การพัฒนาคุณลักษณะเหมือนพระคริสต์

เชื้อเชิญให้นักเรียนเปิด หน้า 123 ใน สั่งสอนกิตติคุณของเรา และดูภาพถ่ายป้ายชื่อผู้สอนศาสนา ถามว่า

• สองส่วนที่เด่นที่สุดของป้ายชื่อผู้สอนศาสนาคืออะไร (ชื่อผู้สอนศาสนาและพระนามของพระผู้ช่วยให้รอด)

• เหตุใดจึงสำคัญที่ท่านและคนอื่นๆ ต้องเชื่อมโยงชื่อของท่านกับพระนามของพระผู้ช่วยให้รอด

ให้นักเรียนผลัดกันอ่านออกเสียงห้าย่อหน้าใน หน้า 115 ใน สั่งสอนกิตติคุณของเรา ขณะชั้นเรียนดูตามโดยดูว่าเราจะยอมรับพระดำรัสเชื้อเชิญให้ติดตามพระเยซูคริสต์ได้อย่างไร หลังจากพวกเขาอ่านจบแล้ว ให้ถามว่า

• เรายอมรับพระดำรัสเชื้อเชิญของพระเยซูคริสต์ให้ติดตามพระองค์อย่างไร (นักเรียนควรค้นพบหลักธรรมนี้: เรายอมรับพระดำรัสเชื้อเชิญของพระเยซูคริสต์ให้ติดตามพระองค์โดยเป็นเหมือนพระองค์และพัฒนาคุณลักษณะของพระองค์)

• การพัฒนาคุณลักษณะเหมือนพระคริสต์จะทำให้ท่านเป็นผู้ปฏิบัติศาสนกิจที่สอนพระกิตติคุณพระเยซูคริสต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีพลังมากขึ้นอย่างไร

ขอให้นักเรียนเลือกพระคัมภีร์คนละหนึ่งข้อในกรอบ ศึกษาพระคัมภีร์ หน้า 116 ของ สั่งสอนกิตติคุณของเรา ให้นักเรียนอ่านข้อพระคัมภีร์ที่ตนเลือกและหาดูว่าข้อนั้นกล่าวอะไรเกี่ยวกับการทำตามแบบอย่างของพระเยซูคริสต์ เชื้อเชิญให้นักเรียนแบ่งปันสิ่งที่เรียนรู้กับชั้นเรียน หลังจากนักเรียนหลายคนตอบแล้ว ให้ถามว่า

• คุณลักษณะซึ่งเป็นอุปนิสัยอะไรบ้างที่ท่านมีเหมือนกับพระเยซูคริสต์

ฉายวีดิทัศน์เรื่อง “คุณลักษณะเหมือนพระคริสต์” (2:54) ซึ่งแสดงให้เห็นคุณลักษณะบางประการของพระคริสต์ ให้นักเรียนดูว่าคุณลักษณะแห่งสวรรค์ของพระผู้ช่วยให้รอดประจักษ์ชัดผ่านการกระทำของพระองค์อย่างไร—โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวิธีที่พระองค์ทรงปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น

หลังจากดูวีดิทัศน์แล้ว ให้ถามทำนองนี้โดยต้องแน่ใจว่าได้ให้เวลานักเรียนไตร่ตรองคำตอบมากพอ

• คุณลักษณะของพระผู้ช่วยให้รอดประจักษ์ชัดในการกระทำของพระองค์อย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวิธีที่พระองค์ทรงปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น

• การกระทำของพระเยซูมีผลอะไรต่อผู้อื่น

ให้นักเรียนแบ่งปันประสบการณ์กับคนที่นั่งข้างๆ ว่าความประพฤติเหมือนพระคริสต์ของคนบางคนมีผลต่อพวกเขาอย่างไร จากนั้นให้เวลานักเรียนไตร่ตรองคำถามต่อไปนี้สักครู่

• ท่านต้องการพัฒนาคุณลักษณะใดของพระคริสต์ตามที่เห็นในวีดิทัศน์อย่างเต็มที่มากขึ้น

ให้นักเรียนสองสามคนผลัดกันอ่านออกเสียง หลักคำสอนและพันธสัญญา 4:1-7

• ตามที่กล่าวไว้ใน หลักคำสอนและพันธสัญญา 4:5-6อะไรคือความสัมพันธ์ระหว่างคุณลักษณะเหมือนพระคริสต์กับคุณสมบัติสำหรับการได้รับเรียกให้ทำงาน (ถึงแม้นักเรียนจะใช้คำพูดต่างกัน แต่พวกเขาควรค้นพบหลักธรรมนี้: แต่ละคนที่มีคุณลักษณะเหมือนพระคริสต์ย่อมมีคุณสมบัติคู่ควรรับใช้ในงานของพระเจ้า)

เชื้อเชิญให้ชั้นเรียนเปิด กิจกรรมคุณลักษณะ ในหน้า 126 ของ สั่งสอนกิตติคุณของเรา หลังจากอธิบายคำแนะนำที่อยู่บนสุดของหน้าแล้ว ให้นักเรียนทำกิจกรรมจนเสร็จ อาจเป็นประโยชน์ถ้าบอกนักเรียนว่าพวกเขาจะต้องใช้เวลาทำกิจกรรมนี้นานเท่าใด ท่านอาจเตรียมถ่ายเอกสารกิจกรรมนี้ให้นักเรียน ถ้านักเรียนเลือกทำกิจกรรมในหนังสือ สั่งสอนกิตติคุณของเรา ท่านอาจจะให้พวกเขาใช้ดินสอเขียน ให้เวลานักเรียนทุกคนทำกิจกรรมนี้จนเสร็จ จากนั้นขอให้สมาชิกชั้นเรียนแบ่งปันสิ่งที่เรียนรู้และรู้สึกขณะประเมินตนเองในเรื่องนี้ หากจำเป็นท่านอาจถามคำถามทำนองนี้

• คุณลักษณะใดจากกิจกรรมสะดุดตาท่าน และเพราะเหตุใด

• ท่านเรียนรู้อะไรจากกิจกรรมนี้

ช่วยให้นักเรียนเข้าใจคุณลักษณะเหมือนพระคริสต์ลึกซึ้งขึ้นโดยเชื้อเชิญให้พวกเขาเลือกคุณลักษณะหนึ่งประการที่ต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมและพัฒนาให้สมบูรณ์มากขึ้นในชีวิตพวกเขา ขอให้นักเรียนหาหัวข้อที่พูดถึงคุณลักษณะที่พวกเขาเลือกใน หน้า 116–122 ของ สั่งสอนกิตติคุณของเรา จากนั้นให้เวลาพวกเขาศึกษาหัวข้อนี้ พร้อมกับข้อพระคัมภีร์ที่เกี่ยวข้อง อาจเป็นประโยชน์ถ้าให้นักเรียนรู้ว่าพวกเขาจะมีเวลาศึกษานานเท่าใด เขียนคำถามต่อไปนี้ไว้บนกระดานให้นักเรียนพิจารณาขณะอ่าน

เดินไปรอบๆ ห้องเพื่อดูว่านักเรียนแต่ละคนเป็นอย่างไรและตอบคำถามที่นักเรียนอาจมี หลังจากให้เวลาพอสมควรแล้ว ขอให้นักเรียนแบ่งปันคำตอบของคำถามที่เขียนไว้บนกระดาน

ให้ดูคำกล่าวต่อไปนี้ของประธานดีเทอร์ เอฟ. อุคท์ดอร์ฟ และขอให้นักเรียนมองหาสิ่งที่ประธานอุคท์ดอร์ฟบอกว่าเราต้องทำเพื่อพัฒนาคุณลักษณะเหมือนพระคริสต์

ภาพ

ประธานดีเทอร์ เอฟ. อุคท์ดอร์ฟ

“พระคัมภีร์พูดถึงคุณลักษณะเหมือนพระคริสต์หลายประการที่เราจำเป็นต้องพัฒนาในช่วงชีวิตของเรา … คุณลักษณะเหมือนพระคริสต์เป็นของประทานจากพระผู้เป็นเจ้า จะพัฒนาไม่ได้หากปราศจากความช่วยเหลือของพระองค์ ความช่วยเหลืออย่างหนึ่งที่เราทุกคนต้องการเราได้รับเปล่าๆ ผ่านการชดใช้ของพระเยซูคริสต์ การมีศรัทธาในพระเยซูคริสต์และการชดใช้ของพระองค์หมายถึงการพึ่งพาพระองค์อย่างสมบูรณ์—วางใจในเดชานุภาพอันไม่มีขอบเขต พระปรีชาญาณ และความรักของพระองค์ คุณลักษณะเหมือนพระคริสต์เข้ามาในชีวิตเราเมื่อเราใช้สิทธิ์เสรีอย่างชอบธรรม … ในความพยายามเป็นเหมือนพระผู้ช่วยให้รอดมากขึ้นนั้น เราจำเป็นต้องประเมินชีวิตเราเป็นประจำและวางใจในคุณความดีของพระเยซูคริสต์และพรของการชดใช้ผ่านเส้นทางการกลับใจที่แท้จริง” (“คุณลักษณะดังเช่นพระคริสต์—พลังใต้ปีกของเรา,” เลียโฮนา, พ.ย. 2005, 121–122)

• “คุณลักษณะเหมือนพระคริสต์เป็นของประทานจากพระผู้เป็นเจ้า” มีความหมายต่อท่านอย่างไร (เป็นของประทานที่ไม่สามารถพัฒนาได้อย่างเต็มที่หากปราศจากความช่วยเหลือของพระผู้เป็นเจ้า)

• ตามที่ประธานอุคท์ดอร์ฟกล่าว เราจะทำอะไรได้บ้างเพื่อดึงความช่วยเหลือจากพระผู้เป็นเจ้ามาใช้ในการพัฒนาคุณลักษณะเหล่านี้ (ท่านอาจจะสรุปคำตอบของนักเรียนโดยเขียนบนกระดานดังนี้: เราสามารถพัฒนาคุณลักษณะเหมือนพระคริสต์ได้เมื่อเรากลับใจ มีศรัทธาในพระเยซูคริสต์ และพึ่งพาการชดใช้)

• การกลับใจและการมีศรัทธาในการชดใช้จะช่วยเราพัฒนาคุณลักษณะเหมือนพระคริสต์ได้อย่างไร (โดยผ่านศรัทธาและการกลับใจ เราอัญเชิญให้พระเจ้าทรงอวยพรเราด้วยคุณลักษณะเหมือนพระคริสต์ เมื่อเรากลับใจ เราแสดงความปรารถนาว่าจะเป็นเหมือนพระคริสต์มากขึ้น และเราอัญเชิญพระวิญญาณบริสุทธิ์เข้ามาในชีวิตเรามากขึ้น)

ให้ดูคำกล่าวต่อไปนี้โดยเอ็ลเดอร์ดัลลิน เอช. โอ๊คส์แห่งโควรัมอัครสาวกสิบสอง และเชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียงให้ชั้นเรียนฟัง

ภาพ

เอ็ลเดอร์ดัลลิน เอช. โอ๊คส์

“ในการสอนชาวนีไฟ พระผู้ช่วยให้รอดตรัสถึงสิ่งที่พวกเขาต้องเป็น พระองค์ทรงท้าทายพวกเขาให้กลับใจและรับบัพติศมาและรับการชำระให้บริสุทธิ์โดยการรับพระวิญญาณบริสุทธิ์ ‘เพื่อเจ้าจะยืนอยู่โดยไม่มีมลทินต่อหน้าเราในวันสุดท้าย’ (3 นีไฟ 27:20) พระองค์ทรงสรุปว่า ‘ฉะนั้น, เจ้าควรเป็นคนอย่างไรเล่า? ตามจริงแล้วเรากล่าวแก่เจ้า, แม้ดังที่เราเป็น’ (3 นีไฟ 27:27)

“พระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์เป็นแผนซึ่งทำให้เราสามารถเป็นอย่างที่บุตรธิดาของพระผู้เป็นเจ้าพึงเป็น สภาพไม่มีมลทินและดีพร้อมจะเกิดจากความต่อเนื่องสม่ำเสมอของพันธสัญญา ศาสนพิธี และการกระทำ การสั่งสมการเลือกที่ดี และจากการกลับใจอย่างต่อเนื่อง ‘ชีวิตนี้เป็นเวลาสำหรับมนุษย์ที่จะเตรียมพบพระผู้เป็นเจ้า’ (แอลมา 34:32)” (“การท้าทายเพื่อที่จะเป็น,” เลียโฮนา, ม.ค. 2001, 48-49)

ถามว่า

• ตามที่เอ็ลเดอร์โอ๊คส์กล่าว เราต้องทำอะไรจึงจะเป็นเหมือนพระเยซูคริสต์มากขึ้น (เราต้องทำและรักษาพันธสัญญาศักดิ์สิทธิ์ รับศาสนพิธีอย่างมีค่าควร ทำการเลือกที่ถูกต้อง และกลับใจ)

เชื้อเชิญให้นักเรียนเปิด โมโรไน 7:47-48 อธิบายว่าถึงแม้ข้อเหล่านี้จะกล่าวเจาะจงเรื่องจิตกุศล แต่ก็สอนหลักธรรมกว้างกว่านั้นเกี่ยวกับการมีคุณลักษณะเหมือนพระคริสต์ เชิญนักเรียนคนหนึ่งอ่านข้อเหล่านั้นขณะชั้นเรียนดูตามโดยมองหาสิ่งที่เราทำได้เพื่ออัญเชิญความช่วยเหลือจากพระบิดาบนสวรรค์ในการเป็นเหมือนพระบุตรของพระองค์ (คำตอบควรเน้นความสำคัญของการทูลขอให้พระบิดาบนสวรรค์ทรงช่วยเราและการเป็น “ผู้ติดตามที่แท้จริง” ของพระคริสต์) ชี้ให้เห็นว่าเนื่องจากคุณลักษณะเหมือนพระคริสต์เป็นของประทานจากพระผู้เป็นเจ้า เราจึงควรขอให้พระองค์ทรงช่วยเราพัฒนาคุณลักษณะเหล่านั้น

เพื่อช่วยนักเรียนพิจารณาว่าพวกเขาจะประยุกต์ใช้สิ่งที่ได้เรียนรู้อย่างไร ท่านอาจจะขอให้นักเรียนยกตัวอย่างการกระทำที่ผู้มุ่งหวังจะเป็นผู้สอนศาสนาพึงทำเมื่อกำลังพยายามพัฒนาคุณลักษณะที่พวกเขาศึกษา จากนั้นให้เวลานักเรียนจดแผนสองสามนาที รวมไปถึงการเลือกที่ถูกต้องสม่ำเสมอบางอย่างที่พวกเขาสามารถทำได้ เพื่อช่วยพวกเขาพัฒนาคุณลักษณะนั้นให้ดีขึ้น กระตุ้นให้พวกเขาบอกแผนกับบิดามารดาหรือเพื่อนที่ไว้ใจ อีกทั้งกระตุ้นพวกเขาไม่ให้ผัดวันในการทำตามแผนนั้น ความพยายามของพวกเขาเวลานี้จะมีผลใหญ่หลวงต่อประสบการณ์เป็นผู้สอนศาสนาของพวกเขา

สรุปบทเรียนส่วนนี้โดยรับรองกับนักเรียนว่าพระเจ้าจะทรงอวยพรพวกเขาเมื่อพวกเขาใช้ศรัทธาในการชดใช้และหมายมั่นเป็นเหมือนพระองค์

เขียนคำกล่าวต่อไปนี้ของประธานดีเทอร์ เอฟ. อุคท์ดอร์ฟแห่งฝ่ายประธานสูงสุดไว้บนกระดาน ท่านกำลังแบ่งปันข้อความที่คิดว่าน่าจะเป็นคำพูดของนักบุญฟรานซิสแห่งอัสซีซี ขอให้นักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียง:

“จงสั่งสอนพระกิตติคุณตลอดเวลาและใช้คำพูดหากจำเป็น” (“การรอคอยบนถนนสู่ดามัสกัส,” เลียโฮนา, พ.ค. 2011, 96)

จากนั้นให้ถามคำถามทำนองนี้

• เราจะสั่งสอนพระกิตติคุณโดยไม่ใช้คำพูดได้อย่างไร

• การมีคุณลักษณะเหมือนพระคริสต์จะช่วยให้เราสั่งสอนพระกิตติคุณได้ดีขึ้นทั้งด้วยการใช้คำพูดและไม่ใช้คำพูดอย่างไร

• อะไรเกิดขึ้นกับใจคนเมื่อพวกเขาได้รับการปฏิบัติในลักษณะเหมือนพระคริสต์ (ใจพวกเขาจะอ่อนลงและพวกเขาจะยอมรับข่าวสารพระกิตติคุณมากขึ้น)

• เหตุใดคุณลักษณะเหมือนพระคริสต์ของผู้สอนศาสนาจึงสำคัญต่อความสำเร็จของงานเผยแผ่ศาสนา (คำตอบของนักเรียนอาจรวมความจริงนี้ไว้ด้วย: คุณลักษณะเหมือนพระคริสต์สามารถเป็นอิทธิพลอันทรงพลังในการนำผู้คนมาหาพระผู้ช่วยให้รอด)

ฉายวีดิทัศน์เรื่อง “ความประทับใจของผู้สอนศาสนา” (4:32) ให้นักเรียนจดคุณลักษณะที่ผู้สนใจสังเกตเห็นในผู้สอนศาสนาและผลของคุณลักษณะเหล่านั้นต่อผู้สนใจ

หลังจากดูวีดิทัศน์จบแล้ว ให้ถามว่า

• คุณลักษณะอันดีอะไรบ้างของผู้สอนศาสนาที่ผู้สนใจมองเห็น

• ท่านคิดว่าเหตุใดคุณสมบัติเหล่านี้จึงทำให้ผู้สนใจรู้สึกประทับใจ

• ผู้สนใจบางคนพูดถึงคุณสมบัติที่ไม่ดีเท่าใดนัก คุณสมบัติเหล่านี้มีผลกระทบต่อผู้สนใจอย่างไร

• ผู้สอนศาสนาจะหลีกเลี่ยงไม่ให้ตนเองฝากความประทับใจที่ไม่ดีเหล่านี้ได้อย่างไร

เพื่ออธิบายเพิ่มเติมว่าพฤติกรรมและคุณลักณะเหมือนพระคริสต์จะช่วยผู้สอนศาสนาเตรียมคนที่พวกเขาสอนให้พร้อมรับพระกิตติคุณได้อย่างไร ขอให้นักเรียนคนหนึ่งสรุปเรื่องราวที่แอมันพยายามสั่งสอนพระกิตติคุณในบรรดาชาวเลมัน แบ่งชั้นเรียนออกเป็นสี่กลุ่ม และมอบหมายข้อพระคัมภีร์ต่อไปนี้ให้กลุ่มละหนึ่งข้อ ให้(179)(103)้

หลังจากนักเรียนมีเวลาอ่านแล้ว ให้สนทนากับชั้นเรียนดังนี้

• แอมันแสดงให้เห็นคุณลักษณะเหมือนพระคริสต์ประการใดในข้อที่ท่านอ่าน

• คุณลักษณะของแอมันมีผลต่อคนที่เขากำลังสอนอย่างไร

• ผู้สอนศาสนายุคปัจจุบันจะทำตามแบบอย่างของแอมันในวิธีใดได้บ้าง

เชื้อเชิญให้นักเรียนนึกถึงคนที่พวกเขาสังเกตเห็นว่าเป็นแบบอย่างของคุณลักษณะเหมือนพระคริสต์ ถามว่า

• บุคคลนี้มีอิทธิพลต่อท่านผ่านพฤติกรรมเหมือนพระคริสต์อย่างไร

เตือนนักเรียนว่าผู้สอนศาสนาได้รับมอบหมายให้รับใช้กับคู่เสมอ เชื้อเชิญให้นักเรียนบอกการท้าทายที่อาจเกิดขึ้นเมื่อทำงานกับคู่ ถามคำถามนักเรียนดังนี้

• ท่านคิดว่าเหตุใดผู้สอนศาสนาจึงรับใช้เป็นคู่

อ่านออกเสียง หลักคำสอนและพันธสัญญา 42:6 และ 2 โครินธ์ 13:1 เพื่อช่วยให้นักเรียนเห็นว่าผู้สอนศาสนารับใช้เป็นคู่เพราะพระเจ้าทรงวางรูปแบบไว้ จากนั้นให้ถามว่า

• เหตุใดจึงสำคัญที่ผู้สอนศาสนาจะแสดงเจตคติและการกระทำเหมือนพระคริสต์ต่อคู่ของตน (ดู คพ. 38:24-25, 27)

ให้ดูข้อความต่อไปนี้ของประธานเจมส์ อี. เฟาสท์ (1920–2007) แห่งฝ่ายประธานสูงสุด และขอให้นักเรียนคนหนึ่งอ่านออกเสียงให้ชั้นเรียนฟัง

ภาพ

ประธานเจมส์ อี. เฟาสท์

“อย่ายอมให้มีความขัดแย้งกับคู่ของท่าน คู่ผู้สอนศาสนาบางคนของท่านจะเป็นเพื่อนรักที่สุดของชีวิตท่าน จงเป็นคู่ในแบบที่ท่านต้องการจะอยู่ด้วย อย่าเห็นแก่ตัวในความสัมพันธ์ของท่านกับคู่ เมื่อมีความขัดแย้ง พระวิญญาณของพระเจ้าจะจากไป ไม่ว่าใครเป็นฝ่ายผิด เราแต่ละคนเป็นปัจเจกที่มีความเข้มแข็งและพรสวรรค์เฉพาะตน ต่างจากคนอื่นในโลก เราแต่ละคนมีความอ่อนแอ ในการเป็นคู่ที่ปรองดองต้องมีการทำงานเป็นทีม—เมื่อคนหนึ่งอ่อนแอ อีกคนต้องเข้มแข็ง” (“สิ่งที่ข้าพเจ้าต้องการให้ลูกชายรู้ก่อนเป็นผู้สอนศาสนา,” เลียโฮนา, ก.ค. 1996, 51)

• ประธานเฟาสท์กล่าวว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อมีความขัดแย้งระหว่างคู่ผู้สอนศาสนา (ดู 3 นีไฟ 11:29ด้วย)

• คุณลักษณะที่เราศึกษาจะช่วยคู่หลีกเลี่ยงความขัดแย้งและมีความสัมพันธ์กลมเกลียวกันมากขึ้นได้อย่างไร (ช่วยให้นักเรียนค้นพบหลักธรรมที่ว่า เมื่อคู่ผู้สอนศาสนาแสดงพฤติกรรมและเจตคติเหมือนพระคริสต์ต่อกัน พวกเขาย่อมได้รับพรให้มีพระวิญญาณ)

• เหตุใดการมีความสัมพันธ์กลมเกลียวกันจึงทำให้คู่มีประสิทธิภาพมากขึ้นในการสั่งสอนพระกิตติคุณ

ท่านอาจจะอ่านออกเสียงห้าย่อหน้าแรกใต้หัวข้อย่อย “คู่ของท่าน” (ในหัวข้อ “ความสัมพันธ์กับผู้อื่น”) ใน คู่มือผู้สอนศาสนา (หน้า 29–30) จากนั้นให้ถามว่า

• ท่านเคยใช้หลักธรรมที่พบในย่อหน้าเหล่านี้กระชับความสัมพันธ์ของท่านกับสมาชิกครอบครัวหรือเพื่อนอย่างไร

สรุปโดยเชื้อเชิญให้นักเรียนแสดงประจักษ์พยานเกี่ยวกับพระคริสต์และความสำคัญของการเป็นเหมือนพระองค์