เซมินารี
มัทธิว 19:1–12


มัทธิว 19:1–12

การแต่งงานได้รับแต่งตั้งจากพระผู้เป็นเจ้า

ภาพ
Temple Marriage

พระเยซูคริสต์ทรงตอบคำถามและสอนความจริงเกี่ยวกับการแต่งงานและการหย่าร้าง บทเรียนนี้จะช่วยให้ท่านเข้าใจได้ว่าพระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์ประทานหนทางแก่ท่านอย่างไรเพื่อให้ท่านมีชีวิตแต่งงานนิรันดร์ที่มีความสุขในอนาคต

รู้จักนักเรียนของท่าน เมื่อท่านเริ่มรู้จักนักเรียนแต่ละคน ท่านจะพร้อมมากขึ้นในการเข้าใจพวกเขาแต่ละคน พิจารณาล่วงหน้าว่าข้อความหรือหัวข้อใดที่อาจทำให้นักเรียนบางคนรู้สึกไม่สบายใจ ขณะท่านสอนหลักคำสอนที่แท้จริง พยายามสอนด้วยความรักและความห่วงใยต่อนักเรียนแต่ละคน

การเตรียมของนักเรียน: เชื้อเชิญให้นักเรียนพิจารณาสิ่งที่พวกเขาสามารถทำได้ในตอนนี้เพื่อเตรียมตัวสำหรับชีวิตแต่งงานที่มีความสุข กระตุ้นให้พวกเขาขอคำแนะนำจากคนรู้จักที่มีชีวิตแต่งงานที่มีความสุขและชอบธรรม

กิจกรรมการเรียนรู้ที่อาจทำได้

การแต่งงานเป็นส่วนหนึ่งของแผนของพระผู้เป็นเจ้า

นำล้อจักรยานมาชั้นเรียนหรือให้ดูภาพ แล้วถามคำถามต่อไปนี้ (สามารถใช้วัตถุอะไรก็ได้ที่มีจุดศูนย์กลางซึ่งจำเป็นต่อการทำงานของวัตถุนั้น)

ภาพ
A bicycle wheel photographed against a white background.
  • จะเกิดอะไรขึ้นกับล้อจักรยานนี้ถ้าถอดดุมล้อ (ศูนย์กลางของล้อ) ออก?

อ่านย่อหน้าแรกของ“ ครอบครัว: ถ้อยแถลงต่อโลก ” (ChurchofJesusChrist.org) โดยค้นหาว่าอะไรคือศูนย์กลางของแผนแห่งความรอดของพระบิดาบนสวรรค์

เราฝ่ายประธานสูงสุด และสภาอัครสาวกสิบสองของศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย ขอประกาศด้วยความเคารพว่า การแต่งงานระหว่างชายและหญิงได้รับแต่งตั้งจากพระผู้เป็นเจ้าและว่าครอบครัวเป็นศูนย์กลางต่อแผนของพระผู้สร้างเพื่อจุดหมายปลายทางนิรันดร์ของบุตรธิดาของพระองค์

  • บทบาทของครอบครัวในแผนของพระผู้เป็นเจ้าอาจเปรียบเทียบกับดุมล้อได้อย่างไร?

  • ท่านคิดว่าการแต่งงาน “ได้รับแต่งตั้งจากพระผู้เป็นเจ้า” หมายความว่าอย่างไร?

  • ข้อความใดต่อไปนี้อธิบายความรู้สึกปัจจุบันของท่านเกี่ยวกับการแต่งงาน? (เลือกทุกข้อที่ตรงกับท่าน)

ท่านอาจให้ดูทางเลือกต่อไปนี้หรือใช้เครื่องมือแบบสำรวจออนไลน์เพื่อให้นักเรียนเลือกคำตอบ

  • ตื่นเต้น—“ฉันตั้งตารอการแต่งงานเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม”

  • ประหม่า—“ฉันจะหาคู่นิรันดร์ได้หรือไม่?”

  • กังวล—“ฉันเห็นชีวิตแต่งงานและการหย่าร้างที่ไม่มีความสุขมากมายเหลือเกิน”

  • สับสน—“มีความคิดเห็นเกี่ยวกับการแต่งงานที่แตกต่างกันมากมาย”

ให้เวลานักเรียนแบ่งปันความคิดและความรู้สึกเกี่ยวกับการแต่งงาน การรู้ว่าพวกเขารู้สึกอย่างไรจะนำไปสู่การปรับบทเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

การแต่งงานมีไว้เพื่อนิรันดร

ในสมัยพันธสัญญาใหม่ บางคนโต้แย้งว่ากฎของโมเสสให้หย่าร้างได้แม้มีเหตุผลเพียงเล็กน้อยหรือเห็นแก่ตัวก็ตาม พระผู้ช่วยให้รอดทรงสอนความจริงที่สำคัญเกี่ยวกับการแต่งงานเพื่อตอบคำถามต่างๆ จากพวกฟาริสีเกี่ยวกับการหย่าร้าง ขณะท่านศึกษาคำสอนของพระองค์ ไตร่ตรองว่าท่านจะวางใจสิ่งที่พระผู้ช่วยให้รอดทรงสอนเกี่ยวกับการแต่งงานได้อย่างไรแม้จะแตกต่างจากสิ่งที่โลกสอนก็ตาม

อ่าน มัทธิว 19:3–8 ทำเครื่องหมายคำหรือวลีที่แสดงว่าพระเจ้าทรงมองการแต่งงานอย่างไร สังเกตว่า “เมื่อเดิม” หมายถึงตามที่สถาปนาไว้โดยพระผู้เป็นเจ้าเมื่อทรงสร้างโลก

  • พระเยซูคริสต์ทรงสอนความจริงอะไรบ้างเกี่ยวกับการแต่งงานและการหย่าร้างที่ท่านต้องการให้คนมากกว่านี้ในโลกเข้าใจ? เพราะเหตุใด?

  • วลีใดที่เจาะจงในข้อนี้ที่ช่วยให้ท่านเข้าใจสิ่งที่พระเยซูทรงสอน?

  • หากท่านถามคำถามพระผู้ช่วยให้รอดได้เกี่ยวกับการแต่งงานและครอบครัวอย่างที่ผู้คนถามใน มัทธิว 19 ท่านต้องการจะรู้อะไรบ้าง?

ท่านอาจเขียนคำถามบางอย่างที่นักเรียนมีบนกระดาน

ความจริงอย่างหนึ่งที่เราจะเรียนรู้ได้จากคำสอนของพระผู้ช่วยให้รอดคือ การแต่งงานระหว่างชายและหญิงเป็นความสัมพันธ์อันศักดิ์สิทธิ์ที่พระผู้เป็นเจ้าทรงสถาปนาไว้และมีไว้เพื่อดำรงอยู่ตลอดไป

  • ความจริงข้อนี้อาจช่วยตอบคำถามหรือคำถามบางข้อที่คนอื่นในโลกมีเกี่ยวกับการแต่งงานอย่างไร?

พระบิดาบนสวรรค์ทรงปรารถนาให้ชีวิตแต่งงานยั่งยืนตลอดไป ขณะที่การหย่าร้างเป็นเรื่องปกติในโลกทุกวันนี้ประธานดัลลิน เอช. โอ๊คส์สอนว่า “วิธีแก้ปัญหาชีวิตสมรสส่วนใหญ่ไม่ใช่การหย่าร้างแต่คือการกลับใจ” (“การหย่าร้าง,” เลียโฮนา, พ.ค. 2007, 89) พระบิดาบนสวรรค์ของเราทรงทำให้เป็นไปได้ที่การแต่งงานจะเป็นนิรันดร์และให้คู่สมรสมีความสุขและสมหวังเมื่อพวกเขาพยายามรักษาพันธสัญญาของพวกเขา ดำเนินชีวิตตามคำสอนของพระผู้ช่วยให้รอด และประยุกต์ใช้หลักธรรมแห่งการกลับใจอย่างสม่ำเสมอ น่าเสียดาย บางครั้งการหย่าร้างเป็นสิ่งจำเป็น ดังที่ประธานกอร์ดอน บี. ฮิงค์ลีย์ (1910–2008) อธิบายไว้ว่า “ในบางครั้งอาจมีเหตุผลอันชอบธรรมสำหรับการหย่าร้าง” (“What God Hath Joined Together,” Ensign, พ.ค. 1991, 74) ขณะที่เราควรจะละเว้นจากการวิพากษ์การตัดสินใจของผู้อื่น เราแต่ละคนสามารถเตรียมตัวให้ดีขึ้นเพื่อพร้อมสำหรับชีวิตแต่งงานในอนาคตที่จะยั่งยืนตลอดไปด้วยการวางใจในพระบิดาบนสวรรค์และพระบุตรของพระองค์และเรียนรู้ที่จะติดตามทั้งสองพระองค์อย่างสุดใจ

  • ท่านเรียนรู้อะไรเกี่ยวกับพระบิดาบนสวรรค์โดยรู้ว่าพระองค์ทรงต้องการให้ชีวิตแต่งงานยั่งยืนตลอดไป?

เลือกกิจกรรมที่เหลือที่จะเป็นประโยชน์กับนักเรียนมากที่สุดในช่วงเวลาที่มี

ใช้แหล่งข้อมูลต่อไปนี้เพื่อค้นหาความจริงเพิ่มเติมที่จะช่วยตอบคำถามที่ท่านหรือผู้อื่นอาจมีเกี่ยวกับการแต่งงาน ไตร่ตรองว่าความรู้ของท่านเกี่ยวกับแผนแห่งความรอดช่วยตอบคำถามบางข้อได้อย่างไร เตรียมแบ่งปันสิ่งที่ท่านเรียนรู้

ท่านอาจให้แหล่งข้อมูลเพิ่มเติมบางอย่างที่พบในหมวด “บทวิจารณ์และข้อมูลภูมิหลัง” ของบทเรียนแก่นักเรียน นักเรียนอาจทำงานร่วมกับคู่หรือกลุ่มเล็กสำหรับกิจกรรมนี้

  • คำปราศรัยจากการประชุมใหญ่สามัญหรือวีดิทัศน์ของศาสนจักรที่สอนเกี่ยวกับชีวิตแต่งงาน (ค้นหาใน ChurchofJesusChrist.org หรือในดัชนีหัวข้อของ เลียโฮนา ฉบับการประชุมใหญ่สามัญ)

  • คนที่ท่านรักและไว้ใจซึ่งแต่งงานอย่างมีความสุขที่ท่านอาจติดต่อในระหว่างบทเรียน

หลังจากนักเรียนมีเวลาศึกษาบ้างแล้วให้พวกเขาแบ่งปันสิ่งที่พวกเขาเรียนรู้ในวิธีที่เปิดโอกาสให้พวกเขาได้รับฟังความจริงมากมาย ตัวอย่างเช่น นักเรียนอาจเดินไปรอบห้อง แบ่งปันสิ่งที่พวกเขาเรียนรู้กับเพื่อนร่วมชั้นให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด

การเรียนรู้จากแบบอย่างที่ชอบธรรม

เปาโลชี้ไปที่ความรักของพระผู้ช่วยให้รอดที่ทรงมีต่อศาสนจักรเพื่อเป็นแบบอย่างของความรักที่ควรมีในชีวิตแต่งงาน อ่าน เอเฟซัส 5:25 และจินตนาการว่าชีวิตแต่งงานจะเป็นอย่างไรหากสามีและภรรยาห่วงใยกันในลักษณะเดียวกันกับที่พระผู้ช่วยให้รอดทรงห่วงใยสมาชิกศาสนจักรของพระองค์

การมุ่งเน้นที่แบบอย่างของผู้มีชีวิตแต่งงานที่ชอบธรรมสามารถเสริมสร้างศรัทธาของเราว่าพระผู้เป็นเจ้าจะประทานพรนี้แก่ผู้ที่แสวงหาอย่างซื่อสัตย์ แม้ว่าบางคนจำเป็นต้องรอหลังชีวิตอันเป็นมรรตัยของพวกเขาสำหรับพรนี้

ท่านอาจเชิญคู่สามีภรรยาจากสเตคมาช่วยสอนบทเรียนนี้ ตอบคำถาม หรือเป็นพยานถึงปีติที่เกิดขึ้นจากการทำตามคำสอนของพระเยซูคริสต์ในชีวิตแต่งงานของพวกเขา

ภาพ
A bicycle wheel photographed against a white background.
  • ใครเป็นแบบอย่างสำหรับท่านในการสร้างชีวิตแต่งงานที่มีความสุข ความชอบธรรม? คุณลักษณะเหมือนพระคริสต์อะไรบ้างที่ช่วยให้พวกเขาพัฒนาชีวิตแต่งงานที่พวกเขามีความสุข?

  • เหตุใดการเตรียมตัวตั้งแต่เดี๋ยวนี้สำหรับชีวิตแต่งงานในอนาคตของท่านจึงสำคัญสำหรับท่าน?

ท่านอาจยกตัวอย่างชีวิตแต่งงานที่มีความสุขและเชื้อเชิญให้นักเรียนแบ่งปันสิ่งที่เรียนรู้ผ่านการเตรียมของนักเรียนสำหรับบทเรียนนี้

ไตร่ตรองสิ่งที่ท่านเรียนรู้ในบทเรียนนี้เกี่ยวกับบทบาทของการแต่งงานในแผนของพระผู้เป็นเจ้าและความรู้สึกของท่านเป็นอย่างไรขณะท่านรอคอยอนาคตของท่าน

  • ท่านจะทำอะไรในเวลานี้เพื่อเตรียมตัวสำหรับการแต่งงานนิรันดร์?

  • ท่านจะทำอะไรได้บ้างเพื่อรับความช่วยเหลือจากพระผู้ช่วยให้รอดในการเตรียมความพร้อม?

บทวิจารณ์และข้อมูลภูมิหลัง

จะเกิดอะไรขึ้นกับผู้คนที่ซื่อสัตย์ซึ่งไม่มีโอกาสแต่งงานนิรันดร์ในชีวิตนี้?

เอ็ลเดอร์ดี. ทอดด์ คริสทอฟเฟอร์สันแห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองกล่าวดังนี้

ภาพ
Portrait of Elder D. Todd Christofferson. Photographed in March 2020.

บางคนไม่ได้รับพรของการแต่งงานด้วยเหตุผลบางอย่าง อาทิ ไม่มีคนที่คู่ควร เสน่หาเพศเดียวกัน มีความบกพร่องทางร่างกายหรือจิตใจ หรือเพียงแค่กลัวความล้มเหลวซึ่งอย่างน้อยก็บดบังศรัทธาไปชั่วขณะ …

… ด้วยความมั่นใจเราเป็นพยานว่าการชดใช้ของพระเยซูคริสต์ได้คาดการณ์ไว้ล่วงหน้า และในบั้นปลายจะชดเชยการลิดรอนสิทธิ์และการสูญเสียทุกอย่างสำหรับผู้ที่หันมาหาพระองค์ ไม่มีใครถูกกำหนดให้รับน้อยกว่าทุกสิ่งที่พระบิดาทรงมีให้บุตรธิดาของพระองค์

(ดี. ทอดด์ คริสทอฟเฟอร์สัน, “เหตุผลที่แต่งงาน เหตุผลที่มีครอบครัว,” เลียโฮนา, พ.ค. 2015, 52)

พระเจ้าทรงสอนอะไรเกี่ยวกับการแต่งงานกับเพศเดียวกันที่ถูกกฎหมาย?

ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันสอนว่า

ภาพ
Official portrait of President Russell M. Nelson taken January 2018

ในฐานะสมาชิกศาสนจักร เราเคารพกฎหมายบ้านเมืองและปฏิบัติตาม รวมถึงการแต่งงานตามกฎหมาย แต่ความจริงคือ ตั้งแต่กาลเริ่มต้น—ตั้งแต่กาลเริ่มต้น—การแต่งงานได้รับแต่งตั้งจากพระผู้เป็นเจ้า! และจนถึงวันนี้พระองค์ยังทรงนิยามว่าเป็นการแต่งงานระหว่างชายกับหญิง พระผู้เป็นเจ้าไม่เคยเปลี่ยนนิยามการแต่งงาน ของพระองค์

(รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน, “The Love and Laws of God” [การให้ข้อคิดทางวิญญาณที่มหาวิทยาลัยบริคัม ยังก์, ก.ย. 17, 2019], speeches.byu.edu)

ฉันสามารถทำอะไรได้บ้างในเวลานี้เพื่อช่วยฉันค้นหาคู่สมรสที่ดีเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม?

ประธานแทด อาร์. คอลลิสเตอร์ อดีตประธานโรงเรียนวันอาทิตย์สามัญแบ่งปันวิธีที่เป็นไปได้ในการตอบคำถามนี้ด้วยสิ่งที่คุณแม่ของท่านสอนเมื่อท่านอายุประมาณ 17 ปี:

ภาพ
Brother Tad R. Callister, Sunday school General President. Official Portrait 2018.

เธอกล่าวว่า “แทด ลูกทูลขอให้พระเจ้าช่วยลูกหาภรรยาที่ดีหรือเปล่า?”

… ข้าพเจ้า … ตอบว่า “ไม่ครับ” แล้วเธอตอบกลับว่า “ลูกควรทำนะ นี่จะเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญที่สุดที่ลูกจะทำ” ถ้อยคำเหล่านั้นตราตรึงในใจข้าพเจ้า ดังนั้นตลอดหกปีหลังจากนั้น ข้าพเจ้าสวดอ้อนวอนให้พระผู้เป็นเจ้าทรงช่วยข้าพเจ้าหาภรรยาที่ดีสักคน และพระองค์ทรงตอบคำสวดอ้อนวอนนั้นอย่างดีทีเดียว

(แทด อาร์. คอลลิสเตอร์, “บิดามารดา: ครูพระกิตติคุณที่สำคัญที่สุดของลูกๆ,” เลียโฮนา, พ.ย. 2014, 33)

มัทธิว 19:9 . การแต่งงานใหม่หลังจากหย่าร้างทำได้หรือไม่?

ประธานดัลลิน เอช. โอ๊คส์ในฝ่ายประธานสูงสุดกล่าวว่า

ภาพ
Brother Tad R. Callister, Sunday school General President. Official Portrait 2018.

การแต่งงานในแบบที่ทำเพื่อความสูงส่ง—เป็นนิรันดร์ในระยะเวลาและเป็นเหมือนพระผู้เป็นเจ้าในคุณภาพ—จะไม่คิดเรื่องการหย่าร้าง … [แต่] เพราะ “ความแข็งกระด้างของใจ [เรา]” [ มัทธิว 19:8 ] ปัจจุบันพระเจ้าจึงไม่ทรงบังคับใช้มาตรฐานซีเลสเชียล พระองค์ทรงยอมให้บุคคลที่หย่าร้างแต่งงานใหม่โดยปราศจากความมัวหมองของการผิดศีลธรรมดังระบุไว้ในกฎที่สูงกว่า

(ดู ดัลลิน เอช. โอ๊คส์, “การหย่าร้าง,” เลียโฮนา, พ.ค. 2007, 88)

ศรัทธาของฉันในพระผู้ช่วยให้รอดจะช่วยฉันได้อย่างไรขณะฉันค้นหาคู่นิรันดร์?

เอ็ลเดอร์เจฟฟรีย์ อาร์. ฮอลแลนด์ แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองสอนว่า

ภาพ
Official Portrait of Elder Jeffrey R. Holland. Photographed January 2018.

จงเชื่อว่าศรัทธาของท่านเกี่ยวข้อง ในทุกๆ ด้าน กับชีวิตรักของท่าน เพราะเป็นเช่นนั้น เป็นภัยมหันต์ถ้าท่านแยกการออกเดทออกจากการเป็นสานุศิษย์ หรือ ถ้าจะพูดใหม่ในเชิงบวก พระเยซูคริสต์ แสงสว่างของโลก ทรงเป็นตะเกียงเพียงหนึ่งเดียวที่ท่านสามารถมองเห็นวิถีทางแห่งความรักและความสุขสำหรับท่าน และ คนรักของท่านได้สำเร็จ

(เจฟฟรีย์ อาร์. ฮอลแลนด์, “How Do I Love Thee?” [การให้ข้อคิดทางวิญญาณที่มหาวิทยาลัยบริคัม ยังก์, 15 ก.พ., 2000], speeches.byu.edu)