2 นีไฟ 27

นึกถึงคนที่เคยทำสิ่งอัศจรรย์ให้ท่านหรือคนที่ท่านรู้จัก

• บุคคลคนนี้ทำสิ่งใด?

• ท่านรู้สึกอย่างไรกับบุคคลที่ทำสิ่งนี้? เพราะเหตุใด?

ใน 2 นีไฟ 27 พระเจ้าทรงเป็นพยานถึงสิ่งอัศจรรย์ที่พระองค์จะทรงทำเพื่อช่วยเราผ่านพ้นความชั่วร้ายและการละทิ้งความเชื่อในยุคสุดท้าย ขณะศึกษา ไตร่ตรองว่าสิ่งที่ท่านเรียนรู้มีผลต่อความรู้สึกที่ท่านมีต่อพระเจ้าอย่างไร

อ่าน 2 นีไฟ 27:25–26 แล้วมองหาสิ่งที่พระเจ้าทรงสัญญาว่าพระองค์จะทรงทำ

ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันกล่าวว่า “ปาฏิหาริย์จะรวมถึงการออกมาของพระคัมภีร์มอรมอนและการฟื้นฟูพระกิตติคุณ” (“พยานแห่งพระคัมภีร์” เลียโฮนา, พ.ย. 2007, 56)

ความจริงอย่างหนึ่งที่เราจะเรียนรู้ได้จากคำพยากรณ์นี้คือ พระเจ้าทรงกระทำงานอัศจรรย์และการอันน่าพิศวงผ่านการออกมาของพระคัมภีร์มอรมอนและการฟื้นฟูพระกิตติคุณของพระองค์

• ท่านรู้อะไรเกี่ยวกับพระคัมภีร์มอรมอนและพระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟูซึ่งอาจเป็นเหตุให้เรียกว่า “อัศจรรย์”?

เนื้อหาส่วนใหญ่ใน 2 นีไฟ 27 มุ่งเน้นไปที่การออกมาของพระคัมภีร์มอรมอน ก่อนที่จะศึกษาเพิ่มเติมจากบทนี้ โปรดใช้เวลาสักครู่เพื่อไตร่ตรองความรู้สึกของท่านเองเกี่ยวกับพระคัมภีร์มอรมอน โดยส่วนตัวแล้วท่านรู้สึกว่าสิ่งนั้นอัศจรรย์หรือไม่? เหตุใดจึงรู้สึกหรือไม่รู้สึกเช่นนั้น? ท่านสงสัยอะไร? ขณะศึกษา ให้มองหาคำสอนที่จะช่วยให้ท่านเห็นพระคัมภีร์มอรมอนเป็น “งานอัศจรรย์และการอันน่าพิศวง” ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

นีไฟพยากรณ์ว่าพระคัมภีร์มอรมอนจะออกมาช่วยแก้ปัญหาในยุคสุดท้าย (ดู 2 นีไฟ 27:6) และท่านยังเขียนว่าพระผู้เป็นเจ้าจะทรงให้พยานสองสามคนเห็นแผ่นจารึกของพระคัมภีร์มอรมอนที่ได้รับการแปลมาแล้วและเป็นพยานถึงความจริงของหนังสือเล่มนี้ต่อโลก (ดู 2 นีไฟ 27:12–14) จากนั้นนีไฟแบ่งปันคำพยากรณ์เกี่ยวกับรายละเอียดบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับการแปลพระคัมภีร์มอรมอน

• เหตุใดท่านจึงคิดว่าพระเจ้าทรงใช้โจเซฟ สมิธ ซึ่งเป็นคนไม่มีการศึกษาให้นำพระคัมภีร์มอรมอนออกมา?

อ่าน 2 นีไฟ 27:20–23 แล้วมองหาเหตุผลว่าเหตุใดพระเจ้าจึงทรงเลือกคนที่ไม่มีการศึกษาให้มาแปลพระคัมภีร์มอรมอน

• ท่านเรียนรู้อะไรเกี่ยวกับพระเจ้าจากข้อพระคัมภีร์เหล่านี้? การรู้เรื่องต่างๆ เกี่ยวกับพระองค์จะส่งผลต่อท่านอย่างไร?

• การออกมาของพระคัมภีร์มอรมอนเป็นหลักฐานยืนยันพระดำรัสของพระเจ้าอย่างไรว่า “เราสามารถทำงานของเราเองได้”? (ข้อที่ 21)

เอ็มมา สมิธ (1804–1879) ภรรยาของท่านศาสดาพยากรณ์เป็นพยานถึงความช่วยเหลืออันศักดิ์สิทธิ์ที่โจเซฟได้รับจากการแปลพระคัมภีร์มอรมอน:

ภาพ

เอ็มมา สมิธ

โจเซฟ สมิธไม่สามารถเขียนหรือบอกให้เขียนอย่างสอดคล้องกันด้วยถ้อยคำสละสลวย นับประสาอะไรกับการบอกให้เขียนหนังสืออย่างพระคัมภีร์มอรมอน และถึงแม้ดิฉันเป็นผู้มีส่วนร่วมในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ … “สิ่งอัศจรรย์และการอันน่าพิศวง” ทำให้ดิฉันประหลาดใจยิ่งนัก …

ความเชื่อของดิฉันคือพระคัมภีร์มอรมอนเป็นของแท้—ดิฉันไม่มีความสงสัยแม้แต่น้อยในเรื่องนี้ … ผู้รอบรู้ไม่น่าจะทำสิ่งนี้ได้ และสำหรับคนที่ไม่ได้ร่ำเรียนมาและขาดความรู้อย่างเขา นั่นเป็นไปไม่ได้เลย (Emma Smith, ใน “Last Testimony of Sister Emma,” The Saints’ Herald, Oct. 1, 1879, 290)

• จากสิ่งที่ท่านเรียนรู้ในวันนี้ การออกมาของพระคัมภีร์มอรมอนเป็น “งานอัศจรรย์และการอันน่าพิศวง” อย่างไร?

• การรู้ว่าพระเจ้าประทานพรนี้แก่เรามีผลต่อความรู้สึกของท่านที่มีต่อพระองค์อย่างไร?

• ท่านหรือผู้อื่นเคยได้รับประสบการณ์อะไรที่แสดงให้เห็นว่าพระคัมภีร์มอรมอนอัศจรรย์เพียงใด?

ดูตัวอย่างความอัศจรรย์ของพระคัมภีร์มอรมอนได้ที่ “Solving Life’s Problems with the Book of Mormon [การแก้ไขปัญหาชีวิตด้วยพระคัมภีร์มอรมอน]” (1:00) หรือ “พระคัมภีร์มอรมอน: ชีวิตท่านจะเป็นอย่างไรหากปราศจากพระคัมภีร์เล่มนี้” ตั้งแต่รหัสเวลา 5:38 ถึง 11:26 ดูวีดิทัศน์ทั้งสองเรื่องได้ที่ ChurchofJesusChrist.org.

ในบทเรียนก่อนหน้านี้ ขอให้ท่านนึกถึงความรู้สึกที่มีต่อพระคัมภีร์มอรมอน พิจารณาว่ามีความจริงใดที่ท่านศึกษาในวันนี้ที่ส่งผลต่อประจักษ์พยานเกี่ยวกับพระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์เล่มนี้หรือไม่ ในสมุดบันทึกการศึกษา บันทึกความคิดหรือความประทับใจที่ได้รับรวมทั้งการกระทำในอนาคตที่ท่านได้รับการกระตุ้นเตือนให้ทำ