เซมินารี
1 โครินธ์ 15:32–54


1 โครินธ์ 15:32–54

ร่างกายซีเลสเชียล เทอร์เรสเตรียลและทีเลสเชียล

ภาพ
Profile of a Young Woman in bright sunlight.

เหตุใดจึงคุ้มค่าที่จะติดตามพระเยซูคริสต์แม้ว่าผู้อื่นดูเหมือนว่าจะพบกับความสุขในบาป? เปาโลอธิบายเหตุผลหนึ่งโดยการสอนชาวโครินธ์เกี่ยวกับระดับของรัศมีภาพที่แตกต่างกันในการฟื้นคืนชีวิต บทเรียนนี้จะช่วยให้ท่านมุ่งมั่นที่จะมีค่าควรแก่การฟื้นคืนชีวิตซีเลสเชียลผ่านพระเยซูคริสต์

กระตุ้นการมีส่วนร่วมของนักเรียน ช่วยให้นักเรียนเข้าใจว่าการมีส่วนร่วมของนักเรียนมีความสำคัญต่อประสบการณ์การเรียนรู้ในชั้นเรียน พยายามกระตุ้นการแสดงความคิดเห็นของนักเรียนด้วยการขอบคุณ ชมเชย หรือถามนักเรียนคนอื่นๆ ว่าเรียนรู้อะไรจากความคิดเห็นนั้น

การเตรียมของนักเรียน: เชื้อเชิญให้นักเรียนอ่าน แอลมา 40:23 เพื่อดูว่าทุกร่างกายที่ฟื้นคืนชีวิตมีอะไรเหมือนกัน แล้วอ่าน 1 โครินธ์ 15:40–42 เพื่อดูความแตกต่างที่จะมีอยู่ในสัตภาวะที่ฟื้นคืนชีวิต

กิจกรรมการเรียนรู้ที่อาจทำได้

พรในอนาคตในแผนของพระผู้เป็นเจ้า

ท่านอาจให้ขนมหนึ่งชิ้นแก่นักเรียนทุกคนที่สวมใส่เสื้อผ้าสีใดสีหนึ่ง ถามนักเรียนที่ไม่ได้ใส่สีนั้นว่า นักเรียนอยากทราบเกี่ยวกับรางวัลนี้มาก่อนไหมและวิธีได้รับรางวัลก่อนเข้าชั้นเรียน

  • หากท่านรู้ว่าครูของท่านจะให้รางวัลกับทุกคนที่สวมใส่เสื้อผ้าสีใดสีหนึ่งในวันนี้ จะส่งผลต่อการเลือกสวมใส่เสื้อผ้าของท่านหรือไม่?

  • ท่านจะรู้สึกไม่พอใจหรือไม่หากท่านทราบเรื่องนี้เมื่อสายเกินไป? เพราะเหตุใดจึงรู้สึกหรือไม่รู้สึก?

เพราะพระบิดาบนสวรรค์ทรงรักเรา พระองค์จึงทรงบอกกับเราว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากชีวิตนี้ และทางเลือกใดที่จะนำไปสู่ความสุขหรือความเสียใจ ขณะศึกษาพระคัมภีร์ในวันนี้ มองหาความจริงที่สามารถช่วยกระตุ้นให้ท่านทำการเลือกที่จะนำไปสู่ความสุขนิรันดร์

วาดภาพประกอบง่ายๆ หรือแผนภาพของสิ่งที่ท่านรู้อยู่แล้วเกี่ยวกับแผนแห่งความรอดของพระผู้เป็นเจ้า รวมถึงสถานที่ที่เราอยู่ก่อนเกิด ชีวิตบนแผ่นดินโลก และสิ่งที่เกิดขึ้นหลังความตาย ขณะที่ท่านวาด อย่าลืมนึกถึงบทบาทของพระเยซูคริสต์ตลอดแผนของพระบิดาของเราด้วย

ท่านอาจเชิญนักเรียนอย่างน้อยสองคนให้ออกมาวาดภาพบนกระดาน การทราบถึงความเข้าใจในปัจจุบันของนักเรียนเกี่ยวกับชีวิตหลังความตาย สามารถเป็นข้อคิดสำหรับการปรับบทเรียนให้เข้ากับความต้องการของนักเรียนได้

  • ความเข้าใจแผนของพระบิดาบนสวรรค์สำหรับเราหลังความตายส่งผลต่อการตัดสินใจที่ท่านเลือกในความเป็นมรรตัยอย่างไร?

  • พระเยซูคริสต์ทรงเป็นศูนย์กลางของแผนอย่างไร?

ใน 1 โครินธ์ 15:1–29 อัครสาวกเปาโลแก้ไขความเชื่อผิดๆ ที่ว่า “การเป็นขึ้นมาจากความตาย [จะ] ไม่มี” ( 1 โครินธ์ 15:13) ต่อมาเขาจึงเตือนชาวโครินธ์ว่าอย่าถูกหลอกจากเจตคติของผู้คนที่พูดว่า “ก็ให้เรากินและดื่มเถิด เพราะว่าพรุ่งนี้เราก็จะตาย” ( 1 โครินธ์ 15:32) ซึ่งแสดงถึงความเชื่อผิดๆ ว่าไม่มีชีวิตหลังความตาย ดังนั้นสิ่งที่เราทำในชีวิตนี้จึงไม่สำคัญ

เพื่อช่วยให้นักเรียนมองเห็นความเชื่อผิดๆ ท่านอาจลบทุกอย่างหลังจากชีวิตมรรตัยออกจากภาพวาดบนกระดานของนักเรียนคนหนึ่ง

ความเชื่อผิดๆ อีกอย่างหนึ่งคือ พระผู้เป็นเจ้าจะประทานพรแห่งชีวิตนิรันดร์แก่ทุกคน ไม่ว่าการเลือกของเราจะเป็นเช่นไร (ดู 2 นีไฟ 28:8 ; แอลมา 1:4)

ท่านอาจเปลี่ยนแปลงภาพวาดของนักเรียนอีกคนบนกระดานด้วยการเพิ่มลูกศรจากโลกตรงไปยังอาณาจักรซีเลสเชียลและลบอาณาจักรเทอร์เรสเตรียลกับทีเลสเชียลออก

  • ความเชื่อผิดๆ ที่ว่าไม่มีชีวิตหลังความตาย หรือพระผู้เป็นเจ้าจะประทานพรแห่งชีวิตนิรันดร์แก่ทุกคนอาจส่งผลต่อการตัดสินใจและเจตคติของเราอย่างไรบ้าง? เพราะเหตุใด?

อ่าน 1 โครินธ์ 15:40–42 โดยมองหาคำสอนของเปาโลเกี่ยวกับการฟื้นคืนชีวิตในแผนของพระบิดาบนสวรรค์ เป็นประโยชน์ที่จะทราบว่าการแปลของโจเซฟ สมิธใน 1 โครินธ์ 15:40 หมายถึงร่างกายทีเลสเชียลด้วย

หากนักเรียนทำกิจกรรมการเตรียมของนักเรียนมา ท่านอาจเชื้อเชิญให้นักเรียนแบ่งปันสิ่งที่ทุกร่างกายที่ฟื้นคืนชีวิตมีเหมือนกัน และความแตกต่างที่จะมี

  • เหตุใดจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องทราบความจริงว่า ในแผนของพระบิดาบนสวรรค์ มีระดับของรัศมีภาพแตกต่างกันสำหรับร่างกายที่ฟื้นคืนชีวิต?

ระดับของรัศมีภาพ

ภาพ
Illustration of the three degrees of glory. A sun, moon and stars are pictured. Stick figures underneath show varying degrees of shining rays.

สำหรับกิจกรรมต่อไปนี้ ท่านอาจแสดงคำถามสามข้อที่ระบุไว้หลังจากคำกล่าวของประธานมอนสันเพื่อให้นักเรียนอ้างอิงในระหว่างการศึกษา .

หลังจากให้เวลาพอสมควรแล้ว เชื้อเชิญให้นักเรียนแบ่งปันคำตอบของตนและคำถามที่ตนอาจมีกับชั้นเรียน

การเปิดเผยผ่านศาสดาพยากรณ์สมัยปัจจุบันช่วยให้ข้อคิดเพิ่มเติมถึงคำสอนของเปาโล ศึกษา หลักคำสอนและพันธสัญญา 76:50–52, 62–64, 69–70, 71–76, 81–85 ; 88:21–24 และอ่านคำกล่าวต่อไปนี้ของประธานโธมัส เอส. มอนสัน (1927–2018) มองหาคำตอบสำหรับคำถามสามข้อที่ตามมาจากคำกล่าวนั้น

ภาพ
Official portrait of President Thomas S. Monson, 2008.

เนื่องด้วยชัยชนะของพระคริสต์เหนือหลุมศพ เราทุกคนจะฟื้นคืนชีวิต นี่คือการไถ่จิตวิญญาณ เปาโลเขียนว่า “ร่างกายสำหรับสวรรค์ก็มี และร่างกายสำหรับโลกก็มี แต่ว่าศักดิ์ศรีของร่างกายสำหรับสวรรค์ก็อย่างหนึ่ง และศักดิ์ศรีของร่างกายสำหรับโลกก็อย่างหนึ่ง” ( 1 โครินธ์ 15:40)

รัศมีภาพซีเลสเชียลนั่นเองที่เราแสวงหา เราปรารถนาจะอยู่ในที่ประทับของพระผู้เป็นเจ้า เราต้องการเป็นสมาชิกในครอบครัวนิรันดร์ พรเช่นนั้นได้มาจากความพยายามชั่วชีวิต การแสวงหา การกลับใจ และความสำเร็จในที่สุด

(โธมัส เอส. มอนสัน, “การแข่งขันในชีวิต,เลียโฮนา, พ.ค. 2012, 93)

  • บทบาทของพระผู้ช่วยให้รอดในการเดินทางของเราไปสู่รัศมีภาพซีเลสเชียลคืออะไร?

  • เราจำเป็นต้องทำอะไรจึงจะได้รับรัศมีภาพซีเลสเชียล?

  • เหตุใดการได้รับรัศมีภาพซีเลสเชียลแทนที่จะได้รับรัศมีภาพเทอร์เรสเตรียลและทีเลสเชียลจึงคุ้มค่าแก่ความพยายาม?

ไตร่ตรองว่าท่านมองเห็นตัวเองอยู่ที่ใดบนเส้นทางไปยังอาณาจักรซีเลสเชียล ท่านพึ่งพาพระผู้ช่วยให้รอดเพื่อช่วยให้ท่านดำเนินชีวิตในวิธีที่ท่านจะสามารถรับพรเหล่านี้หรือไม่?

เราจะสามารถรับรัศมีภาพซีเลสเชียลได้จริงๆ ใช่ไหม?

บางคนรู้สึกท้อแท้เมื่อรู้ว่าตนอยู่ห่างไกลจากการดำเนินชีวิตอย่างซีเลสเชียลบนแผ่นดินโลกเพียงใด อ่านสิ่งที่เอ็ลเดอร์ดีเทอร์ เอฟ. อุคท์ดอร์ฟแห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองสอนเกี่ยวกับความก้าวหน้านิรันดร์ของเรา หรือรับชมวีดิทัศน์ “พระผู้เป็นเจ้าท่ามกลางเรา” จากรหัสเวลา 5:01 ถึง 6:58 มีอยู่ที่ ChurchofJesusChrist.org

ภาพ
Illustration of the three degrees of glory. A sun, moon and stars are pictured. Stick figures underneath show varying degrees of shining rays.
ภาพ
Official portrait of Elder Dieter F. Uchtdorf of the Quorum of the Twelve Apostles, 2006. Called as Second Counselor in the First Presidency, 3 February 2008. Made official portrait in 2008 replacing portrait taken in 2004.

ใจข้าพเจ้าเปี่ยมล้นด้วยความสำนึกคุณต่อพระบิดาบนสวรรค์ ข้าพเจ้าตระหนักว่าพระองค์ไม่ได้ทรงชี้ชะตาลูกๆ ของพระองค์ให้โซเซผ่านความเป็นมรรตัยโดยปราศจากความหวังสำหรับอนาคตนิรันดร์อันเจิดจ้า พระองค์ประทานคำแนะนำที่เปิดเผยทางกลับไปหาพระองค์ และตรงศูนย์กลางของทั้งหมดนี้คือ พระบุตรอันเป็นที่รักของพระองค์ พระเยซูคริสต์ และการเสียสละที่ทรงทำเพื่อเรา …

เราทุกคนเป็นทารกเมื่อเทียบกับผู้มีรัศมีภาพและสง่างามที่เราถูกกำหนดมาให้เป็น ไม่มีมนุษย์คนใดพัฒนาจากการคลานไปเป็นการเดินการวิ่งในชีวิตโดยปราศจากการสะดุด ชน และฟกช้ำ นั่นคือวิธีที่เราเรียนรู้

(ดีเทอร์ เอฟ. อุคท์ดอร์ฟ, “พระผู้เป็นเจ้าท่ามกลางเรา,” เลียโฮนา, พ.ค. 2021, 8–9)

  • คำกล่าวของเอ็ลเดอร์อุคท์ดอร์ฟช่วยให้ท่านเข้าใจสิ่งใดเกี่ยวกับพระบิดาบนสวรรค์?

  • สิ่งนั้นส่งผลต่อความรู้สึกของท่านที่มีต่อพระองค์และความสัมพันธ์ของท่านกับพระองค์อย่างไร?

ท่านอาจเชื้อเชิญให้นักเรียนไตร่ตรองคำถามต่อไปนี้ในใจ

  • ท่านได้รับการกระตุ้นเตือนให้ทำอะไรจากสิ่งที่ท่านเรียนรู้ในวันนี้?

เป็นพยานว่าการเตรียมรับร่างกายซีเลสเชียลผ่านพระเยซูคริสต์เป็นสิ่งที่คุ้มค่าแก่ความพยายาม เชื้อเชิญให้นักเรียนแบ่งปันสิ่งที่พวกเขาเรียนรู้กับคนที่รักผู้ต้องการความจริงเหล่านี้

บทวิจารณ์และข้อมูลภูมิหลัง

จะเกิดอะไรขึ้นหากเรามุ่งมั่นจะใช้ชีวิตอย่างซื่อสัตย์ในชีวิตนี้ แต่ก็ยังไม่ดีพร้อมเมื่อเราตาย?

ท่านศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธ (1805–1844) อธิบายว่า:

ภาพ
Half-length frontal portrait of the Prophet Joseph Smith, Jr. Joseph’s head is turned to the side in a three-quarter view, right hand on hip and his left hand holds sheets of papers. He is depicted wearing a dark brown suit and a white shirt and tie.

เมื่อท่านไต่บันได ท่านต้องเริ่มจากขั้นต่ำสุดและขึ้นไปทีละขั้น จนถึงขั้นบนสุด เช่นเดียวกับหลักธรรมของพระกิตติคุณ—ท่านต้องเริ่มจากขั้นแรกแล้วดำเนินต่อไปจนท่านเรียนรู้หลักธรรมทั้งหมดของความสูงส่ง แต่ก่อนที่ท่านจะเรียนรู้สิ่งเหล่านี้ต้องใช้เวลาอีกนานหลังจากท่านผ่านม่านไป เมื่ออยู่ในโลกนี้ท่านจะยังไม่เข้าใจทุกอย่าง การเรียนรู้ความรอดและความสูงส่งของเราเป็นงานอันยิ่งใหญ่แม้หลังความตาย

(คำสอนของประธานศาสนาจักร:โจเซฟ สมิธ [2007], 289)

“ร่ายกายที่ถูกหว่านลงนั้นเสื่อมสลายได้ ร่างกายที่เป็นขึ้นมานั้นไม่เสื่อมสลาย” ( 1 โครินธ์ 15:42) หมายความว่าอย่างไร?

เปาโลเปรียบเทียบร่างมรรตัยกับเมล็ดพันธุ์ที่ไม่ดีพร้อมหรือเสื่อมสลาย (ดู 1 โครินธ์ 15:37–38, 42) หลังจากเราตายและถูกฝัง (หว่านเมล็ดหรือปลูก) วันหนึ่งเราจะขึ้นมาจากหลุมศพเหมือนกับพืชที่เติบโตขึ้นจากผืนดิน ร่างกายที่ฟื้นคืนชีวิตของเราจะไม่เสื่อมสลายอีกต่อไป แต่จะดีพร้อมผ่านพลังอำนาจแห่งพระผู้เป็นเจ้า

ใครจะได้รับรัศมีภาพซีเลสเชียล?

อาณาจักรซีเลสเชียลเป็นสถานที่ซึ่งเตรียมไว้สำหรับผู้ที่ “ได้รับประจักษ์พยานของพระเยซู” และได้รับการทำให้ “ดีพร้อมโดยผ่านพระเยซู สื่อกลางแห่งพันธสัญญาใหม่ ผู้ทรงทำให้เกิดการชดใช้ที่สมบูรณ์นี้โดยผ่านการหลั่งพระโลหิตของพระองค์เอง” ( หลักคำสอนและพันธสัญญา 76:51, 69) ในการสืบทอดของประทานนี้ เราต้องได้รับศาสนพิธีแห่งความรอด รักษาพระบัญญัติ และกลับใจจากบาปของเรา สำหรับคำอธิบายโดยละเอียดเกี่ยวกับผู้ที่จะได้รับมรดกรัศมีภาพซีเลสเชียล โปรดดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 76:50–70 ; 76:92–96

(Gospel Topics, “Kingdoms of Glory,” topics.ChurchofJesusChrist.org)

กิจกรรมการเรียนรู้เพิ่มเติม

การเปรียบเทียบร่างกายที่เป็นมรรตัยของเรากับร่างกายที่ฟื้นคืนชีวิตของเรา

เชื้อเชิญให้นักเรียนคิดค้นบทเรียนที่ใช้อุปกรณ์ของตนเอง ซึ่งนักเรียนจะสามารถใช้เพื่อช่วยให้ผู้อื่นเข้าใจถึงการฟื้นคืนชีวิต ท่านอาจให้ตัวอย่างแก่นักเรียน เช่น การเปรียบเทียบหนอนผีเสื้อกับผีเสื้อ หรือการเปรียบเทียบการรื้อทำลายอาคารเก่ากับการก่อสร้างอาคารใหม่แทนที่

อธิบายให้นักเรียนฟังว่าเปาโลใช้ตัวอย่างการบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์เพื่อช่วยให้ชาวโครินธ์เข้าใจการฟื้นคืนชีวิต (ดู 1 โครินธ์ 15:35–38) ร่างกายมรรตัยของเราเปรียบได้กับเมล็ดพันธุ์ ความตายและการฝังของเราสามารถนำไปเปรียบกับเมล็ดพันธุ์ที่ปลูก (หว่าน) ร่างกายที่ฟื้นคืนชีวิตของเราสามารถเปรียบได้กับพืชที่เติบโต

เชิญนักเรียนศึกษา 1 โครินธ์ 15:43–54 เพื่อทำเครื่องหมายคำที่เปาโลใช้อธิบายร่างกายมรรตัยของเรา และทำเครื่องหมาย (ที่แตกต่างกัน) กับคำที่เปาโลใช้อธิบายร่างกายที่ฟื้นคืนชีวิตของเรา

เชื้อเชิญให้นักเรียนมาเขียนบนกระดานเกี่ยวกับความยากลำบากทางกายซึ่งคนที่เรารักประสบ ตัวอย่างอาจได้แก่ความเจ็บป่วย สายตาไม่ดี ปวดหลัง หรือปัญหาของกระดูกและข้อ เชื้อเชิญให้นักเรียนปิดตาและจินตนาการภาพคนที่ตนรักในร่างกายที่ฟื้นคืนชีวิต ได้รับพลังอำนาจเยียวยาจากพระผู้เป็นเจ้าที่ขจัดความยากลำบากเหล่านั้นให้หมดสิ้นไป ลบความยากลำบากทางกายแต่ละอย่างออกจากกระดาน และเป็นพยานถึงความรักของพระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์ ผู้ทรงทำให้ความยากลำบากเหล่านั้นเป็นสิ่งชั่วคราวและทรงเป็นผู้ที่จะประทานร่างกายที่ฟื้นคืนชีวิตให้เราแต่ละคนชั่วนิรันดร์