เอ็ลเดอร์โฮเซ เอ. เทียเซียรา

เอ็ลเดอร์โฮเซ เอ. เทียเซียรานึกถึงบทเรียนที่ท่านเรียนรู้สมัยเป็นเด็กในโปรตุเกส ระหว่างงานรวมญาติ ท่านแอบไปตกปลา ท่านรู้สึกว่าท่านควรบอกพ่อแม่ว่าท่านจะไปไหน แต่ท่านตัดสินใจไม่บอกเพราะพวกท่านคุยกับคนอื่นอยู่

หลายชั่วโมงต่อมา บิดามารดาที่วิตกทุกข์ร้อนพบท่านอยู่ริมตลิ่ง จากประสบการณ์นั้น ท่านเรียนรู้ว่าต้องเชื่อฟังไม่เฉพาะบิดามารดาเท่านั้นแต่เชื่อฟังสุรเสียงกระซิบของพระวิญญาณบริสุทธิ์ด้วย

เอ็ลเดอร์เทียเซียราสร้างนิสัยของการเอาใจใส่สุรเสียงสงบแผ่วเบานับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ท่านกับครอบครัวรู้จักพระกิตติคุณในปี 1976 หลังจากโปรตุเกสเปิดรับงานเผยแผ่ศาสนา ท่านรับบัพติศมาเมื่ออายุ 16 ปีและต่อมารับใช้เป็นผู้สอนศาสนาในคณะเผยแผ่ลิสบอน โปรตุเกส

“การเลือกของเรามีอำนาจอันปฏิเสธมิได้ที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตเรา” เอ็ลเดอร์เทียเซียราผู้ได้รับการสนับสนุนเป็นสมาชิกในฝ่ายประธานโควรัมสาวกเจ็ดสิบเมื่อวันที่ 31 มีนาคม ค.ศ. 2018 กล่าว “ของประทานนี้เป็นหมายพิเศษของความวางใจในเราและในเวลาเดียวกันก็เป็นความรับผิดชอบส่วนตัวที่พึงเก็บไว้ใช้อย่างฉลาด” ท่านสอนในการประชุมใหญ่สามัญเดือนเมษายน ค.ศ. 2009

เอ็ลเดอร์เทียเซียราสำเร็จการศึกษาปริญญาสาขาการบัญชีและการบริหารธุรกิจ ท่านทำงานเป็นหัวหน้าผู้ตรวจสอบบัญชีระหว่างประเทศให้ศาสนจักร ท่านเคยประจำการกองทัพอากาศโปรตุเกสอันเป็นส่วนหนึ่งของหน่วยนาโตด้วย ระหว่างนั้น ท่านได้รับเรียกเป็นผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ระดับประเทศสำหรับศาสนจักร ไม่นานหลังจากนั้น ท่านพบมาเรีย ฟิโลเมนา โลเปส เตเลส กริโลภรรยาท่าน พวกท่านแต่งงานกันเมื่อปี 1984 ในพระวิหารเบิร์น สวิตเซอร์แลนด์และมีบุตรสามคน

โฮเซ ออกัสโต เทียเซียรา ดาซิลวาเกิดที่เมืองวีลารีอัล โปรตุเกสเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1961 ท่านเคยรับใช้เป็นที่ปรึกษาในฝ่ายอธิการ ประธานท้องถิ่น ประธานสเตค สาวกเจ็ดสิบภาค และประธานคณะเผยแผ่บราซิล เซาเปาลู ท่านได้รับการสนับสนุนเป็นสาวกเจ็ดสิบเจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่เมื่อวันที่ 5 เมษายน ค.ศ. 2008 ปัจจุบันท่านรับใช้เป็นประธานภาคอเมริกาใต้ตอนใต้และจะเริ่มรับใช้ในฝ่ายประธานโควรัมสาวกเจ็ดสิบวันที่ 1 สิงหาคม ค.ศ. 2018

เหนือสิ่งอื่นใด เอ็ลเดอร์เทียเซียราแนะนำเราในการประชุมใหญ่สามัญเดือนเมษายน ค.ศ. 2015 ให้ “ขยายความเข้าใจเกี่ยวกับพระผู้ช่วยให้รอด … สิ่งใดที่เราทำได้ในวันนี้จงอย่ารอไว้ทำวันพรุ่งนี้ ถึงเวลาแล้วที่เราต้องมาหาพระคริสต์”