เราจะสนับสนุนผู้นำของเราได้อย่างไร

การสนับสนุนเป็นการกระทำอันศักดิ์สิทธิ์ที่เชื่อมโยงสมาชิกของศาสนจักรกับผู้นำศาสนจักร เอ็ลเดอร์แกรีย์ อี. สตีเวนสันกล่าว เนื่องจากสมาชิกศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้ายมีมากกว่า 16 ล้านคน สมาชิกศาสนจักรที่ได้พูดกับอัครสาวกต่อหน้าหรือจับมือทักทายอัครสาวกจึงค่อนข้างน้อย แต่สมาชิกทุกคนมีโอกาสสร้างความสัมพันธ์ส่วนตัวกับผู้นำศาสนจักรเหล่านี้และคนอื่นๆ ผ่านการออกเสียงสนับสนุนอย่างเป็นทางการและการสนับสนุนประจำวัน ประธานเอ็ม. รัสเซลล์ บัลลาร์ดรักษาการประธานโควรัมอัครสาวกสิบสองกล่าว

“เราสนับสนุนด้วยการยกมือแต่ด้วยใจและการปฏิบัติของเราด้วย” เอ็ลเดอร์เกอร์ริท ดับเบิลยู. กองกล่าว “เราสนับสนุนผู้นำศาสนจักรแบบเดียวกับที่เราสนับสนุนกัน เรารู้ว่าเราถูกผูกมัดโดยพันธสัญญา”

การสวดอ้อนวอนให้อัครสาวกยังคงเป็นองค์ประกอบล้ำค่าของการสนับสนุน เอ็ลเดอร์อูลิส์เสส ซวาเรสกล่าว “เราเป็นคนธรรมดา และพระเจ้าทรงเรียกเราให้ทำบางอย่างที่อยู่เหนือความสามารถของเรา แต่เรารู้สึกว่าเราสามารถบรรลุความสามารถนั้นเพราะผู้คนสวดอ้อนวอนให้เรา”

ศรัทธามาก่อน ตามด้วยการสนับสนุน เอ็ลเดอร์ซวาเรสเสริม “โดยการสนับสนุนอัครสาวก ท่านกำลังช่วยพระผู้ช่วยให้รอดทำงานของพระองค์ให้สำเร็จ ศรัทธาของท่านช่วยให้พระเจ้าทำสำเร็จในสิ่งที่พระองค์ทรงสื่อสารผ่านศาสดาพยากรณ์และผู้เปิดเผยของพระองค์”

“ผมชอบภาพมือตั้งฉากและความหมายเบื้องหลังภาพนั้น” เอ็ลเดอร์เจฟฟรีย์ อาร์. ฮอลแลนด์กล่าว สำหรับอัครสาวก การสนับสนุนจากสมาชิกของศาสนจักรคล้ายคลึงทางวิญญาณกับการได้รับอาหารให้ชีวิต ท่านเสริม “ทุกเสียงสำคัญและหวังพึ่งทุกมือที่ช่วยเหลือ ไม่มีใครรับใช้โดยลำพังในศาสนจักร ไม่ว่าการเรียกใดก็ตาม”

การสนับสนุนอัครสาวกเป็นระเบียบปฏิบัติยุคสุดท้ายที่มีมาตั้งแต่การฟื้นฟูพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ ตั้งแต่วันแรก วิสุทธิชนยุคแรกได้รับการเชื้อเชิญให้ลงชื่อยอมรับกับการเรียกของผู้นำศาสนจักรและสนับสนุนพวกท่านในการเรียกนั้น

วันที่ 6 เมษายน ค.ศ. 1830 โจเซฟ สมิธและผู้ติดตามที่เพิ่งรับบัพติศมามารวมตัวกันในบ้านไม้ซุงหลังเล็กของปีเตอร์ วิตเมอร์ ซีเนียร์ ในเฟเยทท์ เซเนกาเคาน์ตี นิวยอร์ก

โจเซฟยืนและถามผู้เข้าร่วมเหล่านั้นว่าพวกเขาปรารถนาให้จัดตั้งศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้ายหรือไม่

สมาชิกศาสนจักรยกมือและเห็นชอบเป็นเสียงเอกฉันท์โดยใช้หลักธรรมของความเห็นชอบร่วมกัน ต่อจากนั้นพวกเขาเห็นควรให้ยอมรับโจเซฟ สมิธและออลิเวอร์ คาวเดอรีเป็นผู้สอนและผู้ให้คำแนะนำทางวิญญาณของพวกเขา

“การเป็นสมาชิกในศาสนจักรเป็นเรื่องส่วนตัวมาก” เอ็ลเดอร์ฮอลแลนด์กล่าว “ทุกๆ คนสำคัญ นี่คือสาเหตุที่เราทำงานตามหลักธรรมของความเห็นชอบร่วมกัน เราต้องการให้ทุกคนมีความเห็น แสดงความเห็น และเดินหน้าไปพร้อมกัน”

เมื่อยอมรับการเรียกเป็นอัครสาวก สมาชิกโควรัมอัครสาวกสิบสอง “ได้รับคำสั่ง” ให้ทำตามพระประสงค์ของพระเจ้า เอ็ลเดอร์เดล จี. เรนลันด์กล่าว สมาชิกเลือกสนับสนุนอัครสาวกสิบสองโดยแสดงความเชื่อมั่นของตนในคำปฏิญาณของอัครสาวกแต่ละท่านว่าจะเชื่อฟังพระผู้เป็นเจ้า

วิสุทธิชนยุคสุดท้ายผู้ออกเสียงสนับสนุนอัครสาวกแต่ละท่านกำลังสนับสนุนทั้งโควรัมไปด้วยในตัว เอ็ลเดอร์เควนทิน แอล. คุกกล่าว

การออกเสียงอันศักดิ์สิทธิ์นั้นเกื้อหนุนและเป็นพรแก่อัครสาวก—แต่เกื้อหนุนผู้สนับสนุนด้วยเช่นกัน เอ็ลเดอร์คุกเสริม “ทำให้พวกเขามีพลัง เป็นพรแก่พวกเขา และให้การนำทางแก่พวกเขา”

นี่หมายความว่าเฉกเช่นสมาชิกที่ได้รับผลกระทบอย่างลึกซึ้งจากไฟป่าแซนทาโรซาให้การสนับสนุนเอ็ลเดอร์ราสแบนด์ สมาชิกทั่วโลกจะได้รับการเกื้อหนุนเช่นกันเมื่อพวกเขาเกื้อหนุนสมาชิกแต่ละท่านในโควรัมอัครสาวกสิบสอง