การประชุมใหญ่สามัญ
แผนได้ผลไหม?
การประชุมใหญ่สามัญเดือนเมษายน 2022


แผนได้ผลไหม?

ข้าพเจ้าเป็นพยานว่าแผนแห่งความสุขได้ผล แผนนี้สร้างขึ้นโดยพระบิดาบนสวรรค์ผู้ทรงรักท่าน

แผนได้ผลไหม?

ไม่นานมานี้ข้าพเจ้าสนทนากับชายหนุ่มที่รับใช้งานเผยแผ่เมื่อหลายปีก่อนและปัจจุบันทำงานอาชีพอยู่ ชีวิตของเขาไปได้ดีในบางด้าน แต่ศรัทธาของเขากำลังลดลง เขากำลังจมลงสู่ทะเลแห่งความสงสัยเกี่ยวกับพระผู้ช่วยให้รอดและศาสนจักร เขาอธิบายว่าเขาไม่ได้รับพรที่คาดหวังจากพระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟู เขาไม่รู้สึกว่าแผนแห่งความสุขได้ผลกับชีวิตเขา

วันนี้ข่าวสารของข้าพเจ้ามีไว้สำหรับทุกคนที่อาจรู้สึกคล้ายกัน ข้าพเจ้าพูดกับผู้ที่ครั้งหนึ่งเคย “รู้สึกอยากร้องเพลงสดุดีความรักที่ไถ่” แต่ไม่ “รู้สึกเช่นนั้นขณะนี้”1

พระบิดาบนสวรรค์ทรงมีแผนอันล้ำเลิศสำหรับความสุขนิรันดร์ของเรา แต่เมื่อชีวิตไม่เป็นไปตามที่เราหวัง จึงดูเหมือนแผนนั้นไม่ได้ผล

บางทีเรารู้สึกเหมือนสานุศิษย์ของพระเยซูเมื่ออยู่ในเรือที่ “อยู่กลางทะเลแล้ว และถูกคลื่นซัดเพราะทวนลมอยู่”2

จากนั้นเมื่อเวลาใกล้รุ่งเช้า

“พระเยซูทรงดำเนินบนทะเลไปยังพวกสาวก

“เมื่อสาวกเห็นพระองค์ทรงดำเนินมาบนทะเล เขาทั้งหลายก็แตกตื่น … และร้องด้วยความกลัว

“พระ‍เยซูตรัสกับพวก‍เขาทัน‍ทีว่า ทำใจดีดีเถิด นี่เราเองอย่ากลัวเลย

“เปโตรจึงทูลตอบพระองค์ว่า องค์พระผู้เป็นเจ้า ถ้าเป็นพระองค์แน่แล้ว ขอตรัสให้ข้าพระองค์เดินบนน้ำไปหาพระองค์

“พระองค์ตรัสว่า มาเถิด เป‌โตรจึงลงจากเรือเดินบนน้ำไปหาพระ‍เยซู

“แต่เมื่อเขาเห็นลมพัดแรงก็กลัว และเมื่อกำลังจะจมก็ร้องว่า … องค์พระผู้เป็นเจ้า ช่วยข้า‍พระ‍องค์ด้วย

“พระ‍เยซูจึงเอื้อมพระ‍หัตถ์จับเขาไว้ทัน‍ทีแล้วตรัสว่า ช่างมีความเชื่อน้อย ท่านสงสัยทำไม?”3

ข้าพเจ้าขอแบ่งปันหลักธรรมสามข้อที่เรียนรู้จากเปโตร? ข้าพเจ้าสวดอ้อนวอนให้หลักธรรมเหล่านี้ช่วยทุกคนที่รู้สึกว่าแผนแห่งความสุขไม่ได้ผลกับชีวิตตน

ข้อแรก กระทำด้วยศรัทธาในพระเยซูคริสต์

ข้าพเจ้าพิศวงกับศรัทธาของเปโตร เมื่อพระเยซูตรัสเชิญอย่างเรียบง่ายว่า “มาเถิด” เขาก็ออกจากเรือที่โคลงเคลงด้วยพายุ ดูเหมือนเขาจะรู้ว่าหากพระเยซูคริสต์ตรัสเชิญให้ทำอะไร เขาจะทำได้4 เปโตรวางใจพระผู้ช่วยให้รอดมากกว่าเรือของตน และศรัทธานั้นให้พลังเขาที่จะลงมือทำด้วยความกล้าหาญในสถานการณ์เคร่งเครียดและน่าหวาดหวั่น

ศรัทธาของเปโตรเตือนให้ข้าพเจ้านึกถึงประสบการณ์ที่ได้ฟังจากเอ็ลเดอร์โฮเซ แอล. อาลอนโซ ไม่นานหลังจากบุตรชายของเอ็ลเดอร์อาลอนโซสิ้นชีวิต ทิ้งครอบครัวพร้อมกับลูกเล็กๆ ไว้ เอ็ลเดอร์อาลอนโซได้ยินเด็กๆ คุยกัน

“เราจะทำอย่างไรดี?” พวกเขาถาม

ลูกสาวอายุเก้าขวบตอบว่า “พ่อไม่เป็นไร พ่อกำลังสั่งสอนพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์”

เช่นเดียวกับเปโตร ลูกสาวตัวน้อยคนนี้มองข้ามเรื่องท้าทาย เธอวางใจในพระเยซูคริสต์และการชดใช้ของพระองค์ ศรัทธาในพระผู้ช่วยให้รอดนำมาซึ่งสันติสุขและความเข้มแข็งที่จะก้าวไปข้างหน้า

หากท่านมองย้อนไปที่ชีวิตของท่าน ข้าพเจ้าเชื่อว่าท่านจะเห็นตนเองใช้ศรัทธาหลายครั้ง การเข้าร่วมศาสนจักรเป็นการกระทำแห่งศรัทธา การทูลพระบิดาบนสวรรค์ในการสวดอ้อนวอนเป็นการกระทำแห่งศรัทธา การอ่านพระคัมภีร์เป็นการกระทำแห่งศรัทธา การฟังข่าวสารของข้าพเจ้าในการประชุมใหญ่สามัญครั้งนี้เป็นการกระทำแห่งศรัทธา ดังที่ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันกล่าวไว้ว่า “อย่าดูแคลนศรัทธาที่ท่านมีอยู่แล้ว”5

อีกบทเรียนหนึ่งที่ข้าพเจ้าเรียนรู้จากเปโตรคือ:

ในยามยากลำบาก จงหันไปพึ่งพระเยซูคริสต์ทันที

ขณะเดินไปหาพระผู้ช่วยให้รอด เปโตรหวาดกลัวเพราะลมแรงและเริ่มจะจม แต่เมื่อเปโตรตระหนักถึงสิ่งที่เกิดขึ้น เขาไม่ได้พยายามพยุงตัวในน้ำหรือว่ายน้ำกลับเรือ แทนที่จะละจากศรัทธาที่มีในพระคริสต์ เขากลับยึดศรัทธานั้นไว้แน่นกว่าเดิม โดยร้องว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้า ช่วยข้า‍พระ‍องค์ด้วย”

“พระเยซูจึงเอื้อมพระหัตถ์จับเขาไว้ทันที”6

เราทุกคนเผชิญพายุบ้าคลั่งที่สั่นคลอนศรัทธาและทำให้เราจมลงได้ เมื่อเกิดเรื่องเช่นนั้น โปรดจำไว้ว่าแผนแห่งความสุขของพระบิดาบนสวรรค์มีอีกชื่อหนึ่งคือ—แผนแห่งการไถ่ แผนนั้นไม่ได้เตรียมไว้เพื่อให้เราดำเนินชีวิตอย่างราบรื่น ไม่สะดุด ไม่จม มีสีหน้ายิ้มแย้มตลอดเวลา พระบิดาบนสวรรค์ทรงทราบว่าเราจำเป็นต้องได้รับการไถ่ นี่คือสาเหตุที่พระองค์ทรงเตรียมแผนแห่งการไถ่7 นี่คือสาเหตุที่พระองค์ทรงส่งพระผู้ไถ่มา เมื่อเราลำบาก—ไม่ว่าด้วยเหตุผลใด—ไม่ได้หมายความว่าแผนไม่ได้ผล นั่นคือเวลาที่เราต้องการแผนนั้นที่สุด!

ในชั่วขณะนั้น จงทำตามแบบอย่างของเปโตร หันไปหาพระผู้ช่วยให้รอดทันที

“บัดนี้คือเวลาและวันแห่งความรอดของท่าน; อย่าผัดวันแห่งการกลับใจของท่าน”8

ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนและเคยอยู่ที่ไหน การกลับใจคือทางที่จะไปข้างหน้า ประธานเนลสันสอนว่า:

“ไม่มีสิ่งใดเป็นอิสระ มีเกียรติ หรือสำคัญต่อความก้าวหน้าของเรามากไปกว่าการมุ่งเน้นที่การกลับใจทุกวันอย่างสม่ำเสมอ …

“ไม่ว่าท่านกำลังเคลื่อนไปตามทางแห่งพันธสัญญาอย่างขยันหมั่นเพียร ลื่นไถลหรือก้าวออกนอกทาง หรือเวลานี้ท่านอยู่ในจุดที่มองไม่เห็นทาง ข้าพเจ้าวิงวอนให้ท่านกลับใจ จงประสบพลังความเข้มแข็งของการกลับใจทุกวัน—โดยการทำดีและเป็นคนดีขึ้นทีละน้อยในแต่ละวัน”9

การมาหาพระคริสต์เป็นมากกว่าเพียงคิดถึงพระองค์หรือสนทนาเรื่องพระองค์หรือแม้แต่รักพระองค์ นี่หมายถึงการทำตามพระองค์ หมายถึงการดำเนินชีวิตตามที่ทรงสอนเรา และสำหรับเราทุกคน นั่นหมายถึงการกลับใจโดยไม่รีรอ

ลูกสาวคนหนึ่งของข้าพเจ้าเคยทำงานที่ศูนย์ฝึกอบรมผู้สอนศาสนา เธอเล่าให้ฟังเรื่องเอ็ลเดอร์ที่เธอสอนคนหนึ่งมาปรึกษาเธอว่าเขาไม่แน่ใจว่าพระคัมภีร์มอรมอนเป็นความจริง เขาสวดอ้อนวอนขอพยานทางวิญญาณครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ไม่ได้รับคำตอบ

ลูกสาวข้าพเจ้าสวดอ้อนวอนเพื่อรู้ว่าควรช่วยผู้สอนศาสนาคนนี้อย่างไร ความประทับใจที่เธอได้รับคือพระคัมภีร์ไม่ได้มีไว้เพียงเพื่อให้เราอ่านแล้วได้รับประจักษ์พยาน แต่มีไว้เพื่อสอนให้เรารักษาพระบัญญัติของพระผู้เป็นเจ้าด้วย ลูกสาวข้าพเจ้าแบ่งปันความคิดนี้กับผู้สอนศาสนาคนนั้น

ต่อมา เธอเห็นว่าผู้สอนศาสนาคนนี้ดูมีความสุขขึ้นมาก เขาบอกเธอว่าในที่สุดเขาได้รับประจักษ์พยานว่าพระคัมภีร์มอรมอนเป็นความจริง เขารู้ว่าพยานนี้เกิดขึ้นเพราะเขาพยายามมากกว่าเดิมที่จะ ทำ สิ่งที่พระคัมภีร์มอรมอนสอน

ขอให้เราทำตามแบบอย่างของเปโตรในการหันไปพึ่งพระผู้ช่วยให้รอดเวลาเดือดร้อน จงทำตามพระเยซูคริสต์แทนที่จะพึ่งพาปัญญาและกำลังของตนเอง ไม่ว่าท่านจะพยายามพยุงตัวในน้ำโดยไม่มีพระองค์มานานเท่าใด ไม่มีวันสายเกินไปที่จะเอื้อมออกไปหาพระองค์ แผนนั้นได้ผล!

หลักธรรมข้อสามที่ข้าพเจ้าเรียนรู้จากเปโตรและประสบการณ์ของเขาคือ:

จงนอบน้อมถ่อมตนต่อพระพักตร์พระเจ้า เพื่อจะทรงยกท่านขึ้นสู่สิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่า

เปโตรแสดงให้เห็นศรัทธา ทั้งในการเดินบนน้ำและในการเอื้อมออกไปหาพระผู้ช่วยให้รอดเมื่อต้องการให้ช่วย กระนั้นพระผู้ช่วยให้รอดยังทรงเห็นศักยภาพในตัวเปโตรที่มีมากมายกว่านั้น “ช่างมีความเชื่อน้อย” พระองค์ตรัส “ท่านสงสัยทำไม?”10

เปโตรจะขุ่นเคืองต่อคำตำหนินี้ก็ได้ แต่เขากลับน้อมรับ เขาแสวงหาศรัทธาในพระเยซูคริสต์ที่แรงกล้ายิ่งขึ้นต่อไป ผ่านประสบการณ์ที่เสริมสร้างศรัทธาอีกหลายครั้ง—บางครั้งก็ยากแสนยาก—ในที่สุดเปโตรก็กลายเป็นผู้นำที่มั่นคงดุจศิลาดังที่พระเจ้าทรงต้องการ เขาทำสิ่งสำคัญหลายอย่างสำเร็จในการรับใช้พระเจ้า

มีสิ่งสำคัญอะไรบ้างที่พระเจ้าทรงต้องการให้ท่านทำให้สำเร็จ? ในศาสนจักรและอาณาจักรของพระองค์ มีโอกาสมากมายที่จะรับใช้และปฏิบัติศาสนกิจต่อผู้อื่นดังที่พระผู้ช่วยให้รอดทรงทำ ทรงต้องการให้ท่านเป็นส่วนหนึ่งในงานอันสำคัญยิ่งของพระองค์ แผนแห่งความรอดเป็นจริงได้มากที่สุดเมื่อท่านช่วยผู้อื่นให้ดำเนินชีวิตตามแผนนั้น

ในการสร้างศรัทธาของข้าพเจ้า ถ้อยคำของแอลมาคือถ้อยคำเปลี่ยนชีวิต: “ความสุขเกิดแก่พวกเขาผู้ซึ่งนอบน้อมถ่อมตนโดยปราศจากการถูกบีบบังคับให้ถ่อมตน”11 ขอให้เราวางตนเองไว้ในตำแหน่งที่พระเยซูทรงสามารถยกเรา นำเรา และทำให้ความสามารถของเราเกิดประโยชน์สูงสุด12

ข้าพเจ้าเป็นพยานว่าแผนแห่งความสุขได้ผล แผนนี้สร้างขึ้นโดยพระบิดาบนสวรรค์ผู้ทรงรักท่าน แผนได้ผลเพราะพระเยซูคริสต์ทรงเอาชนะบาปและความตายผ่านการชดใช้ของพระองค์ จงมาหาพระองค์ ทำตามพระองค์ และ “พระองค์จะทรงนำแผนอันสำคัญยิ่งแห่งการไถ่มาสู่ท่านโดยทันที”13 ในพระนามของพระเยซูคริสต์ เอเมน