บำรุงเลี้ยงศรัทธาของท่านเอง

การช่วยยกภาระของกันและกันต้องใช้ความพยายามและสามารถกดดันเราในวิธีที่คาดไม่ถึง พึงแน่ใจว่าท่านดูแลตนเองทางวิญญาณและยึดมั่นในพระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟูของพระเยซูคริสต์ ในกรณีฉุกเฉิน ผู้โดยสารบนเครื่องบินจะได้รับคำแนะนำให้สวมหน้ากากออกซิเจนของตนเองก่อน แล้วค่อยช่วยเหลือผู้อื่น ในทํานองเดียวกัน เราจะหนุนใจผู้อื่นได้ก็ต่อเมื่อเราดูแลงานสําคัญของการบํารุงเลี้ยงศรัทธาและประจักษ์พยานของเราเอง

หลักธรรมต่อไปนี้สามารถช่วยท่านเสริมสร้างความแข็งแกร่งแก่ศรัทธาของตนขณะปฏิบัติศาสนกิจต่อผู้อื่น:

• ระลึกถึงสิ่งที่ท่านเชื่อและเคยประสบ ใคร่ครวญช่วงเวลาที่ท่านรู้สึกถึงอิทธิพลของพระวิญญาณบริสุทธิ์ จดจําเวลาที่ท่านเคยประสบสันติสุข ปีติ ความรัก และความชัดเจน ให้นึกถึงเวลาที่ท่านรู้สึกว่าพระผู้เป็นเจ้าตรัสกับท่านในวิธีส่วนตัวเพื่อยืนยันศรัทธาท่าน ประสบการณ์ทางวิญญาณในอดีตของท่านจะเป็นบ่อเกิดของความเข้มแข็งและคุ้มครองให้พ้นจากความสงสัยและความกลัว

• จงบ่มเพาะประจักษ์พยานของท่านต่อไป สําคัญที่ต้องทําสิ่งที่ช่วยท่านเสริมสร้างประจักษ์พยานในพระกิตติคุณอย่างต่อเนื่อง สิ่งเหล่านี้อาจรวมถึงการอ่านพระคัมภีร์ การสวดอ้อนวอน การรับส่วนศีลระลึก การนมัสการในพระวิหาร และการรับใช้ผู้อื่น ข้อปฏิบัติที่เรียบง่ายเหล่านี้จะช่วยให้ท่านรู้สึกถึงอิทธิพลของพระวิญญาณและยังคงเปี่ยมด้วยศรัทธา

• เอื้อมออกไปหาผู้อื่น หากรู้สึกว่าการปฏิบัติศาสนกิจต่อเพื่อนหรือสมาชิกครอบครัวเป็นภาระหนัก พึงจําไว้ว่าท่านไม่โดดเดี่ยว ท่านสามารถเอื้อมออกไปหาสมาชิกครอบครัว เพื่อน ผู้นําศาสนจักร หรือผู้เชี่ยวชาญที่ท่านไว้ใจ ความเห็นอกเห็นใจ คําสวดอ้อนวอน และความชํานาญของพวกเขาจะช่วยให้ท่านระลึกได้ว่าพระผู้เป็นเจ้าทรงรักท่านมากเพียงใด พวกเขาสนับสนุนท่านได้เช่นกันเมื่อท่านแสวงหาคําตอบสําหรับคําถามของตนเอง

• กําหนดขอบเขตที่ดี แม้เราควรพยายามฟังและสนับสนุนผู้อื่นเรื่องคําถามหรือข้อกังวล แต่เราควรตระหนักถึงความต้องการและข้อจำกัดของเราเองเช่นกัน อารมณ์และความรู้สึกของท่านก็สําคัญ ท่านอาจประสบกับความกลัว ความคับข้องใจ และความโศกเศร้าระหว่างกระบวนการนี้ หากรู้สึกว่าการสนทนายากเกินรับมือได้ ให้แสดงความรู้สึกและนัดเวลาสนทนากันในครั้งใหม่ คนที่ท่านรักอาจต้องการให้คำถามของพวกเขากลายเป็นประเด็นในการสนทนาทุกครั้งหรือพูดถึงเรื่องใดเรื่องหนึ่งในลักษณะที่ดูหมิ่นท่านหรือศรัทธาของท่าน ท่านจําเป็นต้องเคารพเส้นทางชีวิตของผู้อื่นฉันใด พวกเขาก็ต้องเคารพเส้นทางชีวิตของท่านฉันนั้น ท่านไม่จําเป็นต้องรู้สึกด้อยค่าหรือด้อยปัญญาหากท่านได้ข้อสรุปต่างจากคนอื่น

• รับทราบข้อมูลให้ดีกว่าเดิม ท่านไม่จำเป็นต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญในประเด็นใดประเด็นหนึ่งเพื่อจะเป็นผู้สนับสนุนที่ดีได้ แต่การเรียนรู้เกี่ยวกับหัวข้อที่ท่านไม่ทราบบริบทอาจเป็นเรื่องที่ดีมาก ค้นคว้าศึกษาหลักคำสอนและประวัติศาสตร์ของศาสนจักรอย่างถี่ถ้วน ทำความคุ้นเคยกับคำถามทั่วไปให้มากขึ้น เรียนรู้สิ่งที่ผู้นําศาสนจักรและผู้เชี่ยวชาญที่ซื่อสัตย์กล่าวไว้เกี่ยวกับหัวข้อเหล่านี้ ในกระบวนการนี้ ท่านอาจเรียนรู้ ลืม และเรียนรู้ซ้ำหลายเรื่อง

• ทําความคุ้นเคยกับหลักธรรมในการแสวงหาคําตอบ ศึกษาและปฏิบัติตามหลักธรรมที่สนทนาในหมวด “การแสวงหาคำตอบสำหรับคำถามของท่าน” ของแหล่งช่วยนี้

ข้อพระคัมภีร์หลัก: ลูกา 22:31–32; 1 นีไฟ 15:8–11; เจคอบ 4:6; แอลมา 32:41–43; หลักคําสอนและพันธสัญญา 6:14