เสริมสร้างประจักษ์พยานของผมเกี่ยวกับศาสดาพยากรณ์

การศึกษาและการสวดอ้อนวอนมีบทบาทสำคัญในกระบวนการนี้ ตัวอย่างเช่น ผมตัดสินใจอ่านคำปราศรัยการประชุมใหญ่สามัญทั้งหมดของประธานเนลสันตั้งแต่ท่านเป็นเจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่ (มีอยู่มากทีเดียว) ผมศึกษาคำปราศรัยการให้ข้อคิดทางวิญญาณทั้งหมดที่ท่านพูดกับคนหนุ่มสาว นักศึกษามหาวิทยาลัย และผู้ฟังกลุ่มอื่นด้วย นี่ช่วยให้ผมรู้มากขึ้นเกี่ยวกับประธานเนลสันและรู้ว่าอะไรสำคัญต่อท่าน

ผมค้นหาการนำทางในพระคัมภีร์เช่นกัน ข้อหนึ่งที่สะดุดใจผมคือ มัทธิว 7:16 ข้อนี้พระคริสต์ประทานวิธีแยกแยะว่าคนๆ นั้นเป็นศาสดาพยากรณ์ของพระองค์หรือไม่ “พวกท่านจะรู้จักพวกเขาได้ด้วยผลของพวกเขา”

เมื่อผมอ่านข้อนี้ ผมตระหนักว่าวิธีที่ดีที่สุดที่จะรู้ว่าประธานเนลสันเป็นศาสดาพยากรณ์หรือไม่คือทำตามคำสอนของท่านแล้วดูผล ผมตัดสินใจศึกษาคำปราศรัยการประชุมใหญ่สามัญที่ประธานเนลสันให้ไว้ตั้งแต่เป็นศาสดาพยากรณ์และระบุอย่างน้อยหนึ่งอย่างในคำปราศรัยแต่ละครั้งที่ท่านขอให้เราทำ ต่อไปนี้เป็นแค่ตัวอย่างบางประการ:

• ตุลาคม 2020: “ขณะท่านศึกษาพระคัมภีร์หกเดือนต่อจากนี้ ข้าพเจ้าขอให้ท่านเขียนรายการทุกอย่างที่พระเจ้าทรงสัญญาไว้ว่าจะทรงทำเพื่ออิสราเอลในพันธสัญญา … จงไตร่ตรองสัญญาเหล่านี้ พูดคุยเรื่องนี้กับครอบครัวและมิตรสหายของท่าน จากนั้นดำเนินชีวิตและคอยดูสัญญาเหล่านี้เกิดสัมฤทธิผลในชีวิต”¹

• เมษายน 2020: “ขอให้เราอดอาหาร สวดอ้อนวอน และรวมพลังศรัทธาของเราอีกครั้ง ขอให้เราทูลวิงวอนขอการบรรเทาจากการแพร่ระบาดทั่วโลกครั้งนี้”²

• ตุลาคม 2019: “ข้าพเจ้าขอให้ท่านศึกษาร่วมกับการสวดอ้อนวอนถึงความจริง ทั้งปวง ที่ท่านจะค้นพบได้เกี่ยวกับอำนาจฐานะปุโรหิต … เมื่อความเข้าใจของท่านเพิ่มขึ้น และเมื่อท่านใช้ศรัทธาในพระเจ้าและอำนาจฐานะปุโรหิตของพระองค์ ความสามารถที่ท่านจะใช้ประโยชน์จากทรัพย์สมบัติทางวิญญาณซึ่งพระเจ้าทรงเตรียมไว้ให้นี้จะเพิ่มพูนขึ้น”³

• เมษายน 2019: “ระบุสิ่งที่ หยุด ท่านจากการกลับใจ จากนั้นจงเปลี่ยน! กลับใจ!”⁴

• ตุลาคม 2018: “ข้าพเจ้าสัญญาว่าถ้าเราจะทำสุดความสามารถในการฟื้นฟูชื่อที่ถูกต้องของศาสนจักรของพระเจ้า พระองค์ผู้ทรงเป็นเจ้าของศาสนจักรนี้จะทรงเทพลังอำนาจและพรของพระองค์มาบนศีรษะของวิสุทธิชนยุคสุดท้ายอย่างที่เราไม่เคยพบเห็นมาก่อน”⁵

• เมษายน 2018: “ข้าพเจ้าขอร้องให้ท่านเพิ่มสมรรถภาพทางวิญญาณเพื่อรับการเปิดเผย”⁶

ขณะทบทวนคำเชื้อเชิญเหล่านี้จากประธานเนลสัน ผมตระหนักว่าผมไม่ได้จริงจังกับคำเชื้อเชิญทั้งหมดเมื่อผมได้ยินครั้งแรก ในบางกรณี ผมลืมคำเชื้อเชิญด้วยซ้ำ ผมตั้งใจจะทำให้ดีขึ้นและตั้งเป้าหมายจำเพาะเจาะจงให้ผมทำตามคำแนะนำของประธานเนลสัน

ด้วยเหตุนี้ ผมจึงประสบผลมากมาย ผมรู้สึกถึงพลังอำนาจฐานะปุโรหิตมากเป็นพิเศษ รู้สึกสนิทกับครอบครัวมากขึ้น และรู้สึกใกล้ชิดพระผู้ช่วยให้รอดพระเยซูคริสต์มากขึ้น แน่นอนว่าผมไม่ดีพร้อมและยังมีหนทางอีกยาวไกลในการทำตามคำแนะนำทั้งหมดของประธานเนลสัน แต่ความพยายามของผมตอนนี้ทำให้ชีวิตผมดีขึ้นอย่างเดียว

เพื่อให้เข้าใจคำตอบที่ผมได้รับ ผมจึงศึกษาคำสอนเรื่องการเปิดเผยส่วนตัวจากเอ็ลเดอร์เดวิด เอ. เบดนาร์แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสอง ท่านเปรียบการเปิดเผยแบบแรกกับสวิตช์ไฟซึ่งทำให้ห้องทั้งห้องสว่างทันที เปรียบเสมือนการเปิดเผยเกิดขึ้นได้ฉับพลันทันใด และท่านเปรียบการเปิดเผยแบบที่สองกับดวงอาทิตย์ขึ้นซึ่งแสงสว่างค่อยๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ⁷

ดูเหมือนว่าเอ็ลเดอร์ราสแบนด์มี “ชั่วขณะเหมือนสวิตช์ไฟ” เมื่อท่านวางมือบนศีรษะประธานเนลสันและรู้สึกถึงพยานที่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าประธานเนลสันเป็นศาสดาพยากรณ์ของพระผู้เป็นเจ้า

สำหรับผม เมื่อผมศึกษาประธานเนลสันและคำสอนของท่าน ผมสังเกตว่าดวงอาทิตย์ค่อยๆ ขึ้น

เมื่อผมศึกษา เมื่อผมสวดอ้อนวอน และเมื่อผมทำสิ่งที่ประธานเนลสันขอให้ผมทำ ศรัทธาของผมเพิ่มขึ้น “บรรทัดมาเติมบรรทัด, กฎเกณฑ์มาเติมกฎเกณฑ์” (ดู 2 นีไฟ 28:30) ผมอาจไม่เคยประสบชั่วขณะที่การเปิดเผยเกิดขึ้นเหมือนเปิดสวิตช์ไฟ แต่เนื่องด้วยการสวดอ้อนวอนและการศึกษาของผม ผมพูดได้เต็มปากว่าผมมีศรัทธาว่าประธานเนลสันเป็นศาสดาพยากรณ์ของพระเจ้าบนโลกนี้

การหาคำตอบให้กับคำถามของเราย่อมอาศัยการทำส่วนของเรา แต่ผมรู้ว่าเราทุกคนสามารถรับพยานส่วนตัวยืนยันการเรียกจากสวรรค์ของประธานเนลสันและคำตอบของคำถามอื่นๆ เกี่ยวกับพระกิตติคุณที่เราอาจจะมี

ผมเรียนรู้และมีศรัทธามากมายตลอดประสบการณ์นี้ ผมสำนึกคุณตลอดไปที่พระเจ้าประทานพรเราด้วยศาสดาพยากรณ์ยุคปัจจุบันบนแผ่นดินโลก ผมรู้ว่าถ้าเราสดับฟังถ้อยคำของพวกท่าน พรสำคัญยิ่งมีเตรียมไว้ให้เราและครอบครัวเรา