หลังการทดลองศรัทธาของท่าน

ในหนังสืออีเธอร์ โมโรไนบันทึกว่าขณะที่สงคราม การกบฏ และความชั่วร้ายท่วมท้นสังคมชาวเจเร็ด พระเจ้าทรงส่งศาสดาพยากรณ์อีเธอร์ไปประกาศศรัทธา การกลับใจ และความหวังให้กับผู้คน

ภาพ

ไอคอน ศึกษา

ศึกษาเพื่อเตรียมเข้าชั้นเรียน

อ่าน อีเธอร์ 12:3–7, 12, 18 และพิจารณาว่าเหตุใดศรัทธาในพระผู้เป็นเจ้าจึงเป็นส่วนสำคัญในความก้าวหน้าทางวิญญาณของเรา

เพราะพระเจ้าทรงรักเราและทรงต้องการให้เราก้าวหน้า พระองค์จึงทรงเปิดโอกาสให้เราทดลองใช้ศรัทธาในพระองค์ เอ็ลเดอร์ริชาร์ด จี. สก็อตต์ แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองกล่าวดังนี้:

ภาพ

เอ็ลเดอร์ริชาร์ด จี. สก็อตต์

ทุกครั้งที่ท่านทดลองศรัทธา หมายถึงการกระทำอย่างคู่ควรตามความรู้สึกที่ได้รับ— ท่านจะได้รับพยานยืนยันจากพระวิญญาณ เมื่อท่านเดินไปจนสุดเขตความเข้าใจของท่านสู่แสงสลัวของความคลุมเครือโดยใช้ศรัทธา พระองค์จะทรงนำท่านไปพบทางออกที่ท่านจะไม่พบโดยวิธีอื่น. (“อำนาจการเปลี่ยนแปลงของศรัทธาและอุปนิสัย,” เลียโฮนา, พ.ย. 2010, 55)

ภาพ

หญิงสาวกำลังมองอาทิตย์อัสดง

นึกถึงช่วงเวลาในชีวิตท่านเมื่อท่านกระทำด้วยศรัทธาในพระเจ้าและได้รับพยานทางวิญญาณหลังจากนั้น เอ็ลเดอร์ดี. ทอดด์ คริสทอฟเฟอร์สันแห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองเคยอธิบายว่าการคงไว้ซึ่งความซื่อสัตย์ระหว่างการทดลองช่วยให้เขาเติบโตทางวิญญาณอย่างไร:

ภาพ

เอ็ลเดอร์ดี. ทอดด์ คริสทอฟเฟอร์สัน

ถึงแม้เวลานั้นจะทุกข์ใจ แต่เมื่อมองย้อนกลับไป ข้าพเจ้ารู้สึกสำนึกคุณที่ไม่มีวิธีแก้ปัญหาแบบฉับไว ข้อเท็จจริงที่ว่าข้าพเจ้าถูกบังคับให้หันไปขอความช่วยเหลือจากพระผู้เป็นเจ้าแทบทุกวันตลอดช่วงเวลาหลายปีสอนข้าพเจ้าจริงๆ ว่าจะสวดอ้อนวอนและรับคำตอบการสวดอ้อนวอนอย่างไร และสอนข้าพเจ้าให้มีศรัทธาอย่างแท้จริงในพระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้าได้รู้จักพระผู้ช่วยให้รอดและพระบิดาบนสวรรค์ในระดับหนึ่งและถึงระดับที่อาจไม่เกิดขึ้นในวิธีอื่นหรืออาจใช้เวลานานยิ่งกว่าเดิมจึงจะสำเร็จ … ข้าพเจ้าเรียนรู้ว่าต้องวางใจพระเจ้าสุดใจ ข้าพเจ้าเรียนรู้ว่าต้องเดินกับพระองค์ทุกวัน. (“Look to God Each Day,” New Era, Apr. 2015, 4)

ภาพ

ไอคอน ไตร่ตรอง

ไตร่ตรองเพื่อเตรียมเข้าชั้นเรียน

บทเรียนใดที่ท่านเรียนรู้หรือพรใดที่ท่านได้รับขณะที่ท่านคงความซื่อสัตย์ในช่วงเวลาที่ประสบความยากลำบาก? ประสบการณ์ประเภทนี้จะช่วยให้ท่านใกล้ชิดกับพระเยซูคริสต์มากขึ้นได้อย่างไร?

ดังที่บันทึกไว้ใน อีเธอร์ 12:7–22 โมโรไนให้ตัวอย่างของผู้คนที่ใช้ศรัทธาและได้รับพรด้วยปาฏิหาริย์ การเปิดเผย การปลดปล่อย การเปลี่ยนใจเลื่อมใส และสัญญา โมโรไนกล่าวสรุปด้วยการให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับพี่ชายของเจเร็ดผู้เคลื่อนภูเขาซีรินผ่านเดชานุภาพของพระเจ้าว่า “และหากท่านไม่มีศรัทธามันก็ไม่เคลื่อน; ดังนั้น [พระเจ้า] ทรงทำงานหลังจากมนุษย์มีศรัทธา” (อีเธอร์ 12:30)

ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน สอนว่า

ภาพ

ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน

ศรัทธาในพระเยซูคริสต์เป็นแรงผลักดันให้เราทำสิ่งที่ปกติเราจะไม่ทำ ศรัทธาที่เป็นแรงจูงใจให้เราลงมือปฏิบัติทำให้เราเข้าถึงพลังของพระองค์มากขึ้น(ดึงพลังของพระเยซูคริสต์เข้ามาในชีวิตเรา,” เลียโฮนา, พฤษภาคม 2017, 41)

ภาพ

ไอคอน ศึกษา

ศึกษาเพื่อเตรียมเข้าชั้นเรียน

ค้นหาข้อพระคัมภีร์หรือเรื่องราวในพระคัมภีร์มอรมอนที่แสดงให้เห็นว่าผู้คนได้รับความช่วยเหลือจากสวรรค์หลังจากใช้ศรัทธาในพระเยซูคริสต์ หากท่านต้องการตัวอย่างสักสองสามเรื่อง ท่านอาจอ่านข้อต่อไปนี้:

• อีเธอร์ 6:2–12 (ชาวเจเร็ดข้ามผืนน้ำด้วยเรือ)

• 1 นีไฟ 3:4–7; 4:1–19 (นีไฟกลับไปยังบ้านของเลบัน ท่านอาจต้องการดูวีดิทัศน์ของพระคัมภีร์มอรมอน “The Spirit Directs Nephi to Slay Laban (1 Nephi 4:1–19)” [3:26])

หลังจากท่านศึกษาหนึ่งในข้อพระคัมภีร์เหล่านี้หรือข้อที่ท่านนึกออก ให้ไตร่ตรองคำถามต่อไปนี้และบันทึกคำตอบของท่าน พร้อมแบ่งปันข้อคิดของท่านในชั้นเรียน

1. บุคคลหรือผู้คนดังกล่าวใช้ศรัทธาในพระเยซูคริสต์อย่างไร? พระเจ้าประทานพรและพลังอำนาจศักดิ์สิทธิ์ใดหลังจากพวกเขาใช้ศรัทธาในพระองค์?

2. ท่านสามารถเรียนรู้หลักธรรมหรือหลักปฏิบัติใดบ้างจากเรื่องราวนี้? ท่านจะนำไปใช้กับชีวิตท่านได้อย่างไร?

ภาพ

เรือของชาวเจเร็ด โดย แกรีย์ อี. สมิธ

เอ็ลเดอร์แอล. วิทนีย์ เคลย์ตันจากฝ่ายประธานโควรัมสาวกเจ็ดสิบสอนเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตด้วยศรัทธาดังต่อไปนี้:

ภาพ

เอ็ลเดอร์แอล. วิทนีย์ เคลย์ตัน

พระผู้เป็นเจ้าทรงขอให้เราอดทนกับพระองค์—วางใจพระองค์และทำตามพระองค์ พระองค์ทรงขอร้องเราว่า “อย่าเถียงกันเลยเพราะท่านไม่เห็น” พระองค์ทรงเตือนว่าเราไม่ควรคาดหวังคำตอบง่ายๆ หรือวิธีแก้ปัญหาที่รวดเร็วทันใจจากสวรรค์ สถานการณ์คลี่คลายเมื่อเรายืนหยัดในช่วง “การทดลองศรัทธา [ของเรา],” ไม่ว่าการทดสอบนั้นจะอดทนยากเพียงใดหรือคำตอบจะมาช้าเพียงใดก็ตาม [ดู อีเธอร์ 12:6] ข้าพเจ้าไม่ได้พูดถึง “การเชื่อฟังแบบหลับหูหลับตา” [ดูบอยด์ เค. แพคเกอร์, “Agency and Control,” Ensign, May 1983, 66–68] แต่พูดถึงความเชื่อมั่นในความรักอันสมบูรณ์และจังหวะเวลาที่ดีที่สุดของพระเจ้าจงทำตามที่ท่านสั่งเจ้าเถิด,” เลียโฮนา, พฤษภาคม 2017, 99)

ภาพ

ไอคอน ไตร่ตรอง

ไตร่ตรองเพื่อเตรียมเข้าชั้นเรียน

พระเจ้าอาจขอให้ท่านทำสิ่งใดซึ่งต้องให้ท่านกระทำด้วยศรัทธา? ท่านจะแสดงให้เห็นความวางใจในพระองค์ได้อย่างไรขณะที่ท่านรุดไปข้างหน้า?

หลังจากความพินาศของชาวนีไฟ โมโรไนถูกทิ้งไว้เพียงลำพังเพื่อทำพระคัมภีร์มอรมอนให้เสร็จสมบูรณ์ ก่อนจะผนึกบันทึก เขาให้คำปรึกษาและกำลังใจสองสามเรื่อง เขากระตุ้นให้ผู้อ่านในอนาคตศึกษาพระคัมภีร์มอรมอนด้วยศรัทธา เพื่อพวกเขาจะได้รับพยานส่วนตัวจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ว่าพระคัมภีร์มอรมอนเป็นความจริง

ภาพ

โมโรไนเขียนบนแผ่นจารึกทองคำ

ภาพ

ไอคอน ศึกษา

ศึกษาเพื่อเตรียมเข้าชั้นเรียน

อ่านคำเชิญของโมโรไนที่ โมโรไน 10:3–5 พิจารณาทำเครื่องหมายว่าเราจะใช้ศรัทธาในพระเยซูคริสต์และทราบว่าพระคัมภีร์มอรมอนเป็นความจริงได้อย่างไร

ภาพ

ผู้ใหญ่สองคนกำลังอ่านพระคัมภีร์มอรมอน

ขณะรับใช้เป็นสมาชิกโควรัมสาวกเจ็ดสิบ เอ็ลเดอร์จีน อาร์. คุกอธิบายว่าการตอบรับคำเชิญของโมโรไนเป็นการกระทำด้วยศรัทธาอย่างไร:

ภาพ

เอ็ลเดอร์จีน อาร์. คุก

โปรดสังเกตวิธีพิเศษที่เราได้รับคำตอบจากพระผู้เป็นเจ้า: เราจะ “ทูลถามด้วยใจจริง, ด้วยเจตนาแท้จริง, โดยมีศรัทธาในพระคริสต์” [โมโรไน 10:4] ให้พิจารณาภาษาเรื่อง “โดยมีศรัทธาในพระคริสต์” อีกครั้ง สิ่งนั้นแสดงถึงสภาพทางจิตใจที่สำคัญ การมีศรัทธาในพระคริสต์หมายความว่าเรายอมรับว่ามีพระผู้เป็นเจ้า ยอมรับว่าด้วยพลังอำนาจของพระเยซูคริสต์ พระบุตรของพระองค์ พระผู้เป็นเจ้าทรงตอบคำสวดอ้อนวอนของเราได้ และเชื่อว่าพระผู้เป็นเจ้าทรงแสดงความจริงต่อเราได้ เราวางตัวเราบนเส้นทางที่เป็นกลางด้วยการใช้ศรัทธาในพระคริสต์ เรากระทำ! แม้ว่าศรัทธาของเราอาจน้อยนิด แต่เราก็ทำตามที่แอลมาสอน: เรา “ใช้อนุภาคหนึ่งของศรัทธา, แท้จริงแล้ว, แม้หาก [เรา] ทำไม่ได้มากไปกว่าปรารถนาที่จะเชื่อ [ว่าพระผู้เป็นเจ้าทรงสามารถช่วยเรา], ก็ขอให้ความปรารถนานี้เกิดผลใน [เรา]” (แอลมา 32:27) (“Moroni’s Promise,” Ensign, Apr. 1994, 14)

ภาพ

ไอคอน บันทึก

บันทึกสิ่งที่ท่านคิด

พิจารณาวิธีที่คำเชิญและสัญญาของโมโรไนเป็นไปตามรูปแบบของการรับพยานหลังจากใช้ศรัทธา (ดู อีเธอร์ 12:6) ประสบการณ์ของท่านเกี่ยวกับการรับพยานถึงความจริงของพระคัมภีร์มอรมอนเป็นอย่างไร? ท่านจะทำอะไรเพื่อได้ประจักษ์พยานของท่านเองถึงพระคัมภีร์มอรมอน หรือเพื่อให้ประจักษ์พยานที่ท่านมีอยู่แล้วลึกซึ้งยิ่งขึ้น?