เซมินารี
โมไซยาห์ 9–10: “ด้วยกำลังจากพระเจ้า”


“โมไซยาห์ 9–10: ‘ด้วยกำลังจากพระเจ้า,’” พระคัมภีร์มอรมอน คู่มือครู (2024)

“โมไซยาห์ 9–10,” พระคัมภีร์มอรมอน คู่มือครู

โมไซยาห์ 9–10

“ด้วยกำลังจากพระเจ้า”

ภาพ
เยาวชนกำลังสวดอ้อนวอน

เป็นไปได้หรือไม่ที่จะมุ่งเน้นไปยังสิ่งที่เราต้องการ เพื่อให้เราตัดสินใจโดยไม่พิจารณาผลที่ตามมาซึ่งอาจเกิดขึ้น? ซีนิฟฟ์ให้ความสำคัญกับการกลับไปยังดินแดนของนีไฟและสร้างเมืองใหม่ โดยละเลยที่จะพิจารณาผลเสียบางประการที่อาจมาจากการตัดสินใจของท่าน หลังจากประสบกับผลที่ตามมานั้น ซีนิฟฟ์และผู้คนของท่านก็หันไปหาพระเจ้าด้วยศรัทธา บทเรียนนี้จะช่วยให้ท่านตระหนักถึงวิธีที่จะได้รับกำลังจากพระเจ้า ขณะสวดอ้อนวอนและออกไปด้วยศรัทธา

ช่วยให้นักเรียนรับรู้ถึงพระวิญญาณบริสุทธิ์เตือนนักเรียนว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์จะทำให้พวกเขาเข้าใจถึงความสำคัญของหลักคำสอนหรือหลักธรรมของพระกิตติคุณ และสร้างแรงบันดาลใจให้พวกเขามีความปรารถนาที่จะดำเนินชีวิตตามพระกิตติคุณและแนวคิดว่าจะทำเช่นนั้นได้อย่างไร

การเตรียมของนักเรียน: เชื้อเชิญให้นักเรียนหานิยามของคำว่า มุ่งหวังเกินไป กระตุ้นให้พวกเขาเตรียมแบ่งปันสิ่งที่วัยรุ่นอาจมุ่งหวังเกินไปและความท้าทายที่อาจส่งผลตามมา

กิจกรรมการเรียนรู้ที่อาจทำได้

สุริยุปราคา

แสดงคำถามและภาพต่อไปนี้ หรือท่านอาจแสดงข้อความด้านล่างของเอ็ลเดอร์แกรีย์ อี. สตีเวนสันตอนเริ่มต้นชั้นเรียน แล้วตามด้วยการตั้งคำถามสองข้อ

  • ดวงอาทิตย์มีขนาดใหญ่กว่าดวงจันทร์ 400 เท่า แล้วดวงจันทร์จะทำให้เกิดอุปราคา หรือบังแสงและความอบอุ่นของดวงอาทิตย์ได้อย่างไรดังตัวอย่างในภาพต่อไปนี้?

ภาพ
สุริยุปราคา

หากนักเรียนไม่ทราบคำตอบ ให้อธิบายดังต่อไปนี้:

เนื่องจากดวงจันทร์อยู่ใกล้กับโลกมากกว่าดวงอาทิตย์ ขนาดของมันจึงดูใกล้เคียงกับดวงอาทิตย์และบดบังแสงสว่างได้ แม้บางสิ่งบางอย่างจะมีขนาดเล็กเท่าหัวแม่มือ สิ่งนั้นก็บดบังไม่ให้ท่านมองเห็นดวงอาทิตย์ได้ถ้าท่านถือมันไว้ใกล้ดวงตามากพอ

ท่านอาจเชื้อเชิญให้นักเรียนนำนิ้วหัวแม่มือมาไว้ใกล้ตา ก็จะปกปิดมุมมองจากสิ่งที่ใหญ่กว่าได้

เอ็ลเดอร์แกรีย์ อี. สตีเวนสัน แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองอธิบายว่าสุริยุปราคาเปรียบได้กับชีวิตทางวิญญาณของเราอย่างไร รับชม “อุปราคาทางวิญญาณ” (15:12) ที่พบได้ ChurchofJesusChrist.orgตั้งแต่รหัสเวลา 1:01 ถึง 3:53 หรืออ่านข้อความต่อไปนี้

ในลักษณะเดียวกันกับที่ดวงจันทร์ดวงเล็กมากสามารถบดบังดวงอาทิตย์ดวงมหึมา โดยดับแสงและความอบอุ่นของดวงอาทิตย์ได้ อุปราคา ทางวิญญาณ เกิดขึ้นได้เมื่อเรายอมให้สิ่งกีดขวางเล็กๆ น้อยๆ—คนที่เราพบเจอในชีวิตประจำวัน—เข้าใกล้จนบดบังความสำคัญ ความเจิดจ้า และความอบอุ่นของแสงสว่างจากพระเยซูคริสต์และพระกิตติคุณของพระองค์ (แกรีย์ อี. สตีเวนสัน, “อุปราคาทางวิญญาณ,” เลียโฮนา, พ.ย. 2017, 45)

  • มีเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อะไรบ้างที่เราให้ความสำคัญจนอาจบดบังการมุ่งเน้นไปที่พระเยซูคริสต์และพระกิตติคุณของพระองค์?

  • มีความท้าทายหรือผลเสียอะไรบ้างที่เป็นผลมาจากการให้ความสำคัญกับสิ่งเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้มากเกินไป?

ลองนึกถึงสิ่งที่ท่านอาจมุ่งเน้นจนอาจบดบังวิสัยทัศน์ของท่านต่อพระเยซูคริสต์และพระกิตติคุณของพระองค์ ขณะศึกษา ให้มองหาความจริงที่ช่วยให้ท่านมุ่งเน้นไปที่พระผู้เป็นเจ้าอีกครั้งเพื่อหลีกเลี่ยง “อุปราคาทางวิญญาณ”

ความมุ่งหวังเกินไปของซีนิฟฟ์

ในบทเรียนก่อนหน้านี้ ท่านเรียนรู้ว่าซีนิฟฟ์นำกลุ่มคนจากแผ่นดินเซราเฮ็มลากลับไปยังแผ่นดินของนีไฟ

ภาพ
ภาพประกอบการเดินทางของชาวนีไฟที่เรียกคืนดินแดนของนีไฟ

ซีนิฟฟ์มีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะได้รับดินแดนแห่งนี้ แต่การมุ่งเน้นของเขานำไปสู่ปัญหาให้ตนเองและผู้คนของเขา

อ่าน โมไซยาห์ 9:1–3, 6, 10–15 (ดู โมไซยาห์ 7:21 ด้วย), เพื่อมองหาว่าการมุ่งเน้นของซีนิฟฟ์และผู้คนของเขานำมาซึ่งผลเสียอย่างไร โปรดทราบว่า มุ่งหวังเกินไป หมายถึง ความกระตือรือร้นที่จะทำให้สำเร็จหรือได้รับบางสิ่งบางอย่างมากเกินไป

  • มีอะไรบ้างที่เป็นผลมาจากความมุ่งหวังเกินไปและความเชื่องช้าในการระลึกถึงพระเจ้า?

หากจำเป็น ให้ตั้งคำถามแก่นักเรียน เช่น “เมื่อกล่าวถึง โมไซยาห์ 9:3, ซีนิฟฟ์และผู้คนของเขาเผชิญกับความทุกข์อย่างไร? เพราะเหตุใด?”

ความจริงอย่างหนึ่งที่เราเรียนรู้ได้คือ ความมุ่งหวังเกินไปและความเชื่องช้าในการระลึกถึงพระเจ้าอาจนำไปสู่ผลเสีย

  • ในปัจจุบันมีวิธีใดบ้างที่อาจทำให้เรามีความมุ่งหวังเกินไปและความเชื่องช้าในการระลึกถึงพระเจ้า?

  • มีผลเสียใดบ้างที่เราอาจต้องเผชิญ?

หันไปหาพระเจ้า

ซีนิฟฟ์และผู้คนของท่านอยู่อย่างสงบมานานหลายปีก่อนที่กษัตริย์ของชาวเลมันพยายามนำพวกเขามาเป็นทาสตามแผนที่วางไว้ อ่านข้อพระคัมภีร์ต่อไปนี้ เพื่อดูว่าซีนิฟฟ์และผู้คนหันไปหาพระเจ้าอย่างไรตอนที่ชาวเลมันมาพิชิตพวกเขา

แสดงข้อพระคัมภีร์และคำถามต่อไปนี้ ท่านอาจแบ่งกลุ่มนักเรียนเป็นคู่หรือกลุ่มเล็กๆ เพื่ออ่านข้อพระคัมภีร์และพูดคุยเกี่ยวกับคำถามก่อนที่จะให้นักเรียนสองสามคนแบ่งปันข้อคิดกับชั้นเรียน

  • ผู้คนทำอะไรเพื่อมอบความไว้วางใจในพระเจ้า? ผลเป็นอย่างไร?

  • เราได้เรียนรู้ความจริงอะไรบ้างจากเรื่องราวนี้?

ความจริงอย่างหนึ่งที่เราเรียนรู้ได้จากเรื่องราวนี้คือ ถ้าเราสวดอ้อนวอนและออกไปด้วยศรัทธา เราจะเผชิญกับความท้าทายด้วยกำลังจากพระเจ้าได้

  • ท่านรู้อะไรบ้างเกี่ยวกับพระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์ที่ทำให้ท่านมั่นใจที่จะวางใจในทั้งสองพระองค์ โดยการสวดอ้อนวอนและออกไปด้วยศรัทธา?

  • สิ่งนี้ทำให้ท่านรู้สึกอย่างไรที่รู้ว่าพระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์จะยังคงช่วยเรารับมือกับความท้าทายแม้หลังจากที่เราทำผิดพลาด?

  • มีตัวอย่างใดในชีวิตของท่าน ผู้อื่น หรือพระคัมภีร์ที่แสดงให้เห็นถึงความจริงข้อนี้?

. ChurchofJesusChrist.orgอ่านเกี่ยวกับการเป็นแบบอย่างของพระผู้ช่วยให้รอดตามหลักธรรมนี้ใน ลูกา 22:39–45

การนำความจริงไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง

แสดงสถานการณ์สมมติต่อไปนี้หรือเชื้อเชิญให้นักเรียนนึกถึงสิ่งที่คล้ายกัน

นึกภาพว่าเยาวชนหญิงคนหนึ่งพบว่าเธอสงสัยในประจักษ์พยานของตนเอง เมื่อเธอนึกย้อนกลับไปในชีวิต เธอตระหนักว่าเธอมุ่งเน้นอยู่กับการได้เกรดดีๆ และเตรียมพร้อมสำหรับอนาคตจนเธออาจไม่ได้บำรุงเลี้ยงประจักษ์พยานของเธอเท่าที่ควร และตอนนี้เธอสงสัยจริงๆ ว่าศาสนจักรเป็นความจริงหรือไม่

ให้เวลานักเรียนอย่างเพียงพอในการไตร่ตรองคำถามต่อไปนี้ ท่านอาจพูดคุยเกี่ยวกับคำตอบหรือเชื้อเชิญให้นักเรียนมาแสดงบทบาทสมมติ โดยให้นักเรียนคนหนึ่งเป็นเยาวชนหญิง ส่วนอีกคนป็นเพื่อนที่พยายามจะช่วยเหลือ เชื้อเชิญให้นักเรียนพิจารณาว่าพวกเขาอาจนำคำตอบไปประยุกต์ใช้กับตนเองได้อย่างไร

อาจเป็นประโยชน์ที่จะตั้งคำถามติดตามผล เช่น “เหตุใดการเปลี่ยนแปลงคำสวดอ้อนวอนจึงสร้างความแตกต่างได้?” หรือ “ชีวิตของท่านจะเปลี่ยนแปลงอย่างไรในหนึ่งเดือนหรือหนึ่งปีนับจากนี้หากปฏิบัติตามการกระทำที่เปี่ยมด้วยศรัทธาเหล่านั้น?”

  • เธออาจ “ร้องหาพระเจ้าอย่างสุดกำลัง” (โมไซยาห์ 9:17) อย่างไร? ท่านจะอธิบายการสวดอ้อนวอนแบบนี้ว่าอย่างไร?

  • เธอจะวางใจในพระเจ้าและออกไปด้วยศรัทธาในพระเยซูคริสต์อย่างไร หลังจากเธอร้องหาพระเจ้าอย่างสุดกำลัง?

  • ท่านอาจแนะนำให้เยาวชนหญิงคนนี้ทำอะไรได้อีกบ้าง? เพราะเหตุใด?