คำสอนของประธานศาสนจักร
บทที่ 18: ชีวิตแต่งงานที่น่ายกย่อง มีความสุข และประสบความลำเร็จ


บทที่ 18

ชีวิตแต่งงานที่น่ายกย่อง มีความสุข และประสบความลำาเร็จ

กู่แต่งงานจะปีความสุขกับความสัมพันธ์ที่ปรองดองและเป็นนิรันดร์เมื่อพวก เขาซื่อตรงต่อพระเจ้าและซื่อตรงต่อกัน

จากชีวิตของสเป็นเซอร์ ดับเบิลยู. คิมบัลล์

ก่อนการเรียกเข้าสู่โควรัมอัครสาวกสิบสอง สเป็นเซอร์ ดับเบิลยู. คิมบัลล์เป็นผู้มีกรรมสิทธี้ร่วมของบริษัทประกันภัยและอสังหาริมทรัพย์ไนเมือง สแตฟฟอร์ด รัฐแอริโซนา คาร์เม็น ริชาร์ดสัน สมิธลูกจ้างคนหนึ่งของท่านพูด ถึงความซื่อสัตย์ของสเป็นเซอร์กับคามิลลา คิมบัลล์เมื่อเอ็ดเวิร์ดบุตรชายของ พวกท่านป่วยเป็นโปลิโอตอนต้นทศวรรษ 1930 ดังนี้

“ความสัมพันธ์ระหว่างบราเดอร์คิมบัลล์กับภรรยาเป็นเรื่องที่ข้าพเจ้าชื่นชม มาก เมื่อเอ็ดดี้รับการรักษาระยะยาวในแคลิฟอร์เนีย ซิสเตอร์คิมบัลล์อยู่กับเขา และประธานคิมบัลล์จะเดินทางไปที่นั่นเมื่ออยู่ในช่วงวิกฤต ช่วงพักฟื้นหลังจาก เอ็ดดี้ผ่าต้ด บราเดอร์คีมบัลล์จะกลับบ้านไปดูแลคนอื่นๆ ในครอบครัวส่วน ภรรยาท่านจะอยู่กับเอ็ดดี้

“ผมเชื่อว่าท่านเขียนจดหมายถึงเธอทุกวัน ไม่ใช่แค่จดหมายสั้นๆ 50 คำ เท่านั้น บางครั้งเมื่อท่านไม่มีเวลาท่านจะใบ้ข้าพเจ้าเขียนจดหมายตามคำบอก ของท่าน และข้าพเจ้าจำได้ว่ารู้สึกอย่างไร ข้าพเจ้ารู้สึกเป็นเกียรติอย่างสูง

“ชีวิตแต่งงานของพวกท่านราบรื่นและมีความสุข ดูเหมือนพวกท่านจะนับ ถือกันมาก ดูเหมือนโลกของพวกท่านจะหมุนรอบกันและกันตลอดเวลา”1

ความรักที่สเป็นเซอร์และคามิลลา คิมบัลล์มีให้กัน ซึ่งประจักษ์ชัดเมื่อพวก ท่านอายุยังน้อย นับวันจะแน่นแฟ้นและลึกซึ้งยิ่งขึ้นตามอายุที่เพิ่มขึ้น ประธาน คิมบัลล์บักแสดงความซาบซึ้งต่อความสัมพันธ์ที่ท่านและภรรยามีใบ้กัน “คามิลลาอยู่เคียงข้างข้าพเจ้าในประสบการณ์ทุกอย่าง เราฝ้งพ่อแม่ของเรากับบุคคล ที่เรารัก และหมดหวังกับลูกน้อยของเราที่เกิดก่อนกำหนด เราประสบทั้งความ เศร้าโศกสุดแสนและความปีติยินดียิ่ง… เราร้องไห้ด้วยกันและเราหัวเราะด้วย กัน…ชีวิตเราเต็มไปด้วยความสนุกสนานแน้จะมีทั้งเรื่องเศร้าและเรื่องเครียด เราเต้นรำ เราร้องเพลง เรารับรองแขก เรารักและเป็นที่รัก เพราะมีภรรยาเช่น คามิลลา อายริงก์ ชีวิตจึงเพียบพร้อม เต็มอิ่ม และบริบูรณ์”2

ท่านตั้งข้อสังเกตถึงการมีชีวิตแต่งงานที่ยืนยาวและเป็นสุขว่า “เราต้องมีคู่ ชีวิตที่จิตใจดีผู้จะไม่นับรอยตีนกาของเรา ไม่จำจดความโฉดเขลาเบาปีญญาของ เราทั้งไม่จดจำความอ่อนแอของเรา… เราต้องมีคู่ชีวิตที่เปียมด้วยความรักผู้ที่ เราร่วมทุกข์ ร้องไห้ สวดอ้อนวอน และนมัสการกับเธอ ผู้ที่เราทนรับความ เศร้าโศกและความผิดหวังร่วมกับเธอ ผู้ที่รักเราเพราะสิงที่เราเป็นหรือตั้งใจจะ เป็นไม่ใช่มองแต่เปลือกนอก”3

คำสอนของสเป็นเซอร์ ดับบิลยู. คิมบัลล้

การแต่งงานนิรันดร้ได้รับแต่งตั้งจากพระผู้เป็นเจ้า และครอบครัวจำเป็นต่อแผนของพระบิดาบนสวรรค์เพื่อเรา

การแต่งงาน การแต่งงาน ที่น่ายกย่อง ได้รับแต่งตั้งจากพระผู้เป็นเข้า พระ องค์ทรงประกาสิตให้หน่วยพื้นฐานของสังคมคือบ้านและครอบครัว เราต้องได้ รับการเตือนว่าวัฒนธรรมผิดๆ ของยุคสมัยกำลังหันเหออกจากแผนซึ่งพระผู้ เป็นเข้าทรงกำหนดไว้แล้วนี้…

ดูเหมือนเขตเสื่อมถอยของโลกมีแนวโน้มต่อต้านการแต่งงานเพิ่มขึ้นทุกขณะ และแนวโน้มต่อการแต่งงานโดยไม่มีบุตรรุนแรงมาก แน่นอนว่ากำถามข้อต่อ ไปคือ “ทำไมต้องแต่งงาน” “การปฏิวัติต่อต้านการแต่งงาน” กลายเป็นจุดสน ใจ มีการโต้แย้งว่าบุตรเป็นภาระ เป็นการผูกมัด และความรับผิดชอบ หลาย คนทำให้ตนเชื่อมั่นว่าการคืกษา อิสระจากการเหนี่ยวรั้งและความรับผิดซอบนั่นแหละคือชีวิต น่าเสืยดายที่ความคิดอันตรายและไม่ประสีประสาแบบนี้กำลัง ครอบงำคนของเราบางคน4

เพื่อหักล้างและลบล้างคำสอนที่ชั่วร้ายในสือ ในโรงภาพยนตร์และโทรทัศน์ ในโรงละคร และตามท้องถนน เราต้องสอนเรื่องการแต่งงาน การแต่งงานที่ถูก ต้อง การแต่งงานนิรันดร์5

เหตุผลเบื้องต้นของการแต่งงานนิรันดร์คือชีวิตเป็นนิรันดร์ และการแต่งงาน ต้องสอดคล้องกับชุดประสงค์นิรันดร์ ต้องพ้องกับชีวิตในเวลานี้ การแต่งงาน โดยเจ้าหน้าที่บานเมืองหรือโดยเจ้าหน้าที่ศาสนาจักรนอกพระวิหารเป็นเพียงการ แต่งงานชั่วกาลเวลา “จนกว่าความตายจะพรากจากกัน” หรือ “ตราบที่ทั้งคู่ยัง มีชีวิตอยู่” คือการแต่งงานที่สิ้นสุดลงพร้อมกับความตาย… การแต่งงานนิรันดร้จะประกอบพิธีโดยศาสดาของพระเจ้าหรือบุคคลคนหนึ่งผู้ไต้รับมอบสิทธิ อำนาจนี้ ในพระวิหารศักดิ้สิทธิ์ที่สร้างและอุทิศไว้เพื่อชุดประสงค์ดังกล่าวการแต่งงานเช่นนี้เท่านั้นที่อยู่เหนือความตายและทำให้ความสัมพันธ์ของสามี ภรรยาและบิดามารดากับบุตรดำรงอยู่ชั่วนิรันดร์6

โดยแห้แล้วชีวิตแต่งงานที่น่ายกย่อง มีความสุข และประสบความสำเร็จคือ เป้าหมายหลักของปุถุชนทุกคน พระเจ้าทรงวางแผนให้แต่งงานเพื่อสร้างครอบ ครัวและลูกหลานที่เข้มแข็งและมีความสุข ใครก็ตามที่จงใจหลีกเลี่ยงการแต่ง งานไม่เพียงผิดปกติเท่านั้น แต่กำลังทำให้โปรแกรมของพระองค์ล้มเหลว

ข้าพเจ้าแห้ต่างให้แก่คำว่า ปกติ เพราะพระเจ้าทรงกำหนดบรรทัดฐานด้วย พระองค์เองโดยทรงนำแอดัมและอีฟมาอยู่ด้วยกัน ชายคนแรกและหญิงคน แรกบนโลกนี้ และทรงประกอบพิธีแต่งงานอันศักดิ้สิทธึ์ให้พวกท่านเป็นสามี ภรรยากัน พวกท่านมีอุปนิสัยต่างกันโดยสิ้นเชิง มีบทบาทต่างกัน พระองค์ตรัส ทันทีหลังจากประกอบพิธีให้ว่า “จงมีลูกดกทวีมากขึ้นจนเต็มแผ่นดิน จงมีอำ นาจเหนือแผ่นดิน จงครอบครอง” (ปฐมกาล 1:28)

เป็นเรื่องปกติที่จะแต่งงาน เป็นเรื่องปกติและเหมาะสมที่จะมีบุตร ทุกคน ควรต้องการและวางแผนแต่งงานเพราะนั่นคือสิ้งที่พระผู้เป็นเจ้าในสวรรค์ทรง วางแผนไว้เพื่อเรา นั่นคือวิธีที่พระองค์ทรงดำริ7

โปรแกรมทั้งหมด [ของพระเจ้า] จัดตั้งด้วยพระปรีชาญาณเพื่อนำเด็กเข้ามา ในโลกด้วยความรักและการพึ่งพาบิดามารดา หากความคิดตื้นๆ ของคนมาก มายในทุกวันนี้แพร่หลาย โลก เผ่าพันธุ้มนุษย์ และเรื่องลูกต้องเหมาะสมทั้ง ปวงคงถึงกาลอวสานไปนานแล้ว …

… พระเจ้าตรัสไว้ว่าเพื่อให้บรรลุถึงขั้นสูงสุดของสวรรค์สามชั้นหรือสาม ระดับในอาณาจักรขั้นสูง “มนุษย์ต้องเข้าส่ฐานะนี้ของฐานะปุโรหิต [หมายถึง พันธสัญญาใหม่และเป็นนิจของการแต่งงาน]

“และหากเขาไม่ทำเขาจะบรรลุไม่ได้” (ค.พ. 131:2-3)

นี่คือวิธีที่ถูกต้อง

มีผู้ชายบางคนที่ไม่แต่งงานเพราะการเลือกของเขา เขาทำให้ตนเองสูญเสืย สิทธึ์ อาจมีผู้หญิงหลายคนด้วยที่ทำให้ตนเองสูญเสืยพร มีอีกหลายคนที่ไมแต่ง งานเพราะไม่มีโอกาส เราทราบแน่นอนว่าพระเจ้าจะทรงเตรียมการมากพอและ จะไม่มีใครถูกกล่าวโทษเพราะสิ่งที่เขาหรือเธอช่วยไม่ได้ …

แต่เกี่ยวกับการแต่งงานและบทบาทของชายและหญิง อย่าได้มีมนุษย์คนใด ห้าทายพระผู้เป็นเจ้าเลย…

ข้าพเจ้าหวังอย่างจริงใจว่าเด็กสาวและสตรีสิทธิชนยุคสุดท้ายของเรา บุรุษ และเด็กหนุ่มทั้งหลายจะดื่มนํ้าแห่งชีวิตอย่างเต็มที่และปรับชีวิตของพวกเขาให้ เข้ากับบทบาทอันสวยงามและครอบคลุมทุกด้านซึ่งพระเจ้าทรงมอบหมายไว้ให้

ข้าพเจ้าหวังว่าเราจะไม่พยายามแก้ไขแผนซึ่งสมบูรณ์แบบอยู่แล้ว แต่จะ พยายามสุดความสามารถ ความคิด และกำลังของเราเพื่อทำให้ตัวเราสมบูรณ์ แบบในโปรแกรมที่ครอบคลุมทุกด้านซึ่งประทานแก่เรา เพราะเราบางคนล้มเหลว จึงไม่ยุติธรรมที่จะโทษโปรแกรม ขอให้เราควบคุมเจตคติ กิจกรรมต่างๆ และ ชีวิตทุกด้านของเรา เพื่อเราจะเป็นผู้มีสิทธึ่ได้รับพรลํ้าค่ามากมายที่ทรงสัญญา กับเรา8

การแต่งงานนิรันดร์เรียกร้องการเตรียมอย่างรอบคอบ

เป็นได้ว่าการแต่งงานอาจเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญที่สุดและมีผลกระทบ ยาวไกลที่สุด เพราะไม่เพียงเกี่ยวข้องกับความสุขในเวลานี้เท่านั้น แต่เกี่ยวข้อง กับความปีติยินดีนิรันดร์ด้วย อีกทั้งส่งผลไม่เพียงต่อคนสองคนที่เกี่ยวดองกัน เท่านั้นแต่ต่อครอบครัวด้วย และโดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อลูกหลานสืบมาอีกหลาย ชั่วอายุ

ในการเลือกคู่สำหรับชีวิตนี้และสำหรับนิรันดร แน่นอนว่าต้องวางแผนอย่าง รอบคอบที่สุด ใคร่ครวญ สวดอ้อนวอน และอดอาหาร เพื่อให้แน่ใจว่าใน บรรดาการตัดสินใจทั้งหมด การตัดสินใจครั้งนี้ต้องไม่ผิดพลาด การแต่งงานที่ แท้จริงต้องมีความสอดคล้องของความคิดและจิตใจ ต้องไม่ใช้อารมณ์เป็นตัว กำหนดการตัดสินใจ แต่ใช้ความคิดและจิตใจ เสริมด้วยการอดอาหาร การสวด อ้อนวอน และการพิจารณาอย่างสุขุมรอบคอบ ซึ่งจะทำให้บุคคลนั้นมีโอกาส สูงสุดที่จะประสบความสุขในชีวิตสมรส เพราะสิู่้งที่มาพร้อมกับการแต่งงานเช่น นี้คือการเสืยสละ การแบ่งปัน และการเรียกร้องความไม่เห็นแกตัว …

… “คู่กันมาแต่ชาติปางก่อน” เป็นเรื่องโกหกพกลม และแม้ชายหนุ่มหญิง สาวทุกคนจะพยายามสุดความสามารถและสวดอ้อนวอนอย่างหนักเพื่อให้พบคู่ ชีวิตที่เข้ากันได้มากที่สุดและดืที่สุด แต่ชายที่ดีและหญิงที่ดีเกือบทุกคนจะมีความสุข และมีชีวิตแต่งงานที่ประสบความสำเร็จได้แน่นอนหากทั้งคู่ยินดีชดเชย ให้กัน …

คนสองคนที่มาถึงแท่นแต่งงานตัองเข้าใจว่าเพื่อให้ชีวิตแต่งงานมีความสุข ดังหวัง เขาต้องทราบว่าการแต่งงานไม่ใช่การดำเนินการทางกฎหมาย แต่หมาย ถึงการเสียสละ การแบ่งปัน และแม้การบั่นทอนเสรีภาพส่วนตัวบางอย่าง หมายถึงการรัดเข็มขัดระยะยาว หมายถึงลูกที่มาพร้อมกับภาระการเงิน ภาระ ทางการรับใข้ ภาระในการดูแลและเป็นห่วงเป็นใย อีกทั้งหมายถึงอารมณ์ที่ถึก ซึ้งและหวานชื่นที่สุดด้วย9

การแต่งงานล่าข้า…ไม่เป็นที่ยอมรับแต่อย่างใด คนปกติทุกคนควรวางแผน ชีวิตในวัยเยาว์ว่าจะต้องแต่งงานอย่างถูกต้องในพระวิหาร และวางแผนในช่วง เป็นผู้ใหญ่ตอนต้นว่าจะเพิ่มทวิและมีครอบครัวของตน10

คนหนุ่มสาวที่วางเส้นทางส่การแต่งงานในพระวิหารได้กำหนดรูปแบบความ คิดไว้แล้วซึ่งจะทำให้เขายอมวางแผนร่วมกับคู่ที่เขาเลือกทันทีที่พบกัน แม้ก่อน ที่เขาจะประกอบพิธีแต่งงานในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เขาจะวางแผนชีวิตด้วยกัน และ จะดำเนินกระบวนการต่อไปในฐานะคู่บ่าวสาวเมื่อนั่งวางแนวทางตั้งแต่ชีวิตทาง วิญญาณที่ประสบความสำเร็จและมีความสุขไปจนถึงความสูงส่งในอาณาจักร ของพระผู้เป็นเจ้า11

บางท่านคงจะไปทั่วโลกเพื่อหาสถานที่ประกอบพิธีการผนึกถ้าท่านรู้ความสำ ดัญของพิธีการดังกล่าว ถ้าท่านตระหนักว่าพิธีการผนึกยิ่งใหญ่เพียงใด ระยะทาง ความขาดแคลนทุนทรัพย์ และสถานการณ์คงจะขัดขวางท่านจากการแต่งงานใน พระวิหารศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้าไม่ได้12

จะมีวิญญาณใหม่ในไซอันเมื่อหญิงสาวจะกล่าวกับเพื่อนชายว่า “ถ้าคุณไม่มี ใบรับรองพระวิหาร ฉันจะไม่ผูกชีวิตไว้กับคุณ แม้จะเพื่อชีวิตอันเป็นมรรกัยนี้ ก็ตาม” และอดีตผู้สอนศาสนาหนุ่มจะกล่าวกับเพื่อนสาวว่า “ผมเสียใจ แต่ถึง ผมจะรักคุณมาก ผมก็จะไม่แต่งงานนอกพระวิหารศักดิ์สิทธิ์” …

… เราสงสัยว่าเหตุใดผู้คนจึงไม่แต่งงานอย่างถูกต้องทั้งที่มีพรและคำสัญญา ทั้งหมดนี้และปล่อยชีวิตให้อยู่ในถิ่นทุรกันดารเย็นเยียบซึ่งนํ้าแข็งอาจไม่มีวัน ละลายเลยก็ได้ เหตุใดคนหนุ่มสาวจึงคิดแต่จะแต่งงานนอกพระวิหารและทำลาย รัศมีภาพเหล่านั้นที่มีให้เขา13

คู่แต่งงานจะทำตามสูตรที่ไม่เคยทำให้ผิดหวัง เพื่อจะมีความสุขด้วยกัน

ชีวิตแต่งงานเกือบทั้งหมดจะสวยงาม ปรองดอง มีความสุข และเป็นนิรันดร์ ถ้าคนทั้งสองที่เกี่ยวดองกันแต่แรกตั้งใจว่าควรจะเป็นเช่นนั้น จะต้องเป็นเช่นนั้น และจะเป็นเช่นนั้น14

การประกอบพิธีมิได้นำมาซึ่งความสุขและชีวิตแต่งงานที่ประสบความสำเร็จ ความสุขไม่ได้เกิดจากการกดปุ่มเหมือนเปีดไฟ ความสุขคือสภาวะของความคิด และมาจากข้างใน จะต้องทำให้ได้มา ซื้อหาไม่ได้ด้วยเงิน และจะไม่ได้มาหาก ไม่ทำอะไรเลย

บางคนคิดว่าความสุขคือชีวิตที่น่าหลงใหลของความสะดวกสบาย ความ หรูหราฟุ้งเฟ้อ และอารมณ์ตื่นเต้นชั่วครู่ชั่วยาม แต่การแต่งงานที่แท้จริงมีพื้น ฐานอยู่บนความสุข ซึ่งเป็นมากกว่านั้น ความสุขซึ่งมาจากการให้ การรับใช้ การแบ่งปัน การเสียสละ และความไม่เห็นแก่ตัว

คนสองคนที่มาจากพื้นเพต่างกันจะเรียนรู้หลังจากประกอบพิธีไม่นานว่าตน ต้องเผชิญกับความเป็นจริงที่อยู่ตรงหน้า ไม่มีชีวิตที่เพ้อฝ้นหรือเสแสร้งอีกต่อไป เราต้องออกจากปุยเมฆและยืนหยัดอย่างมั่นคงบนแผ่นดินโลก ต้องรับเอาความ รับผิดชอบและยอมรับหน้าที่ใหม่ จะต้องละทิ้งเสรีภาพส่วนตัวบางอย่าง จะต้อง ปรับตัวอีกมากและจะต้องไม่เห็นแกตัว

คนๆ นั้นจะเข้าใจอย่างรวดเร็วหลังจากแต่งงานว่าคู่ชีวิตมีความอ่อนแอที่ไม่ เคยเปีดเผยหรือถูกค้นพบมาก่อน คุณงามความดีที่แสดงออกอย่างต่อเนื่องใน ระหว่างเป็นคู่รัก บัดนี้ค่อยๆ ลดน้อยลง และความอ่อนแอซึ่งดูเหมือนจะเป็น เรื่องเล็กและไม่สลักสำคัญในระหว่างเป็นคู่รัก บัดนี้เริ่มขยายใหญ่ขึ้น ถึงเวลา แล้วที่ต้องมีความเข้าใจ การประเมินตนเอง และมีสามัญสำนึก มีเหตุมีผล และ มีการวางแผนที่ดี …

มีสูตรที่ไม่เคยทำให้ผิดหวังซึ่งรับรองว่าทุกคู่จะมีชีวิตแต่งงานที่เป็นสุขและ เป็นนิรันดร์ แต่เช่นเดียวกับสูตรทั้งหลาย เราต้องไม่ตัดส่วนผสมที่สำคัญออก ไป ลดปริมาณลง หรือจำกัดไว้แค่นั้น การเลือกก่อนขอแต่งงานและการทำให้ ความรักยังคงหวานชื่นหลังกระบวนการแต่งงานมีความสำคัญเท่าๆ กัน แต่ไม่ สำคัญกว่าการแต่งงาน ความสำเร็จของชีวิตแต่งงานขึ้นอยู่กับคนสองคน ไม่ใช่ คนเดียว แต่ทั้งสองคน

การแต่งงานที่เริ่มต้นและมีพื้นฐานอยู่บนมาตรฐานที่สมเหตุสมผล… ย่อม ไม่มีอำนาจใดรวมตัวกันทำลายได้ เว้นแต่อำนาจภายในคู่ชีวิตคนใดคนหนึ่งหรือ ทั้งสองคน และโดยทั่วไปแล้วเขาต้องรับผิดชอบ คนอื่นและสิทธิ์เสรีอาจส่งผล ดีหรือไม่ดีก็ได้ สถานภาพทางการเงิน สังคม การเมือง และอื่นๆ ดูเหมือนจะ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย แต่ที่สำคัญที่สุดและเป็นเช่นนั้นเสมอมาคือ การแต่งงาน ขึ้นอยู่กับคู่สามีภรรยาผู้สามารถทำให้ชีวิตแต่งงานประสบความสำเร็จและมีความ สุขได้เสมอหากตั้งใจแน่วแน่ ไม่เห็นแก่ตัว และชอบธรรม

สูตรนี้เรียบง่าย มีส่วนผสมไม่มากนัก แม้จะมีรายละเอียดมากมายในส่วน ผสมแต่ละอย่างก็ตาม

หนึ่ง จะต้องมีทัศนะที่ถูกต้องต่อชีวิตแต่งงาน ซึ่งเน้นเรื่องการเลือกคู่ครองที่ เข้าใกล้ขีดสูงสุดของความดีพร้อมมากที่สุดเท่าที่จะมากได้ในทุกเรื่องที่สำคัญ ต่อบุคคลแต่ละคน หลังจากนั้นทั้งสองฝ่ายต้องมาที่แท่นในพระวิหารด้วยความ สำนึกว่าเขาต้องทำงานหนักเพื่อนำไปสู่การมีชีวิตคู่ที่ประสบความสำเร็จ

สอง จะต้องไม่เห็นแก่ตัว ลืมนึกถึงตนเอง สนใจชีวิตของทุกคนในครอบครัว และทุกสิู่้งที่เป็นไปเพื่อผลประโยชน์ของครอบครัว ตลอดจนเอาชนะความ ปรารถนาที่เห็นแก่ตัว

สาม จะต้องผูกสมัครรักใคร่กันเช่นเดิม แสดงความเอื้ออาทร ความอ่อน โยน และความเกรงใจกันเพื่อให้ความรักคงความหวานชื่นและเพิ่มพูน

สี่ จะต้องดำเนินชีวิตโดยครบถ้วนตามพระบัญญ้ติที่พระเจ้าทรงกำหนดไว้ใน พระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์

เมื่อส่วนผสมเหล่านี้คลุกเคล้าเข้าด้วยกันอย่างเหมาะเจาะและยังคงปฏิบัติ เช่นนั้นเรื่อยไป ความทุกข์ใจจะไม่ย่างกรายเข้ามาเลย ความเข้าใจผิดจะไม่หลง เหลือ และการแตกแยกจะไม่เกิดขึ้น ทนายความด้านการหย่าร้างคงต้องย้ายไป แผนกอื่น และศาลหย่าร้างคงต้องปิดดำเนินการ15

ความไม่เห็นแก่ตัวและการรักษาพระบัญญัติ นำไปสู่ความสำเร็จในชีวิตแต่งงาน

คู่รักควรเข้าใจก่อนที่ทั้งสองจะทำการสาบานซึ่งแต่ละคนต้องยอมรับโดย ปริยายและโดยสิ้นเชิงว่าประโยชน์ของครอบครัวเล็กๆ ที่สร้างขึ้นใหม่ต้องมา ก่อนประโยชน์ของคู่ครองคนใดคนหนึ่งเสมอ ทุกคู่ต้องขจัดคำว่า “ฉัน” และ “ของฉัน” ออกไป และแทนที่ด้วย “เรา” และ “ของเรา” การตัดสินใจทุก เรื่องต้องคำนึงว่าจะส่งผลกระทบต่อคนสองคนหรือมากกว่านั้น ตอนนี้เมื่อภรรยาต้องตัดสินใจในเรื่องสำคัญๆ เธอจะต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อบิดามารดา ลูกๆ บ้าน และชีวิตทางวิญญาณของพวกเขา ตอนนี้ สามีต้องพิจารณาเรื่องการ เลือกงานอาชีพ ชีวิตทางสังคม เพื่อนๆ และความสนใจทุกอย่างของเขาโดย ถือว่าตนเป็นเพียงส่วนหนึ่งของครอบครัวและต้องคำนึงถึงคนทั้งกลุ่ม16

สำหรับคนสองคนที่วางแผนชีวิตแต่งงานด้วยกัน พวกเขาต้องวางแผนงบ ประมาณด้วยกันอย่างรอบคอบ ทั้งสามีและภรรยา และทำตามงบประมาณอย่าง ระมัดระวัง ชีวิตแต่งงานจำนวนมากล้มเหลวเมื่อซื้อของในตลาดนอกเหนือจาก รายการที่เขียนไว้ ชีวิตแต่งงานคือการเป็นหุ้นส่วนและจะประสบความสำเร็จไม่ ได้ด้วยวิธีอื่น17

ชีวิตแต่งงานอาจไม่ราบรื่นสมหวังเสมอไป แต่ก็เป็นชีวิตที่มีความสงบสุข อย่างยิ่งได้ คู่สามีภรรยาอาจมีความยากจน ความเจ็บไข้ได้ป่วย ความผิดหวัง ความล้มเหลว และแม้ความตายในครอบครัว แต่สิ่งเหล่านี้จะไม่ช่วงชิงความ สงบสุขของเขาไป ชีวิตแต่งงานจะประสบความสำเร็จตราบที่ไม่มีความเห็นแก่ ตัวเข้ามากลํ้ากราย ความกลัดกลุ้มและปัญหาจะนำบิดามารดาให้หันหน้าเข้าหา กันในความปรองดองเหนียวแน่นหากมีความไม่เห็นแก่ตัวอย่างสิ้นเชิงอยู่ที่นั่น …

ความรักเปรียบเสมือนดอกไม้ และเปรียบเสมือนร่างกายที่ต้องการการบำรุง เลี้ยงอยู่ตลอดเวลา ร่างกายมนุษย์จะซูบซีด ผ่ายผอม และตายไปในไม่ข้าถ้าไม่ มีอาหารหล่อเลี้ยงบ่อยๆ ดอกไม้ที่บอบบางย่อมเหี่ยวเฉาหากปราศจากอาหาร และนํ้า ความรักก็เช่นกัน จะหวังให้คงอยู่ตลอดไปไม่ได้หากไมหล่อเลี้ยงตลอด เวลาด้วยความรัก การแสดงความชื่นชมยกย่อง การแสดงความรู้สืกซาบซึ้งใจ และการดูแลเอาใจใส่อย่างไม่เห็นแก่ตัว

แน่นอนว่าความไม่เห็นแก่ตัวโดยสิ้นเชิงจะช่วยให้บรรลุองค์ประกอบอีก อย่างหนึ่งของชีวิตแต่งงานที่ประสบความสำเร็จ หากฝ่ายหนึ่งเห็นแกประโยชน์ ความสบายใจ และความสุขของอีกฝ่ายหนึ่ง ความรักที่พบในช่วงเป็นคู่รักและ เชื่อมต่อด้วยการแต่งงานจะเพิ่มพูนอย่างมาก หลายคู่ยอมให้ชีวิตแต่งงานจืดชืด และความรักเย็นชาเหมือนขนมปังเก่า ตลกฟืด หรือนํ้าแกงเย็นชืด แน่นอนว่า อาหารสำคัญที่สุดสำหรับความรักคือความเห็นอกเห็นใจ ความอ่อนโยน การเอา อกเอาใจ ความห่วงใย การแสดงความเอื้ออาทร ความซาบซึ้งใจ ความชื่นชม ความภาคภูมิใจ ความเป็นเพื่อน ความเชื่อมั่น ศรัทธา การเป็นหุ้นส่วน ความ เสมอภาค และการพึ่งพา

เพื่อให้มีความสุขอย่างแท้จริงในชีวิตแต่งงาน บุคคลผู้นั้นต้องรักษาบัญญ้ติ ของพระเข้าด้วยความชื่อสัตย์เช่นเดิม ไม่ว่าโสดหรือแต่งงานแล้ว ไม่มีใครจะมี ความสุขอย่างยิ่งยวดตลอดไปหากเขาไม่ชอบธรรม มีความพึงพอใจชั่วครั้งชั่ว คราวและสถานการณ์ลวงชั่วครู่ชั่วยาม แต่ความสุขที่คงทนถาวรจะผ่านมาทาง ความสะอาดและความมีค่าควรเท่านั้น …

… หากคนสองคนรักพระเจ้ามากกว่าชีวิตตนเองและจากนั้นก็รักกันมากกว่า ชีวิตตนเอง ทำงานร่วมกันด้วยความสอดคล้องต้องกันกับแผนพระกิตติคุณเสมือนเป็นส่วนประกอบพื้นฐานของเขา แน่ใจได้เลยว่าเขาจะมีความสุขมากมาย เช่นที่กล่าวมา เมื่อใดที่สามีภรรยาไปพระวิหารศักดิ์สิทธิ์ดวยกันบ่อยๆ คุกเข่า สวดอ้อนวอนด้วยกันในบ้านกับครอบครัว จูงมือกันไปร่วมการประชุมทางศาสนา รักษาชีวิตให้บริสุทธิ์ใม่ด่างพร้อย ทั้งความคิดและร่างกาย เพื่อให้ความ นึกคิด ความปรารถนา และความรักทั้งหมดมีศูนย์รวมอยู่ในคนๆ เดียว นั่นคือ คู่ชีวิตของเขา และทั้งสองคนร่วมกันเสริมสร้างอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้า เมื่อ นั้นความสุฃก็อยู่ที่จุดสูงสุด18

ชีวิตแต่งงานเรียกร้องความจงรักภักดี และความชื่อสัตย์รักเดียวใจเดียว

มีคนแต่งงานแล้วที่ยอมให้สายตาสอดส่ายและหัวใจเร่ร่อน ผู้ที่คิดว่าไม่เป็นไรถ้าจะจีบนิดหน่อย ปันใจและความปรารถนาให้คนอื่นที่ไม่ใช่ภรรยาหรือ สามีตน พระเจ้าตรัสอย่างชัดเจนว่า “เจ้าจงรักภริยาของเจ้าด้วยสุดใจของเจ้า และจงแนบสนิทกับเธอและไม่มีใครอีก” (ค.พ. 42:22)

และเมื่อพระเจ้าตรัสว่า สุด ใจของเจ้า นั่นหมายว่าจะไม่ปันหรือแบ่งหรือ ถอดถอน และข้อนี้หมายถึงสตรีด้วย “เจ้าจงรักสามีของเจ้าด้วย สุด ใจของ เจ้าและจงแนบสนิทกับเขาและไม่มีใครอีก”

คำว่า ไม่มีใครอีก ได้ขจัดทุกคนและทุกสิ่งออกไปหมด ดังนั้นคู่สมรสจึงมา ก่อนสิ่งอื่นใดในชีวิตของสามีหรือภรรยา ไม่ว่าจะเป็นชีวิตทางสังคม อาชีพการ งาน ชีวิตทางการเมือง หรือความสนใจใดๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้คนหรือสิ่งของ สิ่ง เหล่านี้จะต้องไม่มีอิทธิพลเหนือคู่สมรสเป็นอันขาด บางครั้งเราพบสตรีที่พะเน้า พะนอและพะวงอยู่กับลูกมากจนไม่ใส่ใจสามี บางครั้งถึงกับทำตัวเหินห่างจาก เขา

พระเจ้าตรัสกับพวกเธอว่า “จงแนบสนิทกับ เขา และไม่มีใครอีก”19

บ่อยครั้งผู้คนยังคงแนบสนิทกับมารดา บิดา และเพื่อนฝูง บางครั้งมารดาไม่ ยอมปล่อยลูก บางครั้งสามีหรือภรรยากลับไปหามารดาและบิดาเพื่อขอคำแนะ นำและเปิดเผยความล้บให้ฟัง ซึ่งที่จริงแล้ว เขาควรแนบสนิทกับภรรยามาก ที่สุด อีกทั้งควรรักษาความสับและความเป็นส่วนตัวในความใกล้ชิดสนิทสนม ทั้งหมด ไม่แพร่งพรายให้ผู้ใดรู้20

ชีวิตแต่งงานถือเอาความจงรักภักดีและความซื่อสัตย์รักเดียวใจเดียวเป็นเงื่อน ไขข้อแรก แต่ละฝ่ายจะรับคู่ของตนด้วยความเข้าใจว่าเขาหรือเธอให้ใจ พลัง ความจงรักภักดี เกียรติ และความเอื้ออาทรทั้งหมดแก่ตน ด้วยศักดิ์ศรีทั้งหมด การประพฤตินอกลู่นอกทางแบบใดก็ตามคือบาป การปันใจคือการล่วงละเมิด เราควร “เห็นแก่รัศมีภาพของพระผู้เป็นเจ้าแต่อย่างเดียว” ฉันใด เราควรมีตา หู และใจให้แก่ชีวิตแต่งงาน คู่สมรส และครอบครัวฉันนั้น21

ข้าพเจ้าขอให้คนทั้งหลายที่ถูกผูกมัดด้วยคำสาบานและพันธสัญญาการแต่ง งานทำชีวิตแต่งงานให้ศักดิ์สิทธิ์ มีชีวิตชีวาตลอดเวลา แสดงความเอื้ออาทร อย่างมีความหมายและจริงใจบ่อยๆ

สามีทั้งหลาย จงกลับบ้าน—ร่างกาย วิญญาณ ความคิด ความจงรักภักดี ความสนใจ และความเอื้ออาทร—และรักคู่ชีวิตของท่านในความสัมพันธ์ที่ศักดี์ สิทธิ์และไม่แตกสลาย

ภรรยาทั้งหลาย จงกลับบ้านพร้อมความสนใจ ความซื่อสัตย์ ความคะนึงหา ความจงรักภักดี และความเอื้ออาทรทั้งหมดของท่าน—ช่วยกันสร้างครอบครัว ให้เป็นสวรรค์ที่ได้รับพร ด้วยเหตุนี้ท่านจึงจะทำให้พระเจ้าและพระอาจารย์ของ ท่านพอพระทัยอย่างมากและรับประกันได้ว่าตัวท่านจะมีความสุฃที่สุด22

ข้อเสนอแนะสำหรับศึกษาและสอน

พิจารณาแนวคิดต่อไปนี้ขณะศึกษาบทเรียนหรือขณะเตรียมสอน ดูความช่วย เหลือเพิ่มเติมได้ที่หน้า ⅴ—ⅸ

  • ท่านคิดว่ามีหลักฐานอะไรบ้างที่บ่งบอกว่าชีวิตแต่งงานน่ายกย่อง มีความสุข และประสบความสำเร็จ มีหลักฐานใดที่สะท้อนให้เห็นในความสัมพันธ์ของ ประธานคิมบัลล์ภับคามิลลาภรรยา (ดู หน้า 204, 206)

  • อ่านทวนหัวข้อที่เริ่มต้นในหน้า 206 ท่านคิดว่ามีอิทธิพลอะไรบ้างในโลกทุก วันนี้ที่ต่อต้านการแต่งงาน การโจมตีเช่นนั้นคำลังส่งผลอะไรบ้าง เราจะทำ อะไรได้บ้างเพื่อ “หักล้างและลบล้าง” สิู่้งเหล่านี้ โดยเฉพาะในบ้านของเรา

  • ท่านประทับใจคำสอนใดของประธานคิมบัลล์มากที่สุดเกี่ยวกับการเตรียม แต่งงานนิรันดร์ เพราะอะไร (ดู หน้า 208-210) คำสอนใดช่วยคนที่แต่ง งานแล้ว

  • ประธานคิมบัลล์พูดถึง “สูตรที่ไม่เคยทำให้ผิดหวัง” สำหรับชีวิตแต่งงาน (หน้า 211-212) ถ้าขาดส่วนผสมตัวใดตัวหนึ่งจะส่งผลต่อชีวิตแต่งงาน อย่างไร

  • ประธานคิมบัลล์สอนว่าคู่สมรสควร “แนบสนิท” ต่อกันและไม่มีใครอีก (หน้า 214-215) คู่แต่งงานจะทำอะไรได้บ้างเพื่อให้แน่ใจว่าคำมั่นสัญญา และความสนใจข้างนอกจะไม่ขัดขวางความภักดีต่อกัน

ข้อพระคัมภีร์ที่เกี่ยวข้อง: ปฐมกาล 2:18, 21–24; 1 โครินธ์ 11:11; เอเฟซัส 5:22–25; ค.พ. 132:7-21

อ้างอิง

  1. ใน “President Spencer W. Kimball: On the Occasion of His 80th Birthday,” Ensign, Mar. 1975, 6, 8.

  2. ใน Caroline Eyring Miner and Edward L. Kimball, Camilla: A Biography of Camilla Eyring Kimball (1980), ⅷ.

  3. The Teachings of Spencer W. Kimball, ed. Edward L. Kimball (1982), 310.

  4. ใน Conference Report, Apr. 1979, 5–6, 7; หรือ Ensign, May 1979, 6.

  5. “Marriage Is Honorable,” ใน Speeches of the Year, 1973 (1974), 266.

  6. The Miracle of Forgiveness (1969), 243.

  7. “The Importance of Celestial Marriage,” Ensign, Oct. 1979, 5.

  8. “The Lord’s Plan for Men and Women,” Ensign, Oct. 1975, 4–5.

  9. “Oneness in Marriage,” Ensign, Mar. 1977, 3, 4.

  10. ใน Conference Report, Stockholm Sweden Area Conference 1974, 10.

  11. The Miracle of Forgiveness, 249.

  12. Ensign, Oct. 1979, 4–5.

  13. “The Marriage Decision,” Ensign, Feb. 1975, 6.

  14. “Marriage Is Honorable,” 257.

  15. Ensign, Mar. 1977, 3, 4.

  16. Ensign, Mar. 1977, 4.

  17. ใน Conference Report, Oct. 1975, 6; หรือ Ensign, Nov. 1975, 6.

  18. Ensign, Mar. 1977, 4, 5.

  19. Faith Precedes the Miracle (1972), 142–43.

  20. Ensign, Mar. 1977, 5.

  21. Faith Precedes the Miracle, 143.

  22. Faith Precedes the Miracle, 148.

ภาพ
President and Sister Kimball at piano

“คามิลลาอยู่เคียงบ้างบ้าพเจ้าในปธะสบกาธณ์ทุกอย่าง”

ภาพ
couple talking

“ชายที่คีเเจะหญิงที่ดีเกือบทุกดนจะมีดวามสุบเเจะมีชีวิตเเต่งงานที่ประสบความสําเร็ลไค้เเน่นวน หากทั้งคู่ยินคีชคเชยให้ก้น”