ฉันจะจากไปไหม?

ภาพ

สตรีมองภาพพระผู้ช่วยให้รอด

ใช้ผู้แสดงแบบ

หลังจากฉันเข้าร่วมศาสนจักรได้ไม่นาน ผู้นำสมาคมสงเคราะห์ล้อเล่นเกี่ยวกับสถานการณ์ตลกๆ ทันใดนั้นเธอก็เริ่มพูดตลกเกี่ยวกับฉันต่อหน้าทุกคน ฉันรู้สึกไม่สบายใจและปล่อยให้ตนเองขุ่นเคือง

ความคิดแรกของฉันคือฉันจะไม่กลับไปที่วอร์ดอีกแล้ว แล้วฉันก็เปิดพระคัมภีร์เพื่อพยายามหาการปลอบโยน ขณะที่ฉันอ่าน ฉันพบข้อหนึ่งที่พระเยซูตรัสถามผู้ที่ไม่พอใจกับคำสอนของพระองค์ว่า “พวกท่านก็จะจากเราไปด้วยหรือ?” (ยอห์น 6:67)

ฉันตอบในใจทันทีว่า “ไม่ ฉันจะไม่จากไป!”

ฉันโทรหาประธานสมาคมสงเคราะห์ผู้แนะนำให้ฉันโทรหาซิสเตอร์ที่พูดติดตลกเกี่ยวกับฉัน ฉันโทรหาเธอและแสดงความรู้สึกของฉันออกไป เราสรุปได้ว่าอารมณ์ขันเป็นสิ่งที่ดี แต่เราไม่ควรล้อเลียนคนที่เราไม่รู้จักต่อหน้ากลุ่มคน และเรายังพูดถึงการมีความเห็นอกเห็นใจต่อสมาชิกใหม่ของวอร์ดด้วย

ฉันเข้าวอร์ดนั้นต่อไปขณะอยู่ในเมืองนั้น ฉันมีประสบการณ์ที่ดีมากมายหลังจากเปลี่ยนใจเลื่อมใสพระกิตติคุณ

ฉันพบถ้อยคำที่เป็นประโยชน์เหล่านี้จากผู้นำศาสนจักรของเราในการเดินทางส่วนตัวเพื่อเอาชนะความขุ่นเคือง

“ถ้าใครบางคนพูดหรือทำบางอย่างให้เราขุ่นเคือง ข้อผูกมัดประการแรกของเราคือไม่ขุ่นเคือง และจากนั้นก็พูดคุยกับบุคคลดังกล่าวเป็นการส่วนตัว ด้วยความซื่อสัตย์ และตรงไปตรงมา”¹

“ข้าพเจ้าสัญญากับท่าน เมื่อท่านเลือกที่จะไม่ขุ่นเคือง … ท่านจะรู้สึกถึงความรักและการเห็นชอบของ [พระผู้ช่วยให้รอด]”²

ฉันรู้สึกขอบคุณที่ฉันเลือกไม่ไปจากศาสนจักรเพราะคำพูดที่ไม่ใส่ใจผู้อื่น และฉันสำนึกคุณที่เป็นสมาชิกของศาสนจักรที่ได้รับการฟื้นฟู ซึ่งฉันจะได้รับพลังที่จะซื่อสัตย์และเดินทางต่อไปบนเส้นทางของการเป็นสานุศิษย์ ฉันซาบซึ้งกับคำแนะนำของศาสดาพยากรณ์และอัครสาวก ผู้สอนเราถึงวิธีปฏิสัมพันธ์กับพี่น้องของเราในพระกิตติคุณ

ฉันสามารถซื่อสัตย์ต่อไปและเลือกที่จะ ไม่ ขุ่นเคืองได้ ฉันสามารถจดจ่อกับความพยายามของตนเองที่จะเป็นเหมือนพระคริสต์และรู้สึกถึงความรักและความพอพระทัยของพระผู้ช่วยให้รอด

ฉันจะจากไปไหม? ไม่ ฉันมีประจักษ์พยานว่านี่คือศาสนจักรที่ได้รับการฟื้นฟูของพระเยซูคริสต์บนแผ่นดินโลกในปัจจุบันและมี “ถ้อยคำแห่งชีวิตนิรันดร์” (ยอห์น 6:68)