การเป็นสานุศิษย์ในชีวิตประจําวัน

ภาพ

ประธานเอ็ม. รัสเซลล์ บัลลาร์ด

“ท่านอาจรู้สึกเหมือนท่านไม่ได้อยู่บนเส้นทาง ‘ตามประเพณี’ แบบที่เพื่อนๆ ของท่านอยู่ ท่านอาจกลัวต่อการก้าวหน้าต่อไปในชีวิตเพราะท่านสามารถไปได้หลายทิศทาง ท่านอาจกังวลกับการเป็นอย่างที่พระเจ้าทรงประสงค์ให้ท่านเป็น—ติดอยู่ตรงทางแยกของความเป็นไปได้

“แทนที่จะกังวลว่าท่านอยู่บนเส้นทางที่ถูกต้องแล้วหรือไม่ ให้มุ่งความสนใจไปที่การทําสิ่งเหล่านั้นซึ่งจะสร้างความแตกต่าง ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนและเฉพาะเจาะจงเพื่อเป็นในแบบที่ท่านต้องการ แสวงหาการนําทางจากพระเจ้าตลอดกระบวนการนี้

“หากท่านไม่แน่ใจว่าจะก้าวต่อไปในเส้นทางของท่านอย่างไร ให้ทํา ‘ประหนึ่ง’ ว่าท่านเป็นคนที่ท่านต้องการจะเป็น เมื่อท่านทําเช่นนั้น ท่านจะเติบโตเป็นคนแบบนั้น สุดท้ายแล้วการกระทําของท่าน เจตคติของท่านจะนําท่านไปสู่การเป็นคนในแบบที่ท่านต้องการเป็น

“เมื่อท่านพยายามเป็นคนเช่นนี้และมีศรัทธาในแผนของพระผู้เป็นเจ้าสําหรับท่าน ท่านจะรู้สึกสงบที่ชีวิตท่านกําลังมุ่งหน้าไปในทิศทางบวก—แม้จะไม่ชัดเจนแน่ชัดหรือแตกต่างไปจากผู้คนรอบข้าง”

ภาพ

เอ็ลเดอร์เจฟฟรีย์ อาร์. ฮอลแลนด์

“พระผู้เป็นเจ้าทรงดูแลเรา … เราวางใจพระองค์ได้เสมอ … พระองค์มักจะทรงตอบคำสวดอ้อนวอนของเราผ่านผู้อื่น

“ในวันที่เรารู้สึกว่าเราถูกกดดันจนถึงขีดสุด เราได้การเตือนสติว่าเราจะไม่ถูกดันไปไกลเกินศรัทธาของเรา ภาษิตเก่ามีความว่า ‘ความสุดโต่งของมนุษย์คือโอกาสของพระผู้เป็นเจ้า’ เราจะไม่ค้นพบว่าเรามีพลังมากเพียงใดจนกว่าจะได้รับการทดสอบ ขัดเกลา และได้รับการทดสอบอีกครั้ง

“บ่อยครั้ง—หรือบางทีโดยทั่วไปแล้ว—ช่วงเวลายากลําบากที่เรียกร้องชีวิตของเราอาจเป็นช่วงเวลาแห่งการเติบโต—ช่วงเวลาแห่งการให้นิยาม สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่พาเราออกจากตัวตนที่เราเป็นอยู่ตอนนี้ไปสู่ตัวตนที่เรามุ่งหมายจะเป็น”

ภาพ

เอ็ลเดอร์ดีเทอร์ เอฟ. อุคท์ดอร์ฟ

“เมื่อไม่นานมานี้แฮร์เรียตกับข้าพเจ้าเพิ่งกลับจากการเยี่ยมเยือนดูไบในการปฏิบัติศาสนกิจอันน่าอัศจรรย์ …

“… เราเข้าร่วมการประชุมศีลระลึกที่งดงามในห้องบอลรูมโรงแรมเช่า นมัสการพระผู้เป็นเจ้ากับสานุศิษย์คนอื่นๆ ของพระเยซูคริสต์จากทั่วโลก ใจของเราเปี่ยมด้วยความสํานึกคุณเมื่อเรารู้สึกได้รับการยอมรับจากสมาชิกของศาสนจักรที่นั่น ช่างน่าอัศจรรย์ยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของศาสนจักรทั่วโลกที่ประกาศและปฏิบัติพระกิตติคุณสากลของพระเยซูคริสต์

“ไม่ว่าเราเป็นใครหรือไม่ว่าเราจะอยู่ที่ใด พระเยซูคริสต์ทรงเป็นความเข้มแข็งของเรา เราสามารถพบสันติสุขในพระองค์และความเป็นหนึ่งเดียวกันกับสานุศิษย์ที่ซื่อสัตย์ของพระองค์ไม่ว่าเราจะอยู่ในยูทาห์หรือดูไบ ลอนดอนหรือบราซิล ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ใดในโลก เราทุกคนเป็นหนึ่งเดียวกันบนเส้นทางพันธสัญญากลับบ้านไปหาพระบิดาผู้ทรงรักเรา”

ภาพ

เอ็ลเดอร์ดีเทอร์ เอฟ. อุคท์ดอร์ฟ

“ตั้งแต่การประสูติของพระองค์ถึงการตรึงกางเขนและการฟื้นคืนพระชนม์ในท้ายที่สุด พระเยซูคริสต์ทรงเดินทางเพื่อทําให้พันธกิจที่กำหนดต่อหน้าพระพักตร์พระองค์เกิดสัมฤทธิผล พันธกิจของเราในฐานะสานุศิษย์ของพระองค์คือเรียนรู้ที่จะเดินตามเส้นทางของพระองค์

“สัปดาห์นี้เป็นประสบการณ์อันน่าปีติยินดีที่ได้เดินตามรอยพระบาทพระผู้ช่วยให้รอดทางร่างกายและทางวิญญาณ—รวมทั้งในเบธเลเฮม สถานที่ประสูติของพระผู้ช่วยให้รอดและสถานที่ซึ่งการเดินทางบนแผ่นดินโลกของพระองค์เริ่มขึ้น

“ขณะมาเยือนศาสนจักรแห่งเซนต์ แคเธอรีน สถานที่ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นสถานที่ประสูติตามประเพณีของพระเยซูคริสต์ ข้าพเจ้านึกถึงการเดินทางของการเป็นสานุศิษย์ที่เราทุกคนดำเนินอยู่ ข้าพเจ้าแบ่งปันความคิดบางประการเกี่ยวกับการเป็นสานุศิษย์ที่การให้ข้อคิดทางวิญญาณที่ศูนย์เยรูซาเล็มบีวายยู

“ในฐานะผู้ติดตามพระเยซูคริสต์ เราพยายามเป็นเหมือนพระผู้ช่วยให้รอดและทําตามแบบอย่างของพระองค์ในทุกสิ่งที่เราทํา นับตั้งแต่วินาทีแรกที่เราก้าวเข้าสู่เส้นทางของการเป็นสานุศิษย์ พรที่มองเห็นและมองไม่เห็นจากพระผู้เป็นเจ้าเริ่มเข้ามาหาเรา

“ไม่ว่าเราจะอยู่แห่งใด วันนี้ท่านและข้าพเจ้าสามารถเดินในเส้นทางของการเป็นสานุศิษย์ ขอให้เราอ่อนน้อมถ่อมตน ขอให้เราสวดอ้อนวอนพระบิดาในสวรรค์ด้วยสุดใจของเรา และแสดงความปรารถนาว่าเราต้องการใกล้ชิดพระองค์และเรียนรู้จากพระองค์”

ภาพ

ภาพคนสองภาพบนเส้นทาง

ภาพ

เอ็ลเดอร์นีล แอล. แอนเดอร์เซ็น

“กระทำ กลายเป็น เอาชนะ แบ่งปัน

“มีประสบการณ์ไม่มากที่ยกระดับจิตใจได้เท่าการเป็นผู้สอนศาสนาที่เอ็มทีซี มันสร้างแรงบันดาลใจมากทีเดียว! เคธีกับข้าพเจ้าและสมาชิกครอบครัวของเราอยู่ที่นั่นเมื่อไม่นานมานี้ ต่อไปนี้เป็นความคิดบางประการที่ประยุกต์ใช้กับเราทุกคน

“ผู้สอนศาสนาต้องพัฒนาความเข้าใจที่ชัดเจนและเข้มแข็งในสิ่งที่พวกเขาเชื่อ สิ่งที่พวกเขารู้ และสิ่งที่พวกเขารู้สึก สิ่งนี้มีผลอย่างมากต่อสิ่งที่พวกเขาทํา ท่านและข้าพเจ้าก็เช่นกัน

“การเป็นสานุศิษย์ของพระเยซูคริสต์เป็นมากกว่าการเรียนรู้เกี่ยวกับพระองค์ แต่ยังต้องศึกษาพระคําของพระผู้เป็นเจ้าในพระคัมภีร์ ทําตามศรัทธาของเรา และทําตามแบบอย่างของพระผู้ช่วยให้รอด การเรียนรู้และการปฏิบัติตามมาควบคู่กัน

“ด้วยประสบการณ์ของงานเผยแผ่ ข้าพเจ้าเรียนรู้วิธีพึ่งพาพระผู้ช่วยให้รอด พึ่งพาพระองค์ แสวงหาพระองค์ และให้พระองค์ทรงปลอบโยนข้าพเจ้าขณะที่ข้าพเจ้าเผชิญความท้าทาย บทเรียนเหล่านี้นําทางข้าพเจ้าตลอดชีวิต ดังที่ประสบการณ์ของท่านนําทางท่าน

“ในฐานะผู้สอนศาสนา—และในฐานะผู้ติดตามพระเยซูคริสต์—เราสอนและช่วยคนที่พร้อมจะเข้าใกล้พระผู้ช่วยให้รอดมากขึ้น โดยผ่านการกระทําและคําพูดของเรา ทุกคนที่เราปฏิสัมพันธ์ด้วยควรรู้สึกถึงพยานถึงความรักที่พระผู้เป็นเจ้าทรงมีต่อพวกเขาและการอุทิศตนของเราต่อพระผู้ช่วยให้รอด พระเยซูคริสต์”

ภาพ

เอ็ลเดอร์เกอร์ริท ดับเบิลยู. กอง

“ข้าพเจ้าเผชิญได้ทุกอย่างโดยพระองค์ผู้ทรงเสริมกำลังข้าพเจ้า” (ฟีลิปปี 4:13) …

“ในฐานะสานุศิษย์วัยหนุ่มสาวของพระคริสต์เวลานี้ ท่านจะเผชิญอุปสรรคอันน่าหวั่นเกรง …

“โปรดจําไว้ว่าเส้นทางพันธสัญญาเป็นทางข้างหน้าที่ปลอดภัย รวดเร็ว และมีความสุขที่สุด พันธสัญญาเหล่านี้—พร้อมด้วยศาสดาพยากรณ์ ผู้หยั่งรู้ และผู้เปิดเผย—ทําหน้าที่เป็นเครื่องหมายการเดินตามเส้นทาง เพื่อนําทางท่านให้เดินทางกลับไปหาพระบิดาบนสวรรค์ของเรา”

ภาพ

เอ็ลเดอร์ยูลิซีส ซวาเรส

“ในฐานะผู้ติดตามพระเยซูคริสต์ เราเป็นผู้ส่งเสริมสันติที่มอบให้อย่างเผื่อแผ่ผ่านพระองค์และการพลีพระชนม์ชีพเพื่อการชดใช้ของพระองค์

“วิธีหนึ่งที่เราส่งเสริมสันติของพระผู้ช่วยให้รอดคือวิธีที่เราปฏิบัติต่อกัน หนึ่งในสัญญาณชัดเจนที่สุดที่แสดงว่าเรากำลังเข้าใกล้พระผู้ช่วยให้รอดมากขึ้นและเป็นเหมือนพระองค์มากขึ้นคือวิธีที่เราปฏิบัติต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยความรัก ความอดทน และความอ่อนโยน ไม่ว่าอยู่ในสภาวการณ์ใด

“เมื่อเราพากเพียรพัฒนาคุณลักษณะเหมือนพระผู้ช่วยให้รอด เราสามารถเป็นเครื่องมือแห่งสันติสุขของพระองค์ในโลกนี้ตามแบบแผนที่ทรงวางไว้ ข้าพเจ้าเชิญชวนท่านให้คิดหาวิธีเปลี่ยนแปลงตนเองให้เป็นคนที่หนุนจิตวิญญาณและคอยสนับสนุนผู้อื่น คนที่เข้าใจและมีใจให้อภัย คนที่มองหาข้อดีที่สุดในผู้อื่น โดยระลึกเสมอว่า “หากมีสิ่งใดที่เป็นคุณธรรม, งดงาม, หรือกล่าวขวัญกันว่าดีหรือควรค่าแก่การสรรเสริญ, เราแสวงหาสิ่งเหล่านี้” [หลักแห่งความเชื่อ 1:13]

ภาพ

เอ็ลเดอร์ยูลิซีส ซวาเรส

“การไปเยือนบราซิลของข้าพเจ้าเมื่อเร็วๆ นี้ มีประสบการณ์ที่คาดไม่ถึง—ทว่ายากจะลืมเลือน—กับสานุศิษย์ที่สร้างแรงบันดาลใจของพระคริสต์ชื่อมาร์คอส รอสซี

“มาร์คอสป่วยด้วยโรคฮันฮาร์ต ซินโดรมแต่กำเนิด ความผิดปกติที่เกิดขึ้นน้อยมากซึ่งทําให้แขนและขาของเขาไม่พัฒนาเต็มที่ คณะแพทย์ให้เขามีชีวิตเพียง 30 ปี แต่ตอนนี้เขาผ่านพ้นวัยนั้นมาได้ และเขายังคงก้าวข้ามข้อจํากัดต่างๆ ของเขา เขาเป็นสามีและพ่อ นักเขียน นักเล่นกระดานโต้คลื่น นักสเก็ตบอร์ด นักดำน้ำสกูบา ดีเจ นักร้อง นักพูดนานาชาติ และอื่นๆ

“เราทุกคนต่างก็มีข้อจํากัด แต่สิ่งที่สําคัญคือเราเรียนรู้และเติบโตจากอุปสรรคซึ่งอาจฉุดรั้งเราไว้ แม้จะต่อสู้ดิ้นรน แต่ศรัทธาของมาร์คอสนั้นแข็งแกร่ง เขาเข้าใจว่าการทดลองของเขาเป็นเพียงชั่วคราว ความสํานึกคุณต่อแผนนิรันดร์ของพระบิดาบนสวรรค์ทําให้เขามีความสุขและมีแรงบันดาลใจทุกวัน

“วันหนึ่งพระบิดาทรงต้องการให้เรากลับไปหาพระองค์และเราได้รับสัญญาว่าเราจะดีพร้อมในพระผู้ช่วยให้รอด จนถึงวันนั้น พระองค์ทรงอยู่กับเราในแต่ละก้าวของการเดินทางในความเป็นมรรตัยของเรา เมื่อเราหันไปหาพระองค์ เราจะพบปีติแม้มีความท้าทายตรงหน้าเรา”

ภาพ

ประธานคามิลล์ เอ็น. จอห์นสัน

“เราจะพบการบรรเทาทุกข์—จากความผิดหวัง ความปวดร้าวใจ และความท้าทายใดๆ—เมื่อเราทําให้ใจและความคิดเราสอดคล้องกับพระเยซูคริสต์ เพื่อให้สอดคล้องกับพระองค์ เราจงหมั่นอุทิศตนทุกวันต่อพระผู้เป็นเจ้า สวดอ้อนวอนและศึกษาพระคัมภีร์ เรากลับใจทุกวัน เรารับใช้ เราใช้ถ้อยคำที่ “มีคุณธรรม, งดงาม, หรือกล่าวขวัญกันว่าดี หรือควรค่าแก่การสรรเสริญ” (หลักแห่งความเชื่อ 1:13)

“ทั้งหมดนี้อัญเชิญพระวิญญาณให้ปรากฏอยู่ในชีวิตเรา เราตั้งใจฟังการแสดงให้ประจักษ์ของพระวิญญาณบริสุทธิ์ เราปรับความคิดของเราและสิ่งที่เอาเวลาของเราไปเพื่อให้แน่ใจว่าเรากําลังติดต่อกับสวรรค์ตลอดเวลา”

ภาพ

ซิสเตอร์คริสติน เอ็ม. ยี

“ดิฉันวิ่ง 5 กม. เมื่อวันเสาร์ที่แล้วกับเหล่าชายหญิงที่แสนยอดเยี่ยมที่การประชุมหนุ่มสาวโสดยูทาห์ ‘ด้วยกันในพระคริสต์’ ดิฉันประทับใจพระวิญญาณของค่ำคืนนั้น เราต่างเพลิดเพลินและรู้สึกเต็มเปี่ยมด้วยพลัง เมื่อเรามารวมตัวกันและพูดคุยถึงพระคริสต์ รวมถึงวิ่งใกล้บริเวณพระนิเวศน์ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ ดิฉันสะดุดใจในเรื่องเปรียบเทียบหลายเรื่อง ซึ่งดิฉันต้องการแบ่งปันกับท่าน

“ในตอนแรก เราตั้งใจจะวิ่งตามจังหวะความเร็วของเราเอง

“เป้าหมาย 5 กม. ของดิฉันคือวิ่งต่อไป อย่าหยุด และเข้าเส้นชัย (ลดแรงกดดันให้ต่ำเข้าไว้!) ขณะเตรียมตัว ดิฉันตระหนักว่าดิฉันจะวิ่งไปได้อีกไกลถ้าวิ่งตามจังหวะความเร็วของตนเองและสม่ำเสมอ ในการวิ่งที่งดงามนี้ บางคนวิ่งเร็ว บางคนวิ่งช้า บางคนเดิน บ้างก็เข็นเก้าอี้เข็นให้เพื่อนหรือครอบครัว ไม่เกี่ยวกับว่าใครวิ่งมาถึงคนแรกหรือคนสุดท้าย แต่เป็นการสนับสนุนกันและกันให้วิ่งต่อไป วิ่งร่วมกัน และเข้าเส้นชัย

“จังหวะความเร็วและความก้าวหน้าของท่านอยู่ระหว่างท่านกับพระเจ้า และดิฉันคิดว่าพระองค์ไม่ทรงเป็นกังวลเรื่องอันดับของท่านเมื่อเทียบกับคนที่อยู่ข้างหน้าหรือข้างหลังท่าน แต่ดิฉันคิดว่าพระองค์ทรงมุ่งช่วยเหลือท่านให้ไปต่อ ไม่ว่าท่านจะอยู่ที่ใดในระหว่างการเดินทางกลับบ้านไปหาพระองค์ ดังนั้นจงค้นหาและเพลิดเพลินกับความเร็วที่เหมาะกับท่าน และให้พระบิดาบนสวรรค์และพระผู้ช่วยให้รอดทรงเสริมสร้างความเข้มแข็งและให้ความกระจ่างแก่ย่างก้าวของท่าน!

“สอง เราวิ่งได้ดีขึ้นเมื่อไปด้วยกัน!

“ดิฉันชอบพบปะและวิ่งกับสานุศิษย์ที่น่าทึ่งของพระผู้ช่วยให้รอดมากมาย! เมื่อมีผู้อื่นอยู่เคียงข้าง ดิฉันรู้สึกมีแรงจูงใจให้ไปต่อ และระยะทางไม่รู้สึกเนิ่นนาน พี่น้องสตรีท่านหนึ่งพูดกับดิฉันว่า ‘ฉันวิ่งได้ดีขึ้นมากเมื่อวิ่งกับคุณ!’ ดิฉันชอบที่เราให้กําลังใจกันและกัน การช่วยเหลือผู้อื่นระหว่างทางมอบแรงจูงใจให้เราดําเนินต่อไป อย่างไรแล้วช่วยให้ดิฉันมีลมหายใจขณะวิ่งและรู้สึกประหนึ่งว่าดิฉันจะสามารถวิ่งต่อไปได้ ดิฉันคิดว่านั่นเป็นเพราะผู้ที่ดิฉันวิ่งด้วยและผู้ที่เรากําลังวิ่งให้ เรามารวมตัวกันในพระคริสต์

“และเมื่อเราให้กำลังใจกันในการวิ่ง 5 กม.นี้ พระผู้ช่วยให้รอดมักจะทรงทํางานผ่านผู้อื่นในการวิ่งมรรตัยนี้เพื่อยกภาระของเราและประทานความเข้มแข็ง กําลังใจ ความปลอดภัย การปลอบโยน และปีติที่เพิ่มขึ้น พระองค์ประทานการบรรเทาทุกข์แก่เราผ่านคนที่วิ่งเคียงข้างเรา

“ระยะวิ่งช่วงท้ายนั้นยาวและต้องขึ้นเนิน ตรงไปพระวิหารซาราโทกาสปริงส์ ยูทาห์ซึ่งสว่างไสวในตอนกลางคืน ดิฉันจะไม่ลืมมิตรภาพและความรักที่มอบให้และได้รับเมื่อเราเร่งฝีเท้าจนถึงเส้นชัย ขอให้เราเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กันและรู้สึกถึงปีติที่เพิ่มขึ้นเมื่อเราเดินทางด้วยกันในพระคริสต์”

ภาพ

ซิสเตอร์เทรซี วาย. บราวนิงก์

“พระเยซูคริสต์ทรงเชื้อเชิญให้เราทําตามแบบอย่างของพระองค์ในชีวิตประจําวันของเรา และพระองค์ทรงสัญญาความสุขเช่นกันเมื่อเราพยายามทําสุดความสามารถเพื่อทําตามพระองค์และทําให้ชีวิตเราเป็นไปตามแบบแผนของพระองค์ เมื่อไม่นานมานี้ดิฉันรู้สึกปรารถนาที่จะอดทนเหมือนเช่นพระผู้ช่วยให้รอดมากขึ้น พระเยซูคริสต์ ในพระชนม์ชีพและการปฏิบัติศาสนกิจบนแผ่นดินโลกของพระองค์ ทรงเป็นแบบอย่างที่ดีพร้อมของความอดทน พระองค์ทรงแบกสิ่งทั้งปวงและทําทุกสิ่งด้วยความเต็มใจยอมต่อพระบิดาบนสวรรค์ …

“ดิฉันรักเพลง [‘ฉันพากเพียรเป็นเหมือนพระเยซู’] เพราะเพลงนี้สื่อถึงสิ่งที่ดิฉันพยายามทำทุกวันได้อย่างดี อันเป็นไปตามแบบอย่างของพระผู้ช่วยให้รอดของเรา

“… ท่อนหนึ่งร้องว่า … : ‘ฉันพากเพียรเป็นเหมือนพระเยซู ฉันรู้ทางพระฉันเดินตาม’ ดิฉันชอบข้อความนั้น”

“เราสามารถเรียนรู้มากขึ้นเกี่ยวกับสิ่งนั้นใน ยอห์น 13:15 …[:] ‘เพราะว่าเราวางแบบอย่างแก่พวกท่านแล้ว, เพื่อให้ท่านทำเหมือนอย่างที่เราทำ’ นั่นเป็นคําแนะนําอันเปี่ยมด้วยพลังสําหรับดิฉัน ซึ่งพระผู้ช่วยให้รอดทรงเตรียมแบบแผนให้เราทําตาม เมื่อเราแสวงหาพระองค์และแสวงหาแบบแผนของพระองค์ เราจะเป็นเหมือนพระองค์มากขึ้น

“ดิฉันจึงเชื้อเชิญให้ท่านเรียนรู้วันนี้: พระเยซูทรงต้องการให้เราเป็นเหมือนพระองค์มากขึ้นในทางใดบ้าง และจงตั้งใจที่จะพยายามรวมเอาสิ่งเหล่านั้นไว้ในพฤติกรรม การกระทำ และคำพูดของท่านวันนี้”

ภาพ

ซิสเตอร์เทรซี วาย. บราวนิงก์

“เด็กๆ อาจจะตัวเล็ก แต่จิตวิญญาณก็ไม่เล็ก เด็กส่วนใหญ่ไม่ใช้คําพูดใหญ่โต และพวกเขาก็อธิบายสิ่งต่างๆ ได้ง่ายมาก พวกเขาไม่หวั่นเกรงในสิ่งที่พวกเขารู้ว่าเป็นความจริง พวกเขาป่าวร้องถึงสิ่งต่างๆ ไม่มีการพูดอ้อมค้อมมากนัก นั่นทําให้ประจักษ์พยานของพวกเขามีพลังต่อดิฉัน และดิฉันหวังว่าเราจะเห็นประจักษ์พยานเหล่านั้นในฐานะสานุศิษย์ของพระเยซูคริสต์

“เราเชื้อเชิญให้พวกเขาทําพันธสัญญาเมื่ออายุแปดขวบ และพวกเขาทํา และพวกเขาเป็นสานุศิษย์เช่นกัน เมื่อเราเชื้อเชิญให้พวกเขาใช้การเป็นสานุศิษย์ มองพวกเขาในฐานะสานุศิษย์ และปฏิบัติต่อพวกเขาในฐานะสานุศิษย์ พวกเขาจะเติบโตไปสู่มาตรฐานใดก็ตามที่เราตั้งไว้ให้”