การสร้างเรซูเม่ทั้งที่มีประสบการณ์ไม่มาก

ไม่ว่าท่านเคยมีการเรียกใดในศาสนจักร โอกาสคือมีความสำเร็จและทักษะที่ท่านได้เรียนรู้ซึ่งสามารถรวมไว้ในเรซูเม่ของท่านได้ แจกแจงงานที่ท่านทำในการเรียกแต่ละอย่างและเขียนลงไปว่าท่านทำงานเหล่านี้บ่อยเพียงใดและมีกี่คนเกี่ยวข้องในงานเหล่านี้

ลำดับต่อมา ให้สร้าง “ถ้อยแถลงความสำเร็จ” ถ้อยแถลงความสำเร็จเป็นข้อความอธิบายสั้นๆ เกี่ยวกับสิ่งที่ท่านทำสำเร็จระหว่างการเรียกของท่าน ถ้อยแถลงเหล่านี้ปรากฏในเรซูเม่ของท่านเป็นข้อๆ หลังจุดดำใต้ประสบการณ์แต่ละอย่าง

เริ่มถ้อยแถลงแต่ละข้อด้วย “คำกิริยา”—คำกิริยาที่เด่นชัดเช่น ควบคุมดูแล ปรับปรุง สอน ฯลฯ

ต่อไปนี้เป็นถ้อยแถลงความสำเร็จตามการเรียกบางประเภท โดยระบุงาน ความถี่ และจำนวนครั้งที่มักเกี่ยวข้องกับการเรียกไว้ในนั้นด้วย:

• ถ้าท่านเป็นครู:

  • เตรียมบทเรียนทุกสัปดาห์โดยการศึกษาคู่มือและพระคัมภีร์ การรวบรวมแหล่งข้อมูลและประสบการณ์ส่วนตัว

    • สำหรับความถี่ ให้เขียนว่าท่านทำงานนี้บ่อยเพียงใด—ทุกสัปดาห์ เดือนละสองครั้ง ฯลฯ

  • สอนชั้นเรียนของคนอายุ 14 ถึง 16 ปีครั้งละ 50 นาทีทุกสัปดาห์

    • ขนาดชั้นเรียนและจำนวนนักเรียนจะขึ้นอยู่กับการเรียกของท่าน

• ถ้าท่านอยู่ในฝ่ายประธาน:

  • ตั้งเป้าหมายรายเดือนและระยะยาวให้กลุ่มและทำเป้าหมายเหล่านั้นสำเร็จ

  • ดูแลสวัสดิภาพของสมาชิก 30 คนในองค์กร

  • อบรมผู้นำและครูในหน้าที่ของพวกเขา

  • วางแผนและจัดกิจกรรมรายเดือนให้ 26 คน

  • ตั้งงบรายเดือนและทำตามนั้น

• ถ้าท่านเป็นผู้อำนวยเพลง:

  • จัดโปรแกรมเพลงทุกสัปดาห์

  • จัดเตรียมเพลงพิเศษที่ร้องโดยสมาชิกของที่ประชุม

  • วางแผนโปรแกรมเพลงช่วงวันหยุดและงานกิจกรรม

• ถ้าท่านรับใช้เป็นผู้สอนศาสนา:

  • ตั้งเป้าหมายปรับปรุงตนเองและเป้าหมายการสอนทั้งระยะยาวและรายสัปดาห์และทำเป้าหมายเหล่านั้นสำเร็จ

  • สอนโดยเฉลี่ย 16 คนและหลายกลุ่มในแต่ละสัปดาห์เกี่ยวกับวิธียกระดับชีวิตตนเองผ่านการประยุกต์ใช้และการศึกษาส่วนตัว

  • ถ้าท่านเป็นผู้อบรม: อบรมและแนะนำผู้สอนศาสนาคนใหม่ในการสอนและการปรับตัวตามตารางเวลาที่เข้มงวด

  • ถ้าท่านเป็นซิสเตอร์ที่อบรม หัวหน้าดิสตริกท์ หรือหัวหน้าโซน: รับผิดชอบเรื่องการจูงใจ การประเมิน การรายงานความก้าวหน้า และการดูแลผู้สอนศาสนา 14 คน

  • ถ้าท่านอยู่ต่างประเทศ: อาศัยอยู่ใน [ประเทศ] เป็นเวลา [ระยะเวลา] และต่อยอดความรู้ของผม/ดิฉันเกี่ยวกับวัฒนธรรมของพวกเขา

  • ถ้าท่านพูดภาษาต่างประเทศ ให้เขียนว่าท่านพูดภาษานั้นมานานเท่าใด

  • ตัวอย่างเหล่านี้เป็นตัวอย่างธรรมดาทั่วไป แต่ยิ่งท่านเจาะจงสิ่งที่ ท่าน ทำสำเร็จและปรับให้ตรงกับงานมากเท่าใด ก็จะยิ่งดีเท่านั้น

เพิ่มรายชื่อการเรียกและถ้อยแถลงความสำเร็จที่สอดคล้องกันลงในเรซูเม่ของท่าน เพื่อช่วยให้รู้สึกว่าการเรียกของท่านเกี่ยวข้องกับเรซูเม่ ท่านจะต้องปรับเรซูเม่ให้ตรงกับคำอธิบายลักษณะงานที่ท่านสมัคร

คำอธิบายลักษณะงานส่วนใหญ่มักจะมีคำหลักๆ อยู่ในนั้น คำหลักๆ เหล่านี้คือสิ่งที่บริษัทเจาะจงมองหาในคนที่พวกเขาจ้าง และท่านจะต้องใช้คำหลักๆ เหล่านี้ในเรซูเม่ของท่าน ท่านจะต้องเขียนการเรียกของท่านให้ตรงกับคำอธิบายลักษณะงานให้มากที่สุดด้วย ถ้าท่านกำลังสมัครเป็นผู้ช่วย ให้เน้นการเรียกที่เกี่ยวข้องกับทักษะการจัดระเบียบ หรือถ้าท่านกำลังสมัครเป็นครูแทน ให้ระบุการเรียกที่เกี่ยวข้องกับการสอน

• ระบุการเรียกของท่านใต้หัวข้อ “ประสบการณ์งานอาสา” ของท่าน

• ระบุองค์กรเป็น “ศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย”

• ระบุชื่อการเรียกเป็นตำแหน่งงานของท่าน

• ใช้คำและวลีให้เป็นสากลมากขึ้นเช่น ที่ประชุม แทนคำว่า วอร์ด หรือ สาขา และ กิจกรรมเยาวชนรายสัปดาห์ แทนคำว่า สหกิจกรรม

• อธิบายองค์กรที่ผู้คนอาจไม่คุ้นเคย

  • ตัวอย่างเช่น อธิบายว่าสมาคมสงเคราะห์เป็นองค์กรของสตรีนานาชาติ ท่านสามารถเรียกสมาคมสงเคราะห์ของวอร์ดหรือสาขาของท่านว่าเป็นกลุ่มท้องที่หรือหน่วยหนึ่งขององค์กร

ท่านสามารถนำหลักการข้างต้นมาใช้ระบุทักษะและประสบการณ์ต่างๆ จากงานอาสา งานอาชีพ และกิจกรรมอื่นที่ท่านทำเช่นกัน สำคัญที่ท่านต้องแสดงขอบเขตของประสบการณ์ต่างๆ ให้ตรงกับตำแหน่งที่ท่านประสงค์จะได้ ด้วยเหตุนี้ จงพยายามรวมประสบการณ์ตามการเรียกในศาสนจักรของท่านไว้ในเรซูเม่ของท่านให้มากเท่าที่จะมากได้ แม้ท่านอาจจะไม่ตระหนักตอนนี้ แต่ท่านมีมากมายที่มอบให้ได้ ด้วยเหตุนี้จงอย่าประเมินค่าตนเองต่ำไป