เซมินารี
1 โครินธ์ 11


1 โครินธ์ 11

บทบาทที่พิเศษและสูงส่งของชายและหญิง

ภาพ
A group of young men and young women hold each other’s hands in a circle and smile at each other to encourage one another.

เปาโลยังคงพร่ำสอนและกระตุ้นวิสุทธิชนชาวโครินธ์ต่อไป ด้วยการสอนว่าชายและหญิงเกิดมาเพื่อทำงานร่วมกันและสนับสนุนซึ่งกันและกันขณะติดตามพระเจ้า จุดประสงค์ของบทเรียนนี้คือช่วยให้ท่านเข้าใจได้ดีขึ้นว่าทำไมชายและหญิงจึงต้องการกันและกันเพื่อให้ได้รับพรสูงสุดในแผนของพระบิดาบนสวรรค์

การเตรียมของนักเรียน: เชื้อเชิญให้นักเรียนนึกถึงเวลาที่นักเรียนเห็นชายหญิงทำงานร่วมกันและสนับสนุนกัน กระตุ้นให้นักเรียนคิดเกี่ยวกับมุมมอง ความสามารถ และจุดแข็งที่แตกต่างกันของชายและหญิงที่มีอิทธิพลเชิงบวกต่อความสัมพันธ์ในชีวิตสมรส ครอบครัว ชุมชนและศาสนจักร

กิจกรรมการเรียนรู้ที่อาจทำได้

บทบาทของหญิงและชาย

เพื่อเป็นทางเลือกในการเริ่มต้น ท่านอาจแสดงคำกล่าวบางส่วนของประธานจีน บี.บิงแฮม “เป็นหนึ่งเดียวกันในการทำงานของพระเจ้าให้สำเร็จ” ตั้งแต่รหัสเวลา 9:45–10:54

ภาพ
A couple rides their tandem bike for morning exercise.

พิจารณาคำถามต่อไปนี้เมื่อท่านมองดูภาพของทีมจักรยานคู่ทีมนี้

  • ทักษะหรือความสามารถใดที่จำเป็นในการช่วยให้ทีมนี้ประสบความสำเร็จ?

  • ความแตกต่างระหว่างบุคคลจะเสริมสร้างความร่วมมือและช่วยให้บุคคลรวมเป็นหนึ่งเดียวกันได้อย่างไร?

ขณะที่ท่านศึกษา 1 โครินธ์ 11 ให้ไตร่ตรองวิธีที่ชายและหญิงจะทำงานร่วมกันได้อย่างชอบธรรมในฐานะเป็นหุ้นส่วนเท่าๆ กันเพื่อเติมเต็มบทบาทที่ได้รับมอบหมายจากสวรรค์และมีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะมีชีวิตนิรันดร์

ช่วยให้นักเรียนเข้าใจว่าคำสอนบางอย่างของเปาโลเกี่ยวข้องกับมาตรฐานทางวัฒนธรรมที่เฉพาะเจาะจงในยุคสมัยนั้นจึงอาจเข้าใจยาก เตือนนักเรียนให้ระมัดระวังอย่าตัดสินงานเขียนของเปาโลและผู้คนในยุคนั้นตามมาตรฐานที่พระเจ้าทรงเปิดเผยในยุคปัจจุบัน

ใน 1 โครินธ์ 11:1–16 เปาโลกล่าวถึงขนบธรรมเนียมทางสังคมของบรรดาชาวโครินธ์ในยุคสมัยของเขา ซึ่งไม่สอดคล้องกับมุมมองของพระเจ้าเกี่ยวกับบทบาทอันสูงส่งของชายและหญิง เป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องไม่สับสนระหว่างขนบธรรมเนียมเหล่านี้กับความจริงที่เปาโลสอน

ผ่านอัครสาวกเปาโล พระเจ้าทรงเปิดเผยความจริงที่ไร้กาลเวลาเกี่ยวกับบทบาทอันสูงส่งของชายและหญิงใน 1 โครินธ์ 11:11–12

อ่าน 1 โครินธ์ 11:11–12 เพื่อค้นหาความจริงที่ท่านเรียนรู้เกี่ยวกับพระผู้เป็นเจ้า รวมทั้งชายและหญิง

หญิงและชายต่างเป็นหุ้นส่วนโดยสมบูรณ์กับพระเจ้า

ใน 1 โครินธ์ 11:11 เราเรียนรู้ว่า ในแผนของพระบิดาบนสวรรค์ ทั้งชายและหญิงล้วนสำคัญ

ท่านอาจแสดงข้อความต่อไปนี้และเชื้อเชิญให้นักเรียนอ่านและสนทนาเกี่ยวกับคำถามต่อไปนี้เป็นคู่หรือเป็นกลุ่มย่อย นักเรียนอาจต้องการแบ่งปันตัวอย่างการทำงานร่วมกันระหว่างชายและหญิงให้ชั้นเรียนฟัง

อ่านคำกล่าวต่อไปนี้จากถ้อยแถลงเกี่ยวกับครอบครัวและจากสมาชิกโควรัมอัครสาวกสิบสอง เพื่อมองหาวิธีที่ทั้งชายและหญิงต่างก็จำเป็นต่อแผนของพระบิดาบนสวรรค์

จากถ้อยแถลงเรื่องครอบครัว เราอ่านว่า

ความสุขในชีวิตครอบครัวส่วนมากจะสำเร็จได้เมื่อมีพื้นฐานบนคำสอนของพระเจ้า พระเยซูคริสต์ การแต่งงานและครอบครัวที่ประสบความสำเร็จได้รับการสถาปนาและธำรงไว้ด้วยหลักธรรมแห่งศรัทธา การสวดอ้อนวอน การกลับใจ การให้อภัย ความเคารพ ความรัก ความเห็นอกเห็นใจ การทำงานและกิจกรรมนันทนาการที่ดีงาม โดยแบบแผนของพระผู้เป็นเจ้า บิดาเป็นผู้นำครอบครัวด้วยความรัก ด้วยความชอบธรรมและรับผิดชอบที่จะจัดหาสิ่งจำเป็นต่างๆ ของชีวิต และคุ้มครองครอบครัว มารดารับผิดชอบเบื้องต้นในการเลี้ยงดูบุตรธิดา ในความรับผิดชอบอันศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้บิดาและมารดามีหน้าที่ช่วยเหลือกันในฐานะเป็นหุ้นส่วนเท่าๆ กัน

ประธานเอ็ม. รัสเซลล์ บัลลาร์ด แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองสอนว่า

ภาพ
Official portrait of President M. Russell Ballard of the Quorum of the Twelve Apostles, 2004.

ในแผนการประสาทฐานะปุโรหิตอันสำคัญยิ่งของพระบิดาบนสวรรค์ ชายมีความรับผิดชอบต่อการปฏิบัติฐานะปุโรหิต แต่พวกเขาไม่ใช่ฐานะปุโรหิต ชายและหญิงมีบทบาทสำคัญเท่าเทียมกันแต่ต่างกัน สตรีไม่อาจตั้งครรภ์ได้โดยปราศจากผู้ชายฉันใด ชายก็ไม่อาจใช้อำนาจฐานะปุโรหิตอย่างเต็มที่เพื่อสถาปนาครอบครัวนิรันดร์โดยปราศจากผู้หญิงฉันนั้น … ในมุมมองนิรันดร์ ทั้งอำนาจแห่งการให้กำเนิดและอำนาจฐานะปุโรหิตจะผสานกันโดยผ่านสามีกับภรรยา

(เอ็ม. รัสเซลล์ บัลลาร์ด, “นี่คืองานของเราและรัศมีภาพของเรา” เลียโฮนา, พ.ค. 2013, 19)

เอ็ลเดอร์เดวิด เอ. เบดนาร์แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองสอนดังนี้

ภาพ
Official portrait of President M. Russell Ballard of the Quorum of the Twelve Apostles, 2004.

ความผสมผสานเฉพาะตัวของความสามารถทางวิญญาณ ร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ของทั้งชายและหญิงเป็นสิ่งจำเป็นต่อการบัญญัติแผนแห่งความสุข “ในองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ชายก็ขาดผู้หญิงไม่ได้ และผู้หญิงก็ขาดผู้ชายไม่ได้” ( 1 โครินธ์ 11:11) ความประสงค์คือให้ชายและหญิงเรียนรู้ เสริมสร้างความเข้มแข็ง เป็นพร และเติมเต็มกันและกัน

(เดวิด เอ. เบดนาร์, “เราเชื่อในการเป็นคนบริสุทธิ์,” เลียโฮนา, พ.ค. 2013, 41–42)

ให้เวลานักเรียนมากพอที่จะสนทนาถึงสิ่งที่ตนค้นพบและคำถามที่นักเรียนอาจมี ฟังอย่างตั้งใจขณะที่นักเรียนตอบ และลองถามคำถามติดตามผลเพื่อช่วยให้นักเรียนเข้าใจได้ลึกซึ้งขึ้น ดังนี้: เพราะเหตุใดท่านจึงคิดว่าการทำความเข้าใจคำสอนนี้เป็นสิ่งสำคัญ? เราเรียนรู้อะไรบ้างเกี่ยวกับทัศนะของพระบิดาบนสวรรค์เกี่ยวกับหญิงและชาย? มุมมองนี้แตกต่างจากวิธีที่โลกพูดถึงชายและหญิงอย่างไร? ความจริงนั้นอาจส่งผลต่อทัศนคติและพฤติกรรมของท่านอย่างไร?

  • ทำไมท่านจึงคิดว่าบุตรและธิดาของพระบิดาบนสวรรค์จะมีชีวิตนิรันดร์ร่วมกันในแผนของพระบิดาบนสวรรค์?

  • สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงความรักและความเคารพที่พระบิดาบนสวรรค์มีต่อทั้งหญิงและชายอย่างไร?

  • การเข้าใจความจริงเหล่านี้จะช่วยท่านได้อย่างไรเมื่อท่านเผชิญกับมุมมองที่แตกต่างกันเกี่ยวกับบทบาทและความรับผิดชอบของชายและหญิง?

  • ท่านจะนำความจริงเหล่านี้เกี่ยวกับหญิงและชายไปประยุกต์ใช้ในชีวิตของท่านได้อย่างไร? (ตัวอย่างเช่น ที่บ้าน ที่ศาสนจักรกับเยาวชนชายหรือเยาวชนหญิงคนอื่นๆ และขณะที่ท่านเตรียมพร้อมสำหรับชีวิตครอบครัวในอนาคตของท่าน)

นักเรียนอาจได้รับประโยชน์จากการศึกษา 1 โครินธ์ 11 ต่อไปและสนทนาเกี่ยวกับศีลระลึก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเวลาที่มีในชั้นเรียน ดูส่วน “กิจกรรมการเรียนรู้เพิ่มเติม” สำหรับวิธีที่นักเรียนสามารถศึกษาเกี่ยวกับศีลระลึก

บทวิจารณ์และข้อมูลภูมิหลัง

จะเกิดอะไรขึ้นหากผู้คนที่ฉันรักไม่ได้สมรสหรือมีบุตรธิดา?

บางคนอาจเป็นกังวลหรือสงสัยว่าแผนของพระบิดาบนสวรรค์สำหรับทั้งหญิงและชายจะเกิดสัมฤทธิผลได้อย่างไรสำหรับผู้ที่ไม่ได้สมรสหรือมีบุตรธิดา ด้วยความสงสาร ประธานบอยด์ เค. แพคเกอร์ (1924–2015) แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองกล่าวคำปลอบโยนเหล่านี้

ภาพ
Final official portrait of Elder Boyd K. Packer, President of the Quorum of the Twelve Apostles, 2000. Passed away 3 July 2015.

ผู้ที่ไม่ได้แต่งงานหรือไม่สามารถมีลูกได้ไม่ถูกกีดกันจากพรนิรันดร์ที่พวกเขาแสวงหา เพียงแต่ตอนนี้พวกเขายังไปถึงพรนั้นไม่ได้ …

ความปรารถนาและการวิงวอนสุดซึ้งจากใจของท่านจะสัมผัสพระทัยของพระบิดาและพระบุตร ท่านจะได้รับการยืนยันส่วนตัวจากทั้งสองพระองค์ว่าชีวิตท่านจะสมบูรณ์และจะไม่มีพรที่จำเป็นใดๆ ที่ท่านจะไม่ได้รับ

ในฐานะผู้รับใช้พระเจ้า โดยกระทำในตำแหน่งซึ่งข้าพเจ้าได้รับการแต่งตั้ง ข้าพเจ้าให้สัญญากับผู้ที่อยู่ในสถานการณ์เหล่านั้นว่าจะไม่มีสิ่งจำเป็นใดๆ ต่อความรอดและความสูงส่งของท่านที่จะไม่มาถึงท่านเมื่อถึงเวลา

(บอยด์ เค. แพคเกอร์, “พยาน,” เลียโฮนา, พ.ค. 2014, 95)

เหตุใดซาตานจึงต้องการให้เราแบ่งแยกกันในฐานะชายและหญิง?

ประธาน จีน บี. บิงแฮม อดีตประธานสมาคมสงเคราะห์สามัญสอนว่า

ภาพ
Official Portrait of Sister Jean B. Bingham. Photographed in 2017.

ปฏิปักษ์ประสบความสำเร็จทีเดียวกับเป้าหมายที่จะแบ่งแยกชายหญิงออกจากกันในความพยายามจะยึดครองจิตวิญญาณเรา ลูซิเฟอร์รู้ว่าถ้าเขาสามารถทำลายความเป็นหนึ่งเดียวกันที่ชายและหญิงรู้สึกได้ ถ้าเขาสามารถทำให้เราสับสนเกี่ยวกับคุณค่าอันสูงส่งและความรับผิดชอบต่อพันธสัญญาของเราได้ เขาจะประสบผลสำเร็จในการทำลายครอบครัวซึ่งเป็นหน่วยสำคัญยิ่งของนิรันดร

ซาตานยั่วยุให้เกิดการเปรียบเทียบเพื่อใช้เป็นเครื่องมือสร้างความรู้สึกเหนือชั้นหรือต่ำต้อยกว่า ซุกซ่อนความจริงนิรันดร์ที่ว่าความแตกต่างที่ติดตัวมาของชายและหญิงคือสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้าประทานให้และมีคุณค่าเท่าเทียมกัน เขาพยายามลดคุณค่าการมีส่วนของสตรีทั้งในภาคครอบครัวและภาคประชาสังคม ซึ่งเป็นการลดอิทธิพลยกระดับจิตใจเพื่อความดีของสตรีลงไปด้วย เป้าหมายของเขาคือส่งเสริมการต่อสู้แย่งชิงอำนาจแทนที่จะฉลองการมีส่วนในแบบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของชายและหญิงซึ่งส่งเสริมกันและมีส่วนให้เกิดความเป็นหนึ่งเดียวกัน

(จีน บี. บิงแฮม, “เป็นหนึ่งเดียวกันในการทำงานของพระเจ้าให้สำเร็จ,” เลียโฮนา, พ.ค. 2020, 60–61)

กิจกรรมการเรียนรู้เพิ่มเติม

บทบาทที่ส่งเสริมกันในการสมรส

&#160 &#160

วิธีที่พระผู้ช่วยให้รอดทรงปฏิบัติต่อหญิงและชาย

เพื่อช่วยให้นักเรียนคิดเกี่ยวกับวิธีที่พระเยซูคริสต์ทรงโต้ตอบและให้คุณค่าทั้งหญิงและชาย ให้แสดงภาพต่างๆ จากพระชนม์ชีพของพระองค์ ซึ่งอาจประกอบด้วยการทำให้ลาซารัสฟื้นจากความตาย สตรีที่บ่อน้ำ สตรีที่ล่วงประเวณี เศรษฐีหนุ่ม ไยรัสและธิดาของเขา สตรีที่เป็นโรคเลือดและคนอื่นๆ เชื้อเชิญให้นักเรียนระลึกว่าแบบอย่างของพระผู้ช่วยให้รอดแสดงให้นักเรียนเห็นว่าควรให้คุณค่าและความเคารพต่อทั้งหญิงและชายในชีวิตของนักเรียนอย่างไร

เราควรตรวจสอบชีวิตของเราเมื่อเรารับส่วนศีลระลึก

นักเรียนอาจได้รับประโยชน์จากการศึกษา 1 โครินธ์ 11:23–32 และระบุความจริงตามที่ระบุข้างต้น (ดู ข้อ 28) อาจจะเป็นประโยชน์ที่จะอธิบายว่าเปาโลเตือนชาวโครินธ์ถึงพระกระยาหารมื้อสุดท้าย เมื่อพระเยซูคริสต์ทรงจัดตั้งพิธีศีลระลึกเพื่อรำลึกถึงการเสียสละของพระองค์ (ดู ข้อ 23–27) หลังจากนักเรียนระบุความจริงจาก ข้อ 28 แล้ว ท่านอาจแบ่งปันถ้อยคำนี้จากประธานฮาเวิร์ด ดับเบิลยู. ฮันเตอร์ (1907–1995):

ภาพ
Howard W. Hunter

ข้าพเจ้าถามตนเองดังนี้ “ข้าพเจ้าให้พระผู้เป็นเจ้าอยู่เหนือสิ่งอื่นทั้งหมดและรักษาพระบัญญัติทุกข้อของพระองค์หรือไม่?” ตามมาด้วยการใคร่ครวญและตั้งปณิธาน การทำพันธสัญญากับพระเจ้าว่าจะรักษาพระบัญญัติของพระองค์เสมอเป็นข้อผูกมัดที่จริงจัง และการต่อพันธสัญญานั้นโดยการรับส่วนศีลระลึกถือว่าจริงจังเท่าเทียมกัน ช่วงเวลาอันศักดิ์สิทธิ์ของความคิดขณะส่งผ่านศีลระลึกมีความสำคัญยิ่ง นั่นเป็นช่วงเวลาของการสำรวจตนเอง การทบทวนความคิด การวินิจฉัยตนเอง—เวลาให้ใคร่ครวญและตั้งปณิธาน

(ฮาเวิร์ด ดับเบิลยู. ฮันเตอร์, “Thoughts on the Sacrament,” Ensign, May 1977, 25)

จากนั้นนักเรียนสามารถพิจารณาได้ว่าคำถามข้อใดบ้างที่จะนำมาไตร่ตรองในสัปดาห์หน้าระหว่างศีลระลึกเพื่อตรวจสอบชีวิตของตนเอง คำถามเหล่านี้อาจแสดงอยู่บนกระดาน