การสอนพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ (ตอน 1)

เพื่อช่วยให้นักเรียนเตรียมเรียนรู้จากบทเรียน ให้เขียนคำถามนี้ไว้บนกระดานก่อนชั้นเรียนเริ่ม

หลังจากชั้นเรียนเริ่ม ให้เชิญนักเรียนสองสามคนตอบคำถามบนกระดาน หลังจากนักเรียนสองสามคนตอบแล้ว ให้นักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียงข้อความในกรอบสี่เหลี่ยมชื่อว่า “บาป” ในหน้า 61 ของ สั่งสอนกิตติคุณของเรา จากนั้นให้ถามว่า

• เหตุใดจึงสำคัญที่ผู้สนใจต้องเข้าใจว่าบาปคืออะไรและผลของบาปคืออะไรก่อนเรียนเกี่ยวกับพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์

เขียนคำถามต่อไปนี้ไว้บนกระดาน และเชื้อเชิญให้นักเรียนมองหาคำตอบขณะพวกเขาศึกษาหัวข้อ “เราสะอาดจากบาปได้โดยผ่านพระคริสต์” หน้า 60-61 ใน สั่งสอนกิตติคุณของเรา

หลังจากให้เวลานักเรียนอ่านพอสมควรแล้ว ให้นักเรียนแบ่งปันสิ่งที่พบ คำตอบของพวกเขาควรรวมถึงความจริงต่อไปนี้:

• พระผู้เป็นเจ้าทรงส่งพระบุตรที่รักของพระองค์พระเยซูคริสต์มาในโลกเพื่อให้เราได้มีโอกาสกลับไปอยู่ในที่ประทับของพระองค์หลังจากเราสิ้นชีวิต

• โดยผ่านพระคุณและพระเมตตาของพระผู้ช่วยให้รอดเท่านั้นที่เราสามารถสะอาดจากบาปได้

• โดยผ่านการชดใช้และการฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซูคริสต์ พระองค์จะทรงนำคนทั้งปวงกลับเข้าไปในที่ประทับของพระผู้เป็นเจ้าเพื่อรับการพิพากษา

• ไม่มีสิ่งไม่สะอาดเข้าในที่ประทับของพระผู้เป็นเจ้าได้

• พระเยซูคริสต์ทรงทนรับโทษบาปแทนเรา

• พระเยซูคริสต์ทรงให้อภัยบาปของเราเมื่อเรายอมรับพระองค์ กลับใจ และเชื่อฟังพระบัญญัติของพระองค์

ต่อจากนั้น ให้เวลานักเรียนสองสามนาทีเพื่อศึกษาหรือทำเครื่องหมายพระคัมภีร์หลายๆ ข้อที่ระบุไว้ในย่อหน้าที่พวกเขาเพิ่งอ่านหรือในกรอบ ศึกษาพระคัมภีร์ หน้า 61 ซึ่งยกตัวอย่างหลักธรรมหนึ่งที่พวกเขาเพิ่งค้นพบ ท่านอาจจะให้นักเรียนครึ่งชั้นเลือกข้อพระคัมภีร์ในย่อหน้าที่พวกเขาเพิ่งอ่านและอีกครึ่งชั้นเลือกข้อพระคัมภีร์ในกรอบศึกษาพระคัมภีร์ ขอให้นักเรียนเตรียมอธิบายว่าพวกเขาจะใช้ข้อพระคัมภีร์เหล่านั้นหนึ่งข้อหรือมากกว่านั้นช่วยให้ผู้สนใจเข้าใจและเห็นคุณค่าสิ่งที่พระบิดาบนสวรรค์และพระบุตรของพระองค์พระเยซูคริสต์ทรงทำเพื่อช่วยให้เราเอาชนะผลของบาปได้อย่างไร หลังจากให้เวลาพอสมควรแล้ว เชื้อเชิญให้นักศึกษาแบ่งปันสิ่งที่พวกเขาเรียนรู้

ทบทวนคำแถลงจุดประสงค์ของผู้สอนศาสนากับนักเรียนในกรอบ “จุดประสงค์ของท่าน” หน้า 1 ของ สั่งสอนกิตติคุณของเรา จากนั้นให้ถามว่า

• อะไรคือความแตกต่างระหว่าง (1) การช่วยให้คนบางคน “มาหาพระคริสต์” และเปลี่ยนใจเลื่อมใสพระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟูของพระองค์ กับ (2) การเพียงแต่ช่วยคนบางคนให้เป็นสมาชิกของศาสนจักร

• เหตุใดจึงสำคัญที่ผู้สอนศาสนาจะช่วยให้ผู้คนมาหาพระคริสต์มากกว่าจะช่วยให้พวกเขาเป็นสมาชิกของศาสนจักร

เชื้อเชิญให้นักเรียนศึกษาย่อหน้าแรกในหัวข้อ “ศรัทธาในพระเยซูคริสต์” หน้า 61 ของ สั่งสอนกิตติคุณของเรา ขณะที่นักเรียนศึกษา ให้พวกเขามองหาวิธีที่ศรัทธาในพระเยซูคริสต์สามารถช่วยให้คนๆ หนึ่งเปลี่ยนใจเลื่อมใสพระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟูของพระองค์ จากนั้นให้ถามว่า

• จากสิ่งที่ท่านอ่าน การมีศรัทธาในพระเยซูคริสต์หมายความว่าอย่างไร

• ศรัทธาในพระเยซูคริสต์นำคนบางคนให้เปลี่ยนใจเลื่อมใสพระกิตติคุณที่ได้รับการฟื้นฟูของพระองค์อย่างไร

เขียนบนกระดานดังนี้ ศรัทธาในพระเยซูคริสต์นำไปสู่การกระทำ เชื้อเชิญให้นักเรียนอ่านส่วนที่เหลือของหัวข้อ “ศรัทธาในพระเยซูคริสต์” หน้า 61–62 ของ สั่งสอนกิตติคุณของเรา ขณะที่นักเรียนอ่าน ให้พวกเขาทำเครื่องหมายการกระทำบางอย่างที่แสดงให้เห็นศรัทธาของคนๆ หนึ่งในพระเยซูคริสต์และการชดใช้ของพระองค์ หลังจากนั้นสองสามนาที ให้ถามว่า

• การกระทำอะไรบ้างที่อาจแสดงให้เห็นว่าผู้สนใจกำลังพัฒนาศรัทธาในพระเยซูคริสต์ (คำตอบอาจรวมถึงการกลับใจ เรียนรู้และเป็นเหมือนพระผู้ช่วยให้รอด เชื่อฟังพระบัญญัติ หลีกเลี่ยงบาป สวดอ้อนวอนขอให้มีพลังเอาชนะการล่อลวง เรียนรู้พระวจนะของพระผู้เป็นเจ้า และรักษาคำมั่นสัญญาว่าจะทำตามหลักธรรมพระกิตติคุณ)

• ตามที่ท่านอ่าน เมื่อเราใช้ศรัทธาในพระเยซูคริสต์ พระองค์จะประทานพรเราในชีวิตประจำวันของเราอย่างไร (คำตอบอาจได้แก่ พระองค์ประทานพลังความสามารถให้เราเผชิญความท้าทายของชีวิต พระองค์ทรงช่วยเราเปลี่ยนความปรารถนาของใจเรา พระองค์ทรงช่วยเยียวยาเราทางร่างกายและทางวิญญาณ)

ให้นักเรียนเขียนคำตอบของคำถามต่อไปนี้ลงในสมุดบันทึกการศึกษาของพวกเขา

• ศรัทธาของท่านในพระเยซูคริสต์ผลักดันให้ท่านกระทำอย่างที่อธิบายไว้ในหัวข้อนี้อย่างไร

• ท่านจะทำอะไรได้อีกบ้างเพื่อแสดงให้เห็นมากขึ้นว่าท่านมีศรัทธาในพระเยซูคริสต์

แบ่งนักเรียนออกเป็นคู่ๆ เชื้อเชิญให้แต่ละคู่เตรียมบทเรียนสองสามนาทีเกี่ยวกับศรัทธาในพระเยซูคริสต์ ขณะที่นักเรียนเตรียม ให้พวกเขาใช้เนื้อหาใน สั่งสอนกิตติคุณของเรา หน้า 61-62รวมทั้งพระคัมภีร์หนึ่งหรือสองข้อจากกรอบ ศึกษาพระคัมภีร์ นักเรียนอาจจะใช้จุลสารผู้สอนศาสนาชื่อ พระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ด้วยก็ได้ หลังจากให้เวลานักเรียนเตรียมพอสมควรแล้ว ให้จัดนักเรียนเป็นกลุ่มๆ ละสี่คน (กลุ่มละสองคู่) มอบหมายให้นักเรียนคู่หนึ่งสอนอีกคู่หนึ่ง อธิบายว่าพวกเขาควรใช้คำพูดของตนเอง และสอนให้ชัดเจนเข้าใจง่าย

เมื่อนักเรียนสอนเสร็จแล้ว ให้กลุ่มเล็กๆ สนทนากันว่าพวกเขาทำอะไรได้ดี พวกเขารู้สึกว่าอะไรเป็นความท้าทายเและเพราะเหตุใด การสอนของพวกเขาช่วยคนที่รับการสอนให้รู้สึกถึงความสำคัญของการมีศรัทธาในพระเยซูคริสต์อย่างไร

จากนั้นให้สลับบทบาทและให้อีกคู่สอน ให้เวลาพวกเขารับคำติชมด้วย

เมื่อจบกิจกรรมการฝึกสอนแล้ว ถามนักเรียนว่าพวกเขามีคำถามอะไรบ้างหรือพวกเขาได้ข้อคิดอะไรบ้าง ถ้านักเรียนลังเลไม่กล้าตอบ ท่านอาจจะถามว่า “ท่านชอบสิ่งใดบ้างที่ได้ยินจากคนที่สอนท่าน” ถามนักเรียนว่าใครต้องการแบ่งปันประสบการณ์จากชีวิตของพวกเขากับชั้นเรียนบ้างเมื่อพวกเขาได้รับพรจากการมีศรัทธาในพระเยซูคริสต์

ให้ดูภาพ แอลมากับพวกบุตรของโมไซยาห์ (ดู หนังสือภาพพระกิตติคุณ หน้า 77) และเชิญนักเรียนคนหนึ่งสรุปเรื่องราวการเปลี่ยนใจเลื่อมใสของแอลมาผู้บุตรพอสังเขป (ดู แอลมา 36:6-24) จากนั้นให้นักเรียนสองสามคนผลัดกันอ่านออกเสียง แอลมา 36:13, 17-21 และ 23-25

ภาพ

เทพกับแอลมาและพวกบุตรของโมไซยาห์

จากนั้นให้ถามว่า

• แอลมาแสดงให้เห็นอย่างไรว่าท่านมีศรัทธาในพระเยซูคริสต์

• เกิดอะไรขึ้นเนื่องด้วยการแสดงศรัทธาของแอลมา

• อะไรเป็นผลจากการกลับใจอย่างจริงใจของแอลมา

ให้เวลานักเรียนหนึ่งนาทีเขียนนิยามการกลับใจหนึ่งประโยคลงในสมุดบันทึกการศึกษา เชิญนักเรียนหลายๆ คนอ่านประโยคของตนให้ชั้นเรียนฟัง เพื่อช่วยให้นักเรียนมีนิยามที่เรียบง่ายของการกลับใจอยู่ในความคิดของพวกเขา ให้ดูข้อความอ้างอิงต่อไปนี้จากเอ็ลเดอร์นีล แอล. แอนเดอร์เซ็นแห่งโควรัมอัครสาวกสิบสอง และขอให้นักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง

ภาพ

เอ็ลเดอร์นีล แอล. แอนเดอร์เซ็น

“เมื่อเราทำบาป เราหันหลังให้พระผู้เป็นเจ้า เมื่อเรากลับใจ เราหวนกลับไปหาพระผู้เป็นเจ้า …

“… การกลับใจคือการหันหลังให้ความทุจริต ความจองหอง ความโกรธ และความคิดที่ไม่บริสุทธิ์ โดยหันหน้าเข้าหาสิ่งอื่นเช่นความเมตตา ความไม่เห็นแก่ตัว ความอดทน และความเข้มแข็งทางวิญญาณ นี่คือ ‘การหวนกลับ’ ไปหาพระผู้เป็นเจ้า” (“จงกลับใจ … เพื่อเราจะรักษาเจ้า,”เลียโฮนา, พ.ย. 2009, 49, 50)

• นิยามที่เรียบง่ายนี้จะช่วยท่านอธิบายความหมายของการกลับใจได้อย่างไร (หลังจากนักเรียนตอบแล้ว ให้เขียนหลักธรรมนี้บนกระดาน: การกลับใจคือการหวนกลับไปหาพระผู้เป็นเจ้า)

เพื่อช่วยให้นักเรียนเข้าใจกระบวนการและผลของการกลับใจดีขึ้น ท่านอาจจะให้นักเรียนศึกษา โมไซยาห์ 3:19; 4:1–3; และ 5:2 ขณะที่นักเรียนศึกษา ให้พวกเขาระบุคำและวลีที่ช่วยนิยามความหมายของการกลับใจ หลังจากให้เวลาพอสมควรแล้ว ให้นักเรียนสองสามคนอธิบายสิ่งที่พบให้ชั้นเรียนฟัง จากนั้นให้ถามว่า

• ท่านเห็นหลักฐานอะไรในข้อเหล่านี้ที่ยืนยันว่าผู้คนของกษัตริย์เบ็นจามินใช้ศรัทธาในพระเยซูคริสต์เพื่อจะรับการให้อภัยบาปในท้ายที่สุด

แจกเอกสารที่มีตารางต่อไปนี้ หรือวาดบนกระดานและให้นักเรียนลอกลงในสมุดบันทึกการศึกษาของพวกเขา

ภาพ

การกลับใจ เอกสารแจก

ขอให้นักเรียนศึกษาหัวข้อเรื่อง “การกลับใจ” ในหน้า 62–63 ของ สั่งสอนกิตติคุณของเรา ขณะที่นักเรียนอ่าน ให้พวกเขาเติมคำในคอลัมน์ของแผนภูมิหรือเอกสารแจกโดยใช้คำ วลี หรือประโยคจาก สั่งสอนกิตติคุณของเรา เพื่อช่วยให้นักเรียนเห็นรูปแบบของวลีที่พวกเขาอาจจะรวมไว้ในนั้นได้ ให้ดูตัวอย่างในแต่ละคอลัมน์ เมื่อเขียนเสร็จแล้ว แผนภูมิอาจจะเป็นแบบนี้

หลังจากให้เวลานักเรียนทำแผนภูมิของพวกเขามากพอสมควรแล้ว ให้เชิญนักเรียนสนทนาวลีและคำที่พวกเขาเขียนไว้ในแผนภูมิกับสมาชิกชั้นเรียนอีกคนหนึ่ง ท่านอาจจะถามคำถามต่อไปนี้บางข้อหรือทั้งหมดเพื่อให้นักเรียนเข้าใจหลักคำสอนและหลักธรรมที่พวกเขาอ่านลึกซึ้งขึ้น

• หลักธรรมที่ท่านค้นพบในคอลัมน์ที่หนึ่งและสองจะช่วยให้ท่านรู้ได้อย่างไรว่าผู้สนใจกลับใจจริงๆ

• ตามสิ่งที่ท่านเขียนไว้ในคอลัมน์ที่สาม นอกจากจะได้รับการให้อภัยบาปแล้ว พรใดเกิดจากการกลับใจ

• พิจารณาแต่ละข้อในคอลัมน์ที่หนึ่งและคอลัมน์ที่สาม เหตุใดเราจึงต้องมีศรัทธาในพระคริสต์ถ้าสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นจริง

ขณะที่นักเรียนตอบ ท่านอาจชี้ให้เห็นว่าผู้สอนศาสนาสอนพระกิตติคุณเพื่อช่วยให้ผู้คนสร้างศรัทธาในพระเยซูคริสต์และกระตุ้นให้พวกเขากลับใจ ศรัทธาในพระเยซูคริสต์และการกลับใจเป็นเงื่อนไขสำหรับการเข้าถึงการชดใช้ การกลับใจจะช่วยให้ผู้สนใจเข้าใกล้พระบิดาบนสวรรค์และพระเยซูคริสต์มากขึ้นด้วย เพื่อเตรียมนักเรียนให้พร้อมฝึกสอนเรื่องการกลับใจ ให้เล่าเหตุการณ์ต่อไปนี้

ท่านกับคู่สอนสองคนที่เป็นเพื่อนร่วมห้องกันมาราวสามสัปดาห์ คนหนึ่งก้าวหน้าดีมาก อีกคนหนึ่งดูเหมือนจะไม่สนใจแล้วและตอนนี้จะออกนอกห้องเมื่อท่านเริ่มสอนบทเรียน ในที่สุดท่านมีโอกาสถามเพื่อนร่วมห้องที่ไม่สนใจ เขาอธิบายว่าเขารู้ว่าเวลานี้เขาไม่ได้ดำเนินชีวิตสอดคล้องกับพระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้า แต่เขาใช้ชีวิตแบบนี้มาทั้งชีวิต และฝังใจกับความคิดที่ว่าเขาเป็นคนแบบนี้ และทำอะไรไม่ได้มาก

แบ่งนักเรียนออกเป็นคู่ๆ ให้เวลาแต่ละคู่มากพอจะเตรียมว่าพวกเขาจะช่วยกันสอนบทเรียนสั้นๆ สามถึงสี่นาทีเรื่องการกลับใจให้แก่นักเรียนอีกคู่หนึ่งอย่างไร กระตุ้นให้นักเรียนเตรียมแสดงบทบาทสมมติของการสอนเพื่อนร่วมห้องสองคนในเหตุการณ์นั้น อธิบายว่าการสอนของพวกเขาควรเรียบง่าย ชัดเจน และมุ่งเน้นความต้องการของเพื่อนร่วมห้อง พวกเขาควรพิจารณาว่าจะช่วยให้เพื่อนร่วมห้องที่ไม่สนใจเข้าใจได้อย่างไรว่าเหตุใดเขาต้องเปลี่ยนและจะช่วยให้เขาตระหนักได้อย่างไรว่าการกลับใจเป็นไปได้ด้วยความช่วยเหลือจากพระผู้ช่วยให้รอด ให้นักเรียนใช้เนื้อหาใน สั่งสอนกิตติคุณของเรา หน้า 62-63 หรือจุลสารผู้สอนศาสนาชื่อว่า พระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์ กระตุ้นให้พวกเขารวมข้อพระคัมภีร์หนึ่งหรือสองข้อไว้ด้วยเพื่ออธิบายความสำคัญของการกลับใจ

จัดนักเรียนออกเป็นกลุ่มเล็กๆ กลุ่มละสองคู่ มอบหมายให้นักเรียนคู่หนึ่งสอนอีกคู่หนึ่งซึ่งจะรับบทเพื่อนร่วมห้องดังที่บรรยายไว้ในเหตุการณ์ อธิบายให้นักเรียนฟังว่าเมื่อพวกเขารับบทเป็นผู้สนใจ พวกเขาควรแสดงข้อกังวลที่อาจมีออกมาอย่างจริงใจตามสบายแต่ไม่ควรพยายามแสดงให้มากเกินไปหรือต่อต้านนักเรียนที่กำลังสอน

เมื่อนักเรียนสอนเสร็จแล้ว ให้กลุ่มสนทนากันว่าคนสอนทำอะไรได้ดีและจะทำอะไรให้ดีกว่านั้นได้บ้าง

จากนั้นให้นักเรียนสลับบทบาทเพื่อให้นักเรียนคู่อื่นมีโอกาสฝึกสอน พวกเขาจะต้องมีเวลารับคำติชมด้วย

หลังจากแสดงบทบาทสมมติแล้ว ถามนักเรียนว่าพวกเขาได้คำถามหรือข้อคิดอะไรบ้างจากประสบการณ์การสอน

เพื่อช่วยให้นักเรียนรู้สึกถึงความจริงและความสำคัญของการกลับใจว่าเป็นทางให้ผู้คนหวนกลับไปหาพระผู้เป็นเจ้า ให้ฉายวีดิทัศน์เรื่อง “พระเยซูคริสต์ทรงเป็นทางนั้น” (5:02)

หลังจากดูวีดิทัศน์จบแล้ว ให้ถามว่า

• ท่านเห็นหลักฐานอะไรในวีดิทัศน์เรื่องนี้ที่ยืนยันว่าซิสเตอร์ท่านนี้เปลี่ยนจริงๆ ผ่านการกลับใจและเธอได้หวนกลับไปหาพระผู้เป็นเจ้าแล้ว

• ท่านมีความรู้สึกอะไรบ้างเมื่อเห็นว่าข่าวสารของพระกิตติคุณช่วยให้ซิสเตอร์คนนี้เปลี่ยนและหันไปหาพระผู้เป็นเจ้า

สรุปโดยถามนักเรียนว่ามีใครต้องการแบ่งปันประจักษ์พยานของพวกเขาเกี่ยวกับอานุภาพแห่งศรัทธาและการกลับใจบ้าง บอกพวกเขาว่าเหตุใดพวกเขาจึงปรารถนาจะแบ่งปันพระกิตติคุณ จบโดยแบ่งปันประจักษ์พยานของท่านด้วย