การประชุมใหญ่สามัญ
รวบรวมกลับบ้านอย่างปลอดภัย
การประชุมใหญ่สามัญเดือนเมษายน 2023


รวบรวมกลับบ้านอย่างปลอดภัย

เราอยู่ในฐานะพิเศษที่จะรวบรวมอิสราเอลทั้งสองด้านของม่านอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อนภายใต้แผนของพระบิดา

ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันศาสดาพยากรณ์ที่รักของเราได้เน้นความสำคัญอย่างยิ่งว่าความรับผิดชอบพิเศษเฉพาะของเราคือการช่วยรวบรวมอิสราเอลที่กระจัดกระจายและเตรียมโลกรับการเสด็จมาครั้งที่สองของพระเยซูคริสต์1 พระบิดาของวิญญาณเราทรงปรารถนาที่จะรวมลูกๆ ของพระองค์ กลับบ้านอย่างปลอดภัย

แผนของพระบิดาบนสวรรค์เพื่อรวบรวมลูกๆ ของพระองค์กลับบ้านบนสวรรค์อย่างปลอดภัยไม่ได้ตั้งอยู่บนความสำเร็จทางโลก สถานะทางเศรษฐกิจ การศึกษา เชื้อชาติ หรือเพศ แผนของพระบิดาตั้งอยู่บนความชอบธรรม การรักษาพระบัญญัติ การรับศาสนพิธีศักดิ์สิทธิ์และให้เกียรติพันธสัญญาที่เราทำ2

หลักคำสอนที่ทรงดลใจว่าเราทุกคนเป็นพี่น้องกันและ “ทุกคนเหมือนกันหมดสำหรับพระผู้เป็นเจ้า” จะหนุนงานรวบรวมอันสำคัญยิ่งนี้ หลักคำสอนนี้เห็นพ้องกับคนที่ปรารถนาอย่างยิ่งที่จะให้ผู้มีสถานะหลากหลายทางเศรษฐกิจและเชื้อชาติมีชีวิตที่ดีขึ้น เราปรบมือให้และร่วมสมทบในความพยายามดังกล่าว นอกจากนี้เรายังปรารถนาให้ลูกทุกคนของพระผู้เป็นเจ้ามาหาพระองค์และรับพรนิรันดร์ที่ทรงมอบให้ผ่านพระกิตติคุณของพระองค์3 ในคำปรารภของพระเจ้าเกี่ยวกับหลักคำสอนและพันธสัญญา ทรงประกาศว่า “จงสดับฟังเถิด เจ้าผู้คนจากแดนไกลโพ้น; และเจ้าทั้งหลายที่อยู่บนหมู่เกาะในทะเล, จงพร้อมใจกันฟังเถิด”4

ข้าพเจ้าชอบที่ข้อแรกในหลักคำสอนและพันธสัญญาพูดถึงคนที่อยู่บน “หมู่เกาะในทะเล” ข้าพเจ้าเคยมีการเรียกเฉพาะกิจสามครั้งให้รับใช้อยู่บนหมู่เกาะในทะเล ครั้งแรกรับใช้เป็นผู้สอนศาสนาวัยหนุ่มในหมู่เกาะอังกฤษ ครั้งที่สองเป็นเจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่คนใหม่ในหมู่เกาะฟิลิปปินส์ และจากนั้นเป็นประธานภาคในหมู่เกาะแปซิฟิก ซึ่งรวมถึงหลายหมู่เกาะโปลินีเซียด้วย

ทั้งสามภูมิภาคนี้รวมผู้เชื่อมาสู่พระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟูของพระเยซูคริสต์ได้อย่างประสบความสำเร็จ ผู้สอนศาสนามาถึงหมู่เกาะอังกฤษครั้งแรกในปี 1837 นี่คือหนึ่งปีหลังจากโจเซฟ สมิธอุทิศพระวิหารเคิร์ทแลนด์ ที่ซึ่งโมเสสมอบ “กุญแจทั้งหลายของการรวบรวมอิสราเอลจากสี่ส่วนของแผ่นดินโลก, และการนำเผ่าทั้งสิบมาจากแผ่นดินทางเหนือ”5 ความสำเร็จช่วงแรกในหมู่เกาะอังกฤษกลายเป็นตำนาน ก่อนปี 1851 สมาชิกเกินครึ่งของศาสนจักรเป็นผู้เปลี่ยนใจเลื่อมใสที่รับบัพติศมาอยู่ในหมู่เกาะอังกฤษ6

ในปี 1961 เอ็ลเดอร์กอร์ดอน บี. ฮิงค์ลีย์มาเยือนและเริ่มงานสอนศาสนาเต็มเวลาในหมู่เกาะฟิลิปปินส์ เวลานั้นมีผู้ดำรงฐานะปุโรหิตแห่งเมลคีเซเดคชาวฟิลิปปินส์เพียงคนเดียว น่าอัศจรรย์ใจที่ปัจจุบันมีสมาชิกศาสนจักรเกิน 850,000 คนในหมู่เกาะฟิลิปปินส์ ข้าพเจ้าชื่นชมคนฟิลิปปินส์เพราะพวกเขามีความรักมั่นคงลึกซึ้งต่อพระผู้ช่วยให้รอด

อาจมีน้อยคนทราบถึงงานสอนศาสนาในหมู่เกาะโปลินีเซียที่ดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่อง เริ่มตั้งแต่ในปี 1844 เมื่อแอดดิสัน แพรทท์มาถึงที่ซึ่งปัจจุบันคือเฟรนช์โปลินีเซีย7 ชาวโปลินีเซียจำนวนมากเชื่อเรื่องครอบครัวนิรันดร์อยู่แล้วและยอมรับพระเยซูคริสต์เป็นพระผู้ช่วยให้รอด ปัจจุบันเกือบ 25 เปอร์เซ็นต์ของชาวโปลินีเซียในหมู่เกาะโปลินีเซียเป็นสมาชิกศาสนจักร8

ครั้งหนึ่งข้าพเจ้าเคยฟังเด็กสาวอายุ 17 ปีบนเกาะตาฮีตีอันไกลโพ้นผู้เป็นสมาชิกรุ่นที่เจ็ด เธอยกย่องบรรพชนของเธอที่เปลี่ยนใจเลื่อมใสในปี 1845 บนเกาะตูบูไอ สองปีก่อนที่สมาชิกศาสนจักรรุ่นแรกมาถึงหุบเขาซอลท์เลค9

หลักคำสอนของเราชัดเจนว่าจะมีวาระและฤดูกาลให้ทุกคนได้รับและตอบรับข่าวสารพระกิตติคุณ ตัวอย่างเหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของภาพที่ใหญ่กว่านั้นมาก ประธานเนลสันเน้นย้ำต่อเนื่องว่า “การรวบรวมอิสราเอลเป็นความท้าทาย … อุดมการณ์ … และงานที่ ยิ่งใหญ่ที่สุด บนแผ่นดินโลกทุกวันนี้”10

ความเข้าใจเรื่อง “การรวบรวมอิสราเอล” ยังกระท่อนกระแท่นและจำกัดจนกระทั่งมีการฟื้นฟูศาสนจักรของพระเยซูคริสต์ รวมถึงการออกมาของพระคัมภีร์มอรมอน การเปิดเผย และการมอบกุญแจฐานะปุโรหิตให้ศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธ11

ชื่อพิเศษ “อิสราเอล” เป็นชื่อเรียกที่ทรงมอบให้ยาโคบ12 และกลายเป็นชื่อที่หมายถึงลูกหลานของอับราฮัมผ่านทางอิสอัคและยาโคบ คำสัญญาและพันธสัญญาดั้งเดิมที่ทำกับท่านบิดาอับราฮัมมีอยู่ใน อับราฮัม 2:9–10 ส่วนหนึ่งอ่านว่า:

“และเราจะรังสรรค์จากเจ้าประชาชาติที่ยิ่งใหญ่, …

“และเราจะอวยพร [ประชาชาติทั้งปวง] โดยผ่านชื่อของเจ้า; เพราะมากเท่าที่ได้รับพระกิตติคุณนี้จะได้รับเรียกตามชื่อของเจ้า, และจะนับไว้เป็นพงศ์พันธุ์ของเจ้า, และจะลุกขึ้นและอวยพรเจ้า, เป็นบิดาพวกเขา”

ระหว่างสภาในสวรรค์ในการดำรงอยู่ก่อนเกิด มีการหารือและ สนับสนุน แผนแห่งความรอด ซึ่งรวมถึงกฎและศาสนพิธีบางอย่างของฐานะปุโรหิตที่ตั้งขึ้นมาก่อนการวางรากฐานของโลกและตั้งอยู่บนพื้นฐานของการรวบรวม13 ทั้งยังมีหลักธรรมสำคัญที่สุดเรื่องสิทธิ์เสรีรวมอยู่ด้วย

หลังจากเป็นกลุ่มชนเรืองอำนาจอยู่หลายศตวรรษ รวมทั้งรัชสมัยของซาอูล ดาวิด และซาโลมอน อิสราเอลก็ถูกแบ่งแยก เผ่ายูดาห์และส่วนหนึ่งของเผ่าเบนยามินกลายเป็นอาณาจักรยูดาห์ ส่วนที่เหลือซึ่งเรียกกันว่าสิบเผ่ากลายเป็นอาณาจักรอิสราเอล14 หลังจากอยู่แยกกัน 200 ปี การกระจัดกระจายครั้งแรกของอิสราเอลก็เกิดขึ้นใน 721 ปีก่อนคริสต์ศักราช เมื่อสิบเผ่าของอิสราเอลถูกกษัตริย์อัสซีเรียจับไปเป็นเชลย15 ต่อมาพวกเขาไปยังดินแดนทางเหนือ16

600 ปีก่อนคริสต์ศักราช ตอนเริ่มต้นของพระคัมภีร์มอรมอน ท่านบิดาลีไฮนำชาวอิสราเอลกลุ่มหนึ่งไปทวีปอเมริกา ลีไฮเข้าใจการกระจัดกระจายของอิสราเอลซึ่งเขาเป็นส่วนหนึ่ง นีไฟอ้างอิงคำพูดของลีไฮที่ว่าเชื้อสายแห่งอิสราเอล “จะเปรียบเหมือนต้นมะกอก, ซึ่งพระเจ้าจะทรงหักกิ่งและจะกระจัดกระจายไปทั่วพื้นพิภพ”17

ในโลกที่เรียกกันว่าโลกใหม่ ประวัติศาสตร์ของชาวนีไฟกับชาวเลมันตามที่มีอยู่ในพระคัมภีร์มอรมอนสิ้นสุดลงประมาณ ค.ศ. 400 ผู้สืบตระกูลของท่านบิดาลีไฮกระจายไปทั่วทวีปอเมริกา18

มอรมอนอธิบายเรื่องนี้ชัดเจนใน 3 นีไฟ 5:20 ซึ่งอ่านว่า: “ข้าพเจ้าคือมอรมอน, และเป็นผู้สืบตระกูลโดยแท้ของลีไฮ. ข้าพเจ้ามีเหตุผลที่จะถวายพระพรพระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้าและพระเยซูคริสต์พระผู้ช่วยให้รอดของข้าพเจ้า, ที่พระองค์ทรงนำบรรพบุรุษเราออกจากแผ่นดินแห่งเยรูซาเล็ม”19

เห็นชัดว่าจุดสูงสุดในลำดับประวัติศาสตร์ของอิสราเอลคือการประสูติ ข่าวสาร การปฏิบัติศาสนกิจ และพระพันธกิจของพระเจ้าและพระผู้ช่วยให้รอดของเรา พระเยซูคริสต์20

หลังการสิ้นพระชนม์และการฟื้นคืนพระชนม์ของพระผู้ช่วยให้รอดที่ปรับโฉมนิรันดร การกระจัดกระจายอันเลื่องลือครั้งที่สองของยูดาห์ก็เกิดขึ้นในช่วง ค.ศ. 70 ถึง ค.ศ. 135 เมื่อชาวยิวกระจายไปทั่วโลกที่คนรู้จักกันยุคนั้นเนื่องด้วยการกดขี่ข่มเหงของโรมัน

ประธานเนลสันสอนว่า “พระคัมภีร์มอรมอนออกมาเป็นเครื่องหมายว่าพระเจ้าทรงเริ่มรวบรวมลูกหลานแห่งพันธสัญญาแล้ว”21 ด้วยเหตุนี้ พระคัมภีร์มอรมอนที่แปลโดยศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธผ่านของประทานและเดชานุภาพของพระผู้เป็นเจ้า จึงมุ่งพูดกับผู้สืบตระกูลของลีไฮ อิสราเอลที่กระจัดกระจาย และคนต่างชาติที่ถูกรับเข้ามาในเผ่าต่างๆ ของอิสราเอล หัวบทของ 1 นีไฟ 22 ส่วนหนึ่งอ่านว่า “อิสราเอลจะกระจัดกระจายทั่วพื้นพิภพ—คนต่างชาติจะดูแลและบำรุงเลี้ยงอิสราเอลด้วยพระกิตติคุณในวันเวลาสุดท้าย” ปกในของพระคัมภีร์มอรมอน อ่านว่าจุดประสงค์หนึ่งของพระคัมภีร์เล่มนี้คือเพื่อให้ “ชาวยิวและคนต่างชาติมั่นใจด้วยว่าพระเยซูคือพระคริสต์” ด้วยการฟื้นฟูและพระคัมภีร์มอรมอน แนวคิดเรื่อง “การรวบรวมอิสราเอล” จึงขยายกว้างมาก22

คนที่ยอมรับพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ไม่ว่าเชื้อสายใดล้วนเป็นส่วนหนึ่งของอิสราเอลที่รวบรวมมา23 ด้วยการรวบรวมนั้นและพระวิหารจำนวนมากที่สร้างและประกาศสร้างแล้ว เราจึงอยู่ในฐานะพิเศษที่จะรวบรวมอิสราเอลทั้งสองด้านของม่านอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อนภายใต้แผนของพระบิดา

ประธานสเป็นเซอร์ ดับเบิลยู. คิมบัลล์พูดถึงการรวบรวมอิสราเอลเชิงรูปธรรมว่า: “บัดนี้ การรวมอิสราเอลประกอบด้วยการเข้าร่วมศาสนจักรที่แท้จริงและการมีความรู้เรื่องพระผู้เป็นเจ้าองค์จริง … ด้วยเหตุนี้ บุคคลใดก็ตามผู้ยอมรับพระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟู และผู้ซึ่งเวลานี้หาทางนมัสการพระเจ้าในภาษาของตนและกับวิสุทธิชนในประเทศที่เขาอาศัยอยู่ เขาได้ทำตามกฎแห่งการรวมอิสราเอลและเป็นทายาทของพรทั้งหมดที่สัญญาไว้กับวิสุทธิชนในวันเวลาสุดท้ายนี้”24

“การรวบรวมอิสราเอลเวลานี้เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนใจเลื่อมใส”25

เมื่อมองผ่านเลนส์ใส จะเห็นว่าสมาชิกศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้ายได้รับสิทธิพิเศษสำคัญยิ่งในการรัก แบ่งปัน เชื้อเชิญ และช่วยรวบรวมอิสราเอล เพื่อรับความสมบูรณ์ของพรพันธสัญญาจากพระเจ้า นี่รวมถึงชาวแอฟริกาและชาวยุโรป ชาวอเมริกาใต้และอเมริกาเหนือ ชาวเอเชีย ชาวออสเตรเลีย และคนที่อยู่บนหมู่เกาะในทะเลด้วย “เพราะตามจริงแล้ว สุรเสียงของพระเจ้ามาถึงคนทั้งปวง”26 “การรวบรวมนี้จะดำเนินต่อไปจนกว่าคนชอบธรรมจะรวมกันในที่ประชุมต่างๆ ของวิสุทธิชนในบรรดาประชาชาติของโลก”27

ไม่มีใครพูดถึงการรวบรวมได้ตรงไปกว่าประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน: “เวลาใดก็ตาม ที่ท่านทำ สิ่งใดก็ตาม ที่ช่วยให้ ใครก็ตาม—จากทั้งสองด้านของม่าน—ก้าวไปสู่การทำพันธสัญญากับพระผู้เป็นเจ้าและรับบัพติศมาและศาสนพิธีพระวิหารที่จำเป็น ท่านกำลังช่วยรวบรวมอิสราเอล เป็นเรื่องเรียบง่ายอย่างนั้นเลย”28

ทุกวันนี้ศาสนจักรอยู่ตรงจุดไหน? ใน 62 ปีตั้งแต่ข้าพเจ้าเริ่มรับใช้งานเผยแผ่ในปี 1960 จำนวนผู้สอนศาสนาเต็มเวลาที่รับใช้ภายใต้การเรียกจากศาสดาพยากรณ์เพิ่มจาก 7,683 คนเป็น 62,544 คน จำนวนคณะเผยแผ่เพิ่มจาก 58 แห่งเป็น 411 แห่ง จำนวนสมาชิกเพิ่มจากประมาณ 1,700,000 คนเป็นประมาณ 17,000,000 ล้านคน

การระบาดใหญ่ของโควิด-19 ส่งผลกระทบชั่วคราวบางด้านต่อโอกาสแบ่งปันพระกิตติคุณ นอกจากนี้ยังให้ประสบการณ์ในการใช้เทคโนโลยีใหม่ ซึ่งจะยกระดับการรวบรวมเป็นอย่างมาก เราซาบซึ้งใจที่ตอนนี้สมาชิกและผู้สอนศาสนากำลังขยายความพยายามในการรวบรวมอิสราเอลที่กระจัดกระจาย มีการเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ทุกที่ โดยเฉพาะอเมริกาใต้และแอฟริกา เราซาบซึ้งเช่นกันที่หลายคนทั่วโลกตอบรับคำเชื้อเชิญอันทรงพลังของประธานเนลสันให้รับใช้เป็นผู้สอนศาสนากันมากขึ้น ถึงกระนั้นคำมั่นสัญญาของเราในการรัก แบ่งปัน และเชื้อเชิญก็ยังขยายออกไปได้อีกมาก

ส่วนจำเป็นของงานสอนศาสนาคือสมาชิกแต่ละคนต้องเป็นแบบอย่างดุจไฟประภาคาร29ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ใด30 เราจะพรางตัวไม่ได้ แบบอย่างที่เราทำเหมือนพระคริสต์ในเรื่องความอ่อนโยน ความชอบธรรม ความสุข และความรักที่จริงใจต่อทุกคนจะไม่เพียงสร้างไฟประภาคารส่องทางให้พวกเขาเท่านั้น แต่ยังสร้างความเข้าใจด้วยว่ามีท่าเรือปลอดภัยในศาสนพิธีแห่งความรอดและความสูงส่งของพระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟูของพระเยซูคริสต์

โปรดเข้าใจว่ามีพรสุดวิเศษในการแบ่งปันพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ พระคัมภีร์พูดถึงปีติสุขและสันติสุข การอภัยบาป ความคุ้มครองจากการล่อลวง และพลังหนุนจากพระผู้เป็นเจ้า31 เมื่อมองข้ามผ่านชีวิตมรรตัยนี้ไป เราจะพร้อมแบ่งปันพระกิตติคุณกับคนที่อยู่ “ในความมืดและภายใต้พันธนาการแห่งบาปในโลกอันไพศาลแห่งวิญญาณของคนตาย”32

คำสวดอ้อนวอนเฉพาะเจาะจงของข้าพเจ้าวันนี้คือขอให้เด็กทุกคน เยาวชนชาย เยาวชนหญิง ครอบครัว โควรัม สมาคมสงเคราะห์ และชั้นเรียนทบทวนว่าเราจะยอมรับคำแนะนำอันทรงพลังจากพระเจ้าและศาสดาพยากรณ์ที่รักของเราในการรวบรวมอิสราเอลอย่างไรทั้งโดยส่วนรวมและโดยส่วนตัว

เราเคารพสิทธิ์เสรี ในโลกทั่วไป หลายคนจะไม่ตอบสนองและไม่มาร่วมในการรวบรวมอิสราเอล แต่หลายคนจะทำ และพระเจ้าทรงคาดหวังให้คนที่ได้รับพระกิตติคุณเร่งพากเพียรที่จะเป็นแบบอย่างดุจไฟประภาคารเพื่อช่วยผู้อื่นมาหาพระผู้เป็นเจ้า การทำเช่นนี้จะทำให้พี่น้องของเราทั่วโลกได้รับพรและศาสนพิธีอันสูงส่งของพระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟูของพระเยซูคริสต์และถูก รวบรวมกลับบ้านอย่างปลอดภัย

ข้าพเจ้ากล่าวคำพยานอันมั่นคงแน่นอนในฐานะอัครสาวกถึงความเป็นพระเจ้าของพระเยซูคริสต์และแผนของพระบิดาในสวรรค์สำหรับเราในพระนามของพระเยซูคริสต์ เอเมน

อ้างอิง

  1. ดู รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน, “ข่าวสารต้อนรับ,” เลียโฮนา, พ.ค. 2021, 7.

  2. ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 20:37

  3. ดู 2 นีไฟ 26:33

  4. หลักคำสอนและพันธสัญญา 1:1 ใน หลักคำสอนและพันธสัญญา 1:4 พระเจ้าตรัสต่อไปว่า: “และเสียงเตือนจะมาถึงผู้คนทั้งปวง, โดยปากของสานุศิษย์เรา, ผู้ที่เราเลือกไว้ในวันเวลาสุดท้ายนี้”

  5. หลักคำสอนและพันธสัญญา 110:11

  6. ในปี 1851 มีสมาชิกศาสนจักรรวมทั้งสิ้น 52,165 คน ตามบันทึกศาสนจักรและ “Religious Census of 1851” ในอังกฤษและเวลส์ มีสมาชิกมากกว่า 28,000 คนในสถานที่เหล่านั้น (ดู Robert L. Lively Jr., “Some Sociological Reflections on the Nineteenth-Century British Mission,” ใน Mormons in Early Victorian Britain, ed. Richard L. Jensen and Malcolm R. Thorp [1989], 19–20)

  7. ดู Saints: The Story of the Church of Jesus Christ in the Latter Days, vol. 1, The Standard of Truth, 1815–1846 (2018), 494–495, 514–515, 573.

  8. ตองกา: 45 เปอร์เซ็นต์; ซามัว: 31 เปอร์เซ็นต์; อเมริกันซามัว: 22.5 เปอร์เซ็นต์; และเฟรนช์โปลินีเซีย: 7 เปอร์เซ็นต์

  9. ดู Saints, 573–574.

  10. ดู รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน, “ความหวังอิสราเอล” (การให้ข้อคิดทางวิญญาณสำหรับเยาวชนทั่วโลก, 3 มิ.ย. 2018), HopeofIsrael.ChurchofJesusChrist.org

  11. หลักคำสอนหนึ่งเดียวอันทรงพลังนี้มีอยู่ในพระคัมภีร์มอรมอนและมีแบบย่อใน หลักแห่งความเชื่อข้อสิบ ซึ่งเริ่มต้นว่า “เราเชื่อในการรวมกันอย่างเป็นรูปธรรมของอิสราเอลและในการนำกลับคืนมาของเผ่าทั้งสิบ” (ดู James E. Talmage, The Articles of Faith, 12th ed. [1924], 314–344)

  12. ตามที่บันทึกไว้ใน ปฐมกาล 32:28 เรื่องราวจากพระคัมภีร์อ่านว่า “เขาจะไม่เรียกเจ้าว่ายา‌โคบต่อ‍ไป แต่จะเรียกว่าอิสรา‌เอล เพราะเจ้าสู้กับพระ‍เจ้าและมนุษย์ และได้ชัย‍ชนะ”

  13. ดู Joseph Smith, ใน “History, 1838–1856, volume D-1,” 1572, josephsmithpapers.org; ดู Joseph Smith, “Discourse, 11 June 1843–A, as Reported by Wilford Woodruff,” [42–43], josephsmithpapers.org; Joseph Smith, “Discourse, 11 June 1843–A, as Reported by Willard Richards,” [241], josephsmithpapers.org ด้วย

  14. ดู Bible Dictionary, “Israel, Kingdom of”; James E. Talmage, The Articles of Faith, 315. เรโหโบอัมกับประชาชนของพวกเขาได้ชื่อว่าเป็นอาณาจักรยูดาห์และตั้งอยู่ทางใต้ของอิสราเอลปัจจุบัน

  15. ดู 2 พงศ์กษัตริย์ 17:23

  16. ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 133:26; ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 110:11 ด้วย

  17. 1 นีไฟ 10:12 แอมันกล่าวภายหลังว่า “ขอพระนามพระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้าทรงเจริญด้วยพระสิริเถิด, พระผู้ทรงห่วงใยคนเหล่านี้, ซึ่งเป็นกิ่งของต้นไม้แห่งอิสราเอล, และสูญหายไปจากลำต้นของมันในแผ่นดินแปลก” (แอลมา 26:36)

  18. เมื่อพูดถึงอิสราเอลชาวเลมัน ประธานสเป็นเซอร์ ดับเบิลยู. คิมบัลล์สอนว่าไซอันคือทวีปอเมริกาทั้งหมด ท่านกล่าวว่า “เราอยู่ในอิสราเอลและกำลังถูกรวบรวม” (The Teachings of Spencer W. Kimball, ed. เอ็ดเวิร์ด แอล. คิมบัลล์ [1982], 439)

  19. เมื่อท่านบิดาลีไฮได้รับบัญชาให้พาครอบครัวออกไปในแดนทุรกันดาร อย่างน้อยเหตุผลส่วนหนึ่งคือเยรูซาเล็มจะถูกทำลาย (ดู 1 นีไฟ 2) การทำลายพระวิหารของซาโลมอน การล่มสลายของเยรูซาเล็ม และการตกเป็นเชลยของชนเผ่ายูดาห์เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 586 ปี ก่อนคริสตศักราช

    “อิสราเอลพ่ายแพ้เมื่อประมาณ 720 ปีก่อนคริสตศักราช และ 10 เผ่าถูกเนรเทศ … [ในเยรูซาเล็ม]…พระวิหารของซาโลมอนรับมือกับการโจมตีหลายครั้งโดยมหาอำนาจต่างชาติก่อนถูกกองทัพของเนบูคัดเนสซาร์กษัตริย์บาบิโลนทำลายในท้ายที่สุดเมื่อ 586 ปีก่อนคริสตศักราช” (David B. Green, “The History of the Jewish Temple in Jerusalem,” Haaretz, Aug. 11, 2014, haaretz.com/jewish/.premium-history-of-the-temple-in-jerusalem-1.5256337) ดู 2 พงศ์กษัตริย์ 25:8–9 ด้วย

  20. ดู Tad R. Callister, The Infinite Atonement (2000).

  21. Russell M. Nelson, “Children of the Covenant,” Ensign, May 1995, 33; ดู “พันธสัญญา,” เลียโฮนา, พ.ย. 2011, 88 ด้วย

  22. ดู Russell M. Nelson, ใน R. Scott Lloyd, “Seminar for New Mission Presidents: ‘Swift Messengers’ to Scattered Israel,” Church News, July 13, 2013, thechurchnews.com ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันกล่าวว่าการรวบรวม “ไม่ใช่เรื่องของสถานที่ทางกายภาพ แต่เป็นเรื่องของคำมั่นสัญญาส่วนตัว เราสามารถนำผู้คน ‘มาสู่ความรู้เรื่องพระเจ้า’ [3 นีไฟ 20:13] โดยที่พวกเขาไม่ต้องจากบ้านเกิดเมืองนอน” (“The Gathering of Scattered Israel,” Liahona, Nov. 2006, 81) ดู 3 นีไฟ 21:1–7 ด้วย

  23. หลักคำสอนของเราชัดเจน คือพระเจ้าทรงทำให้เผ่าต่างๆ ของอิสราเอลกระจัดกระจายเพราะการกบฏและความไม่ชอบธรรมของพวกเขา แต่พระเจ้าทรงใช้ประโยชน์จากการกระจัดกระจายของผู้คนที่พระองค์ทรงเลือกในบรรดาประชาชาติของโลกเพื่อเป็นพรแก่ประชาชาติเหล่านั้น (ดู คู่มือพระคัมภีร์, “อิสราเอล—การรวบรวมอิสราเอล,” scriptures.ChurchofJesusChrist.org)

  24. Spencer W. Kimball, The Teachings of Spencer W. Kimball, 439.

  25. Summary heading ใน Spencer W. Kimball, The Teachings of Spencer W. Kimball, 438. ดู “All Are Alike unto God,” ed. ด้วย E. Dale LeBaron (1990), a collection of 23 conversion stories by Black African Latter-day Saints ซิสเตอร์จูเลีย เอ็น. มาวิมเบลาบอกว่าก่อนเข้าร่วมศาสนจักรเมื่อเธออ่านเจอคำว่า อิสราเอล เธอจะ “โยนพระคัมภีร์ทิ้งและพูดว่า ‘นี่มันสำหรับคนขาว ไม่ใช่สำหรับเรา เราไม่ได้ถูกเลือก’ วันนี้ฉันรู้ว่าฉันเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวพระองค์ ถ้าฉันดำเนินชีวิตอย่างชอบธรรม ฉันเป็นชาวอิสราเอล และเมื่อฉันทำศาสนพิธีในพระวิหาร ฉันเข้าใจความรู้สึกที่ว่าเราทุกคนบนโลกเป็นครอบครัวเดียวกัน” (ใน “All Are Alike unto God,” 151)

  26. หลักคำสอนและพันธสัญญา 1:2

  27. Spencer W. Kimball, The Teachings of Spencer W. Kimball, 438.

  28. รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน, “ความหวังอิสราเอล

  29. อัครสาวกเปาโลบอกทิโมธีเพื่อนวัยหนุ่มให้ “เป็นแบบอย่างแก่บรรดา [ของ] ผู้เชื่อ” (1 ทิโมธี 4:12)

  30. ดู 3 นีไฟ 18:24

  31. ดู โมไซยาห์ 18:8–13; 3 นีไฟ 18:25; หลักคำสอนและพันธสัญญา 18:10–16; 31:5; 62:3

  32. หลักคำสอนและพันธสัญญา 138:57