การออกเดตอย่างมีแผนและจุดมุ่งหมาย

อาจจะน่าอึดอัดใจที่จะพูดออกมา แต่แนวคิดทั่วไปของการออกเดตในฐานะคนหนุ่มสาวคือ สิ่งนี้นำไปสู่การแต่งงาน—หรืออย่างน้อยเราก็หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น แล้วการแต่งงานระหว่างชายกับหญิงก็นําเราไปสู่การเป็นเหมือนพระบิดาพระมารดาบนสวรรค์ของเรามากขึ้น—การมีครอบครัวของเราเอง

ผมได้ยินคนหนุ่มสาวหลายคนพูดว่าแนวคิดเรื่องการแต่งงานเป็นเรื่องน่าหวาดกลัวเพราะพวกเขารู้จักหลายคนที่ชีวิตแต่งงานไม่มีความสุข ผมรู้ว่านี่เป็นความจริงที่น่าเศร้า แต่แทนที่เราจะมีเพียงความหวังให้ชีวิตแต่งงานยังคงอยู่ต่อไป เราสามารถวางแผนที่มีประสิทธิภาพเพื่อให้ชีวิตแต่งงานอยู่ต่อไปได้จริงๆ ยิ่งเราเข้าใจแผนแห่งความรอดมากเท่าไร เราจะยิ่งเข้าใจบทบาทของการแต่งงานในแผนมากเท่านั้น

ตามที่เอ็ลเดอร์แกรีย์ อี. สตีเวนสันแห่งโควรัมอัครสาวกสิบสองสอนไว้ว่า

“ซาตานเข้าใจว่าครอบครัวเป็นศูนย์กลางต่อแผนแห่งความสุขของพระเจ้า … เขาพยายามหว่านเมล็ดพันธุ์อันมืดมนแห่งความกลัวไว้ในใจท่าน ทุกอย่างที่ขัดขวางไม่ให้ท่านประสบส่วนอันรุ่งโรจน์และคุ้มค่าที่สุดของความเป็นมรรตัย นั่นคือ ความศักดิ์สิทธิ์และความสุขอันสดใสที่มาจากการพบคู่นิรันดร์และนำบุตรธิดาของพระบิดาบนสวรรค์มาสู่โลกนี้

“ขณะท่านเผชิญกับการตัดสินใจที่จะเริ่มมีครอบครัวนิรันดร์ของท่านเอง อย่ารอเพราะกลัว ขอให้จำพระคัมภีร์ที่ว่า ‘อย่าวิตกเลย จงเชื่อเท่านั้น’ [มาระโก 5:36] ชีวิตแต่งงานและครอบครัวของข้าพเจ้าคือ … การแสดงให้ประจักษ์ส่วนตัวอย่างแท้จริงถึงแผนอันสําคัญยิ่งแห่งความสุขสําหรับข้าพเจ้า ข้าพเจ้าสัญญากับท่านว่าสิ่งเดียวกันนี้จะเกิดขึ้นจริงกับท่านได้เช่นกัน การมุ่งความสนใจไปที่แสงสว่างอันเปี่ยมปีติในชีวิตครอบครัวจะขจัดความกลัวออกไป”¹

เพื่อจะมีแรงจูงใจในการออกเดต เราต้องมองว่าการแต่งงานเป็นมากกว่าพระบัญญัติ เราต้องน้อมรับความจริงว่าการแต่งงานสามารถเป็นได้และเป็นส่วนที่ยอดเยี่ยมและเปี่ยมปีติในแผนของพระบิดาบนสวรรค์ที่มีให้บุตรธิดาของพระองค์ การมีคู่ที่ท่านรักและครอบครัวที่ท่านทะนุถนอมนำไปสู่ปีติสูงสุดของความเป็นมรรตัยและนิรันดร หากไม่เป็นเช่นนั้น พระบิดาบนสวรรค์จะไม่ทรงนำเราไปตามเส้นทางนั้น ประธานรัสเซลล์ เอ็ม. เนลสันสอนว่า “ถ้อยแถลงเรื่องครอบครัวช่วยให้เราตระหนักว่าการแต่งงานซีเลสเชียลนำความสุขมาให้มากกว่าความสัมพันธ์แบบอื่น”²

ประธานสเป็นเซอร์ ดับเบิลยู. คิมบัลล์ (1895–1985) เคยสอนว่าในการแต่งงานอย่างถูกต้องเราต้องออกเดตอย่างถูกต้อง³ ดูเหมือนพูดง่ายกว่าทํา ประธานโธมัส เอส. มอนสัน (1927–2018) ให้คําแนะนําที่สําคัญยิ่งแก่คนหนุ่มของศาสนจักรเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า “หาใครสักคนที่เข้ากันได้”⁴

สั้นและเรียบง่าย แต่ลึกซึ้งมาก

ว่าแต่เราจะหาใครสักคนได้อย่างไร? และเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเราเข้ากันได้ดี?

เกือบทุกคน การหาใครสักคนจำเป็นต้องมีการออกเดต การออกเดตนั้นควรมีจุดประสงค์และมีความหมาย ตามหลักการแล้ว จะเป็นการออกเดตประเภทที่ช่วยเราทดสอบว่าเข้ากันได้หรือไม่ การออกเดตยังเปิดโอกาสให้เราเรียนรู้ทักษะ—ใช่แล้ว ทักษะ—ในการสร้างความสัมพันธ์ที่มีความหมาย

ประการแรก ความท้าทายใหญ่ที่สุดคือ การหาคู่เดต ทั้งบทความอาจเน้นไปที่หัวข้อนี้โดยเฉพาะก็ได้ แต่ผมขอแนะนำคำง่ายๆ เจ็ดคำ “ออกไปข้างนอกให้มากขึ้น” สําหรับใครก็ตามที่ต้องการออกเดตมากขึ้นและทําความรู้จักผู้คนมากขึ้น ผมแนะนําให้มีส่วนร่วมและออกไปข้างนอก อาจต้องใช้ความพยายามพอสมควรในการหาสถานที่กับคนประเภทเดียวกับท่าน แต่จะคุ้มค่ากับการลงแรงแน่นอน

หนึ่งในตัวชี้วัดดีที่สุดของความเข้ากันได้ระหว่างคู่แต่งงานคือมีความสนใจที่คล้ายคลึงกัน เมื่อท่านไปทำกิจกรรมและสถานที่ซึ่งท่านสนใจ ท่านจะพบกับคนอื่นๆ ที่มีความสนใจเหมือนกับท่าน จำไว้เสมอว่าการจะพบใครสักคนจำเป็นต้องออกไปเจอใครสักคนก่อน

ลองนึกถึงการออกเดตเพื่อทดสอบความเข้ากันได้ให้เป็นกระบวนการสองขั้นตอน หนึ่ง เมื่อท่านเริ่มออกเดต พยายามออกเดตกับคนที่หลากหลาย การทําความรู้จักบุคลิกภาพที่หลากหลายจะช่วยให้ท่านเรียนรู้ว่าคนประเภทใดที่เข้ากันได้ดีและสิ่งที่ควรมองหาในคู่ครอง นี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่ศาสดาพยากรณ์แนะนําให้วัยรุ่นหลีกเลี่ยงความสัมพันธ์แบบพิเศษจนกว่าพวกเขาโตขึ้นและ “สร้างมิตรภาพที่ดีกับคนมากมาย”⁵แทน

การออกเดตกับคนที่หลากหลายเป็นเรื่องท้าทาย ใช่ว่าทุกคนจะมีโอกาสหรือทางเลือกในการไปออกเดตหลายครั้งแบบเริ่มทำความรู้จักกัน และยังมีอันตรายจากการหมกมุ่นมากเกินไปกับการหาคู่ที่สมบูรณ์แบบซึ่งหายาก

โชคดีที่ท่านไม่จำเป็นต้องออกเดต “อย่างเป็นทางการ” หลายครั้งเพื่อเรียนรู้อะไรมากมาย พวกเราส่วนใหญ่มีโอกาสที่จะมีปฏิสัมพันธ์กับชายและหญิงที่หลากหลายทุกวัน หากเราฉลาด เราสามารถใช้ความสัมพันธ์เหล่านั้นระบุคุณสมบัติที่ต้องการมองหาในคู่สมรสได้

สอง เมื่อท่านเริ่มออกเดตกับใครสักคนอย่างจริงจังมากขึ้น ขอให้ออกเดตที่หลากหลาย บ่อยครั้งเกินไปที่ผมเห็นคู่รักใช้เวลาทั้งหมดในการออกเดตไปกับการนั่งบนโซฟาดูรายการทีวีที่ชื่นชอบ และมาบ่นในภายหลังว่าคู่สมรสไม่ได้เป็นคนอย่างที่พวกเขาคิด

เพื่อสอนคุณค่าของการออกเดตในหลากหลายวิธี ผมให้ชั้นเรียนสถาบันดูภาพหนึ่งที่เหมือนจะเป็นชิ้นส่วนจิ๊กซอว์ที่ต่อได้ครึ่งหน้าของภรรยาผม เมื่อผมถามว่าเกี่ยวข้องกับการออกเดตอย่างไร คำตอบมักจะเป็น “คุณกำลังต่อภาพภรรยา” อย่างไรก็ตาม หากมองให้ดี ท่านจะเห็นว่าผมถอดชิ้นส่วนจิ๊กซอว์ออกเพื่อเผยให้เห็นภาพทั้งหมดของเธอที่อยู่ด้านล่าง ชิ้นส่วนจิ๊กซอว์แต่ละชิ้นแสดงถึงปฏิสัมพันธ์ (หรือการออกเดต) ที่เปิดเผยบางอย่างเกี่ยวกับบุคลิกภาพของภรรยาผม

ปฏิสัมพันธ์ที่หลากหลายจะเผยให้เห็นคุณสมบัติต่างๆ เกี่ยวกับเธอ ถ้าผมต้องการเรียนรู้เกี่ยวกับความเข้มแข็งทางวิญญาณของเธอ เราควรทำบางอย่างร่วมกันที่เป็นเรื่องทางวิญญาณ ในทํานองเดียวกัน ถ้าผมอยากรู้ว่าเธอเข้ากับเด็กๆ ได้หรือไม่ เราอาจต้องการไปเที่ยวกับเด็กๆ

ในช่วงการออกเดตเพื่อค้นหาความเข้ากันได้ ขอให้จําไว้ว่าการออกเดตสามารถเป็นและควรเป็นเรื่องที่น่าสนุก การออกเดตเป็นโอกาสพบปะผู้คนใหม่ๆ สร้างมิตรภาพ และออกไปทำอะไรบางอย่าง! การออกเดตครั้งแรกไม่จําเป็นต้องเป็นการทดสอบชี้ขาดที่จะทําหรือยุติการพบกันอีกในอนาคต แม้จะไม่พบคู่ครอง แต่อย่างน้อยท่านก็ได้พบเพื่อนใหม่

เราทุกคนควรมุ่งสู่การแต่งงานนิรันดร์ แต่การเครียดมากเกินไปเกี่ยวกับการออกเดตและการแต่งงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการวัดคุณค่าในตนเองจากความสำเร็จในการออกเดต จะทำให้ท่านเศร้าหมองอย่างแน่นอน การหาคู่ครองที่เข้ากันได้และการทำให้ชีวิตสมรสมีความสุขอาจเป็นการเดินทางที่สวยงามและเปี่ยมด้วยศรัทธา

มีสันติสุขใหญ่หลวงที่รู้ว่าเราจะได้รับพรด้วยทุกสิ่งที่เราจำเป็นต้องมีเพื่อความสุขและความก้าวหน้าขณะที่เรามุ่งไปที่พันธสัญญาของเรา จุดประสงค์ และคําสัญญาของพระบิดาบนสวรรค์ผู้ทรงรักเรา