การประชุมใหญ่สามัญ
สิ่งทั้งปวงเพื่อความดีของเรา
การประชุมใหญ่สามัญเดือนเมษายน 2024


สิ่งทั้งปวงเพื่อความดีของเรา

ในกาลเวลาและนิรันดร จุดประสงค์ของการสร้างและธรรมชาติของพระผู้เป็นเจ้าคือการนำสิ่งทั้งปวงมารวมกันเพื่อความดีของเรา

วันนี้คือวันที่ 6 เมษายน วันครบรอบที่พระเยซูคริสต์ทรงฟื้นฟูศาสนจักรยุคสุดท้ายของพระองค์—และวันหนึ่งในช่วงเทศกาลอีสเตอร์ ที่เราเป็นพยานอย่างเบิกบานใจถึงพระชนม์ชีพอันดีพร้อม การพลีพระชนม์ชีพเพื่อการชดใช้ และการฟื้นคืนพระชนม์อันรุ่งโรจน์ของพระเยซูคริสต์

เรื่องเล่าหนึ่งของชาวจีนเริ่มต้นว่า บุตรของชายคนหนึ่งพบม้างามตัวหนึ่ง

“โชคดีจัง” เพื่อนบ้านกล่าว

“เดี๋ยวก็รู้” ชายคนนั้นกล่าว

แล้วบุตรของเขาก็ตกจากหลังม้าและได้รับบาดเจ็บถาวร

“โชคร้ายจัง” เพื่อนบ้านกล่าว

“เดี๋ยวก็รู้” ชายคนนั้นกล่าว

กองทหารเกณฑ์มาถึงแต่ไม่รับบุตรผู้บาดเจ็บคนนั้น

“โชคดีจัง” เพื่อนบ้านกล่าว

“เดี๋ยวก็รู้” ชายคนนั้นกล่าว

โลกอันแปรปรวนใบนี้มักจะรู้สึกเหมือนถูกพายุซัดไปมา ไม่แน่นอน บางครั้งโชคดี และ—บ่อยครั้ง—ก็โชคร้าย แต่ในโลกแห่งความทุกข์ยากนี้1 “เรารู้ว่าเหตุการณ์ทุกอย่างร่วมกันก่อผลดีแก่คนที่รักพระเจ้า”2 ใช่แล้ว เมื่อเราดำเนินชีวิตอย่างซื่อตรงและระลึกถึงพันธสัญญาของเรา “สิ่งทั้งปวงจะร่วมกันส่งผลเพื่อความดีของท่าน”3

สิ่งทั้งปวงเพื่อความดีของเรา

เป็นคำสัญญาที่ล้ำเลิศยิ่งนัก! คำรับรองอันปลอบโยนจากพระผู้เป็นเจ้าพระองค์เอง! ในวิธีที่น่าอัศจรรย์ จุดประสงค์ของการสร้างและธรรมชาติของพระผู้เป็นเจ้าคือ เพื่อรู้จุดเริ่มต้นและจุดจบ;4 เพื่อทำให้สิ่งทั้งปวงที่เป็นไปเพื่อความดีของเราเกิดขึ้น; และเพื่อช่วยให้เรารับการชำระให้บริสุทธิ์และศักดิ์สิทธิ์ผ่านพระคุณและการชดใช้ของพระเยซูคริสต์

การชดใช้ของพระเยซูคริสต์สามารถปลดปล่อยและไถ่เราจากบาป แต่พระเยซูคริสต์เข้าพระทัยทุกๆ ความเจ็บปวด ความทุกข์ ความป่วยไข้5 ความเศร้าโศก และการร้างลาของเราอย่างคุ้นเคย ในกาลเวลาและนิรันดร การที่พระองค์ทรงชนะความตายและนรกสามารถทำให้ทุกอย่างถูกต้อง6 ทรงช่วยรักษาคนแหลกสลายและถูกดูแคลน ทรงไกล่เกลี่ยคนโกรธและแตกแยก ทรงปลอบโยนคนโดดเดี่ยวและอ้างว้าง ทรงให้กำลังใจคนสงสัยและไม่ดีพร้อม และทรงทำให้เกิดปาฏิหาริย์ที่เป็นไปได้ด้วยพระผู้เป็นเจ้าเท่านั้น

เราขับขานฮาเลลูยาและโห่ร้องโฮซันนา! ด้วยอำนาจนิรันดร์และความดีงามอันไร้ขอบเขต ในแผนแห่งความสุขของพระผู้เป็นเจ้า สิ่งทั้งปวงจะร่วมกันส่งผลเพื่อความดีของเรา เราเผชิญชีวิตได้ด้วยความมั่นใจ ไม่ใช่ความกลัว

ลำพังตัวเราเอง เราอาจไม่รู้จักความดีของเรา เมื่อ “เราเลือกตัวเอง” เราย่อมเลือกข้อจำกัด ความอ่อนแอ ความบกพร่องของตัวเองด้วย สุดท้ายแล้ว ในการทำสิ่งที่ดีที่สุด เราต้องเป็นคนดี7 เนื่องจากไม่มีใครนอกจากพระผู้เป็นเจ้าที่ดี8 เราจึงแสวงหาความดีพร้อมในพระเยซูคริสต์9 เราเป็นตัวเราเองจริงๆ ในแบบที่ดีที่สุดเมื่อเราทิ้งความเป็นมนุษย์ปุถุชนและกลายเป็นเด็กต่อพระผู้เป็นเจ้า

ด้วยความวางใจและศรัทธาของเราในพระผู้เป็นเจ้า การทดลองและความทุกข์จะอุทิศถวายไว้เพื่อความดีของเราได้ โยเซฟผู้ถูกขายเป็นทาสในอียิปต์ ภายหลังได้ช่วยชีวิตครอบครัวกับผู้คนของท่าน การถูกจองจำของศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธในคุกลิเบอร์ตี้สอนท่านว่าสิ่งเหล่านี้ “จะเป็นประสบการณ์แก่เจ้า, และจะเกิดขึ้นเพื่อความดีของเจ้า”10 หากดำเนินชีวิตด้วยศรัทธา การทดลองและการเสียสละที่เราคงไม่มีวันเลือกสามารถเป็นพรแก่เราและผู้อื่นในวิธีที่คิดไม่ถึง11

เราเพิ่มพูนศรัทธาและความวางใจในพระเจ้าว่าสิ่งทั้งปวงจะร่วมกันส่งผลเพื่อความดีของเราเมื่อเรามีมุมมองนิรันดร์;12 เข้าใจว่าการทดลองของเราอาจเป็น “เพียงชั่วครู่”;13 ตระหนักว่าความทุกข์ยากจะอุทิศถวายไว้ให้เป็นพรของเราได้;14 ยอมรับว่าอุบัติเหตุ การตายก่อนเวลาอันควร ความเจ็บป่วยและโรคภัยที่ทำให้อ่อนแอล้วนเป็นส่วนหนึ่งของความเป็นมรรตัย; และวางใจว่าพระบิดาบนสวรรค์ผู้เปี่ยมด้วยความรักไม่ได้ทรงให้การทดลองเพื่อลงโทษหรือพิพากษา พระองค์จะไม่ทรงให้ก้อนหินกับคนที่ขอขนมปัง หรือให้งูกับคนที่ขอปลา15

เมื่อการทดลองมาถึง บ่อยครั้งสิ่งที่เราต้องการที่สุดคือมีใครสักคนคอยรับฟังและอยู่เคียงข้าง16 ในชั่วขณะนั้น คำตอบซ้ำซากอาจไม่ช่วยอะไร ไม่ว่าจะมาจากความตั้งใจปลอบโยนแค่ไหนก็ตาม บางครั้งเราโหยหาใครสักคนที่จะเสียใจ เจ็บปวด และร้องไห้ไปกับเรา ยอมให้เราแสดงความเจ็บปวด ความหงุดหงิด บางครั้งแม้แต่ความโกรธ และยอมรับร่วมกับเราว่ามีหลายอย่างที่เราไม่รู้

เมื่อเราวางใจพระผู้เป็นเจ้าและความรักที่ทรงมีให้ แม้สิ่งที่เราช้ำใจมากที่สุด ก็จะร่วมกันส่งผลเพื่อความดีของเราได้ในตอนท้าย

ข้าพเจ้าจำได้วันที่ได้ข่าวเกี่ยวกับอุบัติเหตุรถยนต์ร้ายแรงซึ่งเกิดขึ้นกับคนที่ข้าพเจ้ารัก ในช่วงเวลาเช่นนั้น ในความปวดร้าวและศรัทธา เราได้แต่พูดเหมือนกับโยบว่า “พระยาห์เวห์ประทาน และพระยาห์เวห์ทรงเอาไปเสีย สาธุการแด่พระนามของพระยาห์เวห์”17

ในศาสนจักรทั่วโลก สเตคกับท้องถิ่นกว่า 3,500 แห่ง และวอร์ดกับสาขากว่า 30,000 แห่ง ให้ที่หลบภัยและความปลอดภัย18 แต่ภายในสเตคและวอร์ดของเรา ครอบครัวและบุคคลที่ซื่อสัตย์มากมายเผชิญหน้ากับความท้าทายที่ยากลำบาก ทั้งๆ ที่รู้ว่าสิ่งทั้งปวงจะร่วมกันส่งผลเพื่อความดีของเรา (โดยที่ยังไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นอย่างไร)

ในฮัดเดอร์สฟีลด์ ประเทศอังกฤษ บราเดอร์แซมิวเอล บริดจ์สต็อก ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งระยะที่สี่ไม่นานก่อนการเรียกเป็นประธานสเตคคนใหม่ เมื่อพิจารณาผลการวินิจฉัยที่เลวร้ายนั้น เขาถามแอนนาภรรยาว่าเขาจะไปสัมภาษณ์ทำไม

“เพราะว่า” ซิสเตอร์บริดจ์สต็อกตอบ “คุณกำลังจะได้รับเรียกเป็นประธานสเตค”

ภาพ
ครอบครัวบริดจ์สต็อก

เดิมจะมีชีวิตอยู่อีกหนึ่งหรือสองปี แต่ประธานบริดจ์สต็อก (ผู้อยู่ที่นี่วันนี้) เวลานี้รับใช้มาได้เป็นปีที่สี่แล้ว เขามีวันที่ดีและวันที่ยาก สเตคของเขากำลังระดมศรัทธา การรับใช้ และความเมตตาเพิ่มมากขึ้น ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ภรรยากับครอบครัวเขาดำเนินชีวิตด้วยศรัทธา ความสำนึกคุณ และความเศร้าที่เข้าใจได้ซึ่งพวกเขาวางใจว่าจะกลายเป็นปีตินิรันดร์ผ่านการชดใช้แห่งการนำกลับคืนของพระเยซูคริสต์19

เมื่อเรานิ่งเงียบ เปิดใจ และคารวะ เราจะสัมผัสถึงความงดงาม จุดประสงค์ และความสงบเงียบของการเป็นคนในพันธสัญญาที่พระเจ้าทรงเสนอให้ ในช่วงเวลาศักดิ์สิทธิ์ พระองค์อาจทรงยอมให้เราเหลือบเห็นความเป็นจริงนิรันดร์ที่ใหญ่กว่า ซึ่งชีวิตประจำวันของเราเป็นส่วนในนั้น ที่ซึ่งเรื่องเล็กและเรียบง่ายร่วมกันส่งผลเพื่อความดีของผู้ให้และผู้รับ

เรเบคาห์ ลูกสาวประธานคณะเผยแผ่คนแรกของข้าพเจ้า เล่าวิธีที่พระเจ้าทรงตอบคำสวดอ้อนวอนขอการปลอบโยนของเธอด้วยโอกาสที่ไม่คาดคิดในการตอบคำสวดอ้อนวอนของผู้อื่น

ภาพ
เรเบคาห์ให้เครื่องออกซิเจนของคุณแม่เธอกับหญิงคนนั้น

ค่ำวันหนึ่ง เรเบคาห์ผู้กำลังเสียใจกับการจากไปได้ไม่นานของคุณแม่ รู้สึกชัดเจนในใจว่าต้องไปซื้อน้ำมันมาเติมรถ เมื่อไปถึงปั๊มน้ำมัน เธอพบหญิงชรากำลังหายใจจากถังออกซิเจนขนาดใหญ่อย่างยากลำบาก ภายหลังเรเบคาห์ได้ให้เครื่องออกซิเจนแบบพกพาของคุณแม่เธอกับหญิงคนนั้น หญิงคนนั้นกล่าวด้วยความสำนึกคุณว่า “คุณได้คืนอิสรภาพให้กับฉัน” สิ่งต่างๆ จะร่วมกันส่งผลเพื่อความดีเมื่อเราปฏิบัติศาสนกิจดังที่พระเยซูคริสต์จะทรงทำ

คุณพ่อผู้ได้รับมอบหมายเป็นคู่ปฏิบัติศาสนกิจกับลูกชายวัยผู้สอนของเขาอธิบายว่า “การปฏิบัติศาสนกิจคือเมื่อเราเปลี่ยนจากการเป็นเพื่อนบ้านที่นำคุกกี้ไปให้ มาเป็นเพื่อนที่ไว้ใจ เป็นหน่วยฉุกเฉินเบื้องต้นทางวิญญาณ” การเป็นคนในพันธสัญญาในพระเยซูคริสต์ปลอบโยน เชื่อมสัมพันธ์ และอุทิศถวาย

แม้ในเหตุการณ์ที่ร้ายแรง การเตรียมพร้อมทางวิญญาณจะเตือนเราได้ว่าพระบิดาบนสวรรค์ทรงรู้เมื่อเรารู้สึกอ่อนแอและโดดเดี่ยวที่สุด ตัวอย่างเช่น ครอบครัวที่ลูกต้องเข้าโรงพยาบาลพบกับการปลอบโยนในภายหลังเมื่อจดจำได้ว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงเคยกระซิบบอกล่วงหน้าแล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น

บางครั้งความเป็นจริงนิรันดร์ที่ใหญ่กว่าซึ่งพระเจ้าทรงยอมให้เรารู้สึกก็รวมถึงครอบครัวจากอีกด้านของม่าน ซิสเตอร์คนหนึ่งพบปีติในการเปลี่ยนใจเลื่อมใสสู่พระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟูของพระเยซูคริสต์ กระนั้น บาดแผลทางใจสองเหตุการณ์ยังกระทบชีวิตเธออย่างมาก—การเห็นอุบัติเหตุทางเรือและการสูญเสียแม่อย่างน่าสลดใจ ผู้ที่ปลิดชีพตนเอง

ภาพ
ซิสเตอร์เอาชนะความกลัวของเธอและรับบัพติศมา

กระนั้นซิสเตอร์คนนี้ก็เอาชนะความกลัวน้ำมากพอที่จะรับบัพติศมาโดยลงไปในน้ำทั้งตัว และวันหนึ่งก็กลายเป็นวันมีความสุขมาก เพราะเธอได้เห็นคนหนึ่งเป็นตัวแทนให้คุณแม่ที่ตายไปแล้วรับบัพติศมาในพระวิหาร “บัพติศมาพระวิหารรักษาคุณแม่ของดิฉัน และปลดปล่อยดิฉัน” เธอกล่าว “เป็นครั้งแรกที่ดิฉันรู้สึกถึงสันติสุขตั้งแต่คุณแม่เสียไป”

บทเพลงศักดิ์สิทธิ์ของเราสะท้อนถึงคำรับรองของพระองค์ว่าสิ่งทั้งปวงจะร่วมกันส่งผลเพื่อความดีของเรา

นิ่งเถิด จิตวิญญาณข้า พระผู้เป็นเจ้าทรงสัญญาแล้ว

ว่าจะนำทางเบื้องหน้า ดังที่ผ่านมาไม่คลาดแคล้ว

จงหวัง จงเชื่อมั่น อย่าให้อะไรมาพานแผ้ว

ความลี้ลับวันนี้นั้น จะพลันกระจ่างในวันหน้า20

สิทธิชนมา อย่ากลัวงานหนักแบบใด

ดำเนินต่อโดยสุขใจ

แม้การเดินทางลำบากแก่ท่านทั้งหลาย

พระการุณย์จะอยู่ใกล้ …

หากว่าเราตายก่อนการเดินทางจะเสร็จ

วันสุขยิ่ง! ทุกอย่างดี!”21

พระคัมภีร์มอรมอนเป็นหลักฐานที่เราถือไว้ในมือได้ว่าพระเยซูคือพระคริสต์และพระผู้เป็นเจ้าทรงทำให้คำพยาการณ์ของพระองค์เกิดผล พระคัมภีร์มอรมอนซึ่งเขียนไว้โดยศาสดาพยากรณ์ที่ได้รับการดลใจผู้มองเห็นยุคสมัยของเราเริ่มต้นด้วยเรื่องราวดราม่า—ครอบครัวที่ต้องรับมือกับความแตกต่างกันอย่างรุนแรง แต่ขณะที่เราศึกษาและไตร่ตรอง 1 นีไฟบทที่ 1 ไปจนถึงโมโรไนบทที่ 10 เราเข้าใกล้พระเยซูคริสต์มากขึ้นด้วยประจักษ์พยานที่หนักแน่นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นที่นั่นเวลานั้นสามารถเป็นพรแก่เราที่นี่เวลานี้

เมื่อพระเจ้าทรงนำพระนิเวศน์ของพระองค์มาอยู่ใกล้ในหลายแห่งมากขึ้นผ่านศาสดาพยากรณ์ที่มีชีวิตอยู่ พรพระวิหารร่วมกันส่งผลเพื่อความดีของเรา เรามาหาพระผู้เป็นเจ้าพระบิดาของเราและพระเยซูคริสต์โดยพันธสัญญาและศาสนพิธี และได้รับมุมมองนิรันดร์เรื่องความเป็นมรรตัย เรามอบศาสนพิธีศักดิ์สิทธิ์และพรพันธสัญญาในแบบแผนของพระเจ้าในการเป็นผู้ช่วยให้รอดบนภูเขาไซอัน22แก่สมาชิกครอบครัว—บรรพชน—ที่เรารักทีละคน ทีละชื่อ

เมื่อพระวิหารมาอยู่ใกล้เรามากขึ้นในหลายแห่ง การพลีบูชาในพระวิหารที่เราถวายได้คือการแสวงหาความศักดิ์สิทธิ์ในพระนิเวศน์ของพระเจ้าบ่อยขึ้น หลายปีที่เราเก็บออม วางแผน และเสียสละเพื่อจะไปพระวิหาร เวลานี้ ได้โปรดมาหาพระเจ้าให้บ่อยขึ้นในพระนิเวศน์ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ตามที่สภาวการณ์เอื้ออำนวย ให้การนมัสการและการรับใช้ในพระวิหารเป็นประจำเป็นพร คุ้มครอง และสร้างแรงดลใจให้ท่านกับครอบครัว—ครอบครัวที่ท่านมีหรือครอบครัวที่ท่านจะมีและจะเป็นสักวันหนึ่ง

ภาพ
คุณยายอยู่ด้านนอกพระวิหาร

นอกจากนี้ หากสภาวการณ์ของท่านเอื้ออำนวย โปรดพิจารณาพรของการมีชุดพระวิหารเป็นของท่านเอง23 คุณยายจากครอบครัวยากจนคนหนึ่งพูดว่าในบรรดาทุกสิ่งในโลกนี้ สิ่งที่เธอต้องการมากที่สุดคือชุดพระวิหารของเธอเอง หลานชายของเธอบอกว่า “คุณยายกระซิบว่า ‘ยายจะรับใช้ในชุดพระวิหารของยาย และหลังจากยายตาย ยายจะถูกฝังในชุดนั้น’” และเมื่อเวลามาถึง เธอก็ถูกฝังเช่นนั้น

ดังที่ประธานรัสเซ็ลล์ เอ็ม. เนลสันสอน “ทุกอย่าง ที่เราเชื่อและ ทุก สัญญาที่พระผู้เป็นเจ้าทรงทำกับผู้คนในพันธสัญญาของพระองค์มารวมกันในพระวิหาร”24

ในกาลเวลาและนิรันดร จุดประสงค์ของการสร้างและธรรมชาติของพระผู้เป็นเจ้าคือการนำสิ่งทั้งปวงมารวมกันเพื่อความดีของเรา

นี่คือจุดประสงค์นิรันดร์ของพระเจ้า นี่คือมุมมองนิรันดร์ของพระองค์ นี่คือสัญญานิรันดร์ของพระองค์

เมื่อชีวิตยุ่งเหยิงและจุดประสงค์ไม่ชัดเจน เมื่อท่านต้องการใช้ชีวิตให้ดีขึ้นแต่ไม่รู้วิธี โปรดมาหาพระผู้เป็นเจ้าพระบิดาของเราและพระเยซูคริสต์ จงวางใจว่าทั้งสองพระองค์ทรงพระชนม์ ทรงรักท่าน และทรงต้องการสิ่งทั้งปวงเพื่อความดีของท่าน ข้าพเจ้าเป็นพยานว่าทรงเป็นเช่นนั้นอย่างไม่มีขอบเขตและชั่วนิรันดร์ ในพระนามอันศักดิ์สิทธิ์และบริสุทธิ์ของพระเยซูคริสต์ เอเมน

อ้างอิง

  1. ดู ยอห์น 16:33

  2. โรม 8:28

  3. ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 90:24 วลียอดนิยม “ทุกอย่างดี” มักบอกเป็นนัยว่าทุกอย่างโอเคเรียบร้อยดี แต่ไม่จำเป็นต้องหมายความว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นไปเพื่อความดีของเราจริงๆ

  4. ดู โมเสส 1:3

  5. ดู แอลมา 7:11

  6. ดู 2 นีไฟ 9:10–12 พระผู้เป็นเจ้าทรงเคารพสิทธิ์เสรีทางศีลธรรม บางครั้งยินยอมให้การกระทำที่ไม่ชอบธรรมของผู้อื่นส่งผลกระทบต่อเรา แต่เมื่อเราเต็มใจแสวงหาที่จะทำทุกสิ่งที่เราทำได้ พระคุณของพระเยซูคริสต์และเดชานุภาพแห่งการชดใช้และการให้พลังความสามารถจะชำระล้าง รักษา ผูกมัด ทำให้เราคืนดีกับตัวเองและต่อกันและกัน ในทั้งสองด้านของม่าน

  7. ดู โมโรไน 7:6, 10–12 ศาสตราจารย์เทอร์รีย์ วอร์เนอร์เขียนไว้อย่างฉลาดในหัวข้อนี้

  8. ดู โรม 3:10; โมโรไน 10:25

  9. ดู โมโรไน 10:32

  10. ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 122:4, 7

  11. เราเรียนรู้จากประสบการณ์ที่เราจะไม่มีวันเลือกเอง บางครั้งการแบกรับภาระด้วยความช่วยเหลือจากพระเจ้าสามารถเพิ่มศักยภาพของเราในการแบกรับภาระเหล่านั้น; โมไซยาห์ 24:10–15 แสดงถึงคำสัญญาของพระเจ้าที่จะ “มาเยือนผู้คนของเราในความทุกข์ของพวกเขา” และที่จะ “เพิ่มพละกำลังให้พวกเขาเพื่อพวกเขาจะทนแบกสัมภาระได้โดยง่าย” แอลมา 33:23 สอนว่า “ภาระ [ของเรา] เบาลง, ผ่านทางปีติของพระบุตรของพระองค์” โมไซยาห์ 18:8 เตือนเราว่าเมื่อเรา “เต็มใจจะแบกภาระของกันและกัน … มันจะได้เบา”

  12. ศาสดาพยากรณ์อิสยาห์พูดถึงพระเมสสิยาห์ว่า: “พระ‍วิญ‌ญาณ​ของ​พระ‍ยาห์‌เวห์ องค์‍เจ้า‍นาย​ทรง​อยู่​เหนือ​ข้าพ‌เจ้าเพราะ‍ว่า​พระ‍ยาห์‌เวห์​ทรง​เจิม​ข้าพ‌เจ้า​ไว้เพื่อ​นำ​ข่าว‍ดี​มา​ยัง​คน​ที่​ทุกข์‍ใจพระ‍องค์​ทรง​ส่ง​ข้าพ‌เจ้า​ไป​เพื่อ​ปลอบ‌โยน​คน​ชอก‍ช้ำ‍ใจ … เพื่อ​ชู‍ใจ​ทุก​คน​ที่​ไว้‍ทุกข์ เพื่อ​จัด‍เตรียม​ให้​กับ​พวก​ที่​ไว้‍ทุกข์​ใน​ศิ‌โยน คือ​ให้​มงกุฎ​แทน​ขี้‍เถ้า​แก่​พวก‍เขา และ​ให้​น้ำ‍มัน​แห่ง​ความ​ยินดี​แทน​การ​ไว้‍ทุกข์ เสื้อ‍คลุม​แห่ง​การ​สรร‌เสริญ​แทน​จิต‍วิญ‌ญาณ​ที่​ท้อ‍แท้” (อิสยาห์ 61:1–3) เช่นเดียวกัน ผู้เขียนหนังสือสดุดีให้มุมมองที่พระเจ้าทรงสัญญาไว้ว่า “การร้องไห้อาจจะคงอยู่สักคืนหนึ่ง แต่ความยินดีจะมาเวลาเช้า” (สดุดี 30:5) นี่รวมถึงคำสัญญาอันเรืองโรจน์สำหรับคนชอบธรรมในอรุณรุ่งของการฟื้นคืนชีวิตแรก

  13. หลักคำสอนและพันธสัญญา 122:4 การเชื่อว่าการทดลองในนิรันดรอาจเป็นเพียงแค่ “ชั่วครู่” ไม่ได้หมายความว่าจะด้อยค่าหรือลดค่าความยากลำบากหรือความท้าทายของความเจ็บปวดรวดร้าวหรือความทุกข์ที่เราอาจประสบวันแล้ววันเล่าในชีวิตนี้ ค่ำคืนที่นอนไม่หลับยากจะเกินทน หรือความไม่แน่นอนอันแสนทรมานของแต่ละวันใหม่ บางทีคำสัญญาของการสามารถมองย้อนกลับไปและเห็นความทุกข์แห่งชีวิตมรรตัยของเราเนื่องจากความสงสารของพระผู้เป็นเจ้าและการมองแบบนิรันดร์เพิ่มมุมมองบางอย่างต่อความเข้าใจของเราถึงความเป็นมรรตัยและความหวังของเราที่จะอดทนด้วยศรัทธาและวางใจในพระองค์จนวาระสุดท้าย และเมื่อเรามีตาที่มองเห็น มักจะมีสิ่งที่ดีในเวลานี้ เราไม่จำเป็นต้องรอคอยอนาคตเพื่อจะเห็นสิ่งที่ดี

  14. ดู 2 นีไฟ 2:2

  15. ดู มัทธิว 7:9–10 การให้พระผู้เป็นเจ้าทรงมีชัยในชีวิตเราไม่ใช่การยอมรับสิ่งใดๆ ก็ตามที่จะเกิดขึ้นโดยไม่ทำอะไร แต่คือขันแข็งในการเชื่อว่าพระบิดาบนสวรรค์และพระผู้ช่วยให้รอดของเราพระเยซูคริสต์ทรงต้องการสิ่งที่ดีที่สุดให้กับเราเท่านั้นและเสมอไป เมื่อมีเรื่องสลดใจเกิดขึ้น เราสามารถถามด้วยศรัทธาว่า “ฉันจะเรียนรู้อะไรได้บ้าง?” ไม่ใช่ “ทำไมต้องเป็นฉัน?” และเราสามารถโศกเศร้ากับคนที่มีใจชอกช้ำและวิญญาณที่สำนึกผิดโดยรู้ว่า ในเวลาและวิธีของพระองค์ พรและโอกาสที่ชดเชยจะมาถึง

  16. เราทำพันธสัญญาว่าจะโศกเศร้ากับคนที่โศกเศร้าและปลอบโยนคนที่ต้องการการปลอบโยน (ดู โมไซยาห์ 18:9)

  17. โยบ 1:21

  18. ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 115:6

  19. ศรัทธาในยามเผชิญกับความยากลำบากตรงกันข้ามกับความทุกข์ทรมานและความสิ้นหวังของการมีชีวิตอยู่แบบที่พระคัมภีร์มอรมอนบรรยายถึงผู้ที่ “สาปแช่งพระผู้เป็นเจ้า, และปรารถนาจะตาย” แต่ “กระนั้นก็ตาม … ยังจะต่อสู้ด้วยดาบเพื่อชีวิตของตน” (มอรมอน 2:14)

  20. “Be Still, My Soul,” Hymns, no. 124.

  21. “สิทธิชนมา,” เพลงสวด, บทเพลงที่ 17. ให้พิจารณาเพลงนี้ด้วย:

    ปัญญาและความรักยิ่งใหญ่นา …

    โอ้ แผนงานแห่งการไถ่

    ซึ่งความเที่ยงธรรมความรักเมตตา

    ประสานปรองดองเมืองฟ้า!

    (“ปัญญาและความรักยิ่งใหญ่,” เพลงสวด, บทเพลงที่ 88)

    ท่ามกลางความไม่แน่นอนของชีวิต เรารู้ว่าแผนงานอันยิ่งใหญ่แห่งการไถ่จะนำความเที่ยงธรรม ความรัก และความเมตตามาร่วมกันเพื่อความดีของเรา

  22. ดู โอบาดีห์ 1:21 ศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธสอนว่า “พวกเขา [วิสุทธิชนยุคสุดท้าย] จะเป็นผู้ช่วยให้รอดบนเขาไซอันได้อย่างไร? เป็นได้โดยสร้างพระวิหาร สร้างอ่างบัพติศมา และออกไปรับศาสนพิธีทั้งหมด … แทนบรรพชนผู้ล่วงลับไปแล้วทุกคน” ดู (คำสอนของประธานศาสนจักร: โจเซฟ สมิธ [2007], บทที่ 41 หัวข้อ 2 หัวข้อย้อย 2 ย่อหน้าที่ 4)

  23. สมาชิกที่เข้าพระวิหารเป็นครั้งแรกสามารถซื้อชุดพระวิหารได้ในราคาลดพิเศษ

  24. รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน, “พระวิหารและรากฐานทางวิญญาณของท่าน,” เลียโฮนา, พ.ย. 2021, 94.