เดชานุภาพการปลอบโยนของพระคริสต์
ภาพประกอบโดย อัลเล็น การ์นส์
หลายปีก่อนโจเซฟเพื่อนของผมวางแผนขับรถจากยูทาห์ไปวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา เขาชวนผมเดินทางไปด้วย ระหว่างทางเราแวะชมสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของศาสนจักรหลายแห่ง และเมื่อเรามาถึงอีสต์โคสต์ เราขับไปนิวยอร์กซิตี
เราอยู่ที่นั่นหลังเกิดโศกนาฏกรรมวันที่ 11 กันยายน 2001 ได้เพียงสองสัปดาห์ เรารู้สึกแรงกล้าว่าควรแวะชมสถานที่ซึ่งอาคารคู่แฝดถูกทำลาย
เราเห็นทหารคนหนึ่งโบกมือให้คนที่ผ่านไปมาตามถนนขณะพวกเขามองดูซากปรักหักพัง เขายื่นกระดาษให้คนเหล่านั้นเช็ดน้ำตา
ผมกับโจเซฟรู้สึกได้ว่าเหตุการณ์เหล่านี้ทำให้ทุกคนเจ็บปวดมาก และเราต้องการทำบางอย่าง เราตัดสินใจว่าสิ่งดีที่สุดที่เราทำได้คือพูดคุยกับผู้คน ฟังเรื่องราวของพวกเขา และอาจจะแบ่งปันข่าวสารเกี่ยวกับความหวังของพระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟูของพระเยซูคริสต์กับพวกเขา
ระหว่างทางกลับโรงแรม เราเดินทางด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน ผู้หญิงคนหนึ่งกำลังนั่งอ่านหนังสือตรงข้ามกับผม ผมสงสัยว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นในชีวิตเธอ ผมแนะนำตัวและบอกเธอว่าเรามาเที่ยวนิวยอร์ก ผมพูดว่าเราอยากรู้ประสบการณ์ของเธอกับเหตุการณ์เร็วๆ นี้เมื่อวันที่ 11 กันยายน
เธอชื่อมาเรีย และอยู่ในนิวยอร์กซิตี้หลายสิบปี เธอทำงานในตึกห่างจากอาคารเหล่านั้นไม่กี่ช่วงถนน เธอบอกเราว่าไม่กี่สัปดาห์ก่อนวันที่ 11 กันยายน เธอได้รับความรู้สึกแรงกล้าว่าควรสวดอ้อนวอนและทูลถามว่าพระผู้เป็นเจ้ามีจริงหรือไม่ เธอกล่าวว่าเธอไม่เคยสวดอ้อนวอนมากขนาดนั้นมาก่อนในชีวิตและไม่เคยรู้สึกว่าต้องสวดอ้อนวอน เธอรู้สึกว่าไม่ได้รับคำตอบการสวดอ้อนวอนจนกระทั่งผู้ก่อการร้ายโจมตีอาคารคู่แฝดตอนเช้าวันหายนะนั้น ความสับสนอลหม่านเกิดขึ้นรอบตัวเธอ แต่เธอรู้สึกสงบขึ้นมาทันที มาเรียบอกเราว่าเธอรู้สึกถึงสันติสุขอย่างไม่น่าเชื่อและแม้จะเกิดการทำลายล้างซึ่งอธิบายไม่ได้ในขณะนั้น แต่เธอรู้สึกว่าพระผู้เป็นเจ้าทรงอยู่ดูแลเธอที่นั่น
หลังจากมาเรียเล่าเรื่องนี้กับเรา ผมกับโจเซฟบอกเธอว่าเธอได้รู้สึกถึงพระวิญญาณของพระบิดาบนสวรรค์ของเธอในรูปแบบของสันติสุขที่พิเศษและความอบอุ่นใจ เราบอกเธอว่าเธอจะรู้สึกถึงสันติสุขนั้นได้เสมอเมื่อเธอแสวงหาพระองค์ในการสวดอ้อนวอนและค้นคว้าพระคัมภีร์มอรมอน เราให้พระคัมภีร์มอรมอนเธอเล่มหนึ่งและบอกว่าพระคัมภีร์เล่มนี้จะทำให้เธอเกิดสันติสุขที่เธอแสวงหาอย่างต่อเนื่อง เธอมีความสุขมากที่ได้รับและขอบคุณเรา
ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรต่อจากนั้นในเรื่องราวของมาเรียเพราะผมกับโจเซฟต้องลงที่สถานีของเราแต่ผมรู้ว่าพระบิดาบนสวรรค์ทรงรักบุตรและธิดาแต่ละคนของพระองค์ ผมรู้ว่าพระองค์ทรงอยู่ในรายละเอียดของชีวิตเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเหตุการณ์รอบข้างเราดูเหมือนไม่ปกติ พระองค์สามารถประทานสันติสุขที่ไม่อาจพรรณนาได้ซึ่งมาจากพระวิญญาณของพระองค์ ผ่านเดชานุภาพของพระบุตรของพระองค์ พระเยซูคริสต์ แสงสว่างของพระคริสต์ส่องเจิดจ้าผ่านความหนาของการทดลองหรือเรื่องสลดใจทั้งหลายเพราะพระองค์ทรงเอาชนะมาแล้วทั้งหมด