เปลี่ยนมุมมองของฉันเกี่ยวกับความลำบากจากโรคเรื้อรัง

ในตอนแรกฉันคิดว่าฉันทำสิ่งที่ผิดฉันจึงสมควรได้รับโรคนี้ และถ้าฉันเปลี่ยนนิสัยของฉันได้ ฉันก็สามารถ “ได้รับการรักษา”

ฉันค้นคว้าอย่างเข้มข้นและลอง “การแก้ปัญหา” มากมาย ซึ่งไม่ค่อยช่วยอะไรเลย

เมื่อฉันหันมาหาคำตอบจากพระบิดาบนสวรรค์ พระวิญญาณทรงช่วยให้ฉันรู้ว่า เราไม่ได้ถูกกล่าวโทษสำหรับการต่อสู้ดิ้นรนมากมายที่เราต้องเผชิญ ความท้าทายบางอย่างแค่มาพร้อมกับความเป็นมรรตัยเท่านั้น เอ็ลเดอร์แอนโธนี ดี. เพอร์กินส์แห่งสาวกเจ็ดสิบกล่าวว่า “คความทุกข์ไม่ได้หมายความว่าพระผู้เป็นเจ้าไม่พอพระทัยชีวิตท่าน” โดยทิ้งการกล่าวโทษและการหันไปหาศรัทธา ฉันสามารถพบความหวังและสันติได้

ฉันเชื่อว่าฉันจะได้รับการเยียวยาโดยสมบูรณ์หากฉันมีศรัทธาเพียงพอ และฉันก็ผิดหวังอยู่เสมอเมื่อฉันไม่ได้สิ่งที่ตั้งใจ และสุดท้ายฉันก็เรียนรู้ว่าสิ่งสำคัญคือการมีศรัทธาว่าจะไม่ได้รับการเยียวยา

ฉันชอบข้อความของเอ็ลเดอร์เดวิด เอ. เบดนาร์ แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสอง ข้อความที่แบ่งปันเรื่องราวของชายหนุ่มผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ขอพรฐานะปุโรหิตของการเยียวยา แต่เอ็ลเดอร์เบดนาร์บอกเขาว่า หากจะได้รับการเยียวยาเขาจำเป็นต้องมีศรัทธาที่จะไม่ได้รับการเยียวยาด้วย ท่านกล่าวว่า “[เขา]ต้องเอาชนะ ‘ความเป็นมนุษย์ปุถุชน’ ผ่านการชดใช้ของพระเจ้าพระเยซูคริสต์ ซึ่งคือแนวโน้มที่เราทุกคนจะเรียกร้องอย่างไม่อดทน ดึงดันขอพรที่เราต้องการและเชื่อว่าเราสมควรได้รับ”

ศรัทธาในพระผู้เป็นเจ้าสามารถนำไปสู่ปาฏิหาริย์ได้ หากนั่นคือสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้าทรงประสงค์ แต่ถ้าเราไม่ได้พบกับปาฏิหาริย์ เราจะทำอะไรต่อไปได้บ้าง?

ในพระคัมภีร์พันธสัญญาใหม่ เปาโลกล่าวถึงการสวดอ้อนวอนเพื่อขจัด “หนามในเนื้อ” (ดู 2 โครินธ์ 12:7) แม้ว่าปัญหาของเขาจะยังไม่ได้รับการขจัดในทันที แต่เปาโลเรียนรู้ที่จะวางใจในพระผู้เป็นเจ้าและพึ่งพาพระองค์เพื่อได้รับความเข้มแข็งที่จะรับมือกับความท้าทายที่ยากลำบากได้ “การมีพระคุณของเราก็เพียงพอกับเจ้า เพราะความอ่อนแอมีที่ไหน ฤทธานุภาพของเราก็ปรากฎเต็มที่นั้น” (2 โครินธ์ 12:9)

“หนามในเนื้อ” ของฉันช่วยให้ฉันพึ่งพาพระผู้เป็นเจ้าได้ เปลี่ยนความอ่อนแอของฉันให้กลายเป็นความเข้มแข็ง ฉันเรียนรู้ว่าการเอาชนะความท้าทายต่างๆ สามารถหมายถึงการจัดการสิ่งเหล่านั้นได้โดยอาศัยความเข้มแข็งจากพระผู้ช่วยให้รอด มากกว่าจะขจัดสิ่งเหล่านั้นทั้งหมดออกไป

ศรัทธาในพระผู้เป็นเจ้าสามารถนำไปสู่ปาฏิหาริย์ได้ หากนั่นคือพระประสงค์ของพระบิดาบนสวรรค์ แต่ถ้าเราไม่ได้สัมผัสกับปาฏิหาริย์ที่เราแสวงหาในแบบที่เราหวังไว้ เราก็สามารถเห็นพระหัตถ์ของพระองค์ทำงานอันแสนอัศจรรย์ตลอดชั่วชีวิตของเรา ตามที่ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน สอนว่า “จงทำงานทางวิญญาณเพื่อแสวงหาปาฏิหาริย์ สวดอ้อนวอนทูลขอให้พระผู้เป็นเจ้าทรงช่วยท่านใช้ศรัทธาเช่นนั้น ข้าพเจ้าสัญญาว่าท่านจะประสบด้วยตนเองว่าพระเยซูคริสต์ ข้าพเจ้าสัญญาว่าท่านจะประสบด้วยตนเองว่าพระเยซูคริสต์ ‘ประ‌ทานกำลังแก่คน‍อ่อน‍เปลี้ย และผู้ไม่‍มีพลังนั้นพระ‍องค์ทรงให้มีเรี่ยว‍แรงมาก’” อิสยาห์ 40:29)

แง่มุมที่เจ็บปวดของการมีโรค PCOS คือการมีบุตรไม่ได้ ครั้งแรกที่ฉันตระหนักว่าฉันจะมีลูกยาก ฉันรู้สึกโกรธและถูกทรยศ

เมื่อฉันพึ่งพาพระคริสต์ ฉันวางใจในพระประสงค์และจังหวะเวลาของพระผู้เป็นเจ้า

ฉันไม่รู้ว่าจะมีลูกได้ในชีวิตนี้หรือไม่แต่ฉันเชื่อตามที่เอ็ลเดอร์เจฟฟรีย์ อาร์. ฮอลแลนด์แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองสอนว่า “เรามีเหตุผลทุกประการที่จะหวังพร แม้ยิ่งใหญ่กว่าพรที่เราเคยได้รับ”

แม้ว่าความท้าทายของท่านจะไม่ได้รับการแก้ไขแต่ก็มีความหวังเสมอ ไม่ว่าจะเป็นความหวังในปีติ ความหวังที่จะได้ช่วยเหลือผู้อื่นผ่านความเห็นอกเห็นใจที่ท่านได้รับจากประสบการณ์ของท่าน และความหวังว่าจะได้รับพรมากมาย

ฉันยังคงดิ้นรนในมุมมองที่ไม่ดีต่อสุขภาพเกี่ยวกับความท้าทายของฉันบางครั้ง แต่เมื่อเป็นเช่นนั้น ฉันมองไปที่พระผู้ช่วยให้รอดและคำสัญญาของพระองค์ ถ้าฉันพยายามปรับปรุงตนเองทีละน้อยในแต่ละวัน วางใจพระผู้เป็นเจ้า และขอให้พระองค์และคนอื่นช่วยเหลือ อนาคตของฉันจะเต็มไปด้วยปีติและพร—อนาคตของท่านก็เช่นกัน