การประชุมใหญ่สามัญ
เชื่อมพระบัญญัติสำคัญสองข้อเข้าด้วยกัน
การประชุมใหญ่สามัญเดือนเมษายน 2024


เชื่อมพระบัญญัติสำคัญสองข้อเข้าด้วยกัน

ความสามารถของเราที่จะติดตามพระเยซูคริสต์ขึ้นอยู่กับความเข้มแข็งและพลังของเราที่จะดำเนินชีวิตตามพระบัญญัติข้อแรกและข้อสองอย่างสมดุลและอุทิศตนให้อย่างเท่าเทียมกัน

คำเกริ่นนำ

เมื่อลีซ่าภรรยากับข้าพเจ้าเดินทางตามงานมอบหมายทั่วโลก เราชื่นชอบโอกาสพิเศษที่ได้พบกับท่านในที่ประชุมทั้งใหญ่และเล็ก การอุทิศตนของท่านต่องานของพระเจ้าให้กำลังใจเราและเป็นประจักษ์พยานถึงพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ เรากลับมาบ้านจากการเดินทางแต่ละครั้งด้วยความสงสัยว่าเราให้มากเท่าที่เราได้รับหรือเปล่า

ภาพ
สะพานสายรุ้ง
ภาพ
สะพานซิงหม่า
ภาพ
สะพานทาวเวอร์

เมื่อเดินทาง เรามีเวลาเล็กน้อยให้เที่ยวชมสถานที่ แต่เมื่อเป็นไปได้ ข้าพเจ้าจะใช้เวลาชั่วครู่กับสิ่งที่โปรดปรานเป็นพิเศษ ข้าพเจ้าสนใจในสถาปัตยกรรมและการออกแบบ และหลงใหลสะพานเป็นพิเศษ สะพานแขวนทำให้ข้าพเจ้าประหลาดใจ ไม่ว่าจะเป็นสะพานสายรุ้งในโตเกียว สะพานซิงหม่าในฮ่องกง สะพานทาวเวอร์ในลอนดอน หรือที่อื่นๆ ที่ข้าพเจ้าเคยเห็น ข้าพเจ้าทึ่งกับความอัจฉริยะทางวิศวกรรมที่สร้างภายในโครงสร้างซับซ้อนเหล่านี้ สะพานพาเราไปยังสถานที่ที่เราไปถึงไม่ได้ด้วยทางอื่น (ก่อนจะพูดต่อ ขอหมายเหตุว่าตั้งแต่เตรียมข่าวสารนี้ มีอุบัติเหตุสะพานถล่มอันน่าสลดใจในบัลติมอร์ เราโศกเศร้ากับการสูญเสียชีวิตและขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวที่ประสบภัย)

สะพานแขวนอันสง่างาม

ไม่นานมานี้ งานมอบหมายการประชุมใหญ่พาข้าพเจ้าไปยังแคลิฟอร์เนียที่ข้าพเจ้าได้เห็นสะพานโกลเดนเกตอันโด่งดังอีกครั้ง ซึ่งถูกนับว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ทางวิศวกรรมอย่างหนึ่งของโลก สิ่งก่อสร้างมหึมานี้เป็นการผสมผสานกันของรูปทรงที่สวยงาม จุดประสงค์การใช้งาน และงานวิศวกรรมชั้นยอด เป็นสะพานแขวนแบบคลาสสิกขนาบด้วยหอคอย รองรับด้วยตอม่อขนาดยักษ์ หอคอยคานน้ำหนักคู่มหึมางามตระหง่านเหนือมหาสมุทรเป็นองค์ประกอบแรกๆ ที่ต้องสร้างขึ้น ทั้งสองหอคอยช่วยกันแบกน้ำหนักของสายเคเบิลหลักที่ทอดยาวและสายสลิงแนวตั้งซึ่งโอบอุ้มถนนเบื้องล่าง ศักยภาพการทรงตัวที่ไม่ธรรมดา—พลังของหอคอย—คือเวทมนตร์เบื้องหลังงานวิศวกรรมของสะพานแห่งนี้

ภาพ
สะพานโกลเดนเกตระหว่างก่อสร้าง

เขตสะพานโกลเดนเกต

ภาพการก่อสร้างสะพานช่วงแรกๆ เป็นประจักษ์พยานถึงหลักการวิศวกรรมนี้ แต่ละองค์ประกอบของสะพานมีการรองรับน้ำหนักจากหอคอยที่สมมาตรกัน ทั้งคู่เชื่อมต่อกันแบบพึ่งพาอาศัยกัน

ภาพ
สะพานโกลเดนเกตระหว่างก่อสร้าง

Getty Images/Underwood Archives

เมื่อสะพานสร้างเสร็จ ด้วยหอคอยคู่ทรงพลังที่ตั้งอย่างมั่นคงและตอม่อที่ยึดไว้กับฐานรากชั้นล่างสุด นี่คือภาพแห่งความแข็งแกร่งและความสวยงาม

ภาพ
สะพานโกลเดนเกต

วันนี้ข้าพเจ้าเชื้อเชิญให้ท่านดูสะพานโออ่าแห่งนี้—กับหอคอยคู่สูงที่สร้างบนฐานรากแข็งแรง—ผ่านเลนส์พระกิตติคุณ

ในสนธยาแห่งการปฏิบัติศาสนกิจของพระเยซูคริสต์ ระหว่างช่วงที่เราเรียกกันว่าสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์ ฟาริสีคนหนึ่งที่เป็นผู้เชี่ยวชาญบัญญัติ1ถามพระผู้ช่วยให้รอดคำถามที่เขารู้ว่าแทบไม่มีทางตอบได้2 “ท่าน​อา‌จารย์ ใน​ธรรม‍บัญญัติ​นั้น พระ‍บัญญัติ​ข้อ​ไหน​สำคัญ​ที่‍สุด?” ผู้เชี่ยวชาญบัญญัติ “ทดสอบพระองค์” และต้องการคำตอบตรงตามบทบัญญัติ ด้วยเจตนาที่ดูไม่ซื่อ แต่กลับได้รับคำตอบที่จริงใจ ศักดิ์สิทธิ์ และสูงส่ง

“พระเยซูทรงตอบเขาว่า จงรักองค์พระผู้เป็นเจ้าของท่านด้วยสุดใจของท่านด้วยสุดจิตของท่าน และด้วยสุดความนึกคิดของท่าน

“นั่นแหละเป็นพระบัญญัติข้อสำคัญอันดับแรก” เมื่อนึกถึงอุปมาเรื่องสะพานของเรา นี่คือหอคอยแรก!

“ข้อที่สองก็เหมือนกัน คือ จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง” นี่คือหอคอยที่สอง!

“ธรรมบัญญัติและคำของผู้เผยพระวจนะทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับพระบัญญัติสองข้อนี้”3 องค์ประกอบส่วนที่เหลือของสะพาน!

มาพิจารณาแต่ละข้อของพระบัญญัติสำคัญสองข้อนี้ดังที่เปิดเผยและกล่าวไว้ในคำตอบของพระเยซูคริสต์ ขณะทำเช่นนั้น ขอให้นึกภาพสะพานแขวนอันสง่างามแห่งนี้

จงรักพระเจ้า

ข้อแรก จงรักพระเจ้าด้วยสุดใจ สุดจิตวิญญาณ และสุดความนึกคิดของท่าน

ในคำตอบนี้ พระเยซูคริสต์ทรงรวบรัดแก่นแท้ของกฎที่ฝังอยู่ในคำสอนศักดิ์สิทธิ์ของพันธสัญญาเดิม การรักพระเจ้าต้องมีพระองค์เป็นศูนย์กลางในใจท่านก่อน—คือในธรรมชาติวิสัยของท่าน ทรงขอให้ท่านรักด้วยสุดจิตวิญญาณของท่าน4—คือตัวตนที่ท่านอุทิศถวายทั้งหมด—และสุดท้าย จงรักด้วยสุดความนึกคิดของท่าน—คือมันสมองและสติปัญญาของท่าน ความรักต่อพระผู้เป็นเจ้าไม่มีข้อจำกัดหรือขอบเขต ไร้ขอบเขตและเป็นนิรันดร์

สำหรับข้าพเจ้า การทำตามพระบัญญัติสำคัญข้อแรกบางครั้งอาจรู้สึกเหมือนเป็นเรื่องนามธรรม น่าหวาดหวั่นด้วยซ้ำ น่าดีใจที่เมื่อพิจารณาพระวจนะของพระเยซูมากขึ้น พระบัญญัติข้อนี้กลับเอื้อมถึงง่ายกว่าเดิม: “ถ้า​พวก‍ท่าน​รัก​เรา ท่าน​ก็​จะ​ประ‌พฤติ​ตาม​บัญญัติ​ของ​เรา”5 แบบนี้ข้าพเจ้าทำได้ ข้าพเจ้าสามารถรักพระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์ ซึ่งนำไปสู่การสวดอ้อนวอน การศึกษาพระคัมภีร์ และการนมัสการในพระวิหาร เรารักพระบิดาและพระบุตรโดยการจ่ายส่วนสิบ รักษาวันสะบาโตให้ศักดิ์สิทธิ์ ดำเนินชีวิตให้สะอาดมีศีลธรรม และเชื่อฟัง

การรักพระเจ้ามักจะวัดในการกระทำเล็กๆ น้อยๆ ประจำวัน การก้าวเดินบนเส้นทางพันธสัญญา: สำหรับคนหนุ่มสาว คือ การใช้โซเชียลมีเดียเพื่อเสริมสร้างมิใช่ทำลาย; การออกจากงานเลี้ยงสังสรรค์ ภาพยนตร์ หรือกิจกรรมที่อาจท้าทายมาตรฐานของเรา; การแสดงความคารวะต่อสิ่งที่มีความศักดิ์สิทธิ์

ลองพิจารณาตัวอย่างอันละเอียดอ่อนนี้ ในวันอาทิตย์อดอาหาร แวนซ์6กับข้าพเจ้าเคาะประตูบ้านสมถะเล็กๆ หลังหนึ่ง เรากับมัคนายกคนอื่นๆ ในโควรัมมาด้วยความคาดหวังจะได้ยินคำว่า “เข้ามาได้เลย” ตะโกนออกมาอย่างอบอุ่นในสำเนียงเยอรมันดังผ่านประตู ซิสเตอร์มึลลาร์เป็นหนึ่งในหญิงม่ายผู้อพยพหลายคนในวอร์ด เธอไม่สามารถออกมาเปิดประตูได้ง่ายนัก เนื่องจากตาบอดตามกฎหมาย ขณะก้าวเข้าไปในบ้านที่มีแสงสลัว เธอทักทายเราด้วยคำถามอ่อนโยนว่า: พวกเธอชื่ออะไร? เป็นอย่างไรบ้าง? รักพระเจ้าไหม? เราตอบและเล่าให้ฟังว่าเรามารับเงินบริจาคอดอาหารของเธอ แม้ว่าเราจะอายุยังน้อย แต่สภาวะขาดแคลนของเธอก็เห็นได้ชัด และคำตอบเปี่ยมศรัทธาของเธอนั้นจับใจยิ่ง: “ฉันวางเหรียญสิบเซ็นต์ไว้บนโต๊ะเมื่อเช้านี้ ฉันดีใจที่ได้บริจาคเงินอดอาหาร ช่วยนำเหรียญใส่ซองและเขียนใบบริจาคอดอาหารให้หน่อยได้ไหม?” ความรักที่เธอมีให้พระเจ้ายกระดับศรัทธาเราทุกครั้งเมื่อเราออกจากบ้านของเธอ

กษัตริย์เบ็นจามินสัญญาพลังอันน่าทึ่งสำหรับคนที่ทำตามพระบัญญัติสำคัญข้อแรก “ข้าพเจ้าปรารถนาให้ท่านพิจารณาถึงสภาพอันเป็นพรและเป็นสุขของคนที่รักษาพระบัญญัติ … พวกเขาได้รับพรในทุกสิ่ง, … และหากพวกเขายืนหยัดอย่างซื่อสัตย์จนกว่าชีวิตจะหาไม่แล้วพวกเขาจะได้รับเข้าสู่สวรรค์ … ในสภาพแห่งความสุขอันไม่รู้จบ”7

การรักพระเจ้านำไปสู่ความสุขนิรันดร์!

จงรักเพื่อนบ้านของท่าน

จากนั้นพระเยซูตรัสว่า “ข้อที่สองก็เหมือนกัน คือ จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง”8 นี่คือหอคอยที่สองของสะพาน

ตรงนี้พระเยซูทรงเชื่อมสายตาเราที่มองขึ้นสวรรค์เพื่อรักพระเจ้า เข้ากับสายตาเราที่มองออกไปทางโลกเพื่อรักเพื่อนมนุษย์ชายหญิง อย่างหนึ่งต้องพึ่งพาอาศัยอีกอย่างหนึ่ง การรักพระเจ้าจะไม่สมบูรณ์หากเราละเลยเพื่อนบ้านของเรา ความรักที่มีให้ผู้อื่นนี้รวมถึงลูกๆ ทุกคนของพระผู้เป็นเจ้าโดยไม่คำนึงถึงเพศสภาพ สถานะทางสังคม เชื้อชาติ เพศวิถี รายได้ อายุ หรือชาติพันธุ์ เราแสวงหาคนที่เจ็บปวดและแตกสลาย คนที่ถูกด้อยค่า เพราะ “ทุกคนเหมือนกันหมดสำหรับพระผู้เป็นเจ้า”9 เรา “ช่วยเหลือคนอ่อนแอ, ยกมือที่อ่อนแรง, และให้กำลังเข่าที่อ่อนล้า”10

พิจารณาตัวอย่างนี้: บราเดอร์อีแวนส์11ประหลาดใจเมื่อเขาได้รับการกระตุ้นเตือนให้หยุดรถไปเคาะประตูบ้านที่ไม่รู้จักของครอบครัวที่ไม่รู้จัก เมื่อแม่ม่ายที่มีลูกมากกว่า 10 คนเปิดประตูออกมา เขาเห็นชัดทันทีถึงสภาวการณ์ที่ยากลำบากและความขัดสนมากมายของพวกเขา เรื่องแรกเป็นเรื่องง่ายๆ คือสีทาบ้าน ตามด้วยการปฏิบัติศาสนกิจทางโลกและทางวิญญาณกับครอบครัวนี้เป็นเวลาหลายปี

ภายหลังคุณแม่ผู้สำนึกคุณคนนี้เขียนถึงเพื่อนที่สวรรค์ส่งมาของเธอว่า: “คุณใช้ชีวิตของคุณเอื้อมออกมาหาคนที่เล็กน้อยที่สุดในบรรดาพวกเรา ฉันอยากได้ยินสิ่งที่พระเจ้าจะตรัสกับคุณเมื่อพระองค์ทรงชื่นชมความดีที่คุณทำให้ผู้คนทั้งด้านการเงินและด้านจิตวิญญาณ ทั้งๆ ที่มีแต่คุณกับพระองค์เท่านั้นที่รู้ ขอบคุณที่เป็นพรให้เราในหลายๆ ด้าน … และสำหรับผู้สอนศาสนาที่คุณส่งมา … ฉันมักจะสงสัยว่าพระเจ้าทรงเลือกคุณเป็นพิเศษหรือเปล่า หรือคุณเพียงเป็นคนนั้นที่ฟังพระองค์”

การรักเพื่อนบ้านของท่านรวมถึงการกระทำเยี่ยงพระคริสต์อันแสดงถึงความเมตตาและการรับใช้ ท่านจะปล่อยวางความแค้นเคือง ให้อภัยศัตรู ต้อนรับและรับใช้เพื่อนบ้าน และช่วยเหลือผู้สูงวัยได้ไหม? ท่านแต่ละคนจะได้รับการดลใจเมื่อท่านสร้างหอคอยแห่งความรักเพื่อนบ้าน

ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันสอนว่า: “การให้ความช่วยเหลือผู้อื่น—พยายามห่วงใยผู้อื่นอย่างจริงจัง มากกว่า หรือเท่ากับห่วงใยตนเอง—คือปีติของเรา … โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาที่เราไม่สะดวกและต้องออกจากมุมสบาย การดำเนินชีวิต ตามพระบัญญัติข้อสำคัญข้อสองคือ กุญแจ ไขไปสู่การเป็นสานุศิษย์ที่แท้จริงของพระเยซูคริสต์”12

การพึ่งพากัน

พระเยซูทรงสอนต่อไปว่า “ธรรมบัญญัติและคำของผู้เผยพระวจนะทั้งหมด ก็ขึ้นอยู่กับพระบัญญัติสองข้อนี้”13 คำสอนนี้ให้ความรู้มาก มีการพึ่งพากันที่สำคัญระหว่างการรักพระเจ้ากับการรักกันและกัน เพื่อให้สะพานโกลเดนเกตทำงานตามที่ออกแบบมา หอคอยสองข้างต้องแข็งแรงเท่าเทียมกันและมีพลังเท่ากันในการแบกรับน้ำหนักของสายแขวนสะพาน ถนน และการจราจรที่ข้ามสะพาน หากไม่มีสมมาตรทางวิศวกรรมเช่นนี้ สะพานก็อาจเป็นอันตราย แม้นำไปสู่การพังทลายได้ การที่สะพานแขวนแห่งใดก็ตามจะทำหน้าที่ตามที่ถูกสร้างขึ้นมา หอคอยของมันต้องทำงานร่วมกันสอดประสานกันอย่างกลมกลืน เช่นเดียวกัน ความสามารถของเราที่จะติดตามพระเยซูคริสต์ก็ขึ้นอยู่กับความเข้มแข็งและพลังของเราที่จะดำเนินชีวิตตามพระบัญญัติข้อแรกและข้อสองอย่างสมดุลและอุทิศตนให้ทั้งสองข้ออย่างเท่าเทียมกัน

ภาพ
สะพานโกลเดนเกต

แต่ความขัดแย้งที่กำลังเพิ่มขึ้นในโลกบ่งบอกว่าบางครั้งเราล้มเหลวที่จะมองเห็นหรือจดจำสิ่งนี้ บางคนมุ่งสนใจแต่การรักษาพระบัญญัติจนไม่ค่อยทนต่อคนที่พวกเขาเห็นว่าชอบธรรมน้อยกว่า บางคนพบว่าเป็นเรื่องยากที่จะรักคนที่เลือกใช้ชีวิตนอกพันธสัญญาหรือแม้แต่ห่างไกลจากการมีส่วนร่วมใดๆ ทางศาสนา

อีกทางหนึ่ง มีคนที่เน้นความสำคัญของการรักผู้อื่นโดยไม่ยอมรับว่าเราทุกคนต้องรับผิดชอบต่อพระผู้เป็นเจ้า บางคนปฏิเสธอย่างสิ้นเชิงต่อแนวคิดที่ว่ามีความจริงอันเที่ยงแท้หรือมีถูกมีผิด และเชื่อว่าสิ่งเดียวที่เรียกร้องจากเราคือการมีขันติธรรมและยอมรับการเลือกของผู้อื่นในทุกเรื่อง ความไม่สมดุลทั้งสองด้านนี้อาจทำให้สะพานทางวิญญาณของท่านคว่ำหรือพังลงมา

ประธานดัลลิน เอช. โอ๊คส์อธิบายไว้เมื่อท่านกล่าวว่า: “เราได้รับบัญชาให้รักทุกคน เพราะอุปมาของพระเยซูเรื่องชาวสะมาเรียใจดีสอนว่าทุกคนคือเพื่อนบ้านของเรา แต่ความขยันขันแข็งที่จะรักษาพระบัญญัติข้อสองต้องไม่ทำให้เราลืมข้อแรก นั่นคือการรักพระผู้เป็นเจ้าสุดจิตสุดใจและสุดความคิดของเรา”14

บทสรุป

คำถามสำหรับเราทุกคนคือ เราจะสร้างสะพานแห่งศรัทธาและการอุทิศตนของเราเอง—สร้างหอคอยสะพานสูงของทั้งการรักพระผู้เป็นเจ้าและการรักเพื่อนบ้านของเราอย่างไร? เราเพียงแค่เริ่ม ความพยายามแรกเริ่มของเราอาจดูเหมือนเป็นเพียงแผนงานบนกระดาษเช็ดมือหรือเป็นพิมพ์เขียวระยะแรกของสะพานที่เราหวังจะสร้าง อาจมีเป้าหมายที่ทำได้จริงสองสามอย่างเพื่อให้เข้าใจพระกิตติคุณของพระเจ้ามากขึ้นหรือเพื่อให้คำปฏิญาณว่าจะตัดสินผู้อื่นน้อยลง ไม่มีใครเด็กเกินไปหรือแก่เกินไปที่จะเริ่ม

ภาพ
แบบร่างสะพาน

เมื่อเวลาผ่านไป ด้วยการวางแผนที่ไตร่ตรองร่วมกับการสวดอ้อนวอน แนวคิดคร่าวๆ ก็จะเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง การกระทำใหม่ๆ กลายเป็นนิสัย แบบร่างฉบับแรกๆ กลายเป็นพิมพ์เขียวที่แก้มาอย่างดี เราสร้างสะพานทางวิญญาณส่วนตัวด้วยใจและความนึกคิดที่อุทิศต่อพระบิดาบนสวรรค์และพระบุตรองค์เดียวที่ถือกำเนิดของพระองค์ รวมทั้งพี่น้องชายหญิงที่เราทำงานด้วย เล่นด้วย และใช้ชีวิตด้วย

ในวันข้างหน้า เมื่อท่านข้ามสะพานแขวนอันสง่างามหรือแม้เห็นภาพสะพานที่มีหอคอยสูงตระหง่าน ข้าพเจ้าขอเชื้อเชิญให้ท่านจดจำพระบัญญัติสำคัญสองข้อที่พระเยซูคริสต์ทรงบรรยายไว้ในพันธสัญญาใหม่ ขอให้พระบัญชานั้นของพระเจ้าเป็นแรงบันดาลใจให้เรา ขอให้ใจและความนึกคิดของเรายกขึ้นสู่เบื้องบนเพื่อรักพระเจ้า และหันออกไปเพื่อรักเพื่อนบ้าน

ขอให้สิ่งนี้เสริมสร้างศรัทธาของเราในพระเยซูคริสต์และการชดใช้ของพระองค์ ซึ่งข้าพเจ้าเป็นพยานถึงในพระนามของของพระเยซูคริสต์ เอเมน

อ้างอิง

  1. “ในพันธสัญญาใหม่ [คำว่า ผู้เชี่ยวชาญบัญญัติ] เทียบเท่ากับ ธรรมาจารย์ คนที่เป็นผู้ศึกษาและผู้สอนกฎบัญญัติโดยอาชีพ รวมถึงกฎที่เขียนไว้ในเบญจบรรณ และ ‘ประเพณีของผู้อาวุโส’ ด้วย (มัทธิว 22:35; มาระโก 12:28; ลูกา 10:25)” (Bible Dictionary, “Lawyer”)

  2. ในสมัยโบราณ นักวิชาการชาวยิวนับพระบัญญัติได้ 613 ข้อในโทราห์ และถกเถียงกันอย่างแข็งขันถึงความสำคัญโดยเทียบเคียงข้อหนึ่งกับอีกข้อหนึ่ง บางทีผู้เชี่ยวชาญบัญญัติอาจตั้งใจใช้คำตอบของพระเยซูต่อต้านพระองค์ ถ้าพระองค์ตรัสว่าพระบัญญัติข้อหนึ่งสำคัญที่สุด อาจเปิดช่องว่างให้กล่าวหาพระเยซูว่าทรงเพิกเฉยต่อกฎบัญญัติด้านอื่น แต่คำตอบของพระผู้ช่วยให้รอดสยบเสียงผู้ที่มาล่อให้พระองค์ติดกับ ด้วยคำแถลงอันเป็นรากฐาน ซึ่งทุกวันนี้เป็นพื้นฐานของทุกสิ่งที่เราทำในศาสนจักร

  3. มัทธิว 22:36–40

  4. ดู หลักคำสอนและพันธสัญญา 88:15

  5. ยอห์น 14:15

  6. มีการเปลี่ยนชื่อทั้งสองชื่อในเรื่องนี้เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัว

  7. โมไซยาห์ 2:41

  8. มัทธิว 22:39

  9. 2 นีไฟ 26:33

  10. หลักคำสอนและพันธสัญญา 81:5

  11. เปลี่ยนชื่อเพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัว

  12. รัสเซลล์ เอ็ม. เนลสัน, “พระบัญญัติข้อสำคัญข้อสอง,” เลียโฮนา, พ.ย. 2019, 100.

  13. มัทธิว 22:40

  14. ดัลลิน เอช. โอ๊คส์, “พระบัญญัติสำคัญ สองข้อ,” เลียโฮนา, พ.ย. 2019, 73–74.