การประชุมใหญ่สามัญ
ศาสดาพยากรณ์ที่มีชีวิตในยุคสุดท้าย
การประชุมใหญ่สามัญเดือนเมษายน 2023


ศาสดาพยากรณ์ที่มีชีวิตในยุคสุดท้าย

พระบิดาในสวรรค์ทรงเลือกรูปแบบการเปิดเผยความจริงแก่บุตรธิดาของพระองค์ผ่านศาสดาพยากรณ์

เมื่อข้าพเจ้ายังเด็ก ข้าพเจ้าชอบวันเสาร์มากเพราะทุกสิ่งที่ข้าพเจ้าทำในวันนั้นดูเหมือนเป็นการผจญภัย แต่ไม่ว่าข้าพเจ้าจะทำอะไร สิ่งสำคัญที่สุดมักจะมาก่อนเสมอ—นั่นคือการดูการ์ตูนทางโทรทัศน์ เช้าวันเสาร์วันหนึ่ง ขณะข้าพเจ้ายืนอยู่ข้างโทรทัศน์และเลื่อนดูช่องต่างๆ ข้าพเจ้าพบว่าการ์ตูนที่ข้าพเจ้าต้องการดูกลับเป็นการถ่ายทอดการประชุมใหญ่สามัญของศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้ายแทน ขณะมองไปที่โทรทัศน์และเสียใจว่าไม่มีการ์ตูน ข้าพเจ้าเห็นชายผมสีขาวสวมเสื้อสูทและเนกไทนั่งอยู่บนเก้าอี้ที่สวยงาม

มีบางอย่างที่แตกต่างเกี่ยวกับตัวเขา ข้าพเจ้าจึงถามพี่ชายคนโตว่า “นั่นคือใคร?”

เขาตอบว่า “ประธานเดวิด โอ. แมคเคย์ ท่านเป็นศาสดาพยากรณ์”

ข้าพเจ้าจำได้ว่ารู้สึกถึงบางอย่างและด้วยเหตุผลบางอย่างจึงทราบว่าท่านเป็นศาสดาพยากรณ์ แต่เพราะข้าพเจ้าเป็นเด็กที่คลั่งไคล้การ์ตูนมากก็เลยเปลี่ยนช่อง แต่ข้าพเจ้าไม่เคยลืมความรู้สึกในช่วงเวลาสั้นๆ ของการเปิดเผยที่คาดไม่ถึงนั้น บางครั้งใช้เวลาเพียงครู่เดียวเท่านั้นในการรู้ว่านั่นคือศาสดาพยากรณ์1

การรู้โดยการเปิดเผยว่ามีศาสดาพยากรณ์ที่มีชีวิตอยู่บนแผ่นดินโลกเปลี่ยนทุกสิ่ง2 ความรู้นั้นทำให้คนๆ หนึ่งไม่สนใจในการถกเถียงว่าเมื่อศาสดาพยากรณ์พูดในฐานะศาสดาพยากรณ์หรือเมื่อคนๆ หนึ่งเที่ยงธรรมในการเลือกปฏิเสธคำแนะนำของศาสดาพยากรณ์หรือไม่3 ความรู้ที่ได้รับการเปิดเผยดังกล่าวเชื้อเชิญให้วางใจคำแนะนำของศาสดาพยากรณ์ที่มีชีวิต แม้เราจะไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ก็ตาม4 ท้ายที่สุดแล้ว พระบิดาในสวรรค์ผู้ทรงเปี่ยมด้วยความรักและทรงดีพร้อมได้เลือกรูปแบบการเปิดเผยความจริงแก่บุตรธิดาของพระองค์ผ่านศาสดาพยากรณ์ ผู้ที่ไม่เคยแสวงหาการเรียกอันศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้และไม่ต้องการความช่วยเหลือจากเราในการตระหนักถึงความไม่ดีพร้อมของตนเอง5 ศาสดาพยากรณ์คือผู้ที่พระผู้เป็นเจ้าทรงเตรียม เรียก แก้ไข ดลใจ ตำหนิ ชำระให้บริสุทธิ์ และสนับสนุนเป็นการส่วนพระองค์6 นั่นคือเหตุผลที่เราจะไม่มีความเสี่ยงทางวิญญาณเลยในการทำตามคำแนะนำของศาสดาพยากรณ์

ไม่ว่าเราจะชอบหรือไม่ เราทุกคนได้รับเลือกด้วยวิธีการบางอย่างในชีวิตก่อนเกิดเพื่อเกิดมาในยุคสุดท้ายนี้ มีความจริงสองประการที่เกี่ยวข้องกับยุคสุดท้าย ความจริงประการแรกคือศาสนจักรของพระคริสต์จะได้รับการสถาปนาขึ้นอีกครั้งบนแผ่นดินโลก ความจริงประการที่สองคือสิ่งต่างๆ จะท้าทายขึ้นอย่างมาก พระคัมภีร์เผยว่าในยุคสุดท้ายจะมี “พายุลูกเห็บร้ายแรงส่งไปทำลายพืชผลของแผ่นดินโลก”7 โรคระบาด8 “สงครามและข่าวลือเรื่องสงคราม, และทั้งแผ่นดินโลกจะอยู่ในความโกลาหล, … และความชั่วช้าสามานย์จะมีมาก”9

เมื่อข้าพเจ้ายังเด็ก คำพยากรณ์ในยุคสุดท้ายเหล่านั้นทำให้ข้าพเจ้ากลัวและทำให้ข้าพเจ้าสวดอ้อนวอนขออย่าให้การเสด็จมาครั้งที่สองมาในช่วงชีวิตข้าพเจ้า—คำสวดอ้อนวอนนั้นยังมีผลจนถึงทุกวันนี้ แต่ตอนนี้ข้าพเจ้าสวดอ้อนวอนขอสิ่งที่ตรงกันข้าม แม้ว่าความท้าทายต่างๆ ตามคำพยากรณ์จะเกิดขึ้นแน่นอน10 เพราะเมื่อพระคริสต์เสด็จกลับมาปกครองงานสร้างทั้งหมดของพระองค์จะ “นอนลงอย่างปลอดภัย”11

สภาวการณ์โลกในปัจจุบันทำให้บางคนตื่นตระหนก ในฐานะลูกหลานแห่งพันธสัญญาของพระผู้เป็นเจ้า เราไม่จำเป็นต้องไล่ตามสิ่งนี้หรือสิ่งนั้นเพื่อที่จะรู้วิธีเผชิญช่วงเวลาทุกข์ยากเหล่านี้ เราจึงไม่ต้องกลัว12 หลักคำสอนและหลักธรรมที่เราต้องปฏิบัติตามเพื่อความอยู่รอดทางวิญญาณและเพื่ออดทนทางร่างกายมีอยู่ในคำพูดของศาสดาพยากรณ์ที่มีชีวิต13 นั่นคือเหตุผลที่ประธานเอ็ม. รัสเซลล์ บัลลาร์ดประกาศว่า “การมีศาสดาพยากรณ์ของพระผู้เป็นเจ้าท่ามกลางพวกเรา … ไม่ใช่เรื่องเล็ก”14

ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันเป็นพยานว่า “รูปแบบที่พระผู้เป็นเจ้าทรงวางไว้นานแล้วในการสอนบุตรธิดาของพระองค์ผ่านศาสดาพยากรณ์ทำให้เราเชื่อมั่นว่าพระองค์จะทรงอวยพรศาสดาพยากรณ์แต่ละท่านและพระองค์จะทรงอวยพรคนที่ต้องการคำแนะนำของศาสดาพยากรณ์”15 ดังนั้นสิ่งสำคัญคือการทำตามศาสดาพยากรณ์ที่มีชีวิต16 พี่น้องทั้งหลาย ไม่เหมือนกับหนังสือการ์ตูนเก่าและรถคลาสสิก คำสอนของศาสดาพยากรณ์ไม่ได้มีค่ามากขึ้นตามอายุ นั่นคือเหตุผลที่เราไม่ควรพยายามใช้คำพูดของศาสดาพยากรณ์ในอดีตในการเพิกเฉยต่อคำสอนของศาสดาพยากรณ์ที่มีชีวิต17

ข้าพเจ้าชอบอุปมาที่พระเยซูคริสต์ทรงใช้สอนหลักธรรมพระกิตติคุณ ข้าพเจ้าอยากจะเล่าอุปมาจากชีวิตจริงให้ท่านฟังในเช้าวันนี้

วันหนึ่งข้าพเจ้าเดินเข้าไปในโรงอาหารที่สำนักงานใหญ่ของศาสนจักรเพื่อรับประทานอาหารกลางวัน หลังจากได้ถาดอาหารแล้ว ข้าพเจ้าเข้าไปในบริเวณรับประทานอาหารและสังเกตเห็นโต๊ะที่สมาชิกในฝ่ายประธานสูงสุดทั้งสามท่านนั่งอยู่ พร้อมด้วยเก้าอี้ว่างหนึ่งตัว ความไม่มั่นใจทำให้ข้าพเจ้าต้องเบี่ยงตัวออกจากโต๊ะอย่างรวดเร็ว จากนั้นข้าพเจ้าก็ได้ยินเสียงศาสดาพยากรณ์ของเรา ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันพูดว่า “อัลเลน มีเก้าอี้ว่างอยู่ตรงนี้ มานั่งกับเราสิ” ข้าพเจ้าก็ไปนั่ง

เมื่อใกล้จะสิ้นสุดมื้อกลางวัน ข้าพเจ้าประหลาดใจที่ได้ยินเสียงดังกรอบแกรบ และเมื่อข้าพเจ้าเงยหน้าขึ้น ข้าพเจ้าเห็นว่าประธานเนลสันจับขวดน้ำพลาสติกให้ตั้งตรง จากนั้นทำให้แบนและเปลี่ยนฝาปิด

ประธานดัลลิน เอช. โอ๊คส์จึงถามคำถามที่ข้าพเจ้าต้องการจะถามว่า “ประธานเนลสันครับ ทำไมท่านทำให้ขวดน้ำพลาสติกของท่านแบน?”

ท่านตอบว่า “นี่ทำให้ผู้ที่จัดการกับวัสดุรีไซเคิลทำงานง่ายขึ้น เพราะจะไม่ใช้พื้นที่มากในภาชนะสำหรับรีไซเคิล”

ขณะที่กำลังไตร่ตรองคำตอบอยู่นั้น ข้าพเจ้าก็ได้ยินเสียงกรอบแกรบเช่นเดิมดังขึ้นอีกครั้ง ข้าพเจ้ามองไปทางขวา และประธานโอ๊คส์ทำขวดน้ำพลาสติกของท่านให้แบนเหมือนกับประธานเนลสัน จากนั้นข้าพเจ้าได้ยินเสียงบางอย่างทางด้านซ้าย และประธานเฮนรีย์ บี. อายริงก์กำลังทำให้ขวดน้ำพลาสติกของท่านแบน แม้ว่าท่านใช้วิธีอื่นโดยทำในขณะที่ขวดอยู่ในแนวนอน ซึ่งใช้ความพยายามมากกว่าขวดในแนวตั้ง เมื่อสังเกตเห็นสิ่งนี้ ประธานเนลสันแสดงเทคนิคการตั้งขวดให้ตรงเพื่อทำให้ขวดแบนง่ายขึ้น

ในขณะนั้น ข้าพเจ้าโน้มตัวไปหาประธานโอ๊คส์และถามเงียบๆ ว่า “การทำให้ขวดน้ำพลาสติกของท่านแบนเป็นข้อกำหนดใหม่ของการรีไซเคิลในโรงอาหารใช่ไหมครับ?”

ประธานโอ๊คส์ตอบด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าท่านว่า “อัลเลน คุณต้องทำตามศาสดาพยากรณ์”

ข้าพเจ้ามั่นใจว่าประธานเนลสันไม่ได้ประกาศหลักคำสอนใหม่เกี่ยวกับการรีไซเคิลในโรงอาหารวันนั้น แต่เราสามารถเรียนรู้ได้จากการตอบรับที่รวดเร็ว18 ของประธานโอ๊คส์และประธานอายริงก์ต่อแบบอย่างของประธานเนลสันและความเอาใจใส่ของประธานเนลสันในการช่วยสอนวิธีที่ดีกว่าให้กับผู้ที่ทำตาม19

หลายปีก่อน เอ็ลเดอร์นีล เอ. แม็กซ์เวลล์แบ่งปันข้อสังเกตและคำแนะนำบางอย่างที่ตรงกับคำพยากรณ์เกี่ยวกับยุคสมัยของเรา:

“ในอีกไม่กี่เดือนและไม่กี่ปีข้างหน้า เหตุการณ์ต่างๆ อาจจะทำให้สมาชิกแต่ละคนต้องตัดสินใจว่าเขา [หรือเธอ] จะติดตามฝ่ายประธานสูงสุดหรือไม่ สมาชิกจะพบว่ามันยากขึ้นที่จะหยุดให้นานกว่าเดิมเพื่อเลือกระหว่างสองความคิดเห็น …

“… ขอให้เราละทิ้งบันทึกเพื่อให้การเลือกชัดเจน โดยปล่อยให้ผู้อื่นทำตามใจชอบเมื่อได้รับคำแนะนำจากศาสดาพยากรณ์ …

“พระเยซูตรัสว่าเมื่อต้นมะเดื่อออกใบ ‘ฤดูร้อนใกล้จะถึงแล้ว’ … ดังนั้นเราจึงถูกเตือนแล้วว่าฤดูร้อนมาถึงเราแล้ว ขอเราอย่าพร่ำบ่นเรื่องความร้อน!”20

อนุชนรุ่นหลังกำลังเติบโตขึ้นในเวลาที่ใบมะเดื่อมีมากขึ้นและมีความร้อนมากขึ้น ความเป็นจริงนั้นกำหนดความรับผิดชอบที่หนักกว่าให้กับคนรุ่นก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องทำตามคำแนะนำของศาสดาพยากรณ์ เมื่อบิดามารดาเพิกเฉยต่อคำแนะนำของศาสดาพยากรณ์ที่มีชีวิต พวกเขาไม่เพียงสูญเสียพรที่สัญญาไว้สำหรับตนเองเท่านั้นแต่ยังสอนลูกๆ ของพวกเขาอย่างน่าสลดใจว่าสิ่งที่ศาสดาพยากรณ์กล่าวนั้นไม่สลักสำคัญหรือคำแนะนำของศาสดาพยากรณ์สามารถหยิบยกขึ้นมาใช้ตามใจชอบโดยไม่ต้องกังวลถึงผลที่ตามมาของการขาดสารอาหารทางวิญญาณ

เอ็ลเดอร์ริชาร์ด แอล. อีแวนส์เคยตั้งข้อสังเกตว่า “บิดามารดาบางคนเข้าใจผิดว่าพวกเขาสามารถผ่อนคลายสักเล็กน้อยในการประพฤติตนและความสมานฉันท์ … พวกเขาสามารถผ่อนปรนปัจจัยพื้นฐานได้เล็กน้อยโดยไม่มีผลกระทบต่อครอบครัวหรืออนาคตของครอบครัว แต่หากบิดามารดาออกนอกลู่นอกทางไปเล็กน้อย ลูกๆ ก็มักจะหลงไปไกลเกินกว่าตัวอย่างของบิดามารดา”21

ในฐานะคนรุ่นหนึ่งที่มีภาระหน้าที่อันศักดิ์สิทธิ์ในการเตรียมอนุชนรุ่นหลังให้พร้อมรับบทบาทตามคำพยากรณ์ในยุคสุดท้าย22 บทบาทดังกล่าวต้องบรรลุผลในเวลาที่อิทธิพลของปฏิปักษ์อยู่ในจุดสูงสุด23 เราไม่ควรเป็นแหล่งช่วยของความสับสนเกี่ยวกับความสำคัญในการทำตามคำแนะนำของศาสดาพยากรณ์ คำแนะนำนั้นเองที่จะทำให้อนุชนรุ่นหลังมองเห็น “ศัตรูขณะที่ยัง [อยู่] ไกล; และ [พวกเขาจะได้] เตรียมพร้อม” ที่จะต้านทานการโจมตีของศัตรู24 การออกนอกลู่นอกทางที่ดูเหมือนเล็กน้อยของเรา การเพิกเฉยเงียบๆ หรือกระซิบวิพากษ์วิจารณ์คำแนะนำของศาสดาพยากรณ์อาจส่งผลให้เราเดินอย่างไม่ปลอดภัยอยู่ใกล้ๆ ขอบเส้นทางพันธสัญญาเท่านั้น แต่เมื่อทำบ่อยขึ้นเพราะปฏิปักษ์ในชีวิตของอนุชนรุ่นหลัง การกระทำดังกล่าวอาจชักจูงพวกเขาให้ออกจากเส้นทางนั้นไป ผลลัพธ์ดังกล่าวจะส่งผลร้ายแรงมากต่อคนรุ่นหลังที่ตามมา25

บางท่านอาจรู้สึกว่าความพยายามในการทำตามคำแนะนำของประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันนั้นล้มเหลว หากเป็นเช่นนั้น ให้กลับใจ เริ่มต้นอีกครั้งเพื่อทำตามคำแนะนำของศาสดาพยากรณ์ที่พระผู้เป็นเจ้าทรงเลือก พักการ์ตูนเด็กๆ ที่ทำให้เขวไว้ก่อนและวางใจผู้ที่ได้รับการเจิมจากพระเจ้า จงชื่นชมยินดีเพราะ “มีผู้เผยพระวจนะคนหนึ่งในอิสราเอล” อีกครั้ง26

แม้ว่าท่านไม่แน่ใจ แต่ข้าพเจ้าเป็นพยานว่าเราสามารถเอาชนะความร้อนแรงของยุคสุดท้ายและเติบโตขึ้นได้ เราเป็นวิสุทธิชนในยุคสุดท้าย และนี่คือยุคที่สำคัญยิ่ง เรากระตือรือร้นที่จะมายังแผ่นดินโลกในเวลานี้ โดยมีความมั่นใจว่าเราจะไม่ถูกทิ้งให้หกล้มเมื่อเผชิญกับหมอกที่มืดมนและสับสนมากขึ้นของปฏิปักษ์27 แต่ขอให้เรารับคำแนะนำและการนำทางจากผู้ได้รับมอบอำนาจให้กล่าวกับเราและกับทั้งโลกว่า” พระยาห์เวห์องค์เจ้านายตรัสดังนี้”28 ในพระนามอันศักดิ์สิทธิ์ของศาสดาพยากรณ์ผู้ที่พระผู้เป็นเจ้าทรงยกขึ้น พระผู้บริสุทธิ์แห่งอิสราเอล29 แม้พระเยซูคริสต์ เอเมน

อ้างอิง

  1. ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันเชิญนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยบริคัมยังก์ให้มีประสบการณ์การเปิดเผยส่วนตัวแบบเดียวกันว่า: “ถามพระบิดาบนสวรรค์ของท่านว่าเราเป็นอัครสาวกและศาสดาพยากรณ์อย่างแท้จริงหรือไม่ ถามว่าเราได้รับการเปิดเผยเกี่ยวกับเรื่องนี้และเรื่องอื่นๆ หรือไม่” (“The Love and Laws of God” [Brigham Young University devotional, Sept. 17, 2019], speeches.byu.edu) ดู นีล แอล. แอนเดอร์เซ็น, “ศาสดาพยากรณ์ของพระผู้เป็นเจ้า,” เลียโฮนา, พ.ค. 2018, 26: “เราเหล่าวิสุทธิชนยุคสุดท้ายมีเอกสิทธิ์ที่จะรับพยานส่วนตัวว่าการเรียกของประธานเนลสันมาจากพระผู้เป็นเจ้า” เรื่องราวของการเปลี่ยนใจเลื่อมใสของแอลมาจากการรับฟังศาสดาพยากรณ์อบินาไดแสดงหลักฐานเพิ่มเติมว่าการเปิดเผยเกี่ยวกับศาสดาพยากรณ์มีให้แก่เราทุกคน (ดู โมไซยาห์ 13:5; 17:2)

  2. “เรามีศาสดาพยากรณ์หรือเราไม่มีอะไรเลย; และการมีศาสดาพยากรณ์ เราก็มีทุกสิ่ง” (กอร์ดอน บี. ฮิงค์ลีย์, “We Thank Thee, O God, for a Prophet,” Ensign, Jan. 1974, 122)

  3. “พวกเขาเริ่มไม่เชื่อในวิญญาณแห่งการพยากรณ์และในวิญญาณแห่งการเปิดเผย; และการพิพากษาของพระผู้เป็นเจ้าจ้องหน้าพวกเขาอยู่” (ฮีลามัน 4:23; ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 11:25) ด้วย “เราร้องเพลงและทำอย่างต่อเนื่องว่า “เราขอบพระทัยสำหรับศาสดาเพื่อพาเราอยู่ในยุคสุดท้าย’ มีหลายคนที่ [ควร] เขียนบันทึกว่า: ‘ท่านนำเราให้เหมาะกับความคิดเพ้อฝันและความตั้งใจของเราเอง’” (คำสอนของประธานศาสนจักร: ฮีเบอร์ เจ. แกรนท์ [2002], 80)

  4. “บางครั้งเราจะได้รับคำแนะนำที่เราไม่เข้าใจหรือดูเหมือนจะใช้ไม่ได้กับเรา แม้หลังจากสวดอ้อนวอนและไตร่ตรองอย่างถี่ถ้วนแล้ว อย่าละทิ้งคำแนะนำนั้น แต่ยึดไว้ให้มั่น หากคนที่ท่านไว้ใจยื่นสิ่งที่ดูเหมือนไม่เป็นอะไรมากไปกว่าทรายพร้อมกับคำสัญญาว่าข้างในมีทองคำ ท่านอาจถือมันไว้ในมือสักพักอย่างชาญฉลาดแล้วเขย่าเบาๆ ทุกครั้งที่ข้าพเจ้าทำเช่นนั้นโดยได้รับคำแนะนำจากศาสดาพยากรณ์ หลังจากนั้นไม่นานเกล็ดทองคำก็เริ่มปรากฏขึ้นและข้าพเจ้ารู้สึกสำนึกคุณ” (Henry B. Eyring, “Finding Safety in Counsel,” Ensign, May 1997, 26; ดู 3 นีไฟ 1:13; หลักคำสอนและพันธสัญญา 1:14)

  5. ดู 2 นีไฟ 4:17–18 “อย่ากล่าวโทษข้าพเจ้าเพราะความบกพร่องของข้าพเจ้า, หรือทั้งบิดาข้าพเจ้า, เพราะความบกพร่องของท่าน, … แต่แทนที่จะทำเช่นนั้นจงน้อมขอบพระทัยพระผู้เป็นเจ้าที่พระองค์ทรงแสดงให้ความบกพร่องของเราประจักษ์แก่ท่าน, เพื่อท่านจะเรียนรู้ให้มีปัญญากว่าที่เรามีมา” (มอรมอน 9:31)

  6. ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 3:6–8; ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 93:47 ด้วย

  7. หลักคำสอนและพันธสัญญา 29:16

  8. ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 84:97; ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 87:6 ด้วย

  9. หลักคำสอนและพันธสัญญา 45:26, 27

  10. ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 1:38

  11. โฮเชยา 2:18 “เพราะเราจะเปิดเผยตัวเราจากสวรรค์ด้วยอำนาจและรัศมีภาพมากมาย, พร้อมด้วยไพร่พลทั้งปวงในนั้น, และดำรงอยู่ในความชอบธรรมกับมนุษย์บนแผ่นดินโลกหนึ่งพันปี, และคนชั่วร้ายจะไม่คงอยู่” (หลักคำสอนและพันธสัญญา 29:11)

  12. ดู 1 นีไฟ 22:16–17; ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 59:23 ด้วย

  13. “เพราะดูเถิด, พวกเขาปฎิเสธคำของศาสดาพยากรณ์ ด้วยเหตุนี้, หากบิดาข้าพเจ้าจะอยู่ในแผ่นดินนั้นหลังจากท่านได้รับพระบัญชาให้หลบหนีออกจากแผ่นดินนั้น, ดูเถิด, ท่านจะตายด้วย” (1 นีไฟ 3:18; ดู 2 นีไฟ 26:3; หลักคำสอนและพันธสัญญา 90:5) ด้วย

  14. เอ็ม. รัสเซลล์ บัลลาร์ด, “เจ้าจะรับคำของเรา,” เลียโฮนา, ก.ค. 2001, 80.

  15. รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน, “ขอ หา เคาะ,” เลียโฮนา, พ.ย. 2009, 101. “ไม่มีใครจะมีความสุขได้มากไปกว่าการเชื่อฟังคำแนะนำของศาสดาพยากรณ์ที่มีชีวิต” (The Teachings of Lorenzo Snow, ed. Clyde J. Williams [1996], 86)

  16. “เฝ้าดูผู้ที่ควบคุมดูแลในศาสนจักรวันนี้หรือพรุ่งนี้ และกำหนดรูปแบบชีวิตของท่านตามพวกเขา แทนที่จะจมอยู่กับวิธีที่ศาสดาพยากรณ์ในสมัยโบราณอาจมองเห็น คิด หรือพูด” (The Teachings of Harold B. Lee [1996], 525)

  17. ประธานสเป็นเซอร์ ดับเบิลยู. คิมบัลล์เคยกล่าวว่า “ผู้ที่ประดับสุสานของศาสดาพยากรณ์ที่ตายไปแล้วตอนนี้เริ่มเอาหินขว้างใส่ศาสดาพยากรณ์ที่มีชีวิต” (The Teachings of Spencer W. Kimball, ed. Edward L. Kimball [1982], 462) “ถ้อยคำสำคัญที่สุดซึ่งเราสามารถได้ยิน ไตร่ตรอง และทำตามคือถ้อยคำที่เปิดเผยผ่านศาสดาพยากรณ์ที่มีชีวิตของเรา” (โรนัลด์ เอ. ราสแบนด์, “เรื่องจิตวิญญาณข้าพเจ้า,” เลียโฮนา, พ.ย. 2021, 40)

  18. “เมื่อเราได้ยินคำแนะนำของพระเจ้าผ่านถ้อยคำของประธานศาสนจักร เราควรตอบรับทันทีด้วยความยินดี” (เอ็ม. รัสเซล บัลลาร์ด, คำของเขาเจ้าจงรับ,” เลียโฮนา, ก.ค. 2001)

  19. “ศาสนจักรของพระเยซูคริสต์ได้รับการนำโดยศาสดาพยากรณ์และอัครสาวกที่มีชีวิตอยู่ตลอดมา แม้พวกท่านจะเป็นมรรตัยและมีความบกพร่องของมนุษย์ แต่ผู้รับใช้ของพระเจ้าได้รับการดลใจให้ช่วยเราหลีกเลี่ยงอุปสรรคที่เป็นภัยต่อชีวิตทางวิญญาณและช่วยให้เราผ่านพ้นความเป็นมรรตัยไปสู่จุดหมายสูงสุดแห่งสุดท้ายบนสวรรค์ได้อย่างปลอดภัย” (เอ็ม. รัสเซลล์ บัลลาร์ด, “พระผู้เป็นเจ้าทรงกุมหางเสือ,” เลียโฮนา, ต.ค. 2015)

  20. Neal A. Maxwell, “A More Determined Discipleship,” Ensign, Feb. 1979, 69, 70.

  21. Richard L. Evans, “Foundations of a Happy Home,” in Conference Report, Oct. 1964, 135–136.

  22. ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 123:11; ดู โรเบิร์ต ดี. เฮลส์, “หน้าที่ของเราต่อพระผู้เป็นเจ้า: งานเผยแผ่ของบิดามารดาและผู้นำต่ออนุชนรุ่นหลัง,” เลียโฮนา, พ.ค. 2010, 118 ด้วย

  23. ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 52:14

  24. หลักคำสอนและพันธสัญญา 101:54

  25. ดู โมไซยาห์ 26:1–4

  26. 2 พงศ์กษัตริย์ 5:8

  27. “เจ้าจงเอาใจใส่ถ้อยคำและบัญญัติทั้งหมดของเขา ซึ่งเขาจะให้แก่เจ้าเมื่อเขาได้รับมัน, … เพราะโดยทำสิ่งเหล่านี้ … พระเจ้า พระผู้เป็นเจ้าจะทรงทำให้พลังแห่งความมืดกระจายไปต่อหน้าเจ้า, และทำให้ฟ้าสวรรค์สั่นสะเทือนเพื่อความดีของเจ้า, และรัศมีภาพของพระนามของพระองค์” (หลักคำสอนและพันธสัญญา 21:4, 6) “ไม่มีผู้ใดที่เคยปฏิบัติตามคำสอนหรือรับคำแนะนำหรือคำปรึกษาจากผู้ซึ่งเป็นตัวแทนของพระผู้เป็นเจ้าเคยหลงทางไป” (Doctrines of Salvation: Sermons and Writings of Joseph Fielding Smith, ed. Bruce R. McConkie [1998], 243)

  28. เอเสเคียล 3:27 “เพราะคำของเขาเจ้าจงรับ, ราวกับมาจากปากเราเอง, ด้วยความอดทนอย่างที่สุดและศรัทธา” (หลักคำสอนและพันธสัญญา 21:5)

  29. ดู 1 นีไฟ 22:20–21; ดู 3 นีไฟ 20:23 ด้วย