เซมินารี
การได้มาซึ่งความรู้ทางวิญญาณ ภาค 3


การได้มาซึ่งความรู้ทางวิญญาณ ภาค 3

แสวงหาความเข้าใจเพิ่มเติมผ่านแหล่งช่วยที่กำหนดไว้จากสวรรค์

ภาพ
Young man with brace on wrist, doing family history work on a laptop computer. (horiz)

จุดประสงค์อย่างหนึ่งของผู้เชี่ยวชาญหลักคำสอนคือ เพื่อช่วยให้ท่านเรียนรู้และประยุกต์ใช้หลักธรรมของการได้มาซึ่งความรู้ทางวิญญาณ บทเรียนนี้จะช่วยให้ท่านเข้าใจได้ถึงความสำคัญของการแสวงหาความจริงผ่านแหล่งช่วยที่พระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์ประทานให้ด้วยความรัก

การเตรียมของนักเรียน: เชื้อเชิญให้นักเรียนนึกว่าปรกติพวกเขาจะพึ่งพาข้อมูลจากที่ใดเมื่อมีคำถามเกี่ยวกับพระผู้เป็นเจ้าหรือศาสนจักร เชื้อเชิญให้พวกเขาไตร่ตรองความหมายของข้อความนี้โดยเอ็ลเดอร์นีล แอล. แอนเดอร์เซ็นแห่งโควรัมอัครสาวกสิบสอง “คำถามทางวิญญาณสมควรได้รับคำตอบทางวิญญาณจากพระผู้เป็นเจ้า” (“โจเซฟ สมิธ,” เลียโฮนา, พ.ย. 2014, 28, 30)

กิจกรรมการเรียนรู้ที่อาจทำได้

ท่านค้นหาคำตอบจากที่ใด?

หากไม่มีแหล่งช่วยเพื่อค้นหาข้อมูลต่อไปนี้ในชั้นเรียน ถามนักเรียนว่าพวกเขาน่าจะค้นหาข้อมูลจากที่ใดมากที่สุด อีกทางเลือกหนึ่งคือให้นักเรียนค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องหรือน่าสนใจแทน

  • สภาพอากาศสำหรับสุดสัปดาห์ที่จะถึง

  • ชื่อเมืองหลวงของกรีนแลนด์

  • สูตรอาหารทำพาสต้าหรือเมนูข้าว

ท่านอาจนึกถึงคำถามต่อไปนี้

  • ท่าน (หรือปรกติท่าน) ใช้แหล่งช่วยใดในการค้นหาข้อมูล?

  • เหตุใดท่านจึงเชื่อถือแหล่งข้อมูลเหล่านี้สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับคำถามประเภทนี้?

เราจะหาคำตอบจากพระผู้เป็นเจ้าจากที่ใด?

  • ท่านจะแนะนำให้ผู้คนค้นหาคำตอบสำหรับคำถามสำคัญเกี่ยวกับพระผู้เป็นเจ้า ศาสนจักร หรือแผนแห่งความรอดจากที่ใด?

ท่านอาจเขียนคำตอบของนักเรียนบนกระดานภายใต้หัวข้อ “แหล่งช่วยที่กำหนดไว้จากสวรรค์” ท่านอาจเพิ่มในรายการนี้ไปตลอดบทเรียนขณะนักเรียนเรียนรู้เกี่ยวกับแหล่งที่มาของความจริงเพิ่มเติมจากพระผู้เป็นเจ้า

นึกถึงคำถามที่ท่านอาจมีเกี่ยวกับพระผู้เป็นเจ้า ศาสนจักร หรือแผนแห่งความรอด อาจรวมถึงข้อมูลที่ท่านอ่านหรือได้ยินมาซึ่งท่านสงสัยหรือรู้สึกไม่สบายใจ แสวงหาพระวิญญาณบริสุทธิ์เพื่อนำทางท่านในการเรียนรู้หลักธรรมที่จะช่วยท่านได้ในบทเรียนนี้

อ่านข้อความต่อไปนี้เพื่อค้นหาว่าแหล่งที่มาของความจริงที่สอนในข้อความเหล่านี้สามารถเป็นพรแก่เราอย่างไร

นักเรียนอาจทำงานเป็นคู่โดยนักเรียนแต่ละคนอ่านข้อพระคัมภีร์สองข้อต่อไปนี้แล้วแบ่งปันสิ่งที่พบกับคู่

ขณะนักเรียนตอบคำถามต่อไปนี้ ท่านอาจเพิ่มในแหล่งช่วยที่กำหนดไว้จากสวรรค์บนกระดาน

  • ท่านพบแหล่งที่มาของความจริงอะไรบ้างในข้อพระคัมภีร์เหล่านี้? เหตุใดเราสามารถวางใจแหล่งที่มาเหล่านี้ได้อย่างเต็มที่?

  • ผู้คนอาจมองหาข้อมูลเกี่ยวกับคำถามทางวิญญาณได้จากที่ใดซึ่งท่านจะเตือนพวกเขา? เพราะอะไร?

ถ้าฉันไม่แน่ใจว่าแหล่งที่มาของข้อมูลน่าเชื่อถือมากน้อยเพียงใดเล่า?

ท่านอาจถามนักเรียนว่าจะให้คำแนะนำใดกับผู้ที่ใช้อินเทอร์เน็ตหาคำตอบสำหรับคำถามทางวิญญาณที่สำคัญ พิจารณาจากคำตอบของพวกเขาว่าข้อมูลบางส่วนหรือทั้งหมดในย่อหน้าต่อไปนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการแบ่งปันหรือไม่

หนึ่งในวิธีที่ใช้บ่อยที่สุดในการค้นหาข้อมูลทุกวันนี้คือการใช้อินเทอร์เน็ต เราเข้าถึงแหล่งข้อมูลที่ดีมากมายผ่านทางอินเทอร์เน็ต ขณะเดียวกัน อินเทอร์เน็ตเผยแหล่งข้อมูลที่ไม่น่าเชื่อถือและไม่จริงมากมายต่อเราด้วย เอ็ลเดอร์นีล แอล. แอนเดอร์เซ็นแห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองเตือนว่า

ภาพ
Official portrait of Elder Neil L. Andersen of the Quorum of the Twelve Apostles, 2010, August.

ข้อมูลในอินเทอร์เน็ตไม่มีตัวกรอง “ความจริง” ข้อมูลบางอย่างไม่ว่าจะน่าเชื่อถือเพียงไรไม่เป็นความจริง

(นีล แอล. แอนเดอร์เซ็น, “โจเซฟ สมิธ,” เลียโฮนา, พ.ย. 2014, 29)

อ่านย่อหน้าที่ 12 ของหมวด “การได้มาซึ่งความรู้ทางวิญญาณ” ใน เอกสารหลักผู้เชี่ยวชาญหลักคำสอน ท่านอาจทำเครื่องหมายตรงที่บอกว่าเหตุใดการแสวงหาคำตอบให้คำถามทางวิญญาณจากแหล่งที่ไม่รู้จักหรือไม่น่าเชื่อถือจึงอันตราย

เมื่อท่านพบข้อมูลใหม่เกี่ยวกับพระผู้เป็นเจ้า ศาสนจักร หรือแผนแห่งความรอด การถามตนเองด้วยคำถามต่อไปนี้เกี่ยวกับแหล่งที่มาของข้อมูลจะเป็นประโยชน์อย่างมาก ขณะท่านอ่านคำถามเหล่านี้ ให้มองหาคำถามที่คิดว่าจะเป็นประโยชน์มากที่สุดเมื่อตัดสินใจว่าจะเชื่อถือแหล่งที่มาหรือไม่ (ท่านอาจศึกษาข้อพระคัมภีร์อ้างอิงแต่ละข้อที่มาพร้อมกันด้วย)

จัดเตรียมคำถามต่อไปนี้เป็นเอกสารแจกให้นักเรียน กระตุ้นให้นักเรียนวางเอกสารแจกนี้ไว้ในที่ซึ่งเข้าถึงได้ง่ายเมื่อจะใช้ในอนาคต

คำถามบางข้อสำหรับการประเมินข้อมูลใหม่

  • เมื่อฉันอ่านหรือได้ยินข้อมูลนี้ฉันรู้สึกอย่างไรจากพระวิญญาณบริสุทธิ์? (ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 50:23–24)

  • ข้อมูลนี้ทำให้ฉันเข้าใกล้พระเยซูคริสต์และศาสนจักรของพระองค์หรือไม่? (ดู โมโรไน 7:15–17)

  • ข้อมูลนี้สนับสนุนให้ฉันรักษาพระบัญญัติของพระผู้เป็นเจ้าหรือไม่?

  • ข้อมูลนี้สอดคล้องกับสิ่งที่พระคัมภีร์และศาสดาพยากรณ์สมัยปัจจุบันสอนหรือไม่? (ดู 2 ทิโมธี 3:15–17 ; หลักคำสอนและพันธสัญญา 1:38)

  • ข้อมูลนี้ยืนยันสิ่งที่ฉันรู้สึกแล้วจากที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงบอกฉันว่าจริง หรือกระตุ้นให้ฉันสงสัยความจริงของพระกิตติคุณ? (ดู โมโรไน 10:5)

  • ข้อมูลมาจากแหล่งที่มาซึ่งพระผู้ช่วยให้รอดหรือผู้นำศาสนจักรของพระองค์จะถือว่าเชื่อถือได้หรือไม่?

  • บิดามารดาของฉันหรือผู้นำศาสนจักรจะพูดถึงข้อมูลนี้อย่างไร? (ถ้าฉันรู้สึกอยากจะเก็บไว้เป็นความลับจากพวกเขา สิ่งนั้นบอกฉันเกี่ยวกับแหล่งที่มาของข้อมูลอย่างไร?)

ภาพ
Evaluation questions for new information.
  • จากคำถามเหล่านี้คำถามใดที่ท่านคิดว่าจะเป็นประโยชน์มากที่สุดต่อท่าน? เพราะเหตุใด?

  • ท่านคิดว่ามีคำถามอื่นใดอีกบ้างที่คนคนหนึ่งควรถามเกี่ยวกับข้อมูลที่เขาพบ?

สำหรับกิจกรรมการฝึกปฏิบัติต่อไปนี้ นักเรียนอาจทำงานเดี่ยวหรือทำงานเป็นกลุ่มเล็ก หลังจากให้เวลาเพียงพอแล้ว เชื้อเชิญให้นักเรียนหลายคนไม่เพียงแบ่งปันสิ่งที่พบเท่านั้นแต่ให้แสดงต่อชั้นเรียนทีละขั้นตอนว่าพบข้อมูลที่เชื่อถือได้อย่างไร

เลือกข้อมูลที่ท่านเคยได้ยินหรือคำถามที่ท่านมีเกี่ยวกับพระผู้เป็นเจ้า ศาสนจักร หรือแผนแห่งความรอด จากนั้นใช้เวลาสองสามนาทีฝึกซ้อมการค้นหาคำตอบโดยใช้แหล่งช่วยที่กำหนดไว้จากสวรรค์ นอกจากนั้นท่านอาจพิจารณา

  • สวดอ้อนวอน

  • ค้นคว้าพระคัมภีร์โดยใช้คู่มือพระคัมภีร์หรือข้อผู้เชี่ยวชาญหลักคำสอน

  • ค้นหาคำปราศรัยในการประชุมใหญ่สามัญ หรือแอปคลังค้นคว้าพระกิตติคุณ

  • อ่านหมวดที่เกี่ยวข้องในสื่อสิ่งพิมพ์ของศาสนจักร เช่นเพื่อความเข้มแข็งของเยาวชน(จุลสาร, 2011)

  • ติดต่อกับคนที่ท่านรู้จักและไว้ใจ เช่น บิดาหรือมารดา อธิการ ผู้นำเยาวชนในวอร์ดหรือสาขาท่าน หรือครูเซมินารี เพื่อช่วยท่านค้นหาคำตอบ

นักเรียนอาจมีเวลาในชั้นเรียนพอที่จะเริ่มการศึกษาของพวกเขาเท่านั้น หากเป็นเช่นนั้น กระตุ้นให้พวกเขาศึกษาต่อนอกห้องเรียน

  • ท่านเรียนรู้อะไรในบทเรียนนี้ที่จะช่วยท่านเมื่อพบกับข้อมูลใหม่เกี่ยวกับพระผู้เป็นเจ้าหรือศาสนจักร?

  • ทำไมท่านคิดว่าแหล่งช่วยที่ท่านพึ่งพาหาคำตอบและข้อมูลมีความสำคัญต่อพระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์?

ท่านอาจแสดงประจักษ์พยานถึงความรักที่พระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์ทรงแสดงโดยประทานแหล่งที่มาของความจริงจากสวรรค์แก่เรา

บทวิจารณ์และข้อมูลภูมิหลัง

ฉันควรทำอย่างไรหากไม่พบคำตอบสำหรับคำถามผ่านแหล่งช่วยที่กำหนดไว้จากสวรรค์?

เอ็ลเดอร์นีล แอล. แอนเดอร์เซ็นแห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองสอนไว้ว่า

ภาพ
Official portrait of Elder Neil L. Andersen of the Quorum of the Twelve Apostles, 2010, August.

ใช่ว่าคำตอบทั้งหมดจะมาทันที แต่คำถามสำคัญที่สุดจะพบคำตอบได้โดยผ่านการศึกษาที่จริงใจและการขอคำตอบจากพระผู้เป็นเจ้า …

ศรัทธาไม่เรียกร้องคำตอบของทุกคำถาม แต่แสวงหาความมั่นใจและความกล้าเพื่อเดินไปข้างหน้า บางครั้งยอมรับว่า “เราไม่รู้ทุกอย่าง แต่เรารู้มากพอจะเดินต่อไปบนเส้นทางของการเป็นสานุศิษย์”

การหมกมุ่นอยู่กับความสงสัยตลอดเวลา เติมเชื้อเพลิงด้วยคำตอบจากคนขาดศรัทธาและคนไม่ซื่อสัตย์ จะบั่นทอนศรัทธาของคนนั้นในพระเยซูคริสต์และการฟื้นฟู

(นีล แอล. แอนเดอร์เซ็น, “ศรัทธาไม่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่โดยการเลือก,” เลียโฮนา, พ.ย. 2015, 66)

ทำไมฉันจึงควรระมัดระวังในการหาคำตอบเกี่ยวกับศาสนจักรจากคนที่ละทิ้งศาสนจักรไปแล้ว?

เอ็ลเดอร์นีล เอ. แม็กซ์เวลล์ (1926–2004) แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองกล่าวดังนี้

ภาพ
Last official portrait of Elder Neal A. Maxwell, 1992.

บางคนยืนกรานที่จะศึกษาศาสนจักรผ่านสายตาของผู้ละทิ้งศาสนจักรเท่านั้น—เหมือนการสัมภาษณ์ยูดาสเพื่อที่จะเข้าใจพระเยซู ผู้ละทิ้งศาสนจักรบอกเราเกี่ยวกับพวกเขาเองมากกว่าจะพูดถึงสิ่งซึ่งพวกเขาละทิ้งมาเสมอ

(นีล แอล. แอนเดอร์เซ็น, “ศรัทธาไม่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่โดยการเลือก,” เลียโฮนา, พ.ย. 2015, อ้างอิงข้อ 17, 68)

กิจกรรมการเรียนรู้เพิ่มเติม

บทเรียนที่ใช้อุปกรณ์

ท่านอาจติดวลี “ความจริงจากพระผู้เป็นเจ้า” ที่ด้านหนึ่งของห้องและ “คำโกหกจากซาตาน” อีกด้านหนึ่งของห้อง

เชื้อเชิญให้นักเรียนจินตนาการว่าแหล่งช่วยทุกแหล่งบนแผ่นดินโลก (รวมถึงแหล่งช่วยที่กำหนดไว้จากสวรรค์และแหล่งช่วยอื่น เช่น หนังสือ โพสต์ในสื่อสังคมออนไลน์ ความคิดเห็น งานวิจัย บทความข่าว และอื่นๆ) แทนที่ด้วยช่องว่างระหว่างวลีทั้งสองนี้ อธิบายว่าหากแหล่งข้อมูลที่ได้มาให้ความจริงจากพระผู้เป็นเจ้ามากกว่าอีกแหล่งหนึ่ง แหล่งนั้นจะอยู่ใกล้กับวลี “ความจริงจากพระผู้เป็นเจ้า” มากกว่าอีกแหล่ง ถามนักเรียนด้วยคำถามต่อไปนี้:

  • แหล่งที่มาของความจริงใดควรอยู่ใกล้วลี “ความจริงจากพระผู้เป็นเจ้า” มากที่สุด?

  • แหล่งที่มาใดที่ยากต่อการวางใกล้วลีใดวลีหนึ่งเพราะมีทั้งความจริงและข้อผิดพลาด?