แนวทางการเอาตัวรอดของคนหนุ่มสาว: ถ้อยคำยกระดับจิตใจจากผู้นําของเราในยามที่ท่านต้องการมากที่สุด

ในแง่หนึ่ง การเสียสละเล็กๆ น้อยๆ และเรียบง่ายของท่านเป็นเหมือนจุดในชีวิตประจำวันที่เชื่อมต่อจุดประกอบเป็นภาพวาดชิ้นเอกของชีวิตท่าน ท่านอาจไม่เห็นตอนนี้ว่าจุดเชื่อมต่อกันอย่างไร และท่านยังไม่ต้องเห็น ขอเพียงมีศรัทธามากพอสำหรับชั่วขณะที่ท่านมีชีวิตอยู่ตอนนี้ จงวางใจพระผู้เป็นเจ้า และ ‘จากสิ่งเล็กน้อย [จะ] บังเกิดเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่’ [หลักคำสอนและพันธสัญญา 64:33]. …

“เพราะพระผู้เป็นเจ้าประทานสิทธิ์เสรีแก่ท่าน จึงมีหลายทิศทางให้ท่านเลือกเดินและยังคงบรรลุผลสำเร็จในชีวิต ความเป็นมรรตัยเป็นเรื่องราวการผจญภัยปลายเปิดที่ท่านเลือกเอง ท่านมีพระบัญญัติ ท่านมีพันธสัญญา ท่านมีคำแนะนำของศาสดาพยากรณ์ที่ได้รับการดลใจ และท่านมีของประทานแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ นั่นมากเกินพอที่จะนำท่านสู่ความสุขในชีวิตมรรตัยและปีตินิรันดร์

“บางทีเราทุกคนอาจมองตัวเองด้อยกว่าที่เราเป็น ไม่มีค่าควร ไม่มีพรสวรรค์ ไม่มีอะไรพิเศษ ขาดแคลนทางใจ ความคิด ทรัพยากร เสน่ห์ หรือรูปลักษณ์ที่จะเป็นประโยชน์อย่างมากมายต่อพระผู้เป็นเจ้า

“ท่านบอกว่าตัวเองไม่สมบูรณ์แบบใช่ไหม? ท่านยังดีไม่พอใช่ไหม? ขอต้อนรับเข้าพวกหัวอกเดียวกัน!

“ท่านอาจเป็นคนที่พระผู้เป็นเจ้าทรงกำลังมองหา

“พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้ทรงต้องการให้ท่านเป็นคนพิเศษเลิศเลอ ไม่แม้แต่จะต้องสมบูรณ์แบบ

“พระองค์จะทรงใช้พรสวรรค์กับความสามารถของท่านและขยายสองสิ่งนี้ให้พัฒนายิ่งขึ้น—แม้ว่าอาจหาได้ยากพอ ๆ กับขนมปังและปลาไม่กี่ชิ้น หากท่านวางใจพระองค์และซื่อสัตย์ พระองค์จะทรงเพิ่มพูนคำพูดและการกระทำของท่าน และใช้เพื่อเป็นพรและปฏิบัติศาสนกิจต่อมวลชนมากมาย!

“เพื่อนรุ่นเยาว์ที่รัก พึงจดจําว่า ท่านนั้น—เหมือนดั่งเอสเธอร์—เกิดมาเพื่อยามเวลาเช่นนี้ จงอย่ากลัว และอย่าท้อ พระผู้เป็นเจ้าจะทรงอยู่กับท่านตลอดการเดินทางของท่าน ขอให้แน่ใจว่าได้นําพระองค์และพระวจนะของพระองค์ไปกับท่าน และพึงระลึกว่าให้สวดอ้อนวอนเสมอเพื่อได้ยินสุรเสียงของพระองค์ในพระคัมภีร์”

“เมื่อความไว้วางใจถูกทำลาย ความฝันสูญสลาย ใจชอกช้ำครั้งแล้วครั้งเล่า เมื่อเราต้องการความยุติธรรมและความเมตตา เมื่อเรากำหมัดแน่นและน้ำตาไหลพรากเมื่อเราต้องจะยึดอะไรและปล่อยอะไร เราระลึกถึงพระองค์ได้ตลอดเวลา ชีวิตไม่โหดร้ายอย่างที่ดูเหมือนจะโหดร้ายได้บางครั้ง ความเห็นอกเห็นใจอันไม่มีขอบเขตของพระองค์ช่วยให้เราพบทาง ความจริง และชีวิต [ดู ยอห์น 14:6]”

“เมื่อเราค้นพบพระผู้เป็นเจ้า บางครั้งคำตอบคำสวดอ้อนวอนที่คาดหวังไม่พาเราออกจากถนน นำเรามาสู่ชุมชน ไล่ความมืดออกจากจิตวิญญาณเรา และนำทางเราไปพบที่หลบภัยทางวิญญาณและการเป็นส่วนหนึ่งในความดีงามของพันธสัญญาและความรักมั่นของพระองค์

“เพื่อนรุ่นเยาว์ที่รัก มีทางให้เดินกลับ เสมอ พระเยซูคริสต์ (และพระกิตติคุณของพระองค์) คือทางนั้น ท่านไม่ได้ทําบาปร้ายแรงจนเกินเอื้อมพระคุณแห่งความรักและการชดใช้ของพระผู้ช่วยให้รอด เมื่อท่านลงมือกระทําเพื่อกลับใจและทําตามกฎของพระผู้เป็นเจ้า ท่านจะเริ่มรู้สึกว่าพระบิดาบนสวรรค์และพระบุตรที่รักของพระองค์ทรงต้องการให้ท่านกลับบ้านพร้อมพระองค์มากเพียงใด! พระองค์ทรงต้องการให้ท่านมีความสุข พระองค์จะทําทุกสิ่งภายในเดชานุภาพของพระองค์ที่ไม่ละเมิดสิทธิ์เสรี ของท่าน หรือกฎของ พระองค์ เพื่อช่วยให้ท่านกลับมา”

“พวกท่านจะ … ได้ยินเราประกาศกับโมโรไนเช่นกันว่าความหวังเป็นสิ่งจำเป็นถ้าหากเราจะ ‘รับมรดก [นั้น] ซึ่ง [พระผู้เป็นเจ้า] ทรงเตรียมไว้ [ให้เรา]’ [อีเธอร์ 12:32] เราอยากให้ท่านรับมรดกนั้นในฐานะบุตรธิดาของกษัตริย์ ในการทำเช่นนั้น เราต้องตระหนักว่าความหวังไม่ใช่เพียงข่าวสารและเรื่องของการมองโลกในแง่ดีโดยธรรมชาติ แต่เป็นเอกสิทธิ์ของทุกคนที่เชื่อ”

“หลังจากท่านมองเข้าไปข้างในแล้ว ดิฉันวิงวอนให้ท่านมองขึ้นไปข้างบน พระเนตรที่ทอดลงมายังดวงตาของท่านจะเป็นของพระบิดาในสวรรค์ผู้ทรงรักท่าน ผู้ทรงสามารถและจะทรงประสาททุกสิ่งที่ท่านหวังในความชอบธรรม ท่านไม่สามารถรับพรเหล่านี้ได้โดยการไล่ตาม โปรดหยุดวิ่งจนหมดแรง จงสงบเงียบ จงนิ่งเสีย ลดความซับซ้อน จงมีความอ่อนโยนและมีใจนอบน้อมและสวดอ้อนวอน ดิฉันเป็นพยานต่อท่านว่าปาฏิหาริย์จะเกิดขึ้นเมื่อเราช้าลง สงบลง และคุกเข่าลง ทุกสิ่งที่พระบิดาของเรามีย่อมจะประทานแก่ท่าน [ดู หลักคําสอนและพันธสัญญา 84:33–38]”

“พระผู้เป็นเจ้าทรงรู้ทุกอย่างและทรงเห็นทุกอย่าง ตลอดชั่วนิรันดรไม่มีใครจะรู้จักท่านหรือห่วงใยท่านมากไปกว่าพระองค์ ไม่มีใครจะอยู่ใกล้ท่านมากไปกว่าพระองค์ ท่านสามารถระบายความในใจต่อพระองค์และวางใจได้ว่าพระองค์จะทรงส่งพระวิญญาณบริสุทธิ์และเหล่าเทพมาดูแลท่าน พระองค์ทรงแสดงความรักสูงสุดเมื่อทรงส่งพระบุตรองค์เดียวที่ถือกำเนิดของพระองค์มาสิ้นพระชนม์เพื่อท่าน—มาเป็นพระผู้ช่วยให้รอดและพระผู้ไถ่ของท่าน!