2016
เป็นตัวแทนชาวมิลเลเนียลตัวจริง
ตุลาคม 2016


เป็นตัวแทน ชาวมิลเลเนียลตัวจริง

จากการให้ข้อคิดทางวิญญาณทั่วโลกสำหรับคนหนุ่มสาว, “การเป็นชาวมิลเลเนียลตัวจริง” ที่มหาวิทยาลัยบริคัม ยังก์—ฮาวายเมื่อวันที่ 10 มกราคม ค.ศ. 2016 ดูบทความเต็มเป็นภาษาอังกฤษที่ devotionals.lds.org

ท่านเป็น “รุ่นที่เลือกสรร” รุ่นที่พระผู้เป็นเจ้าทรงกำหนดล่วงหน้าให้ทำงานที่ไม่ธรรมดา—เพื่อช่วยเตรียมคนของโลกนี้ให้พร้อมรับการเสด็จมาครั้งที่สอง

ภาพ
young adults carrying electronic devices

ภาพประกอบโดย สก็อตตี รีฟสไนเดอร์

คนจำนวนมากเรียกท่านว่า ชาวมิลเลเนียล ข้าพเจ้ายอมรับว่าเมื่อนักวิจัยใช้คำนั้นเรียกท่าน และบอกสิ่งที่งานวิจัยของพวกเขาเปิดเผยเกี่ยวกับท่าน—ความชอบและไม่ชอบของท่าน ความรู้สึกและความโน้มเอียงของท่าน ความเข้มแข็งและความอ่อนแอของท่าน—ข้าพเจ้าไม่สบายใจ มีบางอย่างกวนใจข้าพเจ้าเกี่ยวกับรูปแบบที่พวกเขาใช้คำว่า ชาวมิลเลเนียล พูดตามตรงคือข้าพเจ้าสนใจสิ่งที่ ผู้เชี่ยวชาญ พูดเกี่ยวกับท่านน้อยยิ่งกว่าสิ่งที่พระเจ้าทรงบอกข้าพเจ้าเกี่ยวกับท่าน

เมื่อข้าพเจ้าสวดอ้อนวอนเกี่ยวกับท่านและทูลถามพระเจ้าว่า พระองค์ ทรงรู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับท่าน ข้าพเจ้ารู้สึกต่างกันมากจากสิ่งที่นักวิจัยกล่าว ความรู้สึกทางวิญญาณที่ข้าพเจ้าได้รับเกี่ยวกับท่านทำให้ข้าพเจ้าเชื่อว่า คำว่า ชาวมิลเลเนียล เหมาะกับท่านจริงๆ—แต่ด้วยเหตุผลต่างกันมากจากที่ผู้เชี่ยวชาญเคยเข้าใจ

คำว่า ชาวมิลเลเนียล เหมาะกับท่านถ้าคำนั้นเตือนสติท่านว่า จริงๆ แล้ว ท่านเป็นใคร และ จริงๆ แล้ว จุดประสงค์ในชีวิตท่านคืออะไร ชาวมิลเลเนียลตัวจริงคือคนที่สอนและได้รับการสอนพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ก่อนเขาเกิด ผู้ทำพันธสัญญาที่นั่นกับพระบิดาบนสวรรค์เกี่ยวกับวีรกรรมต่างๆ—รวมทั้งวีรกรรม ทางศีลธรรม—ที่เขาจะทำขณะอยู่บนแผ่นดินโลก

ชาวมิลเลเนียลตัวจริงคือชายหรือหญิงที่พระผู้เป็นเจ้าทรงวางใจมากพอจะส่งมาแผ่นดินโลกในช่วงสมัยการประทานที่เรียกร้องมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของโลกนี้ ชาวมิลเลเนียลตัวจริงคือชายหรือหญิงผู้มีชีวิตอยู่เพื่อช่วยเตรียมคนของโลกนี้ให้พร้อมรับการเสด็จมาครั้งที่สองของพระเยซูคริสต์และการปกครองมิลเลเนียมของพระองค์ อย่าเข้าใจผิดในเรื่องนี้—ท่านเกิดมาเพื่อเป็นชาวมิลเลเนียลตัวจริง

คำถามคือ “ท่านจะกล้าพูดกล้าทำและดำเนินชีวิตในฐานะชาวมิลเลเนียลตัวจริงได้อย่างไร” ข้าพเจ้ามีข้อเสนอสี่ข้อ

1. เรียนรู้ว่า จริงๆ แล้ว ท่านเป็นใคร

ใช้เวลาคิดตรึกตรองข้อเท็จจริงเหล่านี้ร่วมกับการสวดอ้อนวอน

  • ท่านเป็นบุตรหรือธิดาที่พระผู้เป็นเจ้าทรงเลือกไว้

  • พระองค์ทรงสร้างท่านตามรูปลักษณ์ของพระองค์

  • ท่านได้รับการสอนในโลกวิญญาณเพื่อเตรียมท่านให้พร้อมรับบางอย่างและทุกอย่างที่ท่านจะเผชิญในช่วงสุดท้ายของยุคสุดท้ายนี้ (ดู คพ. 138:56) คำสอนนั้นยังอยู่ในท่าน!

ท่านมีชีวิตอยู่ใน “โมงที่สิบเอ็ด” พระเจ้าทรงประกาศว่านี่เป็นเวลาสุดท้ายที่พระองค์จะทรงเรียกคนงานเข้ามาในสวนองุ่นเพื่อรวบรวมผู้ที่เลือกไว้จากสี่เสี้ยวของแผ่นดินโลก (ดู คพ. 33:3–6) และ ท่าน ถูกส่งมาให้มีส่วนในการรวมนี้ ข้าพเจ้าเคยเห็นอิทธิพลของชาวมิลเลเนียลตัวจริงครั้งแล้วครั้งเล่าขณะพวกเขานำผู้อื่นมาสู่ความรู้เรื่องความจริง นี่เป็นส่วนหนึ่งของอัตลักษณ์และจุดประสงค์ของท่านในฐานะลูกหลานของอับราฮัม (ดู กาลาเทีย 3:26–29)

หลายเดือนก่อนข้าพเจ้ากับเวนดีมีประสบการณ์น่าสนใจในไซบีเรียไกลโพ้น ในหมู่ผู้ร่วมเดินทางกับเราในวัน “พีเดย์” ที่อีร์คุตสค์คือเกรกอรี เอส. บรินตันประธานคณะเผยแผ่ แซลลีภรรยาของเขา และแซมบุตรชายที่เคยรับใช้เป็นผู้สอนศาสนาในรัสเซีย เราไปเยี่ยมชมทะเลสาบไบคาลที่สวยงามและตลาดริมฝั่งทะเลสาบ

เมื่อเรากลับมาที่รถตู้ เราสังเกตว่าแซมหายไป สักพักเขาก็กลับมาพร้อมสตรีวัยกลางคนชื่อวาเลนตินา วาเลนตินาพูดอย่างกระตือรือร้นเป็นภาษารัสเซียว่า “ดิฉันต้องการพบคุณแม่ของชายหนุ่มคนนี้ เขาสุภาพมาก ฉลาด และมีน้ำใจ! ดิฉันต้องการพบคุณแม่ของเขา!” สีหน้าสว่างสดใสของแซมดึงดูดวาเลนตินา

แซมแนะนำวาเลนตินาให้คุณพ่อคุณแม่รู้จัก ให้จุลสารเกี่ยวกับพระผู้ช่วยให้รอด และจัดการให้ผู้สอนศาสนาไปเยี่ยมเธอ เมื่อผู้สอนศาสนาไปเยี่ยมเธอพร้อมพระคัมภีร์มอรมอน เธอสัญญาว่าจะอ่าน ผู้หญิงหลายคนซึ่งทำงานที่เดียวกันพลอยตื่นเต้นกับหนังสือเล่มใหม่ที่วาเลนตินาได้รับ เรายังไม่รู้ตอนจบของเรื่องนี้ แต่เพราะแสงสว่างที่แซมแผ่รังสีออกมา วาเลนตินากับเพื่อนบางคนของเธอจึงได้รู้จักพระกิตติคุณ

ชาวมิลเลเนียลตัวจริงอย่างแซมรู้ว่าจริงๆ แล้วพวกเขาเป็นใคร พวกเขาเป็นสานุศิษย์ผู้ภักดีของพระเยซูคริสต์ผู้ใช้ทุกโอกาสช่วยให้ตนเองและผู้อื่นเตรียมรับการปกครองมิลเลเนียมของพระผู้ช่วยให้รอด

เพราะเหตุนี้ข้อเสนอข้อแรกของข้าพเจ้าคือ เรียนรู้ ด้วยตนเอง ว่าจริงๆ แล้วท่านเป็นใคร ทูลถามพระบิดาบนสวรรค์ในพระนามของพระเยซูคริสต์ว่าพระองค์ทรงรู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับท่านและพันธกิจของท่านบนแผ่นดินโลก ถ้าท่านจะทูลถามด้วยเจตนาแท้จริง พระวิญญาณจะทรงกระซิบบอกความจริงที่เปลี่ยนชีวิตท่าน บันทึกความรู้สึกเหล่านั้น ทบทวนบ่อยๆ และทำตามอย่างเคร่งครัด

ข้าพเจ้าสัญญากับท่านว่าเมื่อท่านเริ่มเข้าใจแม้เพียงสักนิดเดียวว่าพระบิดาบนสวรรค์ทรงมองท่านอย่างไรและพระองค์ทรงพึ่งพาให้ท่านทำอะไรเพื่อพระองค์ ชีวิตท่านจะไม่มีวันเหมือนเดิมอีกเลย!

2. คาดหวัง—และเตรียม—ทำเรื่องเหลือวิสัยให้สำเร็จ

ภาพ
woman on computer

พระผู้เป็นเจ้าทรงขอให้บุตรธิดาในพันธสัญญาทำเรื่องยากเสมอ เพราะท่านเป็นบุตรและธิดาที่รักษาพันธสัญญาของพระผู้เป็นเจ้า ผู้มีชีวิตอยู่ในช่วงสุดท้ายของยุคสุดท้าย พระเจ้าจึงทรงขอให้ ท่าน ทำเรื่องยากๆ ท่านมั่นใจในเรื่องนั้นได้—การทดสอบอับราฮัมไม่ได้หยุดอยู่ที่อับราฮัม (ดู คพ. 101:4–5)

ข้าพเจ้ารู้ว่าท่านอาจท้อใจมากถ้ามีผู้ขอให้ทำสิ่งที่ดูเหมือนจะเกินกำลังความสามารถของท่าน ข้าพเจ้าเป็นสมาชิกโควรัมอัครสาวกสิบสองได้เพียง 19 เดือนเมื่อประธานสเป็นเซอร์ ดับเบิลยู. คิมบัลล์ (1895–1985) ถึงแก่กรรม ในการประชุมครั้งแรกของฝ่ายประธานสูงสุดกับโควรัมอัครสาวกสิบสองหลังจากแต่งตั้งประธานเอสรา แทฟท์ เบ็นสัน (1899–1994) ท่านให้งานมอบหมายพิเศษบางอย่างแก่อัครสาวกสิบสอง สิ่งหนึ่งที่ท่านแนะนำให้ข้าพเจ้าทำคือ “เอ็ลเดอร์เนลสัน คุณต้องเปิดประเทศในยุโรปตะวันออกสำหรับการสั่งสอนพระกิตติคุณ”

ปีนั้นคือปี 1985 เป็นช่วงตึงเครียดทางการเมืองที่เราเรียกว่าสงครามเย็น ไม่เฉพาะกำแพงเท่านั้นที่แบ่งเมืองเบอร์ลิน แต่ทั้งยุโรปตะวันออกอยู่ใต้แอกหนักอึ้งของระบอบคอมมิวนิสต์เช่นกัน โบสถ์ปิดและการนมัสการทางศาสนาถูกจำกัดอย่างเข้มงวด

ข้าพเจ้าใช้ชีวิตส่วนใหญ่ในวิชาชีพเปิดหัวใจทำการผ่าตัดช่วยชีวิต แต่ ไม่ มีประสบการณ์ใดทำให้เชื่อว่าข้าพเจ้าจะสามารถเปิดประเทศสำหรับการสั่งสอนพระกิตติคุณได้ แต่ศาสดาพยากรณ์ให้งานมอบหมาย ข้าพเจ้าจึงต้องลงมือทำสิ่งที่ดูเหมือนจะเหลือวิสัยโดยสิ้นเชิง

อุปสรรคทุกอย่างที่แฝงอยู่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้น ข้าพเจ้ามาถึงประเทศส่วนใหญ่โดยไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน ทั้งที่ข้าพเจ้าสามารถหาชื่อเจ้าหน้าที่รัฐที่เหมาะสมได้ แต่ไม่ใช่เรื่องแปลกที่การเข้าพบถูกยกเลิกในวินาทีสุดท้ายหรือเลื่อนออกไปหลายวัน ในประเทศหนึ่ง เมื่อการนัดหมายถูกเลื่อนไปสองวัน การล่อลวงมากมายก็เกิดขึ้นระหว่างนั้นเพื่อทดสอบข้าพเจ้า—รวมทั้งแผนหลอกสำหรับเงินในตลาดมืดและเรื่องผิดกฎหมายอื่นๆ มีครั้งหนึ่งพวกเขาเปิดประชุมพร้อมกับขอให้ข้าพเจ้าออกนอกประเทศ ทันที!

แต่พระเจ้าทรงสามารถทำงานของพระองค์ได้ (ดู 2 นีไฟ 27:20–21) ข้าพเจ้ามีโอกาสเห็นการแสดงปาฏิหาริย์ครั้งแล้วครั้งเล่า—เสมอ และ หลังจาก ข้าพเจ้าคิดใคร่ครวญดีที่สุดแล้ว พยายามสุดความสามารถแล้ว และสวดอ้อนวอนจนสุดพลังแล้วเท่านั้น

บางประเทศยอมรับศาสนจักรก่อนกำแพงเบอร์ลินล่มสลาย ต่อมาประเทศอื่นๆ จึงยอมรับ ในปี 1992 ข้าพเจ้าสามารถรายงานต่อประธานเบ็นสันได้ว่าเวลานี้เราจัดตั้งศาสนจักรในทุกประเทศของยุโรปตะวันออกแล้ว!

ในฐานะชาวมิลเลเนียลตัวจริงผู้ที่พระเจ้าทรงพึ่งพาได้ ท่าน จะสร้างประวัติศาสตร์เช่นกัน! เราจะขอให้ท่านยอมรับงานท้าทายและกลายเป็นเครื่องมือในพระหัตถ์ของพระเจ้า พระองค์จะทรงเปิดทางให้ท่านทำงานเหลือวิสัยได้สำเร็จ

ท่านจะทำงานเหลือวิสัยให้สำเร็จได้อย่างไร เมื่อท่านทำสิ่งใดก็ตามนั่นจะเสริมสร้างศรัทธาของท่านในพระเยซูคริสต์ และเพิ่มพูนความเข้าใจเรื่องหลักคำสอนที่สอนในศาสนจักรที่ได้รับการฟื้นฟู และเมื่อท่านแสวงหาความจริงอย่างไม่ย่อท้อ ในฐานะชาวมิลเลเนียลตัวจริงที่มีรากฐานมั่นคงในหลักคำสอนบริสุทธิ์ เมื่อขอให้ท่านทำเรื่องเหลือวิสัย ท่านจะสามารถก้าวไปด้วยศรัทธา ทำทุกอย่างที่อยู่ในอำนาจของท่านอย่างร่าเริงและต่อเนื่องเพื่อให้จุดประสงค์ของพระเจ้าเกิดสัมฤทธิ-ผล (ดู คพ. 123:17)

ท่านจะมีวันที่ท่านจะท้อแท้อย่างยิ่ง จงสวดอ้อนวอนขอความกล้าหาญไม่ยอมแพ้! ท่านจะต้องมีพลังนั้นเพราะการเป็นวิสุทธิชนยุคสุดท้ายจะเป็นที่ชื่นชอบน้อยลง น่าเศร้าเมื่อคนที่ท่านคิดว่าเป็นเพื่อนจะทรยศท่าน และท่านจะเห็นความอยุติธรรมบางอย่าง

อย่างไรก็ตาม ข้าพเจ้าสัญญากับท่านว่าเมื่อท่านติดตามพระเยซูคริสต์ ท่านจะพบสันติสุขและปีติที่แท้จริง เมื่อท่านรักษาพันธสัญญาอย่างเคร่งครัดมากขึ้น เมื่อท่านปกป้องศาสนจักรและอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้าบนแผ่นดินโลก พระเจ้าจะประทานพรให้ท่านมีพลังและปัญญาทำเรื่องเหลือวิสัยให้สำเร็จ

3. เรียนรู้วิธีเข้าถึงอำนาจแห่งสวรรค์

พวกเราทุกคนมีคำถาม การพยายามเรียนรู้ เข้าใจ และยอมรับความจริงคือส่วนสำคัญของประสบการณ์มนุษย์ ชีวิตข้าพเจ้าส่วนใหญ่ใช้ไปกับการค้นคว้า ท่านเองจะเรียนรู้ดีที่สุดโดยถามคำถามที่ได้รับการดลใจ

ขณะนี้พวกท่านบางคนพยายามจะรู้ว่าท่านควรทำอะไรกับชีวิตท่าน หลายคนอาจสงสัยว่าท่านได้รับการให้อภัยบาปของท่านแล้วหรือ พวกท่านส่วนใหญ่กำลังสงสัยว่าคู่นิรันดร์ของท่านเป็นใครและอยู่ที่ไหน—ส่วนผู้ที่ไม่สงสัยเรื่องนี้ก็ควรจะสงสัย

บางท่านอาจมีคำถามว่าเหตุใดศาสนจักรจึงทำบางเรื่องบางอย่าง หลายท่านอาจไม่แน่ใจว่าจะได้คำตอบการสวดอ้อนวอนของท่านอย่างไร

พระบิดาบนสวรรค์และพระบุตรของพระองค์พร้อมจะตอบคำถามของท่านผ่านการปฏิบัติของพระวิญญาณบริสุทธิ์ แต่ท่านต้องรู้วิธีทำให้ตนเองคู่ควรได้รับคำตอบเหล่านั้น

ท่านจะเริ่มตรงไหน เริ่มจากการใช้เวลามากขึ้นในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ พระวิหารเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ โบสถ์ศักดิ์สิทธิ์เช่นกัน ที่นั่นท่านต่อพันธสัญญาศีลระลึกทุกวันอาทิตย์โดยการรับส่วนศีลระลึก ข้าพเจ้าเชื้อเชิญให้ท่านทำอพาร์ตเมนต์ หอพัก บ้าน หรือห้องนอนของท่านให้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เพื่อท่านจะสามารถปลีกตัวจากสิ่งรบกวนของโลกได้อย่างปลอดภัย

การสวดอ้อนวอนเป็นกุญแจ จงสวดอ้อนวอนให้รู้ว่าจะเลิกทำอะไรและเริ่มทำอะไร จงสวดอ้อนวอนให้รู้ว่าจะเพิ่มอะไรเข้าไปในสภาพแวดล้อมของท่านและนำอะไรออกไป ทั้งนี้เพื่อพระวิญญาณจะสถิตกับท่านได้มาก

จงทูลขอของประทานแห่งการเล็งเห็นจากพระเจ้า จงดำเนินชีวิตและทำตนให้คู่ควรได้รับของประทานนั้นเพื่อว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์สับสนในโลก ท่านจะรู้แน่ชัดว่าอะไรจริงอะไรไม่จริง (ดู 2 นีไฟ 31:13)

ภาพ
young adult walking with elderly man

จงรับใช้ด้วยความรัก การรับใช้คนที่หลงทางหรือคนที่วิญญาณบาดเจ็บด้วยความรักจะเปิดใจท่านให้รับการเปิดเผยส่วนตัว

จงใช้เวลามากขึ้น—มากยิ่งขึ้น—ในสถานที่ซึ่งพระวิญญาณสถิตอยู่ นั่นหมายถึงใช้เวลามากขึ้นกับเพื่อนที่พยายามให้มีพระวิญญาณสถิตกับพวกเขา ใช้เวลาคุกเข่าสวดอ้อนวอนนานขึ้น ใช้เวลามากขึ้นกับพระคัมภีร์ กับงานประวัติครอบครัว และในพระวิหาร ข้าพเจ้าสัญญากับท่านว่าเมื่อท่านอุทิศเวลาของท่านให้พระเจ้าอย่างโอบอ้อมอารีและสม่ำเสมอพระองค์จะทรงทำให้เวลาที่เหลือเกิดผลมากขึ้น

เราสนับสนุนบุรุษ 15 ท่านผู้ได้รับแต่งตั้งเป็นศาสดาพยากรณ์ ผู้หยั่งรู้ และผู้เปิดเผย เมื่อเกิดปัญหาซับซ้อน—และรังแต่จะซับซ้อนมากขึ้นทุกวัน—บุรุษทั้ง 15 ท่านนี้แก้ไขปัญหาโดยพยายามดูข้อปลีกย่อยทั้งหมดของแนวทางปฏิบัติหลายรูปแบบ และตั้งใจฟังสุรเสียงของพระเจ้า หลังจากอดอาหาร สวดอ้อนวอน ศึกษา ไตร่ตรอง และหารือกับเจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่เกี่ยวกับเรื่องสำคัญต่างๆ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ข้าพเจ้าจะตื่นขึ้นมากลางดึกพร้อมการทรงนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับปัญหาที่เรากังวล เจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่มีประสบการณ์เดียวกัน

ฝ่ายประธานสูงสุดและโควรัมอัครสาวกสิบสองหารือกัน แบ่งปันทั้งหมดที่พระเจ้าทรงชี้นำให้เราเข้าใจและรู้สึกทั้งเป็นส่วนตัวและโดยรวม ต่อจากนั้นเราเฝ้าดูพระเจ้าทรงดำเนินการให้ประธานศาสนจักรประกาศพระประสงค์ของพระเจ้า

ขั้นตอนดังกล่าวส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนอายุต่ำสุดของผู้สอนศาสนาในปี 2012 และอีกครั้งกับการเพิ่มเติมคู่มือคำแนะนำของศาสนจักรเมื่อเร็วๆ นี้เนื่องจากบางประเทศทำให้การแต่งงานกับเพศเดียวกันเป็นเรื่องถูกกฎหมาย เราเห็นใจทุกฝ่ายและโดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กๆ เราจึงพยายามเข้าใจพระประสงค์ของพระเจ้าในเรื่องนี้

เมื่อคำนึงถึงแผนแห่งความรอดของพระผู้เป็นเจ้าและความหวังว่าบุตรธิดาทุกคนของพระองค์จะได้รับชีวิตนิรันดร์ เราพิจารณาถึงสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นอย่างหลากหลายรวมกันนับไม่ถ้วน เราประชุมกันหลายครั้งในพระวิหารในการอดอาหารและสวดอ้อนวอนเพื่อแสวงหาการนำทางและการดลใจเพิ่มเติม จากนั้นเมื่อพระเจ้าทรงดลใจศาสดาพยากรณ์ของพระองค์ ประธานโธมัส เอส. มอนสัน ให้ประกาศพระดำริของพระเจ้าและพระประสงค์ของพระเจ้า ในช่วงเวลาศักดิ์สิทธิ์นั้นเราแต่ละคนรู้สึกถึงการยืนยันทางวิญญาณ และเราในฐานะอัครสาวกมีโอกาสสนับสนุนสิ่งที่เปิดเผยต่อประธานมอนสัน การเปิดเผยจากพระเจ้าต่อผู้รับใช้ของพระองค์เป็นขั้นตอนศักดิ์สิทธิ์ เช่นเดียวกับสิทธิพิเศษของการรับการเปิดเผยส่วนตัวของท่าน

พี่น้องที่รัก ท่านเข้าถึงพระดำริและพระประสงค์ของพระเจ้าเพื่อชีวิตท่านเองได้มากเท่ากับเราในฐานะอัครสาวกที่ทำเพื่อศาสนจักรของพระองค์ เฉกเช่นพระเจ้าทรงเรียกร้องให้ เรา แสวงหาและไตร่ตรอง อดอาหารและสวดอ้อนวอน ตลอดจนศึกษาและพยายามแก้ปัญหายุ่งยาก พระองค์ทรงเรียกร้องให้ ท่าน ทำเช่นเดียวกันเมื่อท่านแสวงหาคำตอบให้คำถามของท่านเอง

ท่านสามารถฝึกฟังสุรเสียงของพระเจ้าผ่านเสียงกระซิบของพระวิญญาณบริสุทธิ์1 อาจดูเหมือนกูเกิล ทวิตเตอร์ และเฟซบุคช่วยได้ แต่สิ่งเหล่านั้นไม่ได้ให้คำตอบต่อคำถามที่สำคัญที่สุดของท่าน!

เพื่อนหนุ่มสาวทั้งหลาย ท่านสามารถรู้พระดำริและพระประสงค์ของพระเจ้าสำหรับชีวิตท่านได้ ท่านไม่ต้องสงสัยว่าท่านอยู่ตรงที่ซึ่งพระเจ้าทรงต้องการให้ท่านอยู่หรือไม่ หรือท่านกำลังทำสิ่งที่พระเจ้าทรงประสงค์ให้ท่านทำหรือไม่ ท่านสามารถรู้ได้! พระวิญญาณบริสุทธิ์จะทรงบอกท่าน “ทุกสิ่งที่ท่านควรทำ” (2 นีไฟ 32:3)

4. ทำตามศาสดาพยากรณ์

ภาพ
young adult watching general conference

ในปี 1979 ขณะรับใช้เป็นประธานโรงเรียนวันอาทิตย์สามัญ ข้าพเจ้าได้รับเชิญให้เข้าร่วมการสัมมนาตัวแทนเขตซึ่งระหว่างนั้นประธานสเป็นเซอร์ ดับเบิลยู. คิมบัลล์กล่าวคำปราศรัยที่ได้รับการดลใจเกี่ยวกับการเปิดประตูของประเทศที่เวลานั้นปิดรับศาสนจักร อย่างเช่นประเทศจีน ท่านท้าทายทุกคนที่นั่นให้ศึกษาภาษาจีนกลางเพื่อเราจะสามารถใช้ทักษะอาชีพของเราช่วยคนของประเทศจีน

สำหรับข้าพเจ้า คำท้าทายของประธานคิมบัลล์เป็นเหมือนคำสั่งของศาสดาพยากรณ์ คืนนั้นข้าพเจ้าจึงถามแดนท์เซลภรรยาข้าพเจ้าว่าเธอยินดีศึกษาภาษาจีนกลางกับข้าพเจ้าหรือไม่ เธอยินดีและเราหาครูมาสอน แน่นอนว่าเราฝึกพูดได้ไม่ดีนัก แต่เราเรียนรู้มากพอ เมื่อข้าพเจ้าได้รับเชิญไปเป็นอาจารย์สอนการผ่าตัดเปิดหัวใจที่จีนในปีถัดไป (ผ่านเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันมากมาย) ข้าพเจ้าจึงพร้อมยอมรับคำเชิญมากขึ้น

หกปีต่อมาในปี 1985 หลังจากข้าพเจ้าได้รับเรียกสู่โควรัมอัครสาวกสิบสอง วันหนึ่งข้าพเจ้าได้รับคำขอเร่งด่วนให้ไปจีนเพื่อทำการผ่าตัดเปิดหัวใจให้นักร้องโอเปราชื่อดังที่คนจีนทั้งประเทศถือเป็นวีรบุรุษของชาติ ข้าพเจ้าอธิบายว่างานมอบหมายเต็มเวลาจากศาสนจักรทำให้ข้าพเจ้ามาไม่ได้ แต่คณะแพทย์ในจีนขอร้องให้มาสักครั้งเพื่อทำการผ่าตัดช่วยชีวิต

ข้าพเจ้าสนทนาเรื่องนี้กับประธานโควรัมและฝ่ายประธานสูงสุด พวกท่านรู้สึกว่าเพื่อเห็นแก่ประชาชนชาวจีน ข้าพเจ้าควรเดินทางไปทำการผ่าตัด

ข้าพเจ้าทำตาม ขอบพระทัยที่การผ่าตัดประสบผลสำเร็จ! นั่นเป็นการผ่าตัดเปิดหัวใจครั้งสุดท้ายที่ข้าพเจ้าทำ ในเมืองจี่หนาน ประเทศจีน เมื่อวันที่ 4 มีนาคม ปี 1985

ต่อมาอีกครั้ง คราวนี้เดือนตุลาคม ปี 2015 เวนดีกับข้าพเจ้าได้รับเชิญให้กลับไปที่คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยชานตงในเมืองจี่หนาน เราแปลกใจเมื่อข้าพเจ้าได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นในฐานะ “เพื่อนเก่า” ของจีนและได้พบกับกลุ่มศัลยแพทย์ที่ข้าพเจ้าเคยสอนเมื่อ 35 ปีก่อน เหตุการณ์สำคัญของการเยือนครั้งนี้คือการได้พบกับบุตรชายและหลานชายของนักร้องโอเปราชื่อดังคนนั้น ประสบการณ์อันน่าพิศวงทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพราะเหตุผลข้อหนึ่ง นั่นคือ ข้าพเจ้าเอาใจใส่คำแนะนำของศาสดาพยากรณ์ให้ศึกษาภาษาจีนกลาง!

ศาสดาพยากรณ์มองเห็นล่วงหน้า พวกท่านเห็นอันตรายที่ปฏิปักษ์วางไว้หรือจะยังวางไว้ในเส้นทางของเรา ศาสดาพยากรณ์เห็นล่วงหน้าเช่นกันว่าความเป็นไปได้และสิทธิพิเศษคอยท่าคนที่ฟัง ด้วยเจตนาจะเชื่อฟัง ข้าพเจ้าทราบว่านี่เป็นความจริง! ข้าพเจ้าเคยประสบด้วยตนเองมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง

พระเจ้าทรงสัญญากับเราว่าพระองค์จะไม่มีวันยอมให้ศาสดาพยากรณ์นำเราให้หลงผิด ประธานฮาโรลด์ บี. ลี (1899–1973) ประกาศว่า “ท่านอาจจะไม่ชอบสิ่งที่มาจากเจ้าหน้าที่ของศาสนจักร ซึ่งอาจตรงข้ามกับความคิดเห็นทางการเมืองของท่าน ความคิดเห็นทางสังคมของท่าน และขัดกับชีวิตทางสังคมของท่าน แต่หากท่านฟังสิ่งเหล่านี้ ราวกับมาจากพระโอษฐ์ของพระเจ้าพระองค์เอง ด้วยความอดทนและศรัทธา คำสัญญาคือ ‘ประตูแห่งนรกจะเอาชนะเจ้าไม่ได้; แท้จริงแล้ว, และพระเจ้า พระผู้เป็นเจ้าจะทรงทำให้พลังแห่งความมืดกระจายไปต่อหน้าเจ้า, และทำให้ฟ้าสวรรค์สั่นสะเทือนเพื่อความดีของเจ้า, และรัศมีภาพของพระนามของพระองค์’ (คพ. 21:6)”2

ท่านอาจไม่เข้าใจคำประกาศทั้งหมดของศาสดาพยากรณ์ที่มีชีวิตเสมอไป แต่เมื่อท่านรู้ว่าศาสดาพยากรณ์เป็นศาสดาพยากรณ์ ท่านสามารถเข้าเฝ้าพระเจ้าด้วยความนอบน้อมและศรัทธา ทูลขอพยานของท่านเองเกี่ยวกับเรื่องใดก็ตามที่ศาสดาพยากรณ์ของพระองค์ประกาศไว้

ประมาณ 40 ปี ก่อนคริสตกาล ชาวนีไฟจำนวนมากเข้าร่วมศาสนจักร และศาสนจักรรุ่งเรือง แต่การมั่วสุมลับเริ่มแผ่ขยายเช่นกัน ผู้นำเจ้าเล่ห์จำนวนมากแฝงตัวอยู่ในหมู่คนและยากจะจับได้ เมื่อผู้คนจองหองมากขึ้นเรื่อยๆ ชาวนีไฟจำนวนมากจึง ล้อเลียนสิ่งศักดิ์สิทธิ์, ปฏิเสธวิญญาณแห่งการพยากรณ์และการเปิดเผย” (ฮีลามัน 4:12)

การคุกคามอย่างเดียวกันนั้นมีอยู่ในบรรดาพวกเราทุกวันนี้ ความจริงอันน่าเศร้าคือมี “ผู้รับใช้ของซาตาน” (คพ. 10:5) แฝงตัวอยู่ทั่วสังคม ดังนั้นจงระวังให้มากว่าท่านทำตามคำแนะนำของใคร (ดู ฮีลามัน 12:23)

พี่น้องที่รัก ท่านเกิดมาเป็นชาวมิลเลเนียลตัวจริง! ท่าน “เป็นรุ่นที่เลือกสรร” (1 เปโตร 2:9) รุ่นที่พระผู้เป็นเจ้าทรงกำหนดล่วงหน้าให้ทำงานที่ไม่ธรรมดา—เพื่อช่วยเตรียมคนของโลกนี้ให้พร้อมรับการเสด็จมาครั้งที่สองของพระเจ้า!

อ้างอิง

  1. ในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1847 ราวสามปีหลังจากศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธสิ้นชีวิตเป็นมรณสักขี ท่านปรากฏต่อประธานบริคัม ยังก์และให้ข่าวสารนี้ “จงบอกผู้คนให้อ่อนน้อมถ่อมตนและซื่อสัตย์ และต้องมีพระวิญญาณของพระเจ้าสถิตอยู่ด้วยตลอดเวลา และพระวิญญาณจะทรงนำพวกเขาให้ทำสิ่งถูกต้อง จงระวังและอย่าหันหลังให้สุรเสียงสงบแผ่วเบา เพราะสุรเสียงนั้นจะสอน [ท่าน] ว่าต้องทำอะไรและไปที่ไหน” (ใน คำสอนของประธานศาสนาจักร: โจเซฟ สมิธ [2007], 105).

  2. คำสอนของประธานศาสนาจักร: ฮาโรลด์ บี. ลี (2000), 79.