สิ่งช่วยศึกษา
พระคัมภีร์ไบเบิล


พระคัมภีร์ไบเบิล

รวมงานเขียนของชาวฮีบรูและชาวคริสต์ซึ่งประกอบด้วยการเปิดเผยจากสวรรค์. คำว่า ไบเบิล หมายถึง “หนังสือ.” พระคัมภีร์ไบเบิลเป็นงานของศาสดาพยากรณ์และผู้เขียนที่ได้รับการดลใจหลายคนซึ่งกระทำภายใต้อิทธิพลของพระวิญญาณบริสุทธิ์ (๒ ปต. ๑:๒๑).

พระคัมภีร์ไบเบิลของชาวคริสต์มีสองภาค, รู้จักกันโดยทั่วไปว่าภาคพันธสัญญาเดิมและภาคพันธสัญญาใหม่. ภาคพันธสัญญาเดิมประกอบด้วยบรรดาหนังสือพระคัมภีร์ซึ่งใช้ในหมู่ชาวยิวปาเลสไตน์ระหว่างการปฏิบัติศาสนกิจของพระเจ้าขณะทรงเป็นมรรตัย. ภาคพันธสัญญาใหม่ประกอบด้วยงานเขียนในยุคสมัยของอัครสาวกและถือว่ามีความศักดิ์สิทธิ์และสิทธิอำนาจเดียวกันกับพระคัมภีร์ชาวยิว. หนังสือต่าง ๆ ของภาคพันธสัญญาเดิมนำมาจากวรรณกรรมของชาติซึ่งครอบคลุมหลายศตวรรษและเขียนในภาษาฮีบรูเกือบทั้งหมด, ในขณะที่หนังสือต่าง ๆ ของภาคพันธสัญญาใหม่เป็นงานของคนรุ่นเดียวและส่วนใหญ่เขียนในภาษากรีก.

พันธสัญญาเดิมคือกฎที่ประทานแก่โมเสสเมื่ออิสราเอลปฏิเสธความสมบูรณ์แห่งพระกิตติคุณซึ่งผู้คนของพระผู้เป็นเจ้ามีอยู่นับแต่กาลเริ่มต้นของความเป็นมรรตัย. พันธสัญญาใหม่คือพระกิตติคุณดังที่พระเยซูคริสต์ทรงสอนไว้.

ในพระคัมภีร์ไบเบิลของชาวฮีบรู (ภาคพันธสัญญาเดิม) หนังสือต่าง ๆ แบ่งออกเป็นสามหมวด : กฎ, ศาสดาพยากรณ์, และงานเขียน. พระคัมภีร์ไบเบิลที่โลกของชาวคริสต์ใช้แบ่งหมวดหมู่หนังสือต่าง ๆ ตามเนื้อเรื่อง, เช่น ทางประวัติศาสตร์, บทกวี, และการพยากรณ์.

หนังสือต่าง ๆ ในภาคพันธสัญญาใหม่โดยทั่วไปเรียงตามลำดับนี้ : พระกิตติคุณสี่เล่มและกิจการ; สาส์นของเปาโล; สาส์นทั่วไปของยากอบ, เปโตร, ยอห์น, และยูดา; และวิวรณ์ซึ่งทรงสำแดงแก่ยอห์น.

ศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้ายให้ความคารวะและความเคารพต่อพระคัมภีร์ไบเบิลและยืนยันอีกด้วยว่าพระเจ้าประทานการเปิดเผยเพิ่มเติมผ่านศาสดาพยากรณ์ของพระองค์ต่อไปในยุคสุดท้ายซึ่งสนับสนุนและยืนยันความถูกต้องของเรื่องราวในพระคัมภีร์ไบเบิลเกี่ยวกับการติดต่อสื่อสารของพระผู้เป็นเจ้ากับมนุษยชาติ.