2022
3 วิธีให้การประชุมใหญ่สามัญเปลี่ยนชีวิตของท่าน
กันยายน 2022


ดิจิทัลเท่านั้น: คนหนุ่มสาว

3 วิธีให้การประชุมใหญ่สามัญเปลี่ยนชีวิตของท่าน

ต่อไปนี้คือบางส่วนของวิธีเดินออกจากการประชุมใหญ่พร้อมด้วยแผนที่เป็นรูปธรรม

ภาพ
คู่สามีภรรยากำลังรับชมการประชุมด้วยกันที่บ้าน

ภาพถ่ายโดยครอบครัวคัวฟูส์

ฉันเรียนรู้หลักธรรมใหม่เสมอเมื่อฉันฟังการประชุมใหญ่สามัญ ฉันได้รับการย้ำเตือนถึงความรักของพระผู้เป็นเจ้าสำหรับตัวฉัน ฉันเข้าใจสิ่งใหม่ๆ เกี่ยวกับศาสนจักรและการชดใช้ของพระเยซูคริสต์ และฉันเห็นพระคัมภีร์ในมุมมองใหม่ นี่คือโอกาสอันยอดเยี่ยมที่ท่านจะได้ฟังคำกล่าวจากศาสดาพยากรณ์และอัครสาวกที่ยังมีชีวิตอยู่

แต่บางครั้งฉันก็ลำบากในการเปลี่ยนความรู้และความเข้าใจใหม่ๆ ให้กลายเป็นสิ่งที่ฉันสามารถลงมือทำได้ และตามที่เอ็ลเดอร์เดล จี. เรนลันด์แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองอธิบายว่า “พรส่วนใหญ่ที่พระผู้เป็นเจ้าทรงปรารถนาจะประทานแก่เราเรียกร้องให้เราทำส่วนของเรา—ตามศรัทธาของเราในพระเยซูคริสต์ ศรัทธาในพระผู้ช่วยให้รอดเป็นหลักธรรมแห่งการกระทำและพลัง”1

เมื่อไม่นานมานี้ ฉันพยายามทำตามคำแนะนำนั้นและออกจากการประชุมโดยรู้ว่าจะปฏิบัติอย่างไรอย่างแน่ชัด ต่อไปนี้คือเคล็ดลับสามข้อในการสร้างแผนหลังการประชุมใหญ่ที่สามารถนำไปปฏิบัติได้

1. มาพร้อมกับคำถามที่เฉพาะเจาะจง

เราได้ยินเรื่องนี้ตลอดเวลาแต่นี่เป็นเรื่องจริง! การระบุให้แน่ชัดว่าท่านกำลังค้นหาอะไรสามารถช่วยให้ท่านมุ่งเน้นไปที่การศึกษาและการเตรียมตัวของท่านได้ และช่วยให้ท่านได้รับข้อคิดที่เจาะจงยิ่งขึ้นขณะที่ท่านรับชมหรือฟังการประชุมใหญ่สามัญ

และหากท่านกำลังมองหาสิ่งที่สามารถนำไปปฏิบัติได้ ให้ลองใส่คำกริยาลงในคำถามของท่านด้วย ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างบางส่วน

  • ฉันสามารถศึกษาพระคัมภีร์ให้มีประสิทธิภาพขึ้นได้อย่างไร?

  • ฉันสามารถทำอะไรได้บ้างเพื่อให้ได้ประโยชน์มากขึ้นจากการนมัสการในพระวิหาร?

  • ฉันสามารถเสริมหลักธรรมอะไรข้อหนึ่งให้กับชีวิตของฉัน ซึ่งจะทำให้ฉันใกล้ชิดกับพระบิดาบนสวรรค์และพระผู้ช่วยให้รอดมากขึ้น?

2. นึกถึงผู้อื่นเสมอ

แม้ว่าการประชุมจะมีข้อความที่น่าประทับใจเพื่อช่วยให้เราปรับปรุงชีวิตของเรา แต่เรายังต้องให้ความสำคัญกับการปรับปรุงความสัมพันธ์ของเราและตระหนักถึงความต้องการของผู้คนรอบข้างอยู่เสมอ การเข้าร่วมประชุมโดยนึกถึงบางคนในใจ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมห้อง คู่สมรส สมาชิกในครอบครัว เพื่อน ล้วนแต่ช่วยให้ท่านมีประสบการณ์ในการประชุมใหญ่สามัญที่แตกต่างออกไป ท่านอาจรู้สึกถึงการกระตุ้นเตือนให้อยากรู้จักผู้ที่ท่านปฏิบัติศาสนกิจด้วยมากขึ้น ทำให้ความสัมพันธ์เก่าแน่นแฟ้นขึ้น หรือมองหาคนที่ท่านไม่รู้จักเป็นอย่างดีเพื่อทำความรู้จักให้มากขึ้น

ซิสเตอร์แชรอน ยูแบงค์ ที่ปรึกษาที่หนึ่งในฝ่ายประธานสมาคมสงเคราะห์สามัญ กล่าวว่า “พี่น้องทั้งหลาย โดยผ่านการปฏิบัติศาสนกิจ เงินบริจาค เวลา และความรักของท่าน ท่านได้เป็นคำตอบให้คำสวดอ้อนวอนมากมาย แต่ยังมีอีกมากให้เราทำ ในฐานะสมาชิกที่รับบัพติศมาแล้วของศาสนจักร เราอยู่ภายใต้พันธสัญญาที่จะดูแลคนขัดสน ความพยายามส่วนตัวของเราไม่จำเป็นต้องใช้เงินหรือไปสถานที่ไกลๆ แต่ต้องใช้การนำทางของพระวิญญาณศักดิ์สิทธิ์และความเต็มใจที่จะทูลพระเจ้าว่า ‘ข้า‍พระ‍องค์​อยู่​นี่ ขอ​ทรง​ใช้​ข้า‍พระ‍องค์​เถิด’”2

3. จงเปิดรับคำตอบจากพระวิญญาณ

คำตอบบางข้ออาจไม่ได้มาจากสิ่งที่ผู้พูดพูดจริงๆ ตระหนักถึงสิ่งที่พระวิญญาณพยายามจะบอกท่านผ่านความคิดและความรู้สึก เอ็ลเดอร์ดีเทอร์ เอฟ. อุคท์ดอร์ฟแห่งโควรัมอัครสาวกสิบสอง กล่าวว่า “คำตอบการสวดอ้อนวอนที่เจาะจงของท่านอาจมาจากคำปราศรัยเรื่องใดเรื่องหนึ่งหรือข้อความใดข้อความหนึ่ง หลายครั้งคำตอบอาจมาในรูปของคำพูด วลี หรือเพลงที่ดูเหมือนไม่เกี่ยวข้องกัน ใจที่เปี่ยมด้วยความกตัญญูต่อพรในชีวิตและความปรารถนาที่จริงใจต้องการได้ยินและทำตามคำแนะนำจะเตรียมทางให้การเปิดเผยส่วนตัว”3

และเมื่อเรารับการเปิดเผยดังกล่าวแล้ว สิ่งสำคัญคือการเขียนบันทึกลงไป แม้จะเป็นเวลาหลังจากสัมผัสประสบการณ์ทางวิญญาณที่เด่นชัดในการประชุมใหญ่ ความตั้งใจแน่วแน่ในทางที่ดีของเราอาจจางหายไปหากเราจำไม่ได้อย่างแน่ชัดว่า ถ้อยคำหรือเรื่องราวใดที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับเราหรือสิ่งใดที่เราต้องการปรับปรุง ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน แนะนำให้เรา “สวดอ้อนวอนในพระนามของพระเยซูคริสต์เกี่ยวกับข้อกังวล ความกลัว ความอ่อนแอของท่าน แน่นอน ความปรารถนาอย่างยิ่งของใจท่าน จากนั้นจงฟัง! เขียนความคิดที่เข้ามาในจิตใจท่าน บันทึกความรู้สึกและทำตามที่ท่านได้รับการกระตุ้นเตือนให้ทำ เมื่อท่านทำกระบวนการนี้ซ้ำๆ วันแล้ววันเล่า เดือนแล้วเดือนเล่า ปีแล้วปีเล่า ท่านจะ ‘เติบโตไปสู่หลักธรรมแห่งการเปิดเผย’”4

การขอให้พระผู้เป็นเจ้าช่วยเราดำเนินการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ในชีวิตเราจะทำให้การประชุมใหญ่สามัญกลายเป็นเรื่องของประสบการณ์ส่วนบุคคลมากยิ่งขึ้น ไม่จำเป็นต้องเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่หรือยากลำบาก แค่ท่านนำหนึ่งหรือสองสิ่งที่ได้รับไปใช้ในชีวิตของท่านก็ถือว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่งแล้ว เอ็ลเดอร์ ไมเคิล เอ. ดันน์ แห่งสาวกเจ็ดสิบอธิบายว่า “เพราะทุกความพยายามที่เราจะเปลี่ยนแปลง—ไม่ว่าจะดูเล็กน้อยเพียงใด—อาจส่งผลยิ่งใหญ่ที่สุดต่อชีวิตเราได้เสมอ”5 พระเจ้าทรงเห็นความพยายามของเราและจะทรงคอยชี้แนะเราต่อไปขณะที่เราขอคำแนะนำจากพระองค์และทบทวนสิ่งที่เราเรียนรู้ในการประชุมใหญ่สามัญ