คำสอนของประธานศาสนจักร
บทที่ 3: ลมัยการประฑานความลมบูรณ์ แพ่งทลา


บทที่ 3

ลมัยการประฑานความลมบูรณ์ แพ่งทลา

ในฐานะสิทธิชนยุคสุดท้าย เรามีหน้าที่อันศักดี้สิทธิในการช่วยเสริมสร้าง อาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้าในสมัยการประทานสุดท้ายนี้

จากชีวิตของวิลฟอร์ด วูดรัฟฟ้

ในยุคสมัยต่างๆ ตลอดประวัติศาสตร์ของโลก พระเจ้าทรงสถาปนาสมัยการ ประทานพระกิตติคุณ ในแต่ละสมัยการประทานพระองค์ทรงเปีดเผยพระกิตติ คุณผ่านผู้รับใช้ที่ได้รับมอบอำนาจหนึ่งคนหรือมากกว่านั้น ศาสดาโจเซฟ สมิธ เป็นเครื่องมือของพระเจ้าในการสถาปนาสมัยการประทานปัจจุบัน ซึ่งในพระ คัมภีร์เรียกว่า “เวลากำหนดครบบริบูรณ์ [สมัยการประทานความสมบูรณ์ แห่งเวลา]” (เอเฟซัส 1:10; ค.พ. 128:20)

ในฤดูใบไม้ผลิคริสต์ศักราช 1834 วิลฟอร์ด วูดรัฟฟเข้าร่วมการประชุมฐานะ ปุโรหิตที่เมืองเคิร์ทแลนด์ รัฐโอไฮโอ ในการประชุมครั้งนี้ท่านเริ่มเข้าใจจุด หมายปลายทางของศาสนาจักรในสมัยการประทานนี้ ภายหลังท่านเล่าว่า

“ศาสดาเรียกผู้ดำรงฐานะปุโรหิตทุกคนมารวมกันในบ้านไม้ซุงหลังเล็กที่ใช้ เป็นโรงเรียน บ้านหลังนั้นมีพื้นที่ประมาณ 14 ตารางฟุต แต่รองรับฐานะปุโรหิต ของศาสนาจักรของพระเยซูคริสต์แห่งสิทธิชนยุคสุดท้ายที่อยู่ในเมืองเคิร์ทแลนด์ เวลานั้นได้ทั้งหมด…นั่นคือครั้งแรกที่ข้าพเจ้าเห็นออลิเวอร์ คาวเดอรี หรือได้ยิน ท่านพูด ครั้งแรกที่ข้าพเจ้าเห็นบริคัม ยังและ!เบอร์ ซี. คิมบัลล์ และตระกูล แพรทท์สองคน [ออร์สันและพาร์ลีย์] และออร์สัน ไฮด์ และอีกหลายคน ไม่มี อัครสาวกในศาสนาจักรเวลานั้นยกเว้นโจเซฟ สมิธและออลิเวอร์ คาวเดอรี เมื่อมากันพร้อมหน้าแล้วศาสดาได้ขอให้เอ็ลเดอร์แห่งอิสราเอลที่อยู่กับท่าน แสดงประจักษ์พยานถึงงานนี้ บุคคลที่ข้าพเจ้าเอ่ยถึงลุกขึ้นพูด และอีกหลายคน ที่ข้าพเจ้ามิได้เอ่ยถึงลุกขึ้นแสดงประจักษ์พยาน เมื่อพูดครบทุกคนแล้วศาสดา กล่าวว่า ‘พี่น้องทั้งหลายข้าพเจ้าได้รับคำแนะนำสั่งสอนมากมายในประจักษ์ พยานของท่านที่นี่คืนนี้ แต่ข้าพเจ้าประสงค์จะพูดกับท่านต่อเบื้องพระพักตร์ พระเจ้าว่า ท่านไม่รู้เกี่ยวกับจุดหมายปลายทางของศาสนาจักรและอาณาจักรนี้ มากไปกว่าเด็กทารกบนตักมารดา ท่านไม1เข้าใจ, ข้าพเจ้าค่อนข้างแปลกใจ ท่าน กล่าวว่า ‘นี่คือฐานะปุโรหิตเพียงหยิบมือเดียวที่ท่านเห็นที่นี่คืนนี้ แต่ศาสนาจักร นี้จะเต็มอเมริกาเหนือและอเมริกาใต้-มันจะเต็มแผ่นดินโลก่’”1

วิลฟอร์ด วูดรัฟฟ็อุทิศชีวิตเพื่อเสริมสร้างอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้า และ ท่านยังคงไต้รับคำแนะนำจากโจเซฟ สมิธแม้หลังจากมรณกรรมของศาสดา ท่านเล่าเรื่องภาพปรากฎที่ได้รับซึ่งในภาพนั้นท่านพูดกับโจเซฟ สมิธ “ข้าพเจ้า เห็นท่านที่ประตูพระวิหารในสวรรค์ ท่านมาหาข้าพเจ้าและพูดกับข้าพเจ้า ท่าน กล่าวว่าท่านคงจะอยู่คุยกับข้าพเจ้าไม่ได้เพราะท่านรีบ คนต่อมาที่ข้าพเจ้าพบ คือคุณพ่อสมิธ [โจเซฟ สมิธ ซีเนียร์] ท่านพูดกับข้าพเจ้าไม1ได้เพราะท่านรีบ ข้าพเจ้าพบพี่น้องชายหกคนที่เคยดำรงตำแหน่งสูงบนแผ่นดินโลก และไม่มีใคร อยู่คุยกับข้าพเจ้าได้เพราะท่านรีบ ข้าพเจ้าแปลกใจมาก อีกไม่นานข้าพเจ้าเห็น ศาสดาอีกครั้ง และข้าพเจ้าได้รับความกรุณาเป็นพิเศษให้ถามท่านได้หนึ่งข้อ

“ข้าพเจ้าถามว่า ‘ผมอยากทราบว่าทำไมท่านต้องรีบ ผมรีบเร่งมาตลอดชีวิต แต่หวังว่าความรีบเร่งของผมจะสิ้นสุดเมื่อเข้าในอาณาจักรสวรรค์ ถ้าผมเข้าได้,

“โจเซฟกล่าวว่า ‘ผมจะบอกคุณ บราเดอร์วูดรัพ่ฟ็ ทุกสมัยการประทานที่ เคยมีฐานะปุโรหิตบนแผ่นดินโลกและได้เข้าไปในอาณาจักรชั้นสูงล้วนมีงานจำ นวนหนึ่งต้องทำเพี่อเตรียมกลับไปแผ่นดินโลกพร้อมพระผู้ช่วยให้รอดเมื่อ พระองค์เสด็จไปปกครองแผ่นดินโลก ทุกสมัยการประทานมีเวลามากพอจะ ทำงานนี้ แต่เราไม1มี เราคือสมัยการประทานสุดท้าย และมีงานต้องทำมากมาย และเราต้องรีบทำให้เสร็จ’”2

คำสอนของวิลฟอร์ด วูดรัฟฟ้

พระเจ้าและอัครสาวกของพระองค์หมายพึ่ง สมัยการประทานนี้ตั้งแต่ก่อนการสร้างโลก

มนุษย์ทุกคนที่ไต้รับการดลใจ นับแต่สมัยของคุณพ่อแอตัมจนมาถึงสมัยของ พระเยซู ต่างเคยเห็นสมัยการประทานอันยิ่งใหญ่และสุดท้ายของความสมบูรณ์ แห่งเวลาไม่มากก็น้อย เมื่อพระเจ้าจะทรงลงพระหัตถ์เตรียมแผ่นดินโลกและ ผู้คนให้พร้อมรับการเสด็จมาของบุตรมนุษย์และการปกครองของความชอบธรรม3

ข้าพเจ้าเห็นว่างาน…ซึ่งทำกันมานับจากเวลาที่ศาสนาจักรนี้ได้รับการจัดตั้ง กำลังดำเนินตามแผนอันยิ่งใหญ่ของพระบิดาในสวรรค์ของเรา-แผนนั้นซึ่งถูก กำหนดไว้นับแต่ก่อนการวางรากฐานของโลก ใดยแท้แล้วไม่มีสมัยการประทาน ใดเคยได้รับความสนใจจากศาสดาของพระผู้เป็นเจ้าและผู้ได้รับการดลใจทั้ง หลายมากเท่านี้มาก่อน …

ใดยที่เห็นภาพปรากฎอันเป็นการพยากรณ์ถึงสมัยนี้ อิสยาห์จึงได้ใช้ประโยชน์ จากสำนวนที่แข็งกร้าวเพื่อพยายามแสดงความรู้สืกของท่านเกี่ยวกับภาพดัง กล่าว มีตัวอย่างหนึ่งที่ท่านกล่าวว่า “โอ ฟ้าสวรรค์เอ๋ย จงร้องเพลงเพราะความ ชื่นบาน โอ แผ่นดินโลกเอ๋ย จงลิงโลดเถิด โอ ภูเขาเอ๋ย จงเปรมป!ดี้ร้องเพลง เพราะพระเจ้าได้ทรงเล้าโลมชนชาติของพระองค์แล้ว และจะทรงเมตตาแก่คน ของพระองค์ผู้ที่ถูกข่มใจ” ไซอันกล่าวว่า “พระเจ้าได้ทรงละทิ้งข้าพเจ้าแล้ว องค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้าทรงลืมข้าพเจ้าเสียแล้ว” “ผู้หญิงจะลืมบุตรที่ยัง กินนมของนางและจะไม่เมตตาบุตรจากครรภ์ของนางได้หรือ” “แม้ว่า” พระเจ้า ตรัส “คนเหล่านี้ยังลืมได้” แต่พระองค์จะไม่ทรงลืมไซอัน พระองค์ตรัสว่า “เราได้สลักเจ้าไว้บนฝ่ามือของเรา กำแพงเมืองของเจ้าอยู่ต่อหน้าเราเสมอ” [ดู อิสยาห์ 49:13–16]

บัดนี้ไซอันของพระผู้เป็นเจ้าอยู่เบื้องพระพักตร์พระองค์ตั้งแต่ก่อนการวาง รากฐานของโลก4

พระเจ้ามิได้ทรงสร้างโลกนี้อย่างไร้ระเบียบแบบแผน พระองค์มิได้ทรงทำงาน ของพระองค์อย่างไร้ระเบียบแบบแผน แผ่นดินโลกถูกสร้างเพื่อจุดประสงค์ที่ แน่นอน และจุดประสงค์ประการหนึ่งคือ การไถ,ครั้งสุดท้ายและการสถาปนาการ ปกครองของพระองค์และอาณาจักรของพระองค์บนแผ่นดินโลกในยุคสุดท้าย เพื่อเตรียมแผ่นดินโลกให้พร้อมรับการปกครองของพระเจ้าพระเยซูคริสต์ผู้ทรง มืสิทธึ๋ปกครอง เวลาครบกำหนดแล้ว สมัยการประทานอยู่ตรงหน้าเรา เรากำลัง อยู่ท่ามกลางสมัยการประทานตังกล่าว5

ไม่มีสิ่งใดฃัดฃวางคาสนาจักรไม่ให้บรรลุจุดหมายปลายทางได้

ศาสนาจักรนี้ยังคงเพิ่มขึ้น นี่คือศาสนาจักรที่แท้จริงเพียงแห่งเดียวบนผืนแผ่น ดินโลก ประวัติศาสตร์ของศาสนาจักรอยู่ก่อนโลก ศาสนาจักรยังคงเติบโตและ เพิ่มทวีนับจากวันที่ได้รับการจัดตั้งจวบจนป้จธุมัน…พระผู้เป็นเจ้าสูงสุดทรง วางแผนให้ศาสนาจักรตั้งอยู่บนแผ่นดินโลกในพลัง รัศมีภาพ และการครอบ ครอง ดังที่ศาสดาของพระผู้เป็นเจ้าเห็นในยุคสมัยของท่าน นี่คืออาณาจักรที่ดา เนียลเห็น และจะยังคงกลิ้งออกไปจนเต็มทั้งแผ่นดินโลก [ดู ดาเนียล 2:34–35, 44–45; ค.พ. 65:2]6

เราเชื่อว่าศาสนาจักรนี้จะเตรียมทางสำหรับการเสด็จมาของพระคริสต์เพื่อ ปกครองในฐานะกษัตริย์ และว่าศาสนาจักรนี้จะพัฒนาเป็นอาณาจักรของพระผู้ เป็นเจ้า ซึ่งคริสต์ศาสนิกชนทั้งหลายสวดอ้อนวอนว่าจะมา และว่าพระประสงค์ ของพระผู้เป็นเจ้าจะบังเกิดบนแผ่นดินโลกดังที่บังเกิดในสวรรค์ [ดู มัทธิว 6:10]7

ไม,มีพลังอำนาจใดบนผืนแผ่นดินโลกทำลายศาสนาจักรนี้ได้ เพราะอะไรหรือ เพราะพระผู้เป็นเจ้าทรงถือไว้ในพระหัตถ์ของพระองค์ พระองค์คือพระผู้ทรงลิ- ขิตศาสนาจักร และพระองค์ทรงสัญญาผ่านคำพูดของศาสดามากมายหลายท่าน ว่าศาสนาจักรจะดำรงอยู่8

เมื่อพวกเขาหยิบยื่นความตายให้โจเซฟกับไฮรัม พวกเขามิได้ฆ่า “ลัทธิมอร มอน” พวกเขามิได้ฆ่าศรัทธาในพระผู้เป็นเจ้า พวกเขามิได้ฆ่าความหวังและ ความใจบุญ พวกเขามิได้ล้มล้างพิธีการแห่งพระนิเวศของพระผู้เป็นเจ้าตลอดจน พลังอำนาจของฐานะปุโรหิตศักดี้สิทธี้ พระผู้เป็นเจ้าแห่งสวรรค์ทรงกำหนดสิ่ง เหล่านี้9

อาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้าไปข้างหน้า ไม่ถอยหลัง10

สิทธิชนยุคสุดท้ายหรือใครก็ตามที่เคยเห็นศาสนาจักรหรืออาณาจักรนี้ถอย หลังอยู่ที่ใดหรือ– ไม,ว่าสภาพการณ์ของเราจะเป็นเช่นไร อาณาจักรนี้เจริญรุด หน้าเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน จะถอยหลังหรือไม่ ไม่ บันจะไม่ถอยหลัง ไซอันนี้ ของพระเจ้า ในความสวยงาม พลังอำนาจ และรัศมีภาพทั้งหมดของมัน ถูก จารึกไว้ในพระหัตถ์ของพระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธี๋และอยู่เบื้องพระพักตร์ พระองค์ตลอดเวลา ประกาศิตของพระองค์กำหนดไว้แล้วและไม,มีใครเปลี่ยน แปลงได้้11

ถึงแม้พลังอำนาจทั้งมวลของความมีดจะสู้รบกับเรา แต่พระเจ้าคือพระสหาย ของเราและพระองค์จะทรงคํ้าจุนเราและประทานพลังอำนาจให้เราเสริมสร้างไช อันและดำเนินงานนี้จนถึงการเสด็จมาของบุตรมนุษย์ ด้วยเหตุนี้ ขอให้เราสบาย ใจ…เราทุกคนควรเป็นหนึ่งเดียวกันในอุดมการณ์ซึ่งเราต่างเข้าร่วม ตราบที่เรา ทำเช่นนั้นเราจะออกมาอย่างผู้ชนะ12

เราไม่ได้เดินอยู่บนเตียงนุ่มสบาย เรามีสงครามและการต่อด้านตั้งแต่ด้นจนถึง วันนี้ แต่เราและโลกสบายใจได้เลยเกี่ยวกับ “ความเชื่อของชาวมอรมอน,, เพราะมันจะไม่ยุติจนกว่าพระเจ้าพระเยซูคริสต์จะเสด็จมาในเมฆแห่งสวรรค์13

ทองและเงินอาจสูญสิ้น บ้านและที่ดินอาจสูญไป สรรพสิ่งทางโลกจะสูญสิ้น แต่ฐานะปุโรหิตจะไม,มีวันสูญสิ้น ความรอด อาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้า และ คำพยากรณ์จะไม,บังเกิดสัมฤทธิผลก็หาไม14

เราถูกสงวนไว้ในโลกวิญญาณเพื่อเสริมสร้างอาณาจักร ของพระผู้เปีนเจ้าในสมัยการประทานนี้

เราถูกสงวนไว้ในโลกวิญญาณนานหลายพันปีเพื่อมาอยู่ในเนื้อหนังในยุคสุด ท้าย เพื่อรับและเสริมสร้างอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้า เมื่อเข้าใจเรื่องเหล่านี้ แล้ว เราในฐานะสิทธิชนยุคสุดท้ายคิดอะไรอยู่ เรามีสงครามใหญ่ให้ต่อสู้ ลูซิ เฟอร์บุตรแห่งเวลาเช้าและกองทัพของเขาพร้อมใจกันต่อด้านเรา เรามีเพียงหยิบ มือเดียวเมื่อเทียบกับผู้อาศัยของแผ่นดินโลก มีชายหญิงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ในทุกยุคสมัยของโลกที่เป็นตัวของตัวเองพอจะปฏิเสธความชั่วร้ายและรับใช้ พระเจ้า แต่ถือว่าเรามืค่าควรพอที่จะนับได้ว่าเราเป็นผู้คนของพระองค์ ด้วยเหตุ นี้ นี่จึงเป็นเวลาที่เราจะลุกขึ้น ตื่นตัว และสวมพลังอำนาจของพระผู้เป็นเจ้า และฐานะปุโรหิตศักดี้สิทธิ๙ เราควรขยายฐานะปุโรหิตนี้และรับพรที่เปีนของฐานะ ปุโรหิต15

ไม่เคยมีคนเช่นนี้ ไม่เคยมีงานเช่นนี้ตั้งแต่พระผู้เป็นเจ้าทรงสร้างโลก จริงอยู่ ที่มีคนสั่งสอนพระกิตติคุณ แต่ในความสมบูรณ์แห่งเวลา พระเจ้าทรงลงพระ หัตถ์สถาปนาอาณาจักรของพระองค์ นี่คือสมัยการประทานสุดท้าย พระองค์ ทรงตั้งชายหญิงให้ดำเนินงานนี้ และตังที่ข้าพเจ้าพูดอยู่บ่อยๆ พวกเราหลายคน อยู่ในโลกวิญญาณนับแต่การวางระเบียบของโลกนี้จนถึงยุคของคนในรุ่นที่เรามี ชีวิตอยู่16

การเปีดเผยของพระผู้เป็นเจ้าในพระคัมภีร์ไบเบิล พระคัมภีร์มอรมอน คำ สอนและพันธสัญญาจะสำเร็จทั้งหมด เรากำลังทำให้สำเร็จ ขณะอยู่ที่นี่ฃอให้ เราซื่อสัตย์ต่อพระผู้เป็นเจ้า เอโลฮิมผู้ยิ่งใหญ่ พระผู้เป็นเจ้าของชาวยิวและคน ต่างชาติ พระองค์ทรงหมายพึ่งเราไม่ใช่ใครอื่น พระองค์ทรงหมายพึ่งสิทธิชนยุค สุดท้าย เพราะอะไรหรือ เพราะไม,มีใครอีกแล้วที่ได้รับความสมบูรณ์ของพระ กิตติคุณอันเป็นนิจ ไม่มีใครยอมเสริมสร้างอาณาจักรนี้ ศรัทธาและความร้สืก ของข้าพเจ้าเกี่ยวกับเรื่องนี้คือ เราถูกกำหนดไว้ก่อนโลกเป็นมา เช่นเดียวกับ อัครสาวกสมัยโบราณ ให้ออกมาในเนื้อหนังและรับอาณาจักรนี้ และเราต้องทำ หาไม่แล้วเราจะถูกกล่าวโทษ นี่คือฐานะของเราในปัจจุบัน ดวงตาของชาว สวรรค์จับจ้องอยู่ที่เรา พระเนตรของพระผู้เป็นเจ้าและพระบุตรของพระองค์ พระเยซูคริสต์ พร้อมอัครสาวกและศาสดาทั้งหลายที่เคยผนึกประจักษ์พยานด้วย เลือดของท่านกำลังจับตาลูคนเหล่านี้ บรรดาท่านเหล่านั้นมาเยือนท่าน สังเกต การทำงานของท่าน เพราะทราบดีว่าจุดหมายของท่านคือเสริมสร้างอาณาจักรนี้ เสริมสร้างไซอันและชำระให้ศักดิ๙สิทธิ๙ ชำระแผ่นดินโลก’ให้ศักดิ”’สิทธิและเตรียม โลกให้พร้อมรับการเสด็จมาของบุตรมนุษย์17

ในฐานะสิทธิชนยุคสุดท้าย เรามีงานใหญ่ต้องทำ

โจเซฟ สมิธ…มีสํวนในสัมฤทธิผลของคำพยากรณ์ ทำสิ่งที่เรียกร้องจากท่าน สำเร็จ วางรากฐานของงาน ได้รับกุญแจของฐานะปุโรหิต ฐานะอัครสาวก ของ ประทานและพระคุณทุกอย่างในการจัดตั้งศาสนาจักรซึ่งจำเป็นต่อการดำเนิน งาน เราได้รับการเรียกให้สร้างบนรากฐานที่ท่านวางไว้18

หากเราเบิกวิสัยทัศน์แห่งความคิดของเราและให้มันขยายไปถึงอนาคต ดูอา ณาจักรนี้และสิ่งที่ต้องทำให้สำเร็จ และสิ่งที่เราต้องทำ สงครามที่เราต้องเผชิญ เราจะเห็นแน่นอนว่าเรามีงานใหญ่อยู่ในมือ19

การเรียกพิเศษของเราคือ เสริมสร้างไซอัน และเตรียมผู้คนให้ยืนในที่ศักดี้ สิทธึ๋ขณะที่การพิพากษาของพระเจ้าถูกหลั่งลงมาบนคนชั่วร้าย20

นี่คือพระดำริและพระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้าที่สิทธิชนยุคสุดท้ายควร เข้าใจให้ถ่องแท้ว่าเขายืนอยู่ท่ามกลางสมัยการประทานสุดท้ายและยิ่งใหญ่ของ พระผู้เป็นเจ้า และเขาควรเข้าใจให้ถ่องแท้ถึงความรับผิดชอบที่มอบให้เขาใน ฐานะผู้ทำงานในนั้น เขาไม,ควรมองข้ามข้อเท็จจริงที่ว่าแม้พลังอำนาจทั้งหมด ของความมืดมารวมกันก็ไม,สามารถขัดขวางจุดประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้าอันเกี่ยว เนื่องกับงานที่พระองค์ทรงลงพระหัตถ์ทำในยุคสมัยที่เรามีชีวิตอยู่ สิทธิชนยุค สุดท้ายควรดำเนินชีวิตต่อเบื้องพระพักตร์พระเจ้าจนเข้าใจฐานะที่เราครอบครอง และหน้าที่ซึ่งเรียกร้องจากมือเรา เพราะพระเจ้าทรงเรียกร้องบางสิ่งจากเราในยุค สมัยของเรา ดังที่พระองค์ทรงเรียกร้องจากผู้คนของพระองค์ในทุกยุคเมื่อพระ องค์ประทานความสมบูรณ์ของพระกิตติคุณอันเป็นนิจ พลังและอำนาจของ ฐานะปุโรหิตศักดสิทธิ”แก,เขาเหล่านั้ …

นื่เป็นพระประสงค์ของพระเจ้าด้วยที่เราจะจ่ายส่วนสิบและเงินบริจาค นี่คือ พระประสงค์ของพระองค์ที่เราจะเชื่อฟ้งพระวาจาแห่งปัญญา นี่คือพระประสงค์ ของพระองค์ที่เราจะรักษาพระบัญญัติ และสอนผู้อี่น เราจะต้องรับผิดชอบทุก สิ่งที่เราควรทำแต่ไม่ไต้ทำ และสิ่งที่เราทำด้วย เราควรมืใจเดียวและความคิด เดียว และไม,ยอมให้เรื่องของธรรมชาติฝ่ายโลกหรือฝ่ายวิญญาณแยกเราจาก ความรักของพระผู้เป็นเจ้าและมนุษย์์

… เราควรเป็นหนึ่งเดียว และเราควรแสวงหาความผาสุกของกันและกัน เราควรสอนหลักธรรมพระกิตติคุณของพระคริสต์แก,บุตรชายหญิงของเรา และ แก่โลกด้วย และเตรียมตัวรับเหตุการณ์ที่จะมาถึงซึ่งพูดไว้ในการเปีดเผยที่ พระเจ้าประทานแก่เรา พระองค์ทรงเริ่มงานของพระองค์แล้ว งานอัศจรรย์ของ พระองค์ และการแปลกประหลาดในบรรดาผู้อาศัยของแผ่นดินโลกตังที่อิสยาห์ กล่าวไว้ [ดู อิสยาห์ 29:14] พระองค์จะไม่ทรงถอนพระหัตถ์จนกว่าจุดประสงค์ ของพระองค์จะบรรลุผล21

เรามีงานใหญ่ตรงหน้าเรา และงานนั้นเรียกร้องความมุมานะอย่างเต็มที่ เรียก ร้องพรสวรรค์ และความสามารถทั้งหมดของเรา เราต้องขอให้พระวิญญาณของ พระผู้เป็นเจ้าช่วยเรา เพราะหากปราศจากพระวิญญาณ เราจะได้รับความสำเร็จ น้อยมาก22

เมื่อท่านมองไปรอบๆ และดูสภาพของโลกบนมือข้างหนึ่ง และสิ่งที่เราต้อง ทำบนมืออีกข้างหนึ่ง และสิ่งที่อาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้าต้องบรรลุเพื่อให้จุด หมายปลายทางของอาณาจักรและการเปิดเผยของพระเยซูคริสต์บังเกิดสัมฤทธิ ผล ข้าพเจ้าบอกท่านว่าวัตถุประสงค์หลักของเราควรเป็นไปเพื่อเสริมสร้างและ ทำให้อาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้าก้าวหน้า …

… เราควรมองหาการเสริมสร้างอาณาจักร และไม,เพียงรับพรเพื่อตัวเราเท่า นั้น แต่พยายามเป็นผู้ช่วยให้รอดของมนุษย์บนเขาไซอันด้วย และพยายาม ทำความดีเท่าที่ทำได้ โดยทำงานเพื่อส่งเสริมอุดมการณ์และความสนใจของไซ อันในทุกด้านที่เราถูกเรียกให้กระทำ

หากดำเนินตามวิถีนี้เราจะรุ่งเรือง และมีสันติสุขตลอดเวลาในใจเรา และตัง ที่พระเจ้าตรัส จะไม่กันสิ่งใดจากคนที่แสวงหาความชอบธรรมและพรแห่งอา ณาจักรของพระผู้เป็นเจ้ …

… มีเรื่องต่างๆ มากมายจ่ออยู่ที่ประตู การเปลี่ยนแปลงมากมายต้องเกิดขึ้น ในโลก และอาณาจักรกำลังเติบโต และข้าพเจ้าใคร่ขอแนะน่าสิทธิชนยุคสุด ท้ายผู้ที่ฟ้งข้าพเจ้าวันนี้ให้ศึกษาฐานะของตนให้ดี สำรวจใจตน และลูว่าเราเป็น ที่โปรดปรานของพระเจ้าพระผู้เป็นเจ้าของเราหรือไม่ และจากนั้นขอให้เราเพิ่ม พูนอย่างต่อเนื่องในศรัทธา ความหวัง ความชอบธรรม และหลักคุณธรรมทุก ประการที่เราจำเป็นต้องมีไว้คํ้าจุนเราในการทดลองทุกอย่างซึ่งเราอาจจะถูกเรียก ให้เผชิญเพื่อพิสูจน์เราในฐานะสหายของพระผู้เป็นเจ้าว่าเราจะรักษาพันธสัญญา หรือไม่ เราจะถูกทดสอบนับจากเวลานี้จนถึงการเสด็จมาของพระมาไซยาหรือ ขณะที่เรามีชีวิตบนแผ่นดินโลก23

ไม่จำเป็นต้องมีความกลัวหากสิทธิชนยุคสุดท้ายจะเพียงแน่วแน่ต่อพันธ สัญญาที่ทำไว้กับพระผู้เป็นเจ้า และปฏิบัติหลักธรรมอย่างเคร่งครัดตามที่พระ องค์ทรงบอกว่าต้องปกครองเราในการเสริมสร้างไซอันของพระองค์

อย่างไรก็ดี หากเราลืมพันธสัญญาของเรา เพิกเฉยและออกจากคำสอนซึ่ง พระองค์ประทานให้เรา รับรองไต้เลยว่าฐานะของสิทธิชนยุคสุดท้ายอย่างเราจะ เต็มไปด้วยอันตราย จุดประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้าจะไม่ถูกขัดขวาง แต่เราจะ ทุกข์ทรมาน และคนที่ยังขืนทำเช่นนี้จะถูกปฏิเสธและถูกตัดสิทธิ๙จากส่วนแบ่ง ทั้งหมดของพรที่สัญญาไว้กับไซอัน24

พระเจ้าทรงอยู่กับคนพวกนี้ แต่ในฐานะสิทธิชนยุคสุดท้าย ข้าพเจ้าไม่คิดว่า เราจะเห็นค่าสิทธิพิเศษของเราตลอดเวลา เราถูกเรียกให้ทำงาน พระเจ้าทรงมอบ งานนี้ไว้ในมือเรา และเราต้องรับผิดชอบต่อสวรรค์และแผ่นดินโลกในการใช้ พรสวรรค์ของเรา นั่นคือ ความสว่างและความจริง ซึ่งพระองค์ทรงมอบไว้ใน มือเรา25

ข้อเลนอแนะสำหรับศึกษาและลอน

พิจารณาแนวคิดต่อไปนี้ขณะศึกษาบทเรียนหรือขณะเตรียมสอน ดูความช่วย เหลือเพิ่มเติมไต้ที่หน้า ⅴ–ⅸ.

  • ทบทวนหน้า 25-26 คำพยากรณ์ของโจเซฟ สมิธเป็นจริงอย่างไร เราเรียนรู้ อะไรบ้างจากภาพปรากฎของวิลฟอร์ด วูดรัฟฟ้

  • เหตุใดศาสดาทั้งหลายจึงเฝืารอสมัยการประทานนี้ เหตุใดการเข้าใจว่า “เรา มีชีวิตอยู่ท่ามกลาง,, สมัยการประทานนี้จึงสำคัญต่อเรา (ดูหน้า 26–27)

  • เราหมายความว่าอะไรเมื่อเราให้ถ้อยคำว่าเราเป็นของ “ศาสนาจักรที่แท้จริง เพียงแห่งเดียวบนผืนแผ่นดินโลก” (หน้า 27; ดู ค.พ. 1:30 ด้วย) เราจะ แบ,งป้นความจริงนี้กับผู้อื่นด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตนได้อย่างไร

  • ท่านประทับใจอะไรขณะสืกษาคำสอนของประธานวูดรัฟฟ็เกี่ยวกับจุดหมาย ปลายทางของศาสนาจักร (ดูหน้า 27–29)

  • อ่านหน้า 28-29 โดยละเอียดเพื่อมองหาสิ่งที่ระบุว่าจะสูญสลายและสิ่งที่จะ คงอยู่ตลอดกาล อะไรคือความแตกต่างระหว่างสิ่งที่จะสูญสลายและสิ่งที่จะ คงอยู่

  • อ่านคำสอนของประธานวูดรัฟฟ็เกี่ยวกับการ “ถูกสงวนไว!นโลกวิญญาณ” เพื่อมาเกิดในสมัยการประทานนี้ (หน้า 29–30) ท่านร้สืกอย่างไรขณะไตร่ ตรองข้อความเหล่านี้

  • ดูรูปถ่ายหน้า 32 รูปนี้เกี่ยวข้องอะไรกับการเสริมสร้างอาณาจักรของพระผู้ เป็นเจ้า ตามคำพูดของประธานวูดรัฟพี เรามีหน้าที่อะไรบ้างขณะช่วยเสริม สร้างอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้า (ดูหน้า 30–33)

  • อ่านย่อหน้าสุดท้ายของหน้า 33 เราได้รับสิทธิพิเศษอะไรในสมัยการประทาน นี้ ท่านคิดว่า “เห็นค่าสิทธิพิเศษของเรา” หมายความว่าอะไร

ข้อพระคัมภีร์ที,เกี่ยวข้อง: ค.พ. 6:32–34; 64:33–34; 121:26–32; 138:53–56

อ้างอิง

  1. ใน Conference Report, April 1898, 57.

  2. The Discourses of Wilford Woodruff, sel. G. Homer Durham (1946), 288–89.

  3. Deseret News: Semi-Weekly, January 12, 1875, 1.

  4. Deseret News: Semi-Weekly, September 20, 1870, 2.

  5. The Discourses of Wilford Woodruff, 174.

  6. Deseret News: Semi-Weekly, July 6, 1880, 1.

  7. The Discourses of Wilford Woodruff, 193.

  8. ใน Brian H. Stuy, comp., Collected Discourses Delivered by President Wilford Woodruff, His Two Counselors, the Twelve Apostles, and Others,5 vols. (1987-92), 3:83.

  9. Deseret News: Semi-Weekly, January 31, 1882, 1.

  10. Deseret News: Semi-Weekly, December 21, 1880, 1.

  11. Deseret News, April 24, 1872, 152.

  12. ใน Collected Discourses, 4:291.

  13. The Discourses of Wilford Woodruff, 110.

  14. The Discourses of Wilford Woodruff, 131.

  15. ในCollected Discourses, 1:264.

  16. Deseret News: Semi-Weekly, December 14, 1880, 1.

  17. ใน Conference Report, April 1880, 84-85.

  18. Deseret News: Semi-Weekly, January 10, 1871, 2.

  19. Deseret News, March 4, 1857, 411.

  20. ในCollected Discourses, 1:387.

  21. ในCollected Discourses, 5:46-48.

  22. ในCollected Discourses, 1:260-61.

  23. Deseret News, March 4, 1857, 411.

  24. “Epistle,” Woman’s Exponent, April 15, 1888, 174.

  25. Deseret News, December 23, 1874,

ภาพ
Elder Wilford Woodruff

ในฐานะสมาชิกโควรัมอัครสาวก๙บสอง เอ็ลเดอร์วิลฟอร์ด วูดรัฟฟืทำงาน อย่างพากเพียรเพื่อช่วยสถาปนาศาสนาจักรของฬระเยซูคริสต์ในสมัยการประทาน ความสมบูรณ์แห่งเวลา

ภาพ
Daniel interpreting dreams

“ศาสนาจักรนี้ยังคงเพิ่มขึ้น… นี่คืออาณาจักรที่ดาเพีลเห็น และจะยังคงกลิ้งออกไปจนเต็มทั้งแผ่นดินโลก”

ภาพ
family praying together

“การเรียกพิเศษของเราคือ เสุ่ริมสร้างไซอัน และเตรียมผู้คนให้ยืนในที’อักดิ้สิทขี้,,