ปกใน คำนำ และประจักษ์พยานของพยาน

สมมติเพื่อนคนหนึ่งถามท่านว่าทำไมสมาชิกศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้ายต้องใช้พระคัมภีร์มอรมอนถ้าเรามีพระคัมภีร์ไบเบิลอยู่แล้ว (ท่านอาจจะเคยมีประสบการณ์นี้) ท่านจะตอบเพื่อนว่าอย่างไร

พระคัมภีร์มอรมอนเริ่มด้วยปกในและคำนำที่อธิบายจุดประสงค์ของหนังสือศักดิ์สิทธิ์เล่มนี้ รวมไปถึงผลกระทบที่พระคัมภีร์จะมีต่อประจักษ์พยานและความสัมพันธ์ของเรากับพระผู้เป็นเจ้า หน้าต้นๆ ของพระคัมภีร์มอรมอนมีประจักษ์พยานของเหล่าพยานที่เห็นแผ่นจารึกทองคำซึ่งแปลเป็นพระคัมภีร์มอรมอนและแสดงประจักษ์พยานถึงที่มาอันศักดิ์สิทธิ์ของหนังสือดังกล่าว

เมื่อท่านเรียนจบบทนี้ ให้ตรึกตรองว่าท่านจะได้ประโยชน์มากที่สุดจากการศึกษาพระคัมภีร์มอรมอนปีนี้อย่างไร และพระคัมภีร์มอรมอนจะช่วยให้ท่านมีประจักษ์พยานมากขึ้นในพระผู้ช่วยให้รอดพระเยซูคริสต์และพระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟูอย่างไร

ภาพ

โจเซฟ สมิธกับแผ่นจารึก

ศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธอธิบายว่าโมโรไนศาสดาพยากรณ์สมัยโบราณได้รวมปกในของพระคัมภีร์มอร-มอนไว้บนแผ่นจารึกทองคำ “ปกในของพระคัมภีร์มอร-มอนเป็นการแปลตามตัวอักษรจากแผ่นสุดท้ายด้านซ้ายมือของ … แผ่นจารึก ซึ่งประกอบด้วยบันทึกที่แปลไว้แล้ว … และ … กล่าวว่าปกในไม่ ใช่เรียงความสมัยใหม่แต่อย่างใด ทั้งไม่ ใช่ของข้าพเจ้าหรือของคนใดที่เคยมีชีวิตหรือมีชีวิตอยู่ ในคนรุ่นนี้” (คำสอนของประธานศาสนาจักร: โจเซฟ สมิธ [2007], หน้า 65–)

ขณะที่ท่านอ่านย่อหน้าแรกของปกใน ให้มองหาคำและข้อความที่โมโรไนใช้เป็นพยานถึงความเกี่ยวข้องของพระเจ้าในการมาปรากฏของพระคัมภีร์มอรมอน

1. ในสมุดบันทึกการศึกษาพระคัมภีร์ของท่าน ให้อธิบายว่าเหตุใดจึงสำคัญที่ท่านต้องทราบว่าพระเจ้าทรงเกี่ยวข้องอย่างไรในการเขียนและการแปลพระคัมภีร์มอรมอน

ขณะที่ท่านอ่านย่อหน้าที่สองของปกใน ให้มองหาจุดประสงค์หลักสามประการที่โมโรไนให้ ไว้สำหรับการเขียนพระคัมภีร์มอรมอน (ท่านอาจต้องการทำเครื่องหมายจุดประสงค์เหล่านี้ในพระคัมภีร์ของท่าน) “เชื้อสายแห่งอิสราเอล” หมายถึงคนที่เป็นผู้สืบตระกูลของยาโคบเช่นเดียวกับคนที่เป็นสมาชิกแห่งพันธ-สัญญาในศาสนจักรของพระเจ้า (ดู Bible Dictionary, “Israel”) นอกจากนี้ วลี “ชาวยิวและคนต่างชาติ” ยังรวมถึงบุตรธิดาทุกคนของพระบิดาบนสวรรค์เช่นกัน ในย่อหน้าที่สอง จงทำให้ข่าวสารของปกในเป็นเรื่องใกล้ตัวโดยใส่ชื่อท่านแทน “ผู้ที่เหลืออยู่ของเชื้อสายแห่งอิสราเอล” และ “ชาวยิวและคนต่างชาติ”

2. ในสมุดบันทึกการศึกษาพระคัมภีร์ของท่าน ให้อธิบายว่าการรู้จุดประสงค์เหล่านี้ของพระคัมภีร์มอรมอนช่วยให้ท่านเข้าใจความสำคัญของพระคัมภีร์เล่มนี้อย่างไร

ประธานเอสรา แทฟท์ เบ็นสันกล่าวเกี่ยวกับ “พันธกิจหลัก” หรือจุดประสงค์ของพระคัมภีร์มอรมอนดังนี้

พันธกิจหลักของพระคัมภีร์มอรมอน ดังบันทึกไว้บนหน้าปกในคือ ‘เพื่อให้ชาวยิวและคนต่างชาติมั่นใจด้วยว่าพระเยซูคือพระคริสต์, พระผู้เป็นเจ้านิรันดร์, และทรงแสดงองค์ให้ประจักษ์แก่ประชาชาติทั้งปวง.’

“คนที่แสวงหาความจริงอย่างซื่อสัตย์จะได้รับประจักษ์พยานว่าพระเยซูคือพระคริสต์ขณะที่เขาไตร่ตรองถ้อยคำที่ได้รับการดลใจของพระคัมภีร์มอรมอนร่วมกับการสวดอ้อนวอน

“เกินครึ่งของข้อพระคัมภีร์ทั้งหมดในพระคัมภีร์มอร-มอนอ้างถึงพระเจ้าของเรา พระนามบางรูปแบบของพระคริสต์มีกล่าวไว้ ในแต่ละข้อของพระคัมภีร์มอร-มอนบ่อยกว่าในพันธสัญญาใหม่” (“Come unto Christ,” Ensign, Nov. 1987, 83)

ดังหน้าปกในประกาศ พระคัมภีร์มอรมอนเป็นพยานว่าพระเยซูคือพระคริสต์ ขณะที่ท่านศึกษาพระคัมภีร์มอรมอนปีนี้ ให้มุ่งเน้นสิ่งที่ท่านเรียนรู้เกี่ยวกับพระเยซูคริสต์และทูลถามพระบิดาบนสวรรค์ในการสวดอ้อนวอนเพื่อให้ทรงยืนยันสิ่งที่ท่านกำลังเรียนรู้ผ่านอำนาจของพระวิญญาณบริสุทธิ์

ท่านเคยสงสัยหรือไม่ว่าประตูโค้งในสะพานหรือสิ่งปลูกสร้างสามารถตั้งอยู่ได้อย่างไรโดยไม่มีเสาค้ำด้านล่าง เมื่อสร้างประตูโค้ง จะต้องสร้างสองด้านขึ้นมาโดยมีเสาค้ำ จากนั้นจะวัดช่องบนสุดของประตูโค้งอย่างละเอียด และตัดศิลาก้อนหนึ่งที่เรียกว่า “ศิลาหลัก” ให้พอดีกับช่องนั้น เมื่อวางศิลาหลักให้เข้าที่ ประตูโค้งจะสามารถตั้งอยู่ ได้ โดยไม่ต้องมีเสาค้ำภายนอก ลองนึกภาพว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับประตูโค้งถ้านำศิลาหลักออกไป

ภาพ

ประตูโค้ง

เปิดหน้าคำนำของพระคัมภีร์มอรมอนและอ่านย่อหน้าที่หก ซึ่งเริ่มด้วยคำว่า “เกี่ยวกับบันทึกนี้ …” ขณะที่ท่านอ่านย่อหน้านี้ ให้มองหาหลักธรรมสำคัญสามประการที่ศาสดาพยากรณ์ โจเซฟ สมิธสอนเกี่ยวกับพระคัมภีร์มอรมอน

ประธานเอสรา แทฟท์ เบ็นสันอธิบายเพิ่มเติมว่าพระคัมภีร์มอรมอนเป็นศิลาหลักของศาสนาเราอย่างไร ขณะที่ท่านอ่านข้อความอ้างอิง ให้ขีดเส้นใต้วลีหรือข้อความที่จะช่วยท่านอธิบายบทบาทหลักของพระคัมภีร์มอรมอนในศาสนาของเราให้คนอื่นฟัง

“พระคัมภีร์มอรมอนเป็นศิลาหลักแห่งศาสนาของเราในสามวิธี เป็นศิลาหลักในพยานที่เรามีต่อพระคริสต์ เป็นศิลาหลักแห่งหลักคำสอนของเรา และเป็นศิลาหลักแห่งประจักษ์พยาน

“พระคัมภีร์มอรมอนเป็นศิลาหลักในพยานที่เรามีต่อพระเยซูคริสต์ ผู้ทรงเป็นศิลามุมเอกของทุกสิ่งที่เราทำ พระคัมภีร์มอรมอนเป็นพยานถึงการดำรงอยู่ของพระองค์ด้วยพลังอำนาจและความชัดเจน …

“พระเจ้าตรัสด้วยพระองค์เองว่าพระคัมภีร์มอรมอนประกอบด้วย ‘ความสมบูรณ์แห่งพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์’ (คพ. 20:9) นั่นมิได้หมายความว่าพระคัมภีร์มอรมอนประกอบด้วยคำสอนทุกอย่าง หลักคำสอนทุกอย่างที่เปิดเผยมา แต่หมายความว่าในพระคัมภีร์มอร-มอนเราจะพบความสมบูรณ์ของหลักคำสอนเหล่านี้ที่จำเป็นต่อความรอดของเรา สอนไว้อย่างชัดเจนและเรียบง่ายจนแม้เด็กๆ ก็สามารถเรียนรู้แนวทางของความรอดและความสูงส่งได้ …

“สุดท้าย พระคัมภีร์มอรมอนเป็นศิลาหลักแห่งประจักษ์พยาน ประตูโค้งพังทลายถ้านำศิลาหลักออกไปฉันใด ทั้งศาสนจักรจะตั้งมั่นหรือล้มลงก็ด้วยความจริงของพระคัมภีร์มอรมอนฉันนั้น ศัตรูของศาสนจักรเข้าใจเรื่องนี้อย่างชัดเจน นี่คือสาเหตุที่พวกเขาพยายามอย่างยิ่งเพื่อพิสูจน์ว่าพระคัมภีร์มอรมอนไม่จริง เพราะถ้าสามารถทำลายความน่าเชื่อถือของพระคัมภีร์เล่มนี้ได้ ศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธ คำกล่าวอ้างของเราเรื่องกุญแจฐานะปุ โรหิต การเปิดเผย และศาสนจักรที่ ได้รับการฟื้นฟูย่อมไม่น่าเชื่อถือตามไปด้วย แต่ ในทำนองเดียวกัน ถ้าพระคัมภีร์มอรมอนเป็นความจริง—และคนหลายล้านคนเวลานี้เป็นพยานว่าพวกเขามีพยานของพระวิญญาณว่าพระคัมภีร์มอรมอนเป็นความจริงโดยแน่แท้—เมื่อนั้นคนก็ต้องยอมรับคำกล่าวอ้างเรื่องการฟื้นฟูและทั้งหมดที่มาด้วยกัน” (“The Book of Mormon—Keystone of Our Religion,” Ensign, Nov. 1986, 5–6)

3. อ่านย่อหน้าที่แปดของคำนำพระคัมภีร์มอรมอน ซึ่งเริ่มว่า “เราเชิญชวนผู้คนทั้งปวงในทุกหนแห่ง … ” และระบุว่าท่านจะรู้ได้อย่างไรว่าพระคัมภีร์มอรมอนเป็นความจริง หลังจากอ่านย่อหน้านี้แล้ว ให้เติมประโยคต่อไปนี้ให้สมบูรณ์ในสมุดบันทึกการศึกษาพระคัมภีร์ของท่าน: เมื่อเราอ่าน ไตร่ตรอง และสวดอ้อนวอน พระวิญญาณบริสุทธิ์จะ …

เฉกเช่นศิลาหลักค้ำศิลาก้อนอื่นในประตูโค้ง ประจักษ์พยานในพระคัมภีร์มอรมอนเสริมสร้างประจักษ์พยานของเราในหลักธรรมสำคัญอื่นๆ ของพระกิตติคุณเช่นกัน อ่านย่อหน้าที่เก้าของคำนำซึ่งเริ่มว่า “บรรดาผู้ที่ ได้รับการเป็นพยานจากสวรรค์ … ” และขีดเส้นใต้ความจริงเพิ่มเติมสามประการที่ท่านจะได้พยานขณะทำตามคำแนะนำในย่อหน้าที่แปด เมื่อเราอ่าน ไตร่ตรอง และสวดอ้อนวอนเกี่ยวกับพระคัมภีร์มอรมอน พระวิญญาณบริสุทธิ์จะทรงเป็นพยานว่านี่คือความจริง พระเยซูคือพระคริสต์ โจเซฟ สมิธเป็นศาสดาพยากรณ์ของพระผู้เป็นเจ้า และศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้ายเป็นอาณาจักรของพระเจ้าบนแผ่นดินโลก

4. ในสมุดบันทึกการศึกษาพระคัมภีร์ของท่าน ให้อธิบายว่าเหตุใดจึงเรียกพระคัมภีร์มอรมอนว่าศิลาหลักแห่งศาสนาของเรา

สมมติว่าท่านเป็นผู้พิพากษากำลังพยายามพิจารณาความจริงเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในการโต้เถียงระหว่างสองฝ่าย การมีพยานเห็นเหตุการณ์จะเอื้อประโยชน์อย่างไร การมีพยานจำนวนมากจะเอื้อประโยชน์มากขึ้นอย่างไร

ภาพ

ออลิเวอร์ คาวเดอรี

ภาพ

เดวิด วิตเมอร์

ภาพ

มาร์ติน แฮร์ริส

พระเจ้าทรงแสดงแผ่นจารึกซึ่งโจเซฟ สมิธแปลเป็นพระคัมภีร์มอรมอนให้พยานหลายคนดู อ่าน “ประจักษ์พยานของพยานสามคน” ทำเครื่องหมายที่ข้อความสามหรือสี่แห่งที่พวกเขาใช้เป็นพยานถึงแผ่นจารึกและการมาปรากฏของพระคัมภีร์มอรมอน จากนั้นให้อ่าน “ประจักษ์พยานของพยานแปดคน” สังเกตความแตกต่างในประสบการณ์ของสองกลุ่มนี้ ดังแสดงไว้ ในตารางด้านล่าง

5. ตอบคำถามต่อไปนี้ในสมุดบันทึกการศึกษาพระคัมภีร์ของท่าน เหตุใดจึงสำคัญที่ต้องมีพยานอื่นของแผ่นจารึกทองคำนอกเหนือจากโจเซฟ สมิธ

6. ในสมุดบันทึกการศึกษาพระคัมภีร์ของท่านให้เขียนประจักษ์พยานของท่านเองเกี่ยวกับพระคัมภีร์มอรมอน โจ-เซฟ สมิธ และพระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟูของพระเยซูคริสต์ หากท่านรู้สึกว่ายังไม่มีประจักษ์พยานของตนเอง ให้เขียนว่าท่านจะทำอะไรเพื่อพัฒนาประจักษ์พยานเกี่ยวกับพระคัมภีร์มอรมอนในปีนี้ เพื่อเสริมสร้างประจักษ์พยานของท่าน ให้แบ่งปันความรู้สึกเกี่ยวกับสิ่งที่ท่านเขียนกับบิดามารดาหรือสมาชิกครอบครัวหรือเพื่อนคนหนึ่ง

7. เขียนต่อท้ายงานมอบหมายของวันนี้ในสมุดบันทึกการศึกษาพระคัมภีร์ของท่านว่า

   ฉันได้ศึกษาบทเรียนเรื่อง “เนื้อหาของคำนำในพระคัมภีร์มอรมอน” และศึกษาเสร็จวันที่

   คำถาม ความคิด และข้อคิดเพิ่มเติมที่ฉันอยากแบ่งปันกับครู: