพระบิดาในสวรรค์และตั้งเป้าหมายส่วนตัวทางวิญญาณที่มีความหมายด้วย เป้าหมายที่จะเสริมสร้างรากฐานและศรัทธาของท่านในพระเยซูคริสต์ โปรดอย่าลืมขอบพระทัยพระองค์เพราะพระองค์ทรงเป็นพระผู้ประทานของขวัญที่ดีทั้งปวง”

“ท่านอาจรู้สึกหนักใจกับทุกสิ่งที่ต้องการปรับปรุงเมื่อปีใหม่เริ่มต้นขึ้น โปรดอดทนและเข้าใจตัวเอง

“บ่อยเหลือเกินที่เราเข้มงวดกับตัวเองมากเกินไป พระเจ้าทรงเชื้อเชิญให้เรามาดังที่เราเป็น ทำทุกสิ่งด้วย​ ‘ปัญญา​และ​ระเบียบ’ [โมไซยาห์ 4:27] พระองค์ไม่ทรงคาดหวังให้เราวิ่งเร็วเกินกำลัง แม้เมื่อเราขยันหมั่นเพียรและองอาจ”

“ในบางครั้งพระผู้ช่วยให้รอดพระองค์เองตรัสว่า ‘ฉะนั้น เจ้าควรเป็นคนอย่างไรเล่า? ตามจริงแล้วเรากล่าวแก่เจ้า, แม้ดังที่เราเป็น’ [3 นีไฟ 27:27] ความสมบูรณ์แบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอนจนกว่าเราจะไปถึงอีกด้านหนึ่งของม่าน โดยผ่านศาสดาพยากรณ์ พระเจ้าทรงเชื้อเชิญให้เราแสวงหาวิธีปรับปรุงตนเอง ไม่ใช่ทั้งหมดในคราวเดียว แต่เป็นบรรทัดมาเติมบรรทัด

“ความช่วยเหลือที่เราจะได้รับจากพระเจ้าในเป้าหมายและการแสวงหาความชอบธรรมของเรามีอย่างไม่จำกัด และพระองค์ทรงสนับสนุนเราในความพยายามต่างๆ ที่ดีและชอบธรรม การเรียกตลอดชีวิตของข้าพเจ้าในฐานะพยานพิเศษคนหนึ่งของพระองค์ได้เพิ่มพลังให้กับความตั้งใจที่จะดำเนินการปรับปรุงในด้านต่างๆ ของชีวิตอย่างต่อเนื่องเพื่อจะเป็นเหมือนพระคริสต์มากขึ้น ความพยายามทุกอย่างที่จะเป็นเหมือนพระองค์มากขึ้นจะเพิ่มความสามารถทางวิญญาณของเราในการรับใช้พระองค์ เราสามารถขอบพระทัยพระเจ้าได้เสมอสำหรับความช่วยเหลือที่พระองค์ประทานแก่เราในการปรับปรุงตนเอง ในกรณีของข้าพเจ้า ข้าพเจ้ายังมีหลายอย่างที่ต้องทำ แต่ข้าพเจ้ากำลังก้าวหน้า ทีละเล็กทีละน้อย ด้วยปีติและความสำนึกคุณ!

“ข้าพเจ้าเชื้อเชิญให้ท่านพิจารณาวิธีแสวงหาความเพียรพยายามในชีวิตของท่านเอง ไม่ว่าสภาวการณ์ของท่านจะเป็นอย่างไร ข้าพเจ้ารับรองกับท่านว่าพระเจ้าทรงรักเราแต่ละคนและพระองค์จะทรงอยู่ที่นั่นเสมอเพื่อช่วยเราไม่ว่าเราจะเผชิญสถานการณ์ใดอยู่ก็ตาม”