2020
อดีตรั้งคุณไว้หรือเปล่า?
เมษายน 2020


ดิจิทัลเท่านั้น

อดีตรั้งคุณไว้หรือเปล่า?

พระผู้ช่วยให้รอดทรงจ่ายราคาแล้ว จับพระหัตถ์ของพระองค์และมุ่งไปข้างหน้า

เมื่อไม่นานมานี้อธิการเชื้อเชิญวอร์ดของเราให้นึกถึงความอ่อนแอหรือบาปที่เราสามารถทำเสมือนมาทิ้งไว้ที่โต๊ะศีลระลึกเพื่อให้พระเยซูคริสต์ทรงรับไป มีบาปที่แบกไว้ตลอดชีวิตการเป็นคนหนุ่มที่ผมพยายามพิชิตมันแต่ยังไม่สามารถเอาชนะได้ด้วยการสวดอ้อนวอนหรือด้วยพลังความตั้งใจของตนเอง ถึงแม้ผมจะเติบโตตลอดหลายปีที่ผ่านมา แต่ผมรู้ว่าเพื่อเติบโตต่อไปผมต้องเอาชนะบาปเหล่านี้ให้ได้

วันอาทิตย์หลังจากการท้าทายของอธิการ ผมตัดสินใจว่าจะทิ้งบาปเพียงหนึ่งอย่างไว้ที่โต๊ะศีลระลึก เครื่องหมายทางกายภาพแทนพระผู้ช่วยให้รอดและการพลีพระชนม์ชีพเพื่อการชดใช้ของพระองค์ ขณะเตรียมรับศีลระลึก ผมระลึกว่าผ้าคลุมศีลระลึกแทนฉลองพระองค์ขณะฝังพระศพ ขนมปังและน้ำแทนพระวรกายและพระโลหิตของพระองค์

ด้วยความจริงใจและความประสงค์เต็มหัวใจ ผมต่อพันธสัญญาบัพติศมาและสวดอ้อนวอนในใจ ทูลขอพระบิดาบนสวรรค์ให้ทรงช่วยและให้คำมั่นสัญญาว่าจะทิ้งบาปนั้นไว้เบื้องหลัง แล้วบางอย่างที่ไม่เคยคาดคิดก็เกิดขึ้น: ความปรารถนาที่จะทำบาปหมดไปอย่างสิ้นเชิง ผมพยายามแบบนี้อีกสองสามครั้ง เหตุการณ์เดียวกันนี้เกิดขึ้นกับบาปอื่นๆ ดีเกินไปไหมที่จะเป็นความจริง?

ให้ความตั้งใจของผมสอดคล้องกับความตั้งพระทัยของพระองค์

สัปดาห์ต่อมา ผมรู้ว่าจะทิ้งบาปใดไว้ที่โต๊ะศีลระลึก แต่ผมยังไม่รู้สึกพร้อมที่จะเลิกบาปนั้น เมื่อมองย้อนไป ผมตระหนักว่าใจผมยังไม่อยู่ในจุดที่ต้องการจะอยู่ ผมยังไม่จริงใจพอที่จะให้คำมั่นสัญญาว่าจะเปลี่ยน แต่ผมตระหนักว่าพระบิดาบนสวรรค์ทรงเจ็บปวดกับบาปนี้เพียงใด ผมรู้ว่าผมต้องให้ความตั้งใจของผมสอดคล้องกับความตั้งพระทัยของพระองค์และให้พระองค์ทรงเป็นศูนย์กลางของชีวิตเพื่อเป็นอิสระ ดังนั้นผมจึงพยายามสุดความสามารถที่จะให้เรื่องนี้เป็นจริง

ผมหลีกเลี่ยงการล่อลวงทุกอย่างที่อาจนำไปสู่บาปนี้ ผมเปลี่ยนวิธีอ่านพระคัมภีร์ที่ทำอยู่ทุกวันและไตร่ตรองข้อพระคัมภีร์อย่างจริงจังแล้วประยุกต์ใช้กับชีวิต ผมเน้นการจริงใจต่อคำมั่นสัญญาที่จะเปลี่ยน และพยายามทุกวันที่จะแสวงหาความตั้งพระทัยของพระองค์ให้อยู่เหนือความตั้งใจของตนเอง ผมให้พระองค์มาก่อน เพราะผมรู้ว่าผมจะทิ้งบาปนี้ไว้เบื้องหลังไม่ได้ถ้าไม่มีพลังแห่งการชดใช้ของพระผู้ช่วยให้รอด โดยให้พระองค์มาก่อนอย่างต่อเนื่อง ผมสามารถทิ้งบาปนี้ไว้ที่โต๊ะศีลระลึกได้ ในที่สุดผมก็เป็นอิสระจากสิ่งที่รั้งผมไว้มาหลายปี

โดยผ่านกระบวนการนี้ ผมเติบโตเข้าใกล้พระบิดาบนสวรรค์และพระผู้ช่วยให้รอดของผมมากขึ้น ผมนึกเห็นภาพว่าทั้งสองพระองค์ทอดพระเนตรมาที่ผมตลอดหลายปีที่ผ่านมาด้วยความอดทนและความรัก—โดยทรงทราบว่าในที่สุดผมจะหยุดบาปที่ขัดขวางความก้าวหน้าของผมได้ในทางวิญญาณ และเมื่อผมพร้อมที่จะหยุดบาปเหล่านั้น พระเยซูคริสต์จะทรงพร้อมที่จะอุ้มชูผม—เอื้อมพระหัตถ์มารับผมและประทานอภัยพร้อมความเข้มแข็งแก่ผม พระองค์ทรงเตรียมทางให้ผมแล้วที่จะเป็นอิสระจากบาปผ่านการชดใช้ของพระองค์ พระองค์ทรงจ่ายราคาความอ่อนแอ ความผิดพลาด และบาปของผม ผมเพียงต้องวางใจในพระองค์

ท่านมุ่งไปข้างหน้าได้

ในช่วงเวลานี้ ผมอ่านถ้อยคำจากเอ็ลเดอร์ริชาร์ด จี. สก็อตต์ (1928-2015) แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองซึ่งให้แรงผลักดันเล็กน้อยแต่จำเป็นแก่ผม “ถ้าชีวิตท่านสับสนวุ่นวายและท่านรู้สึกอึดอัดและไม่มีค่าควร … จงอย่ากังวล พระองค์ทรงทราบเรื่องเหล่านั้นทั้งหมดแล้ว ทรงรอให้ท่านคุกเข่าด้วยความนอบน้อมแล้วเริ่มสองสามก้าวแรก สวดอ้อนวอนขอพละกำลัง . . . สวดอ้อนวอนขอให้ความรักของพระผู้ช่วยให้รอดเทเข้าสู่ใจท่าน”1

เมื่อเราขับร้องว่า “ฉันเฝ้าพิศวง” (เพลงสวดที่ผมโปรดปราน) ในสัปดาห์ต่อมา แต่ละคำล้วนเปล่งความจริงออกมา ผมพิศวงจริงๆ —ในความอัศจรรย์ใจที่สิ่งต่างๆ ซึ่งผมดิ้นรนต่อสู้มากว่าทศวรรษถูกรับไปจากผม อัศจรรย์ใจที่โดยผ่านเดชานุภาพแห่งการชดใช้ของพระผู้ช่วยให้รอดผมก้าวต่อไปข้างหน้าได้แล้ว อัศจรรย์ใจที่พระองค์ทรงเยียวยาบาปและบาดแผลทั้งหมดได้โดยไม่เหลือร่องรอยไว้เลย อัศจรรย์ใจที่ผมไม่ถูกรั้งไว้เพราะอดีตแล้ว

ผมยังมีสิ่งที่ต้องเรียนรู้และเอาชนะอีกมากนัก แต่ชีวิตผมอยู่ในเส้นทางที่จะมุ่งหน้าขึ้นไป ผมรู้สึกถึงปีติและสันติสุขมากขึ้น ผมแสดงออกถึงความสำนึกคุณยิ่งขึ้น ผมเข้าใกล้ขึ้นและเพิ่มความแข็งแกร่งให้ประจักษ์พยานของผมในพระบิดาบนสวรรค์และพระผู้ช่วยให้รอด ทุกวันที่ผมเลือกพยายามอีกครั้ง ผมเข้าใกล้ทั้งสองพระองค์และบุคคลที่ทรงรู้ว่าผมเป็นได้อีกหนึ่งก้าว

อ้างอิง

  1. ริชาร์ด จี. สก็อตต์, “Making the Right Choices,” Ensign, Nov. 1988, 77.