5 บทเรียนจากนีไฟเมื่อชีวิตไม่เป็นไปตามแผน

หลังจากเลมันพยายามนําแผ่นจารึกทองเหลืองมาจากเลบันแต่ไม่สำเร็จ นีไฟกับพี่ๆ พยายามอีกครั้ง ครั้งนี้เลบันส่งทหารยามไล่ตามพวกเขาและเหล่าพี่น้องก็หลบหนีไปได้อย่างหวุดหวิด เมื่อเทพลงมาตี‍สอนเลมันกับเลมิวเอลจากการทำร้ายแซมกับนีไฟเนื่องด้วยความท้อแท้ เทพรับสั่งให้พวกเขาพยายามนําแผ่นจารึกกลับมาอีกครั้ง ในการพยายามครั้งที่สาม นีไฟก็ประสบความสําเร็จ

ส่วนหนึ่งของประสบการณ์ที่นีไฟสอนเราคือ ถึงแม้เราอาจไม่ประสบความสําเร็จในวิธีที่เราคาดหวัง แต่ถ้าเราพยายามต่อไป พระเจ้าจะทรงช่วยให้เราก้าวหน้า เรียนรู้ และเติบโตเมื่อเราวางใจในพระองค์ต่อไป

หลังจากครอบครัวของอิชมาเอลไปสมทบกับครอบครัวของลีไฮในแดนทุรกันดาร เลมันกับเลมิวเอลและลูกๆ บางคนของอิชมาเอลก่อกบฏต่อนีไฟ พวกเขามัดมือและเท้าและวางแผนทิ้งเขาไว้ให้ตาย แต่ด้วยพละกําลังจากพระเจ้า นีไฟทําให้สายรัดขาด เมื่อเลมันกับเลมิวเอลขอการอภัย นีไฟไม่ได้ลงโทษพวกเขาด้วยความเกลียดชัง หรือความคิดว่าตนเองชอบธรรม หรือวิพากษ์วิจารณ์ เขาให้อภัยพวกเขาโดยเร็ว และเดินหน้าต่อไปในการเชื่อฟังพระเจ้า

บางครั้งสิ่งสุดท้ายที่เราอยากทำคือให้อภัยคนที่ทําร้ายเรา แต่เมื่อเราปล่อยวางความขมขื่นและความขุ่นเคือง เราสามารถต้อนรับสันติสุขเข้ามาในชีวิตเราและละเว้นความทุกข์ที่ไม่จำเป็นสำหรับตนเองและผู้อื่น เราสามารถเดินหน้าต่อไปด้วยความหวังและสันติสุขในพระคริสต์

ขณะที่นีไฟกับพี่ๆ ออกล่าสัตว์ คันธนูเหล็กกล้าของนีไฟหัก และพวกเขาไม่มีอาหาร ความผิดตกอยู่ที่นีไฟ แม้แต่ลีไฮก็เริ่มพร่ำบ่นต่อพระเจ้าเพราะความหิวและความทุกข์ของพวกเขา หากแต่นีไฟแก้ปัญหาด้วยตนเองและลงมือทํา เขาทําคันธนูกับลูกธนูไม้ จากนั้นจึงขอให้ลีไฮทูลถามพระเจ้าว่าพวกเขาควรหาอาหารที่ใด

เมื่อเราเผชิญกับปัญหา เราสามารถริเริ่มลงมือได้ เช่นเดียวกับนีไฟ เราสามารถดำเนินการเพื่อเปลี่ยนมุมมองต่อสภาวการณ์ของเราและเตรียมตัวเราให้พร้อมในการแสวงหาคําแนะนําจากพระเจ้า โดยวางใจว่าพระองค์จะประทานการนําทางแก่เรา

เมื่อเลมันกับเลมิวเอลล้อเลียนที่เขาเริ่มต้นต่อเรือ นีไฟอ้างพระคัมภีร์เพื่อแสดงให้พวกเขาเห็นความสําคัญของการทําตามพระบัญญัติของพระเจ้า เขาเตือนพี่ๆ ว่าโมเสสแยกทะเลแดงด้วยอํานาจจากพระเจ้าและช่วยให้ชาวอิสราเอลหนีออกจากอียิปต์

เมื่อเราพยายามเข้าใจพระหัตถ์ของพระเจ้าในชีวิต เราสามารถเปิดพระคัมภีร์เพื่อรับมุมมองใหม่ๆ และการดลใจเมื่อเราพบความคล้ายคลึงกันระหว่างประสบการณ์ของเรากับของศาสดาพยากรณ์สมัยโบราณ

ในบทนี้ นีไฟหมดกําลังด้วยความโศกเศร้าเพราะความอ่อนแอ บาป และการล่อลวง แต่ความโศกเศร้ามีอยู่เพียงสามข้อเท่านั้น ในความทรงจําอันมีชัย นีไฟจําได้ว่า “[เขา] ได้วางใจผู้ใด” (ข้อ 19) และกล่าวว่าเขา “จะไม่มอบความไว้วางใจ [ของเขา] ในแขนแห่งเนื้อหนัง” (ข้อ 34)

ถ้อยคําของนีไฟเตือนเราว่า เมื่อเราล้มเหลวในการดำเนินชีวิตตามความคาดหวังใดๆ เราสามารถหันไปหาพระเจ้าและวางใจในเดชานุภาพการไถ่ของพระองค์

ชีวิตเต็มไปด้วยเรื่องที่คาดไม่ถึง และบางครั้งอาจรู้สึกได้ว่าความไม่คาดฝันนั้นเกินจะรับมือไหว

แต่ดังที่ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันสอนเมื่อเร็วๆ นี้ว่า: “ไม่ว่าท่านจะมีคำถามหรือปัญหาใด ท่านจะพบคำตอบเสมอในพระชนม์ชีพและคำสอนของพระเยซูคริสต์ จงเรียนรู้มากขึ้นเกี่ยวกับการชดใช้ ความรัก พระเมตตา หลักคําสอน และพระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟูแห่งการเยียวยาและความก้าวหน้า จงหันมาหาพระองค์! จงติดตามพระองค์!”¹

เพื่อหันไปหาความรักและคําสอนของพระองค์ ที่ใดจะดีไปกว่าถ้อยคําของศาสดาพยากรณ์ในพระคัมภีร์มอรมอน คําสอนจากศาสดาพยากรณ์สมัยโบราณเช่นนีไฟนั้นเขียนไว้เพื่อยุคสมัยของเรา และเราจะพบสันติสุข การปลอบโยน และความมั่นใจเกี่ยวกับอนาคตเสมอจากความจริงของพวกเขา ทุกเมื่อที่ชีวิตดูเหมือนไม่เป็นไปตามที่เราหวังไว้

ฉันเชื้อเชิญให้ท่านศึกษาคําสอนและความจริงของพระคัมภีร์มอรมอนอย่างแท้จริงในปีนี้