การประชุมใหญ่สามัญ
เพื่อสนับสนุนอนุชนรุ่นหลัง
การประชุมใหญ่สามัญเดือนเมษายน 2024


เพื่อสนับสนุนอนุชนรุ่นหลัง

ความสัมพันธ์ในชีวิตเยาวชนมีอิทธิพลสูงสุดต่อการเลือกของพวกเขา

ในการเตรียมที่จะพูดกับท่าน ความสนใจของข้าพเจ้าถูกดึงไปยังเรื่องราวของฮีลามันและบรรดาบุตรหนุ่มของผู้คนของแอมัน ข้าพเจ้าสัมผัสถึงพลังที่เหล่าศาสดาพยากรณ์ในพระคัมภีร์มอรมอนสอนบิดามารดา อธิการ และสมาชิกวอร์ดผ่านการศึกษาเรื่องราวนี้

ฮีลามันเป็นบุรุษที่หนุ่มๆ ชาวแอมันสามารถวางใจได้ ท่านช่วยให้พวกเขาพัฒนาและเติบโตในความชอบธรรม พวกเขารู้จักท่าน รักท่านและ “อยากให้ [ท่าน] เป็นผู้นำของตน”1

ฮีลามันรักชายหนุ่มเหล่านี้เหมือนลูกชายและมองเห็นศักยภาพของพวกเขา2 เอ็ลเดอร์เดล จี. เรนลันด์สอนว่า “เพื่อจะรับใช้ผู้อื่นอย่างมีประสิทธิภาพ เราต้องมองพวกเขา … ผ่านพระเนตรของพระบิดาบนสวรรค์ เมื่อนั้นเราจะเริ่มเข้าใจคุณค่าแท้จริงของจิตวิญญาณ เมื่อนั้นเราจะรู้สึกถึงความรักที่พระบิดาบนสวรรค์ทรงมีต่อบุตรธิดาทุกคนของพระองค์”3 ในทุกวันนี้ อธิการได้รับพรแห่งการเล็งเห็นเพื่อมองเห็นอัตลักษณ์แห่งสวรรค์ในตัวเยาวชนที่พวกเขาดูแล

ฮีลามัน “นับจำนวน”4ชายหนุ่มที่อยู่ในความดูแลของท่าน ท่านให้ความสำคัญกับการสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับพวกเขา

ในช่วงเวลาวิกฤต เมื่อความเป็นและความตายแขวนอยู่กับความไม่แน่นอน ฮีลามันและบรรดานักรบหนุ่มของท่านไม่ทราบว่ากองทัพที่กำลังไล่ตามพวกเขาอยู่ที่ไหน ฮีลามันหารือกับบรรดานักรบหนุ่ม:

“ดูเถิด, เราคิดว่าเป็นไปได้ที่คนพวกนั้นหยุดโดยมีความประสงค์จะให้เราเข้าโจมตี, …

“ฉะนั้นพวกลูกจะว่าอย่างไร ลูกพ่อ … ?”5

ชายหนุ่มผู้เปี่ยมด้วยศรัทธาเหล่านี้ตอบว่า “บิดาเจ้าข้า, ดูเถิดพระผู้เป็นเจ้าของเราทรงอยู่กับเรา, และพระองค์จะไม่ทรงยอมให้เราพ่ายแพ้; ดังนั้นขอให้เราออกไปกันเถิด”6 วันนั้นพวกเขาได้ชัยชนะ เมื่อฮีลามันสนับสนุนคนหนุ่มเหล่านี้ในการตัดสินใจของพวกเขา7ที่จะกระทำ8

คนหนุ่มชาวแอมันมีอุดมการณ์ที่ยิ่งใหญ่และกล้าหาญยิ่งในการ “ไปช่วยผู้คน”9 “กำลังคนกลุ่มน้อยนี้” ซึ่งนำโดยฮีลามัน ให้ “ความหวังอันยิ่งใหญ่และปีติอย่างมาก”10 ต่อจิตใจของกองทัพชาวนีไฟผู้มีประสบการณ์ ทุกวันนี้อธิการสามารถนำเยาวชนผู้มีพรสวรรค์อันเป็นเอกลักษณ์ในการเป็นพรต่อวอร์ดและการรวมอิสราเอล ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันสอนว่า นี่คือ “พันธกิจซึ่ง [พวกเขา] ถูกส่งมาแผ่นดินโลกเพื่อการนี้”11

เช่นเดียวกับคนหนุ่มชาวแอมันผู้ “ซื่อสัตย์สุจริตตลอดเวลาในเรื่องใดๆ ก็ตามที่พวกเขาได้รับมอบหมาย”12 ฮีลามันติดตามผู้นำของท่านอย่างซื่อสัตย์ ไม่ว่าจะต้องเผชิญความท้าทายหรือความพ่ายแพ้ ฮีลามันยังคง “แน่วแน่อยู่ด้วยความตั้งใจ”13 อยู่เสมอเพื่อผลักดันจุดประสงค์ของพวกเขา เมื่อท่านได้รับคำสั่งให้ “เดินทัพพร้อมกับบรรดาบุตรน้อย [ของท่าน]”14 ท่านก็ทำตาม

เยาวชนในปัจจุบันได้รับพรขณะที่อธิการปฏิบัติตามแนวทางจากผู้นำของเราในการ “ปรึกษากับประธานเยาวชนหญิงวอร์ด”15 ประธานสเตคทำให้แน่ใจว่าอธิการและประธานเยาวชนหญิงได้รับคำแนะนำในการทำให้หน้าที่รับผิดชอบของพวกเขาต่อเยาวชนเกิดสัมฤทธิผล16

ฮีลามันรักษาพันธสัญญา เมื่อแอมันสอนพระกิตติคุณแก่บิดามารดาของชายหนุ่มเหล่านั้น บิดามารดาเหล่านี้น้อมรับพระกิตติคุณด้วยใจกว้าง พวกเขาแน่วแน่ต่อชีวิตใหม่ในการเป็นสานุศิษย์ที่ชอบธรรม ถึงขั้นที่พวกเขาทำพันธสัญญาเพื่อ “วางอาวุธแห่งการกบฏของตน”17 สิ่งเดียวที่ทำให้พวกเขาคิดจะละเมิดพันธสัญญานี้โดยหวนกลับไปสู่การต่อสู้ตามความคุ้นเคยในอดีต นั่นก็คือเมื่อพวกเขาเห็นชาวนีไฟตกอยู่ในภยันตราย

ชาวแอมันต้องการช่วยเหลือผู้คนเหล่านี้ ผู้มอบบ้านอันปลอดภัยให้แก่พวกเขา ฮีลามันพร้อมกับคนอื่น ๆ โน้มน้าวพวกเขาให้รักษาพันธสัญญาที่จะไม่มีวันจับอาวุธต่อสู้อีก ท่านวางใจในความเข้มแข็งที่พระผู้เป็นเจ้าจะประทานให้มากกว่าในความเข้มแข็งที่ชาวแอมันเหล่านี้จะมอบให้ได้ผ่านดาบและลูกศร

เมื่อฮีลามันและนักรบหนุ่มของท่านเผชิญหน้ากับความท้าทายอันน่ากลัว ฮีลามันยังคงเด็ดเดี่ยว “ดูเถิด, มันไม่สำคัญ—เราวางใจว่าพระผู้เป็นเจ้าจะทรงปลดปล่อยเรา”18 ครั้งหนึ่ง ขณะพวกเขากำลังหิวโหยเจียนตาย พวกเขาตอบรับว่าจะ “ทุ่มเทจิตวิญญาณในการสวดอ้อนวอนพระผู้เป็นเจ้า, เพื่อพระองค์จะทรงทำให้ [พวกเขา] เข้มแข็งขึ้นและทรงปลดปล่อย [พวกเขา] … [และ] พระเจ้า … เสด็จมาเยือน [พวกเขา] พร้อมด้วยการรับรองว่าพระองค์จะทรงปลดปล่อย [พวกเขา]”19 “เพราะศรัทธายิ่งของพวกเขาในสิ่งที่พวกเขาได้รับการสอนให้เชื่อ”20

เราเรียนรู้จากฮีลามันว่าคนหนุ่มเหล่านี้ได้รับการสนับสนุนจากบิดามารดา บิดามารดาผู้ซื่อสัตย์เหล่านี้รู้ว่าพวกเขามีหน้าที่รับผิดชอบหลักในการสอนลูกๆ พวกเขาสอนให้ลูกๆ รักษาพระบัญญัติและ “ดำเนินชีวิตอย่างซื่อตรง”21 ต่อพระผู้เป็นเจ้า มารดาสอนพวกเขา “ว่าหากพวกเขาไม่สงสัย, พระผู้เป็นเจ้าจะทรงปลดปล่อยพวกเขา”22 บิดาของพวกเขาปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างอันทรงพลังในการทำพันธสัญญา23 อดีตนักรบเหล่านี้รู้จักความน่าสะพรึงกลัวของสงคราม พวกเขาฝากฝังบุตรผู้ด้อยประสบการณ์เหล่านี้ไว้ในความดูแลของฮีลามันและสนับสนุนโดยการส่ง “สัมภาระหลายอย่าง”24ให้

ฮีลามันไม่ได้รับใช้กองทัพหนุ่มของท่านเพียงลำพัง ท่านมีผู้คนรอบข้างที่ท่านพึ่งพาการสนับสนุนและคำแนะนำ ท่านเรียกหาแม่ทัพโมโรไนเพื่อขอความช่วยเหลือและได้รับการตอบรับ

ไม่มีผู้ใดที่รับใช้ในอาณาจักรของพระเจ้าจะรับใช้เพียงลำพัง พระเจ้าประทานพรเราด้วยวอร์ดและสเตค ผ่านทางองค์กรที่ได้รับการฟื้นฟูของพระองค์ เรามีแหล่งช่วย สติปัญญาและแรงบันดาลใจในการเผชิญหน้ากับความท้าทายทุกอย่าง

อธิการให้การนำทางแก่วอร์ดผ่านสภาต่างๆ25 เขาส่งเสริมการสัมภาษณ์การปฏิบัติศาสนกิจรายไตรมาส แล้วกระตุ้นให้โควรัมเอ็ลเดอร์และสมาคมสงเคราะห์บรรลุหน้าที่รับผิดชอบในการปฏิบัติศาสนกิจต่อครอบครัว ฝ่ายประธานเหล่านี้เป็นผู้นำในการประเมินความต้องการและหาแนวทางแก้ไขที่ได้รับการดลใจ ประธานสเตคให้การสนับสนุนโดยแนะนำฝ่ายประธานโควรัมเอ็ลเดอร์และฝ่ายประธานสมาคมสงเคราะห์ในหน้าที่รับผิดชอบเหล่านี้

แนวทางที่จำเป็นสำหรับผู้นำและบิดามารดาสามารถพบได้ในคลังค้นคว้าพระกิตติคุณและแอปพลิเคชันการดำเนินชีวิตตามพระกิตติคุณ ในแหล่งช่วยที่ได้รับการดลใจเหล่านี้ เราสามารถค้นหาพระคัมภีร์ คำสอนของศาสดาพยากรณ์ในยุคปัจจุบันและ คู่มือทั่วไป แท็บเยาวชนในคลังค้นคว้าพระกิตติคุณมีแหล่งข้อมูลมากมายสำหรับฝ่ายประธานโควรัมและฝ่ายประธานชั้นเรียน26 และมี เพื่อความเข้มแข็งของเยาวชน: คู่มือแนะแนวการเลือก ขณะที่สมาชิกทุกคนในวอร์ดศึกษาแหล่งช่วยที่ได้รับการดลใจเหล่านี้และแสวงหาการนำทางจากพระวิญญาณ ทุกคนจะได้รับการนำทางจากพระเจ้าในการเพิ่มความเข้มแข็งแก่เยาวชน

ทั้งวอร์ดจะได้รับพรและความเข้มแข็งขณะที่สมาชิกทุกคนมุ่งความสนใจไปยังอนุชนรุ่นหลัง แม้ว่าเราจะยังไม่ดีพร้อมและมีความบกพร่อง พระบิดาบนสวรรค์ทรงเชื้อเชิญให้เราแต่ละคนเอื้อมออกไปหาผู้อื่น ผ่านความเป็นเพื่อนของพระวิญญาณ พระองค์ทรงรู้ว่าเราจะเติบโตและจะถูกทำให้ศักดิ์สิทธิ์เมื่อเราปฏิบัติตามการกระตุ้นเตือนของพระวิญญาณบริสุทธิ์27 ไม่ใช่สิ่งสำคัญเลยที่ความพยายามของเราไม่สมบูรณ์แบบ เมื่อเราร่วมมือกับพระเจ้า เราสามารถวางใจได้ว่าความพยายามของเราจะสอดคล้องกับสิ่งที่พระองค์จะทรงทำเพื่อเยาวชน

โดยการปฏิบัติตามการทรงนำของพระวิญญาณบริสุทธิ์ในการเอื้อมออกไปหาเยาวชน เรากำลังเป็นพยานถึงความรักของพระบิดาบนสวรรค์ในชีวิตพวกเขา การทำตามการกระตุ้นเตือนที่มาจากพระเจ้าสร้างความสัมพันธ์แห่งความรักและความไว้วางใจ ความสัมพันธ์ในชีวิตเยาวชนมีอิทธิพลสูงสุดต่อการเลือกของพวกเขา

เยาวชนจะเรียนรู้ถึงรูปแบบการเปิดเผยขณะพวกเขามีส่วนร่วมกับเราในกระบวนการแสวงหาและปฏิบัติตามการกระตุ้นเตือนให้รับใช้ผู้อื่น เมื่อเยาวชนหันมาสู่พระเจ้าเพื่อการนำทางที่ได้รับการดลใจนี้ ความสัมพันธ์ที่พวกเขามีกับพระองค์และความวางใจในพระองค์จะลึกซึ้งยิ่งขึ้น

เราแสดงออกถึงความมั่นใจต่อเยาวชนด้วยการให้การสนับสนุนและการนำทางโดยไม่ควบคุม28 ขณะที่เราถอยออกมาและยอมให้เยาวชนเรียนรู้ผ่านการปรึกษาร่วมกัน เลือกบทเรียนที่ได้รับการดลใจ และปฏิบัติตามแผนงาน พวกเขาจะได้รับประสบการณ์แห่งปีติและการเติบโตอันแท้จริง

ประธานเฮนรีย์ บี. อายริงก์สอนว่า “สิ่งสำคัญที่สุดคือสิ่งที่พวกเขาเรียนรู้จาก [ท่าน] เกี่ยวกับตัวตนที่พวกเขาเป็นจริง ๆ และคนที่พวกเขาจะเป็นได้อย่างแท้จริง ข้าพเจ้าเดาว่า พวกเขาจะไม่ได้เรียนรู้อะไรมากนักจากการฟังการบรรยายเพียงอย่างเดียว แต่พวกเขาจะเข้าใจจากความรู้สึกว่าตัวท่านเป็นคนเช่นไร คนที่ท่านคิดว่าพวกเขาเป็น และคนแบบที่ท่านคิดว่าพวกเขาจะเป็นได้”29

เยาวชนของเราทำให้เราประหลาดใจด้วยความกล้าหาญ ศรัทธา และความสามารถของพวกเขา ขณะพวกเขาเลือกที่จะเป็นสานุศิษย์ผู้ติดตามพระเยซูคริสต์อย่างทุ่มเท พระกิตติคุณของพระองค์จะสลักอยู่ในใจของพวกเขา การติดตามพระองค์จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของตัวตนที่พวกเขาเป็น ไม่ใช่เพียงสิ่งที่พวกเขากระทำ

ฮีลามันช่วยเหลือคนหนุ่มชาวแอมันให้เห็นว่าสานุศิษย์ที่กล้าหาญของพระเยซูคริสต์ดำเนินชีวิตอย่างไร เราสามารถเป็นแบบอย่างที่ทรงพลังต่อเยาวชนว่าสานุศิษย์ของพระคริสต์ดำเนินชีวิตอย่างไรในยุคปัจจุบัน บิดามารดาผู้ซื่อสัตย์สวดอ้อนวอนเพื่อให้มีแบบอย่างเหล่านี้ในชีวิตลูกๆ ของพวกเขา ไม่มีโปรแกรมใดสามารถแทนที่อิทธิพลของผู้ใหญ่ที่รักษาพันธสัญญาและเปี่ยมด้วยความรักได้

ในฐานะประธานโควรัมปุโรหิต อธิการสามารถเป็นแบบอย่างแก่เยาวชนในการเป็นสามีที่ซื่อสัตย์และเป็นบิดาผู้เปี่ยมด้วยความรัก30 ผ่านการคุ้มครอง จัดหา และดูแล31 ในวิธีที่ชอบธรรม อธิการผู้มี “ความสนใจคอยจับจ้องอยู่ที่เยาวชนเหมือนแสงเลเซอร์”32จะสร้างอิทธิพลที่ยั่งยืนต่อคนอีกหลายรุ่น

เยาวชนทุกวันนี้อยู่ท่ามกลางจิตวิญญาณที่สูงส่งที่สุด33ของพระบิดาบนสวรรค์ พวกเขาอยู่ท่ามกลางผู้ปกป้องความจริงและสิทธิ์เสรีที่ซื่อสัตย์ในโลกก่อนเกิด34 พวกเขาเกิดมาในวันเวลานี้เพื่อรวบรวมอิสราเอลผ่านการเป็นพยานที่ทรงพลังถึงพระเจ้าพระเยซูคริสต์ พระองค์ทรงรู้จักพวกเขาแต่ละคนและทรงรู้ศักยภาพอันยิ่งใหญ่ของพวกเขา พระองค์ทรงอดทนขณะพวกเขากำลังเติบโต พระองค์จะทรงไถ่และปกป้องพวกเขา พระองค์จะทรงเยียวยารักษาและนำทางพวกเขา พระองค์จะทรงดลใจพวกเขา เราผู้เป็นบิดามารดาและผู้นำได้รับการเตรียมเพื่อสนับสนุนพวกเขา เรามีศาสนจักรของพระผู้ช่วยให้รอดที่ช่วยเหลือเราในขณะที่เราเลี้ยงดูคนรุ่นต่อไป

ข้าพเจ้าเป็นพยานว่าศาสนจักรของพระคริสต์ที่ได้รับการฟื้นฟูผ่านท่านศาสดาพยากรณ์โจเซฟ สมิธและได้รับการนำทุกวันนี้โดยประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน จัดตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือให้เยาวชนบรรลุจุดประสงค์อันยิ่งใหญ่ของพวกเขาในยุคสุดท้ายนี้ ในพระนามของพระเยซูคริสต์ เอเมน

อ้างอิง

  1. แอลมา 53:19

  2. “ถ้าท่านเลือก ถ้าท่านต้องการ … ท่านสามารถเป็นส่วนสำคัญของบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่ บางสิ่งที่โอ่อ่า บางสิ่งที่สง่างาม! … ท่านเป็นหนึ่งในบรรดาคนดีที่สุดที่พระเจ้า เคย ส่งมายังโลกนี้ ท่านมีสมรรถภาพที่จะฉลาดมากขึ้น มีปัญญามากขึ้น และมีอิทธิพลต่อโลกมากกว่าคนรุ่นก่อน!” (รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน, “ความหวังอิสราเอล” [การให้ข้อคิดทางวิญญาณสำหรับเยาวชนทั่วโลก, 3 มิ.ย. 2018], คลังค้นคว้าพระกิตติคุณ).

  3. เดล จี. เรนลันด์, “ผ่านพระเนตรของพระผู้เป็นเจ้า,” เลียโฮนา, พ.ย. 2015, 94.

  4. แอลมา 56:55

  5. แอลมา 56:43–44

  6. แอลมา 56:46

  7. “เป้าหมายของพระบิดาบนสวรรค์ในการเป็นบิดาไม่ใช่ให้บุตรธิดา ทำ สิ่งที่ถูกต้อง แต่ให้บุตรธิดา เลือก ทำสิ่งที่ถูกต้อง” (เดล จี. เร็นลันด์, “ท่านจงเลือกเสียในวันนี้, ” เลียโฮนา, พ.ย. 2018, 104)

  8. “ขณะที่เราเพิ่มพลังให้เยาวชน โดยการเชื้อเชิญและยอมให้พวกเขาลงมือทำ ศาสนจักรจะรุดไปข้างหน้าในหนทางที่น่าอัศจรรย์” (จากการประชุมกับเอ็ลเดอร์เดวิด เอ. เบดนาร์; ดู 2020 Temple and Family History Leadership Instruction, Feb. 27, 2020, Gospel Library) ด้วย

  9. แอลมา 53:22

  10. แอลมา 56:17

  11. รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน, “ความหวังอิสเราเอล,” คลังค้นคว้าพระกิตติคุณ

  12. แอลมา 53:20

  13. แอลมา 58:12

  14. แอลมา 56:30

  15. คู่มือทั่วไป: การรับใช้ในศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย, 7.1.2, คลังค้นคว้าพระกิตติคุณ.

  16. ดู คู่มือทั่วไป, 6.7.2.

  17. แอลมา 23:7

  18. แอลมา 58:37

  19. แอลมา 58:10–11

  20. แอลมา 57:26

  21. แอลมา 53:21

  22. แอลมา 56:47

  23. ดู แอลมา 23:7; 24:17–19

  24. แอลมา 56:27

  25. ดู คู่มือทั่วไป, 7.1.1.

  26. “เมื่อเราแสวงหาความจริงนิรันดร์ คำถามสองข้อต่อไปนี้สามารถช่วยให้เรารับรู้ว่าแนวคิดมาจากพระเจ้าหรือจากแหล่งอื่น: เป็นแนวคิดที่สอนสม่ำเสมอในพระคัมภีร์และโดยศาสดาพยากรณ์ที่มีชีวิตอยู่หรือไม่? แนวคิดได้รับการยืนยันโดยพยานของพระวิญญาณบริสุทธิ์หรือไม่? พระผู้เป็นเจ้าทรงเปิดเผยความจริงทางหลักคำสอนผ่านศาสดาพยากรณ์และพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงยืนยันความจริงเหล่านั้นแก่เราและช่วยเราประยุกต์ใช้” (ยอห์น ซี. พิงกรี จูเนียร์, “ความจริงนิรันดร์,” เลียโฮนา, พ.ย. 2023, 100)

  27. ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 4:2–4

  28. “ถ้าเยาวชน [ของเรา] รู้สึกท่วมท้น [ด้วยงานของพระผู้เป็นเจ้า] มากจนเกินไป พวกเขาก็มีแนวโน้มมากขึ้นที่จะรู้สึกท่วมท้นด้วยเรื่องทางโลก … ฝ่ายประธานโควรัมมัคนายกและฝ่ายประธานโควรัมผู้สอนประกอบขึ้นจากการเรียกเพื่อให้สวดและส่งผ่านศีลระลึกเพียงเท่านั้นหรือ? พี่น้องชายทั้งหลาย คนเหล่านี้เป็นจิตวิญญาณที่พิเศษจริงๆ และพวกเขาสามารถทำเรื่องสำคัญ ๆ ได้หากได้รับโอกาส!” (Neal A. Maxwell, “Unto the Rising Generation,” Ensign, Apr. 1985, 11)

  29. Henry B. Eyring, “Teaching Is a Moral Act” (คำปราศรัยกล่าวที่ Brigham Young University annual conference, Aug. 27, 1991), 3, speeches.byu.edu.

  30. ดู “สาระสำคัญโควรัมฐานะปุโรหิตแห่งอาโรน,” คลังค้นคว้าพระกิตติคุณ.

  31. ดู “ครอบครัว: ถ้อยแถลงต่อโลก,” คลังค้นคว้าพระกิตติคุณ

  32. “เราหวังว่าฝ่ายอธิการจะเน้นความสำคัญและให้ความสนใจอย่างมากกับหน้าที่รับผิดชอบฐานะปุโรหิตของเยาวชนชาย และช่วยพวกเขาในหน้าที่โควรัมของตน ผู้ให้คำปรึกษาเยาวชนชายซึ่งเป็นผู้ใหญ่ที่มีความสามารถจะได้รับเรียกให้ช่วยฝ่ายประธานโควรัมฐานะปุโรหิตแห่งอาโรนและฝ่ายอธิการในหน้าที่ของพวกเขา เรามั่นใจว่าเยาวชนชายและหญิงจำนวนมากขึ้นจะสามารถรับมือกับความท้าทายและยังอยู่บนเส้นทางพันธสัญญาเพราะมีความสนใจนี้คอยจับจ้องอยู่ที่เยาวชนของเราเหมือยแสงเลเซอร์” (เควนทิน แอล.คุก, “การปรับเปลี่ยนเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้เยาวชน,” เลียโฮนา, พ.ย. 2019, 41).

  33. “พระบิดาบนสวรรค์ทรงเก็บรักษาดวงวิญญาณที่สูงส่งที่สุดหลายดวงของพระองค์—บางทีข้าพเจ้าอาจพูดได้ว่าเป็นทีมที่ดีที่สุดของพระองค์—สำหรับระยะสุดท้ายนี้ ดวงวิญญาณที่สูงส่งเหล่านั้น—ผู้เล่นที่ดีที่สุดเหล่านั้น วีรบุรุษวีรสตรีเหล่านั้น—คือ ท่าน!” (รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน, “ความหวังอิสเราเอล,” คลังค้นคว้าพระกิตติคุณ).

  34. “เยาวชนที่ท่านรักอาจเป็นนักรบที่กล้าหาญคนหนึ่งในฝ่ายความจริงและสิทธิ์เสรี … เราสามารถช่วยในวิธีที่เรามีปฏิกิริยาต่อความมุ่งมั่นของพวกเขาในการเลือกเพื่อตนเอง พวกเขาจะสัมผัสได้ว่าเรามองพวกเขาเสมือนเป็นหนึ่งในนักรบที่ซื่อสัตย์จากโลกก่อนเกิด ผู้มุ่งมั่นปกป้องสิทธิ์เสรีและตระหนักรู้ถึงคุณค่าอันยิ่งใหญ่ของมันในการนำความสุขมาให้หรือไม่ หากเราสามารถเห็นพวกเขาเป็นนักรบผู้ซื่อสัตย์จากโลกก่อนเกิด เราอาจมองการเรียกร้องความเป็นอิสระของพวกเขาว่าเป็นสัญญาณถึงศักยภาพของพวกเขาด้วย สัญญาณว่าพวกเขากำลังทดสอบพลังของสิทธิ์เสรีที่จะนำความสุขมาสู่พวกเขา” (Henry B. Eyring, “A Life Founded in Light and Truth” [Brigham Young University devotional, Aug. 15, 2000], speeches.byu.edu)