สันติสุขแทนที่ความเจ็บปวดของเรา

ภาพ

ผู้คนรวมตัวกันหน้าพระวิหาร

ภาพประกอบโดย เอลเล็น มาเรลโล

ดูเหมือนไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้เลยสําหรับคุณพ่อของฉัน ถึงจะขาหัก แต่เขาสร้างบ้านคอนกรีตสองชั้นให้ครอบครัวเราขณะที่เขาเดินด้วยไม้เท้า ขาหักไม่ได้หยุดยั้งเขาไม่ให้ทําหน้าที่รับผิดชอบในฐานะปุโรหิตหรือการรับใช้ผู้อื่นด้วยซ้ำ

เมื่อประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันประกาศในปี 2020 ว่าการประชุมศีลระลึกจะจัดในบ้านของเรา คุณพ่อของฉันผู้เปี่ยมด้วยความซื่อสัตย์และความรักต่อพระเจ้า เขาคุกเข่าทุกวันอาทิตย์บนพื้นคอนกรีตทั้งที่ยังขาหักอยู่เพื่อให้พรศีลระลึก เขากล่าวว่าสําคัญที่ต้องคุกเข่าแสดงความเคารพต่อศาสนพิธีศักดิ์สิทธิ์นี้

วันที่ 18 พฤษภาคม ค.ศ. 2020 คุณพ่อผู้เป็นที่รักของฉัน วีรบุรุษผู้เป็นที่รักของฉัน เสียชีวิตจากโควิด-19 การเสียชีวิตของเขาเป็นเรื่องกะทันหันมากจนเราไม่ทันตั้งตัว เขาเพิ่งอายุแค่ 61 ปี ฉันเรียนรู้ว่าพระผู้เป็นเจ้าทรงเคารพสิทธิ์เสรีฉันใด เราต้องเคารพจังหวะเวลาของพระผู้เป็นเจ้าฉันนั้น นั่นคือเหตุที่ฉันปลื้มปีติกับคำสัญญาของพระองค์ ซึ่งสอนโดยศาสดาพยากรณ์แอลมา “ว่าวิญญาณมนุษย์ทุกคนนั้น, ทันทีที่ออกจากร่างอันเป็นมรรตัยนี้, แท้จริงแล้ว, วิญญาณมนุษย์ทุกคน, ไม่ว่าพวกเขาดีหรือชั่ว, พระองค์ย่อมทรงนำกลับบ้านไปสู่พระผู้เป็นเจ้าองค์นั้นผู้ประทานชีวิตให้พวกเขา” (แอลมา 40:11) ชายหญิงทุกคน!

งานศพของคุณพ่อจัดขึ้นเป็นงานเล็กๆ และศักดิ์สิทธิ์ เราสิบสองคนร้องเพลงสวดแห่งความสํานึกคุณที่มีความสุขต่อพระผู้เป็นเจ้าสําหรับชีวิตมรรตัยของคุณพ่อ เมื่อเราเริ่มร้องเพลง “มีแสงสว่างในใจข้าวันนี้”¹ ครอบครัวข้างๆ เราที่ร้องไห้อยู่เพราะการสูญเสียของพวกเขาเองกลายเป็นความเงียบสงบ พวกเขาดูเหมือนจะประหลาดใจที่เราไม่แตกสลายเพราะการสูญเสียของเรา แต่เราประสบสันติสุขของการรู้ว่ามีแผนสําหรับเรา ฉันเชื่อว่าพวกเขารู้สึกถึงสันติสุขที่พระเยซูประทานให้เช่นกัน

ชีวิตไม่ง่ายหากไม่มีคุณพ่อ แต่ยังมีสันติสุขในพระคริสต์ ฉันกับคุณพ่อสนิทกันมาก แต่ตอนนี้ฉันรู้สึกได้ว่าเขาใกล้ชิดฉันมากขึ้นกว่าแต่ก่อน ฉันได้รับการผนึกกับคุณพ่อและคุณแม่เพื่อนิรันดร และฉันรู้ว่าคุณพ่อมีชีวิตอยู่ ฉันคิดถึงเขามาก แต่ตอนนี้ฉันมีบิดาสองคนที่อยู่คนละฝั่ง พระบิดาบนสวรรค์ของฉัน กับบิดาทางโลกของฉัน ฉันรู้ว่าพระบิดาบนสวรรค์จะทรงนําทางฉันจนกว่าเราทุกคนจะพบกันอีก