เซมินารี
โรม 7–12


โรม 7–12

“พระผู้ปลดปล่อย… จะทรงกำจัดอธรรมให้สูญสิ้นไป”

ภาพ
A young man is in his home. He is reading and studying scriptures. This is in Fiji.

บางครั้งในการเดินทางผ่านชีวิตของเรา เราอาจรู้สึกท้อใจหรือหงุดหงิดใจเมื่อเราทำไม่ได้ตามที่หวังในการเป็นคนที่เราควรเป็น ด้วยความรู้สึกหงุดหงิดใจที่คล้ายกัน อัครสาวกเปาโลจึงอุทานว่า “โอย ข้าพเจ้าเป็นคนน่าสมเพชอะไรเช่นนี้” (โรม 7:24) แม้เราจะมีความอ่อนแอที่เราประสบในความเป็นมรรตัย แต่เราก็สามารถประสบกับความหวังและสันติสุขเมื่อเราวางใจในพระเยซูคริสต์ บทเรียนนี้จะช่วยให้ท่านใช้ศรัทธาที่ยิ่งใหญ่มากขึ้นในพระเยซูคริสต์เพื่อเอาชนะความอ่อนแอของท่าน 

การใช้พระคัมภีร์มอรมอน นีไฟได้รับการสอนว่าพระคัมภีร์มอรมอนและพระคัมภีร์ยุคสุดท้ายจะออกมาเพื่อ “ยืนยันความจริง” ของพระคัมภีร์ไบเบิล ( 1 นีไฟ 13:40) การเชื้อเชิญให้นักเรียนศึกษาข้อพระคัมภีร์มอรมอนพร้อมกับพระคัมภีร์ไบเบิลสามารถช่วยให้นักเรียนเห็นถึงความจริงจากพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

การเตรียมของนักเรียน: เชื้อเชิญให้นักเรียนอ่าน โรม 7:14, 18–19, 24–25 , รวมทั้ง 2 นีไฟ 4:17–20, 26–32 . ขอให้นักเรียนเตรียมตัวที่จะแบ่งปันวิธีที่พระคัมภีร์มอรมอนข้อนี้เพิ่มหรือให้ความกระจ่างต่อความเข้าใจของนักเรียนเกี่ยวกับสิ่งที่สอนในโรม 7 เตือนให้นักเรียนนำพระคัมภีร์มอรมอนเล่มของตัวเองมาที่ชั้นเรียนด้วย

กิจกรรมการเรียนรู้ที่อาจทำได้

การรับมือกับความอ่อนแอของความเป็นมรรตัย

ท่านอาจปรับสถานการณ์สมมติต่อไปนี้ตามความต้องการของนักเรียนหรือเชิญให้นักเรียนคิดสถานการณ์สมมติของตนเองเกี่ยวกับวัยรุ่นที่รู้สึกท้อใจกับความอ่อนแอของตน

เทรย์เป็นสมาชิกศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย เขาต้องการจะทำตามพระเยซูคริสต์ แต่เขารู้สึกว่าส่วนใหญ่เขาไม่ได้ทำดีเท่าที่ควร บ่อยครั้งที่เขามักจะรู้สึกผิดเพราะความอ่อนแอของเขาและกังวลว่าเขาอาจไม่ดีพอ

คิดดูว่าบางครั้งท่านอาจรู้สึกคล้ายกับเทรย์อย่างไร

  • ความรู้สึกเหล่านี้ส่งผลต่อความสัมพันธ์ของท่านกับพระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์ รวมทั้งกับคนอื่นอย่างไร?

  • เหตุใดจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะขอความช่วยเหลือจากพระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์เพื่อเอาชนะความอ่อนแอและความไม่ดีพร้อมของท่าน?

ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันสอนว่า “พระเจ้าเข้าพระทัยความอ่อนแอของมนุษย์เรา เราทุกคนเดินสะดุดในบางครั้ง แต่พระองค์ทรงทราบถึงศักยภาพอันยิ่งใหญ่ของเรา” (“พระคริสต์ทรงฟื้น; ศรัทธาในพระองค์จะเคลื่อนภูเขาเลียโฮนา, พฤษภาคม 2021, 102) ขณะที่ท่านศึกษาบทเรียนนี้ ให้จำสิ่งที่ประธานเนลสันสอนและมองหาความจริงที่สามารถช่วยท่านได้เมื่อท่านตระหนักถึงความอ่อนแอของมนุษย์ ไตร่ตรองว่าความจริงเหล่านี้จะเพิ่มศรัทธาของท่านได้อย่างไรว่าพระเยซูคริสต์ทรงช่วยท่านได้

นอกจากนี้อัครสาวกเปาโลยังประสบกับความรู้สึกอ่อนแอและการดิ้นรนระหว่าง “เนื้อหนัง” ( โรม 7:18) หรือ ความอยากทางร่างกาย และ “ส่วนลึกในใจ” ( ข้อ 22) หรือความเข้มแข็งทางวิญญาณ

อ่านโรม 7:14, 18–19, 24–25 และงานแปลของโจเซฟ สมิธสำหรับข้อเหล่านี้ที่มีอยู่ในงานที่เลือกสรรจากงานแปลพระคัมภีร์ไบเบิลของโจเซฟ สมิธ มองหาคำและวลีที่อธิบายถึงความคิดและความรู้สึกของเปาโล ท่านอาจทำเครื่องหมายสิ่งที่ท่านพบ โปรดทราบว่าใน ข้อ24 “ความตายนี้” หมายถึงความตายทางวิญญาณหรือการแยกจากพระผู้เป็นเจ้าที่มาจากบาป

  • ความคิดและความรู้สึกของเปาโลใกล้เคียงกับความคิดและความรู้สึกที่ท่านอาจมีอยู่อย่างไร?

  • เปาโลสอนความจริงเรื่องใด?

ความจริงข้อหนึ่งที่ท่านอาจระบุได้จากข้อเหล่านี้คือ พระเยซูคริสต์ทรงสามารถปลดปล่อยเราจากการเป็นเชลยของบาป ท่านอาจต้องการเขียนความจริงนี้ใกล้กับ โรม 7:24–25 .

  • เช่นเดียวกับเปาโล เหตุใดการจำความจริงนี้เมื่อท่านกำลังประสบปัญหากับความอ่อนแอของตนเองจะช่วยให้ท่านรู้สึกถึงความหวังมากขึ้นได้?

พระคัมภีร์มอรมอนเป็นเครื่องมืออันทรงพลังที่เราสามารถใช้เสริมสร้างความเข้าใจของเราถึงความจริงที่สอนไว้ในพระคัมภีร์ไบเบิล (ดู 1 นีไฟ 13:40 ; 2 นีไฟ 3:12).

ตัวอย่างเช่นใน 2นีไฟ 4 นีไฟแบ่งปันคำสอนคล้ายกับที่ท่านเพิ่งศึกษาจากเปาโลใน โรม 7 . .

อ่าน 2 นีไฟ 4:17–20, 26–32 โดยมองหาว่านีไฟแสดงความรู้สึกคล้ายกับเปาโลอย่างไร

  • คำพูดหรือวลีใดของนีไฟที่มีความหมายกับท่านมากที่สุด? เพราะเหตุใด?

  • คำสอนของนีไฟจะช่วยให้ท่านรู้สึกใกล้ชิดกับพระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์ได้อย่างไรเมื่อท่านกำลังต่อสู้กับความอ่อนแอหรือความสงสัยตนเอง?

การใช้พระคัมภีร์มอรมอนเพื่อเข้าใจความจริงมากขึ้น

หากมีเวลาเหลืออยู่ในบทเรียน ท่านอาจใช้เอกสารต่อไปนี้เพื่อช่วยให้นักเรียนค้นหาการเชื่อมโยงอื่นๆ ระหว่างคำสอนจากเปาโลกับพระคัมภีร์มอรมอน

เช่นเดียวกับที่ 2นีไฟ 4 เพิ่มประสิทธิภาพในการศึกษาของท่านเกี่ยวกับคำสอนของเปาโลใน โรม 7 ยังมีพระคัมภีร์มอรมอนข้ออื่นๆ อีกมากที่ช่วยให้ท่านเข้าใจได้ดีขึ้นและชื่นชมคำสอนของเปาโลมากขึ้น

ฝึกฝนการใช้พระคัมภีร์มอรมอนเพื่อเสริมความเข้าใจของท่านเกี่ยวกับคำสอนของเปาโลด้วยการเลือกอ่านอย่างน้อยสองข้อต่อไปนี้จากโรม จากนั้นนำมาเปรียบเทียบกับข้อพระคัมภีร์มอรมอนที่เกี่ยวข้อง (หรือค้นหาข้อที่เกี่ยวข้องกับพระคัมภีร์มอรมอนด้วยตัวท่านเองโดยใช้คู่มือพระคัมภีร์) มองหาวิธีที่ข้อพระคัมภีร์มอรมอนยืนยันหรืออธิบายถึงความจริงที่สอนในโรม

แสดงแผนภูมิต่อไปนี้เพื่อให้นักเรียนดูและนำไปใช้ กระตุ้นให้นักเรียนค้นหาข้อพระคัมภีร์มอรมอนที่ให้การชี้แจงของตนเองหากทำได้

โรม

พระคัมภีร์มอรมอน

โรม 8:5–7

2 นีไฟ 9:39 ; โมไซยาห์ 3:19

โรม 8:28

แอลมา 36:3

โรม 11:26

2 นีไฟ 9:19–21

โรม 12:1

ออมไน 1:26

โรม 12:2

แอลมา 5:57

โรม 12:21

แอลมา 37:33–35

  • ข้อความจากพระคัมภีร์มอรมอนช่วยเสริมสร้างความเข้าใจของท่านเกี่ยวกับคำสอนของเปาโลในโรมได้ดีขึ้นอย่างไร?

ใคร่ครวญประสบการณ์ของท่านเพื่อดูว่าพระคัมภีร์มอรมอนสามารถช่วยท่านในการศึกษาพระคัมภีร์ไบเบิลของท่านได้อย่างไร แสวงหาหนทางที่จะใช้พระคัมภีร์มอรมอนเพื่อช่วยท่านในการศึกษาพันธสัญญาใหม่ต่อไป

บทวิจารณ์และข้อมูลภูมิหลัง

พระเยซูคริสต์ทรงช่วยให้ฉันเอาชนะความอ่อนแอของฉันในความเป็นมรรตัยได้อย่างไร?

ขณะรับใช้ในฝ่ายประธานสูงสุด ประธานดีเทอร์ เอฟ. อุคท์ดอร์ฟสอนว่า:

ภาพ
Official portrait of Elder Dieter F. Uchtdorf of the Quorum of the Twelve Apostles, 2006. Called as Second Counselor in the First Presidency, 3 February 2008. Made official portrait in 2008 replacing portrait taken in 2004.

หลายคนรู้สึกท้อใจเพราะมักจะทำไม่ได้ตามที่คาดหวัง พวกเขารู้ด้วยตนเองว่า “จิตวิญญาณพร้อมแล้วก็จริง แต่กายยังอ่อนกำลัง” [ มัทธิว 26:41 ] พวกเขาพร้อมใจกันเปล่งเสียงกับนีไฟในการประกาศว่า “จิตวิญญาณข้าพเจ้าเศร้าโศกเพราะความชั่วช้าสามานย์ของข้าพเจ้า” [ 2 นีไฟ 4:17 ]

เมื่อข้าพเจ้านึกถึงสิ่งที่พระผู้ช่วยให้รอดทรงทำเพื่อเราจนถึงวันอาทิตย์อีสเตอร์ครั้งแรกนั้น ข้าพเจ้าต้องการเปล่งเสียงร้องสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้าสูงสุดและพระบุตรของพระองค์ พระเยซูคริสต์!

ประตูสวรรค์ถอดสลักแล้ว

หน้าต่างสวรรค์เปิดแล้ว

วันนี้และชั่วนิรันดรพระคุณของพระผู้เป็นเจ้ามีไว้สำหรับทุกคนที่มีใจชอกช้ำและมีวิญญาณที่สำนึกผิด [ดู 3 นีไฟ 9:19–20 ] พระเยซูคริสต์ทรงเปิดทางไว้ให้เราขึ้นไปสู่ความสูงส่งที่ใจมนุษย์คิดไม่ถึง [ดู 1 โครินธ์ 2:9 ]

(ดีเทอร์ เอฟ. อุคท์ดอร์ฟ, “ของประทานแห่งพระคุณ,” เลียโฮนา, พ.ค. 2015, 110)

.

. .

พระคัมภีร์ไบเบิลและพระคัมภีร์มอรมอนทำงานร่วมกันอย่างไรและแสดงความรักที่พระผู้เป็นเจ้าทรงมีต่อเราอย่างไร?

ประธานฮาโรลด์ บี. ลี (1899–1973) อธิบายว่า:

ภาพ
Head and shoulders portrait of LDS Church President Harold B. Lee.

พระบิดาบนสวรรค์ผู้ทรงเป็นนิรันดร์ของเราทรงห่วงใยความผาสุกทางวิญญาณของลูกๆ พระองค์เสมอ ได้ประทานพระคัมภีร์ที่สนับสนุนกัน ซึ่งรู้จักกันในชื่อว่าพระคัมภีร์มอรมอน เพื่อปกป้องความจริงของพระคัมภีร์ไบเบิลที่ศาสดาพยากรณ์เขียนและพูดตามที่พระเจ้าทรงกำกับดูแล …

… โดยพยานปากที่สองนี้เราจะรู้แน่ชัดมากขึ้นถึงความหมายในคำสอนของศาสดาพยากรณ์สมัยโบราณ คำสอนของพระอาจารย์และสานุศิษย์ของพระองค์ขณะพระองค์และเหล่าสานุศิษย์ดำเนินชีวิตและสอนท่ามกลางมนุษย์ทั้งปวง สิ่งนี้ควรเป็นแรงบันดาลใจให้ทุกคนผู้จะแสวงหาความจริงอย่างซื่อสัตย์นำพระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองเล่มนี้มารวมกันและศึกษาประหนึ่งเป็นเล่มเดียว โดยเข้าใจความสัมพันธ์อันแท้จริงของทั้งสองเล่มนี้เช่นที่เราเข้าใจ

(ฮาโรลด์ บี. ลี, Ye Are the Light of the World [1974], 89, 91)

เหตุใดเปาโลจึงกล่าวว่าเราเพียงต้องยอมรับด้วยปากถึงพระนามของพระเยซูเพื่อให้ได้รับการช่วยให้รอด?

โรม 10:1–13 มักจะถูกอ้างถึงเพื่อปกป้องจุดยืนว่าเราเพียงจำเป็นต้องยอมรับด้วยปากถึงพระนามของพระเยซูคริสต์เพื่อที่จะได้รับการช่วยให้รอด อย่างไรก็ตาม พระผู้ช่วยให้รอดตรัสในทางตรงกันข้ามกับหลักคำสอนนี้โดยเฉพาะเจาะจง เมื่อพระองค์ทรงสอนว่า “ไม่ใช่ทุกคนที่เรียกเราว่า องค์พระผู้เป็นเจ้าจะได้เข้าในแผ่นดินสวรรค์ แต่ผู้ที่ปฏิบัติตามพระทัยพระบิดาของเราผู้สถิตในสวรรค์จึงจะเข้าได้” ( มัทธิว 7:21)

นอกจากนี้ เปาโลยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของศาสนพิธีบัพติศมาก่อนหน้านี้ในสาส์นของเขาแด่ชาวโรมัน (ดู โรม 6:1–6) และยังสอนถึงความสำคัญของงานดีและการใจที่เปลี่ยน (ดู โรม 2:1, 3, 6–13, 25–29)

นอกจากนี้คำว่า “ยอมรับด้วยปาก” ใน โรม 10:9 ยังสามารถแปลเป็นคำว่า “พันธสัญญา” และวลี “ร้องออก” ใน โรม 10:13 สามารถแปลเป็นคำว่า “นำชื่อมาใส่” (ดูเจมส์ สตรอง, The New Strong’s Exhaustive Concordance of the Bible, ที่พบได้ใน http://lexiconcordance.com/greek/3670.html; http://lexiconcordance.com/greek/1941.html) ถ้อยคำเหล่านี้สามารถอ้างถึงการทำพันธสัญญาและนำพระนามของพระคริสต์มาสู่เรา ซึ่งตรงกับคำสอนอื่นๆ ของเปาโล (ดู กาลาเทีย 3:27 ; โรม 6:14–22) รวมถึงข้อที่เกี่ยวข้องในพระคัมภีร์มอรมอน เช่น โมไซยาห์ 5:1–9

กิจกรรมการเรียนรู้เพิ่มเติม

โรม 9 และ 11: “ไม่ใช่ทุกคนที่เกิดมาจากอิสราเอลนั้น เป็นคนอิสราเอลแท้” ( โรม 9:6)

ท่านอาจปรับเปลี่ยนการมุ่งเน้นของบทเรียนไปยังหลักคำสอนของการเลือกและการแต่งตั้งล่วงหน้า นักเรียนสามารถศึกษา โรม 9:1–7 และ 11:1–5, 25–32 รวมถึงรายการในคู่มือพระคัมภีร์ “ การเลือก ” และ “ การแต่งตั้งล่วงหน้า ” (ใน “สิ่งช่วยศึกษา” ที่ scriptures.ChurchofJesusChrist.org) นักเรียนสามารถค้นหาคำปราศรัยจากการประชุมใหญ่สามัญของประธานเนลสันชื่อ “ให้พระผู้เป็นเจ้าทรงมีชัย” ( เลียโฮนา, พ.ย. 2020, 92–95) และแบ่งปันข้อคิดที่นักเรียนค้นพบว่าความจริงเหล่านี้นำมาประยุกต์ใช้กับตนได้อย่างไร (ดู โรม 8:14–15)

ทางเลือกสำหรับการมุ่งเน้นของบทเรียน

ท่านอาจให้ความสำคัญกับบทเรียนนี้ในการช่วยให้นักเรียนเข้าใจเหตุผลบางอย่างที่เรามีพระคัมภีร์มอรมอนนอกเหนือจากพระคัมภีร์ไบเบิล ลองเริ่มต้นด้วยการอธิบายสถานการณ์สมมติที่นักเรียนมีเพื่อนคนหนึ่งซึ่งโพสต์บนโซเชียลมีเดียว่า เธอไม่เห็นความจำเป็นในการใช้พระคัมภีร์อื่นเพิ่มเติมนอกเหนือจากพระคัมภีร์ไบเบิล และตั้งคำถามว่าเหตุใดทุกคนจึงเห็นความจำเป็นของพระคัมภีร์มอรมอน

นักเรียนสามารถดู “พระคัมภีร์มอรมอน—พระคัมภีร์จากพระผู้เป็นเจ้า,” ที่มีใน ChurchofJesusChrist.org ตั้งแต่รหัสเวลา 4:28 ถึง 5:41 ในวีดิทัศน์นี้ เอ็ลเดอร์แทด อาร์. คอลลิสเตอร์ฝ่ายประธานโควรัมสาวกเจ็ดสิบในขณะนั้น อธิบายเหตุผลบางอย่างเกี่ยวกับความสำคัญในการมีพระคัมภีร์มอรมอนนอกเหนือจากพระคัมภีร์ไบเบิล

จากนั้นนักเรียนสามารถใช้พระคัมภีร์ที่อ้างถึงในบทเรียนนี้เพื่อดูว่าพระคัมภีร์มอรมอนอธิบายและยืนยันความจริงในพระคัมภีร์ไบเบิลอย่างไร และเขียนคำตอบให้กับเพื่อน