โมโรไน คุณแม่ของดิฉัน และ บทเรียนสำหรับชีวิตดิฉัน

ภาพ

Moroni (Book of Mormon prophet) kneeling beside a tree as he places the gold plates into a box. The box is lying in a hole dug into the ground. There are trees in the background.

ส่วนหนึ่งจากภาพ โมโรไนฝังแผ่นจารึก โดย การีย์ เออร์เนสต์ สมิธ

หลายอย่างเปลี่ยนไปในปีที่ดิฉันอายุครบ 17 ปี ดิฉันกำลังจะเลื่อนชั้นไปเรียนโรงเรียนใหม่และเรียนต่อเซมินารีปีสาม ไม่เพียงเท่านั้น ดิฉันมีครูเซมินารีคนใหม่ด้วย ท่านคือคุณแม่ของดิฉันเอง

ดิฉันบอกไปแล้วหรือไม่ว่าดิฉันเป็นนักเรียนคนเดียวในชั้นของคุณแม่ เนื่องจากโรงเรียนที่ดิฉันจะเรียนต้องนั่งรถไฟไปจากบ้านหนึ่งชั่วโมง คุณแม่จึงตัดสินใจสอนเซมินารีเช้าตรู่ที่บ้านเพื่อดิฉันจะไปโรงเรียนได้ทันเวลา ดิฉันโชคดีที่มีท่านสอนดิฉันทุกวัน แต่ดิฉันรู้สึกเกร็งนิดหน่อยด้วย ดิฉันต้องเอาใจใส่มากที่สุด ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำได้ยากโดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนเช้าตีห้าครึ่ง

เมื่อเรากำลังศึกษาพระคัมภีร์มอรมอน เรามาถึงโมโรไนศาสดาพยากรณ์ที่ดิฉันชื่นชมมาก แต่ดิฉันสงสัยมาตลอดว่า ทำไมโมโรไนอยู่คนเดียว ทำไมพระบิดาบนสวรรค์ไม่ทรงส่งคนมาอยู่กับท่าน ทำไมท่านไม่บ่นเมื่อพระเจ้าทรงทิ้งท่านให้อยู่ทำพระคัมภีร์มอรมอนจนเสร็จคนเดียว

คุณแม่ของดิฉันอธิบายว่าเพราะความชอบธรรมและศรัทธาของท่านในพระบิดาบนสวรรค์ โมโรไนจึงรู้ว่าท่านไม่โดดเดี่ยว ท่านมีพระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์คอยช่วยท่านทำพระคัมภีร์มอรมอนให้เสร็จ ดิฉันตระหนักในตอนนั้นว่าโมโรไนไม่จำเป็นต้องมีคนอยู่ข้างกายเพราะท่านรู้ว่ามีคนคอยดูแลท่านอยู่ที่นั่นทางวิญญาณ ท่านรู้ว่าพระบิดาบนสวรรค์จะไม่ทรงไปจากข้างกายท่าน

นั่นมีผลอย่างมากต่อดิฉัน เวลานี้ดิฉันรู้ว่าเมื่อใดก็ตามที่ดิฉันคิดว่าตนเองโดดเดี่ยว ดิฉันไม่ได้โดดเดี่ยวทางวิญญาณเพราะมีพระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นเพื่อน พระองค์ทรงช่วยให้ดิฉันรู้สึกใกล้ชิดพระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์มากขึ้น ดิฉันรู้ว่าตราบใดที่ดิฉันมีศรัทธาและวางใจพระเจ้า ดิฉันจะไม่เดินตามลำพังแน่นอน

บทเรียนนี้มีผลต่อศรัทธาของดิฉันและประจักษ์พยานของดิฉันในพระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์ ถึงแม้จะกังวลเรื่องเรียนเซมินารีที่บ้าน แต่ตอนนี้ดิฉันขอบพระทัยเพราะเซมินารีให้ประสบการณ์การเรียนรู้ที่พิเศษกับคุณแม่ของดิฉัน