จากความด้านชาสู่จุดมุ่งหมาย

ภาพ

หญิงสาว

อาการที่คนทั่วไปรู้สึกเมื่อกำลังต่อสู้กับภาวะซึมเศร้าและความผิดปกติทางสุขภาพจิตอื่นๆ คืออาการด้านชาต่อพระวิญญาณบริสุทธิ์ พวกเขามักจะพยายามต่อสู้ดิ้นรนเพื่อให้รู้สึกว่าได้รับความสว่างและอบอุ่นในใจ

ในฐานะที่เป็นผู้มีภาวะซึมเศร้าและโรคย้ำคิดย้ำทำ ฉันเผชิญกับความเป็นจริงนี้อยู่หลายปี ฉันไม่ทราบว่าพระวิญญาณรู้สึกอย่างไร เมื่ออาการแย่ลงในช่วงที่เรียนวิทยาลัย ฉันจึงต้องเข้าโรงพยาบาลเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์

ในช่วงเวลาที่มืดมนในจิตใจ ฉันสงสัยว่าความเจ็บป่วยเหล่านี้จะช่วยฉันในระยะยาวได้อย่างไร พระผู้เป็นเจ้าทรงใช้ประสบการณ์ที่น่าหนักใจนี้เพื่อประโยชน์ของฉันอย่างไร? พระองค์ทรงมีพระประสงค์ใดสำหรับฉันในการมอบการทดลองนี้แก่ฉัน?

ในช่วงเวลานี้ ฉันขอพรฐานะปุโรหิต และมีประโยคหนึ่งที่ฉันได้ยินซ้ำแล้วซ้ำเล่า: “พระผู้เป็นเจ้าทรงมอบแหล่งช่วยให้ท่านเพื่อเอาชนะในการทดลองนี้” ด้วยศรัทธาว่าพระองค์จะทรงนำทางฉันไปสู่สิ่งที่ฉันต้องการเพื่อรักษา ฉันตัดสินใจเชื่อคุณหมอ ฉันได้รับความช่วยเหลือตามที่ต้องการทีละน้อย เมื่อเวลาผ่านไป ฉันแบ่งปันการเดินทางว่าด้วยสุขภาพจิตของฉันทางออนไลน์

หลังจากนั้นไม่นาน ฉันเริ่มได้รับข้อความจากเพื่อนผู้ชาย พวกเขาถามเกี่ยวกับสุขภาพจิตของฉัน และพวกเขาแบ่งปันข้อคิดและความรู้สึกที่มีเช่นเดียวกัน พวกเขาขอให้ฉันช่วยให้รู้วิธีต่อสู้กับความด้านชา ตอนแรกฉันประหลาดใจ

ในหลายวัฒนธรรม ผู้ชายจะได้รับการคาดหวังว่าจะต้องดูเข้มแข็งและไม่เปิดเผยอารมณ์ของตน นั่นทำให้ยากที่พวกเขาจะยอมรับว่าตนต้องการความช่วยเหลือ และมักจะต้องทนทุกข์อย่างเงียบๆ

เมื่อเรื่องนี้เกิดขึ้นเป็นครั้งที่สาม ฉันได้รู้ว่าการทดลองของฉันมีไว้เพื่อเตรียมให้ฉันช่วยเหลือ ตลอดช่วงเวลามืดมน ทุกการบำบัด การสวดอ้อนวอน และความพยายามของฉันในการใช้ศรัทธาเมื่อแสวงหาความช่วยเหลือจากสวรรค์ช่วยให้ฉันรู้เมื่อผู้อื่นพบกับการทดลองที่คล้ายคลึงกัน และชี้นำพวกเขาให้ขอความช่วยเหลือ

ฉันได้เรียนรู้ความจริงของถ้อยคำเหล่านี้จากเอ็ลเดอร์ เจฟฟรีย์ อาร์. ฮอลแลนด์ แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองว่า: “ถ้าท่านเป็นโรคไส้ติ่งอักเสบ พระผู้เป็นเจ้าจะทรงคาดหวังให้ท่านแสวงหาพรฐานะปุโรหิต และ ไปรับการรักษา ความผิดปกติทางอารมณ์ก็เช่นกัน พระบิดาในสวรรค์ทรงคาดหวังให้เราใช้ของประทานอันน่าอัศจรรย์ ทุกอย่าง ที่พระองค์ประทานให้ในสมัยการประทานอันเรืองโรจน์นี้”¹