เลียโฮนา
ประวัติครอบครัวช่วยให้ฉันพบความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งมากขึ้น
มีนาคม 2024


ดิจิทัลเท่านั้น: คนหนุ่มสาว

ประวัติครอบครัวช่วยให้ฉันพบความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งมากขึ้น

ฉันสามารถพบกับสัมพันธภาพที่ลึกซึ้งขึ้นผ่านปาฏิหาริย์ในงานประวัติครอบครัวของฉัน

ภาพ
หญิงสาวคนหนึ่งกําลังดูสมุดภาพ

ฉันจำได้ว่าคุณแม่เล่าถึงสถานการณ์ของครอบครัวเธอเมื่ออยู่ในเม็กซิโก คุณแม่เล่าว่าที่ดินมรดกของคุณตาถูกญาติขโมยไป และคุณตาไม่เคยรู้จักปู่ของเขา เรื่องเล่านี้มักจะจบลงด้วยเหตุการณ์อันน่าเศร้า ซึ่งมีกลุ่มคนเข้ามาเผาบ้านครอบครัวเธอและทำลายทุกอย่างในบ้านจนเป็นเถ้าถ่าน—ไม่เว้นแม้แต่บันทึกประวัติครอบครัวของพวกเขา

ฉันจึงคิดว่าข้อมูลการสืบลําดับเชื้อสายทั้งหมดของเราทางฝ่ายคุณแม่ได้หายไปแล้ว

ทุกครั้งที่ฉันเปิด FamilySearch ฉันสามารถหาข้อมูลทางฝั่งคุณแม่ย้อนหลังไปเพียงสองรุ่นเท่านั้น แต่เนื่องจากการทำงานประวัติครอบครัวอย่างขยันหมั่นเพียร เราจึงสามารถสืบสาแหรกทางฝั่งคุณพ่อไปได้ไกลถึง 300 ปีก่อนคริสตกาล ความแตกต่างนั้นน่าทึ่งมาก! แต่เพราะฉันนึกว่าไม่มีงานที่ฉันสามารถทำได้ ฉันจึงไม่ได้แตะต้องสาแหรกครอบครัววของเรามานานกว่า 10 ปี บรรพชนของฉันเป็นเหมือนความทรงจำที่ถูกลืมซึ่งไม่ต้องหวนรำลึกถึงอีก

แต่ฉันได้เรียนรู้ว่ามีพรอันทรงพลังที่มาจากการทําความรู้จักบรรพชนของเรา

ตามหาความเป็นส่วนหนึ่ง—และการเยียวยา

ฉันชอบสิ่งที่เอ็ลเดอร์เกอร์ริท ดับเบิลยู. กองแห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองกล่าวไว้เกี่ยวกับการทํางานประวัติครอบครัว:

“เมื่อเราตาย เราไม่ดับสูญ…

“บรรพชนของเราซึ่งยังมีชีวิตอยู่อีกด้านสมควรได้รับการจดจำ เราจดจำมรดกสืบทอดของเราผ่านประวัติบอกเล่า บันทึกชนเผ่าและเรื่องราวครอบครัว อนุสรณ์สถานหรือสถานที่แห่งความทรงจำ และงานฉลองที่มีภาพถ่าย อาหาร หรือสิ่งของเตือนใจให้เรานึกถึงคนที่เรารัก”1

เครื่องเตือนใจนี้เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ฉันตัดสินใจพยายามค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบรรพชนของฉัน คงไม่เสียหายถ้าจะลอง จริงไหม? ฉันสังเกตด้วยว่าตนเองมีความรู้สึกเผาไหม้อยู่ในใจซึ่งกระตุ้นให้ฉันตรวจสอบเชื้อสายครอบครัวหนึ่งโดยเฉพาะ (เวลานี้ฉันตระหนักแล้วว่านั่นคือพระวิญญาณอย่างชัดเจน)

ทุกครั้งที่ฉันทําตามการกระตุ้นเตือนเหล่านี้ ฉันจะพบบรรพชนคนหนึ่งที่ต้องทําศาสนพิธีให้เสร็จสมบูรณ์ที่พระวิหาร และขณะที่ฉันสืบหาพวกเขาต่อไป ฉันรู้สึกได้ว่าความผูกพันกับบรรพชนของฉันเริ่มเติบโต ฉันตระหนักทันทีว่าสิ่งเหล่านั้นจริงเพียงใดและความสัมพันธ์ของเรามีอยู่จริงเพียงใด เวลาที่ฉันทำประวัติครอบครัว ฉันรู้สึกราวกับว่าบรรพชนของฉันอยู่เคียงข้างฉัน คอยช่วยให้ฉันก้าวหน้า

ฉันมีเพียงประวัติครอบครัวของคุณแม่ที่เล่าผ่านถ้อยคำและเขียนอย่างจำกัดเท่านั้น แต่เนื่องจาก “โดยเรื่องเล็กและเรียบง่ายสิ่งสําคัญจะเกิดขึ้น” (ดู แอลมา 37:6) ข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ คือสิ่งที่ฉันต้องการเพื่อเชื้อเชิญปาฏิหาริย์ให้แก่ครอบครัวของฉัน

เมื่อฉันค่อยๆ เพิ่มเติมข้อมูลเข้ามาในสาแหรกครอบครัวของคุณแม่ ฉันได้รับข่าวสารจากคนที่ฉันไม่รู้จักใน FamilySearch นามสกุลของคุณแม่ที่ฉันส่งไปที่พระวิหารมีการสงวนไว้โดยบุคคลนี้ และเขาขอให้ฉันช่วยหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับครอบครัวของเขา

นามสกุลในพระวิหารสามารถสงวนไว้ได้โดยลูกหลานของนามสกุลนั้นเท่านั้น ซึ่งหมายความว่าฉันเกี่ยวข้องกับบุคคลที่ส่งข้อความให้ฉัน ฉันประหลาดใจมาก! ครอบครัวฉันเชื่อเสมอว่าพวกเราเป็นสมาชิกศาสนจักรเพียงกลุ่มเดียวจากฝ่ายคุณแม่และไม่มีญาติฝั่งของท่านที่อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกา แต่เรากลับคิดผิด

ปรากฏว่าบุคคลนี้เป็นญาติห่างๆ—ครอบครัวของเขาอพยพไปสหรัฐเมื่อเกือบ 40 ปีที่แล้ว ก่อนที่คุณแม่ของฉันจะย้ายไปและกลายเป็นสมาชิกที่แข็งขันของศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย โดยสิ่งที่อธิบายได้ว่าเป็นปาฏิหาริย์เท่านั้น เขาติดต่อฉันทันทีเมื่อพวกเขาเดินทางมาที่รัฐของฉัน และเรามีโอกาสพบกัน

เราหลั่งน้ำตาเมื่อเราพบกันในที่สุด เมื่อเราแบ่งปันเรื่องราวของเรา พวกเราตระหนักว่าเรามีหลายอย่างเหมือนกันมากกว่าที่เราคิด มีบางสิ่งในการตามหาสมาชิกครอบครัวที่พลัดพรากกันมานาน ซึ่งทําให้หัวใจฉันเติบโตด้วยความรัก—ความรักที่มีพลังเยียวยาความโดดเดี่ยวและความท้อแท้ ซึ่งย้ำเตือนฉันถึงอัตลักษณ์อันศักดิ์สิทธิ์และความเชื่อมโยงนิรันดร์ของฉัน

ความสําคัญของเรื่องราวบรรพชนของเรา

ฉันรู้สึกปีติอย่างมากจากงานนี้ ตามที่เอ็ลเดอร์ดี. ทอดด์ คริสทอฟเฟอร์สันกล่าวว่า “การเสียสละใดก็ตามที่เราทำในอุดมการณ์ของพระเจ้าช่วยยืนยันฐานะของเรากับพระองค์ผู้ทรงสละพระชนม์ชีพเพื่อไถ่คนมากมาย”2

พรที่เราได้รับเมื่อเราทํางานประวัติครอบครัวนั้นเป็น “พรที่น่าอัศจรรย์ใจอย่างยิ่ง เพราะขอบข่ายความเฉพาะเจาะจง และผลลัพธ์ในความเป็นมรรตัย”3 ดังที่เอ็ลเดอร์เดล จี. เรนลันด์แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองแบ่งปันไว้ พระเจ้าประทานพรแก่ครอบครัวของฉัน ด้วยญาติๆ ที่สามารถช่วยให้เรารู้สึกใกล้ชิดกับบ้านมากขึ้นและคลายความเหงาที่เราต่างรู้สึก

ฉันเชื่อว่าปาฏิหาริย์แบบนี้เกิดขึ้นได้สําหรับทุกคน หากพวกเขาได้ลองทําประวัติครอบครัว