2016
เราเชื่อในการเป็นคนคิดบวก
มกราคม 2016


สิ่งที่เราเชื่อ

เราเชื่อในการเป็นคนคิดบวก

ภาพ
Product shot from January 2016 Liahona

เราพบคำแนะนำในพระคัมภีร์บ่อยครั้งให้ “ชื่นชมยินดี” และ “รื่นเริง” พระเจ้ารับสั่งกับเราใน 2 นีไฟ 2:25ว่า “มนุษย์เป็นอยู่, เพื่อพวกเขาจะมีปีติ” จุดประสงค์ของชีวิตนี้คือนำเราไปสู่ปีติที่พระเจ้าทรงสัญญา

การเป็นคนร่าเริงไม่ได้หมายถึงการไม่แยแสหรือไม่รู้จักความท้าทายของชีวิต เอ็ลเดอร์นีล เอ. แม็กซ์เวลล์ (1926-2004) แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองพูดถึงความร่าเริงว่าเป็น “ความไว้วางใจอันลึกซึ้งในจุดประสงค์ที่พระผู้เป็นเจ้าทรงสำแดง—ไม่เฉพาะสำหรับมวลมนุษยชาติเท่านั้น แต่สำหรับเราแต่ละคนเป็นรายบุคคลด้วย”1 ความท้าทายจะมาแน่นอน เพราะนั่นเป็นส่วนหนึ่งของความเป็นมรรตัย แต่เราไม่จำเป็นต้องทุกข์ระทมกับความท้อแท้และความเสียใจ เราสามารถวางใจพระเจ้าและคิดบวก

พระเยซูคริสต์ทรงสัญญากับเราว่าเราจะประสบความทุกข์ยาก “แต่จงมีใจกล้าเถิดเพราะว่าเราชนะโลกแล้ว” (ยอห์น 16:33) ประธานเอสรา แทฟท์ เบ็นสัน (1899-1994) สอนว่าเพราะเรามีพระกิตติคุณ “เราวิสุทธิชนยุคสุดท้ายจึงควรเป็นคนมองโลกในแง่ดีมากที่สุดและมองโลกในแง่ร้ายน้อยที่สุด”2

เราทุกคนรู้สึกเศร้าและท้อแท้เป็นครั้งคราว แต่เรายังรื่นเริงได้ เอ็ลเดอร์ริชาร์ด จี. สก็อตต์ (1928–2015) แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองกล่าวว่า “ข้าพเจ้าเป็นพยานว่าด้วยศรัทธาในพระผู้ช่วยให้รอดและการเชื่อฟังคำสอนของพระองค์ ความสุขจะไม่มีวันสิ้นสุด แต่ความเศร้าจะสิ้นสุด”3 เราสามารถมีชีวิตด้วยปีติโดยรู้ว่า “ความทุกข์ [ของเรา] จะอยู่เพียงชั่วครู่” (คพ. 121:7)

เมื่อเราวางใจในแผนของพระผู้เป็นเจ้าสำหรับเราและเลือกดำเนินชีวิตด้วยเจตคติที่ดี ความสามารถในการรับมือกับปัญหาท้าทายของชีวิตจะเพิ่มขึ้น ความวิตกกังวลและความกลัวจะส่งผลกระทบต่อเราน้อยลง เราจะประสบปีติที่พระองค์ทรงต้องการให้เราประสบ

อ้างอิง

  1. นีล เอ. แม็กซ์เวลล์, “But a Few Days” (ปราศรัยกับนักการศึกษาศาสนา ซีอีเอส, 10 ก.ย., 1982), 4.

  2. เอสรา แทฟท์ เบ็นสัน, “Do Not Despair,” Ensign, Nov. 1974, 65.

  3. ริชาร์ด จี. สก็อตต์, “Finding Joy in Life,” Ensign, May 1996, 26.

  4. กอร์ดอน บี. ฮิงค์ลีย์, “The Continuing Pursuit of Truth,” Ensign, Apr. 1986, 4.