การรับใช้ที่ซื่อสัตย์และเปียมด้วยความรัก ของฐานะปุโรหิต

หลายปีมานี้มีแนวคิดสองอย่างอธิบายไว้ไนการให้นิยามความหมายของฐานะ ปุโรหิต แนวคิดอย่างหนึ่งคือ ฐานะปุโรหิตเป็นอำนาจที่พระบิดาบนสวรรค์ประทาน แก่มนุษย์ เพื่อมอบอำนาจให้ดำเนินการทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความรอดของมนุษยชาติบนแผ่นดินโลก อีกแนวคิดหนึ่งอธิบายไว้อย่างมีความหมายว่า ฐานะปุโรหิตคือ พลังที่พระผู้เป็นเจ้าทรงท่างานผ่านมนุษย์²

ฐานะปุโรหิตของพระผู้เป็นเจ้าอยู่ที่นึ่ และมอบต่อ ๆ กันมาตั้งแต่การพื่นฟู ศาสนาจักรโดยผำนผู้นำข่าวสารที่ถูกล่งมาเพื่อพื่นฟูอำนาจที่ใช้ประกอบพิธีการแห่ง ความรอดให้กับผู่ซื่อสัตย์ทั้งหมดของแผ่นดินโลก ฐานะปุโรหิตของพระผู้เป็นเจ้าถือ กุญแจแห่งความรอด³

พระอาจารย์ทรงบอกเปโดรและอัครสาวกท่านอื่น ๆ ถึงพลังอย่างหนึ่งที่เหนือกว่า พลังของมนุษย์ ซึ่งพระองค์ทรงเรียกว่า “กุญแจแห่งอาณาจักรสวรรค์” และโดยพลัง นี้ พระองค์ตรัส “ท่านจะกล่าวห้ามสิงใดในโลก สิงนี้นก็จะถูกกล่าวห้ามในสวรรค์” (ม’ทธิว 16:19) พลังและอำนาจนั้น ซึ่งใช้ปฏิบัติพิธีการอันคักดสิทธี้ เป็นที่รู้จักใน ซื่อว่าฐานะปุโรหิตอันคักดสิทธ และจะพบในศาสนาจักรของพระเยซูคริสต์เสมอใน ทุกสมัยการประทานของพระกิตติคุณบนแผ่นดินโลก⁴

[ฐานะปุโรหิต] คืออำนาจที่จะปฏิบัติพิธีการตามแบบแผนที่ [พระเจ้า] ทรงเป็ด เผยไว้ พลังนี้ … คือสิทธี้ที่พระเจ้าทรงมอบแก่มนุษย์เพื่อกระทำการในพระนามของ พระองค์เพื่อความรอดของจิตวิญญาณมนุษย์ …

จุดประสงค์ประการหนึ่งของฐานะปุโรหิตที่สูงกว่า คือ เพื่อปฏิบัติพิธีการ เพื่อให้ ความรู้เรื่องพระผู้เป็นเจ้าแก่มนุษย์ซึ่งพระอาจารย์ทรงประกาศว่าจำเป็นและซึ่งอัคร- สาวกเปาโลกล่าวไว้เมื่อพูดถึงการจัดระเบียบศาสนาจักรว่า จำเป็นต้องบรรลุถึง “ความรู้ถึงพระบุตรของพระเจ้า จนกว่าเราจะโตเป็นผู้ใหญ่เต็มที่” [เอเฟซัส 4:13] อนึ่ง มีอำนาจของฐานะปุโรหิตที่ตํ๋ากว่าในการประกอบพิธีการอื่น เข่น เยาวชนชาย เหล่านี้ ปฏิบัติและล่งผ่านศีลระลึกไต้เป็นอย่างดีในคํ๋าคืนนี้ พระเจ้าตรัสว่า ฐานะ ปุโรหิตแห่งแอรันเป็นฐานะปุโรหิต “ซึ่งถือกุญแจของการปฏิบัติศาสนกิจของเทพ และของพระกิตติคุณแห่งการกลับใจ และของบัพติศมาโดยลงไปในนํ้าทั้งตัวเพื่อ การปลดบาป” [ค.พ. 13:1] และกฎของบัญญัติฝ่ายเนื้อหนัง และด้วยเหตุนี้ … ฐานะ ปุโรหิตจึงจำเป็นต่อการมีจุดประสงค์ที่แจ้งซัดของการให้พลังแก่คนที่ถูกเรียกให้ ปฏิบัติพิธีการที่จำเป็น เพื่อให้บรรลุถึงความรอดที่พระเจ้าทรงกำหนดไว้ตามจุดประ สงค์ของพระองค์⁵

พระเจ้าทรงปกครองสิทธิซนของพระองค์ผ่านทางฐานะปุโรหิตที่พระองค์ทรง มอบให้มนุษย์⁶

ในการเป็ดเผยครั้งสำคัญตามที่เรารู้ว่าคือคำสอนและพันธสัญญาภาค 121 ซึ่งพระ เจ้าประทานผ่านศาสดาโจเซฟ สมีธด้วยการดลใจ พระองค์ตรัสถึงบางสิงที่มีความ หมายยิ่ง พระองค์ตรัสว่าฐานะปุโรหิตจะถูกควบคุมไต้โดยหลักธรรมแห่งความชอบ ธรรมเท่านั้น และหากเราใช้ตำแหน่งฐานะปุโรหิตอย่างไม่สมควรเพื่อ “ปกปิดบาป ของเรา หรือทำให้สมกับความจองหองของเรา ความทะเยอทะยานอันไร้ประโยชน์ ของเรา หรือทำการบังคับหรือครอบครองหรือบีบคั้น … พระวิญญาณของพระเจ้าโศก เศร้า” (ดู ค.พ. 121:37) …

หากเราใช้ฐานะปุโรหิตอย่างไม่ชอบธรรม บทลงโทษคือ ท้องฟ้าย่อมถอนคัวและ พระวิญญาณของพระเจ้าโศกเศร้า เมื่อเราสูญเสียพระวิญญาณ อำนาจฐานะปุโรหิต ของเราจะถูกนำไปจากเรา และเมื่อเราไม่พอใจคำคักเคือนว่ากล่าวและคำแนะนำชอง ผู้นำ เราจะถูกทิ้งให้ “เตะต่อยปฏัก” อยู่คนเดียว จากนั้นเราจะเริ่มข่มเหงสิทธิซน ซึ่ง หมายถึง การวิพากษ์วิจารณ์ และต่อสู้กับพระผู้เป็นเจ้าในที่สุด และพลังแห่งความมืด จะเช้าครอบงำเราหากเราไม่กลับใจและหันไปจากวิถึที่ชั่วร้ายนั้น [ดู ค.พ. 121:37-38]

คุณสมบัติของการเป็นผู้นำฐานะปุโรหิตที่ดีมือธิบายไว้อย่างละเอียดในการเป็ดเผย นี้ด้วย คุณสมบัติอย่างหนึ่งคือ ควบคุมดูแลศาสนาจักรด้วยความอดทนและความอด กลั้น ด้วยความสุภาพและความอ่อนโยน ด้วยความรักที่ไม่มีมารยา หากบุคคลนั้น ต้องลงโทษตักเตือนและตำหนิด้วยความเฉียบขาด เขาต้องทำเมื่อพระวิญญาณ บริสุทธี้ทรงนำ และต่อมาจงแสดงความรักเพิ่มขึ้น เกลือกคนที่เขาลงโทษจะคิดว่าเขา เป็นศัตรู [ดู ค.พ. 121:41-43] ในการเรียกทุกอย่างของฐานะปุโรหิต เราต้องไม่ ลืมว่า ธุรกิจของศาสนาจักรและอาณาจักรของพระผู้เป็นเจ้า คือ เพื่อช่วยจิตวิญญาณ ให้รอด และทุกคนที่เราดูแลเป็นลูกของพระบิดาของเรา และพระองค์จะทรงช่วยเรา ขณะที่เราพยายามช่วยทุกคนให้รอด

มีแบบอย่างอันดีงามของการที่พระเจ้าทรงประสงค์ให้เราปฏิบัติต่อผู้ที่ด้องการ ความช่วยเหลือจากเรา เมื่อเปโตรและยอหันเดินเช้าไปใกล้ชายผู้พิการเดินไม่ได้และ นั่งขอทานอยู่ตรงประตูพระวิหารตามที่บันทึกไว้ไนหนังสิอกิจการของอัครทูต แทนที่ จะให้เงินเขา ท่านคงจำได้ อัครสาวกเปโตรกล่าวกับชายคนนั้นว่า “เงินและทองเรา ไม่มี แต่ที่เรามีอยู่เราจะให้ท่าน คือ ในพระนามแห่งพระเยซูคริสต์ซาวนาซาเร็ธ จง เดินเถิด” (กิจการ 3:6)

มีช้อความสำคัญต่อจากการบันทึกสื่องราวเหตุการณ์นั้น เปโตรจับมือขวาของ เขาพยุงขึ้น [ดู กิจการ 3:7] จำไว้ว่าเพียงแค่เปโดรสั่งให้เขาเดินเท่านั้นยังไม่พอ แต่ ท่านจับมือเขาแล้วก็พยุงขึ้น

เราก็ด้องท่าเช่นเดียวกันนี๋ในการปฏิบัติต่อสิทธิชนที่เพลี่ยงพลั้าของเรา เราต้องไม่ เป็นผู้ดำรงฐานะปุโรหิตที่ดีแต่วิพากษ์วิจารณ์ ดำว่า และประณาม เราต้องเป็นเหมือน อัครสาวกเปโดร คือ จับมือเขา ให้กำลังใจเขา ช่วยให้เขารู้สีกนั่นใจและเคารพตนเอง จนกระทั่งเขาสามารถเอาชนะความยุ่งยากและยืนด้วยลำแข้งของตนเองได้

นั่นคือวิธีที่ฐานะปุโรหิตของพระผู้เป็นเจ้าจะนำความรอดและมิตรภาพมาส่คนที่ อ่อนแอได้ เพื่อเขาจะเข้มแข็ง⁷

ความสำเร็จส่วนหนึ่งของเรา … วัดจากความรักที่เรามีให้แก่ผู้ที่เราอยากจะนำและ รับใช้ เมื่อเรารักผู้อื่นอย่างแห้จริง ความรักนั้นจะขจัดเจตนาร้ายที่มักจะมีอยู่ทั่วไปใน ความสัมพันธ์ของมนุษย์ เมื่อเรารักผู้อื่นอย่างแห้จริง เราจะทำสิงที่ส่งผลต่อชีวิตของ เขาชั่วนิรันดร์และไม่สนองความต้องการที่เห็นแก่ประโยชน์ของตนเอง⁸

ภาพ

boy Jesus in the temple

เมื่อพระกุมารเยซูพระซนมายุสิบสองพรรษา หลังจากโยเซฟกับนางมาริย์พบพระ องคํในพระวิหาร พระองค์ทรงตอบข้อสงสัยของบิดามารดาซองพระองคํโดยทรงถาม คำถามที่สำคัญยิ่งนี้ “ท่านไม่ทราบหรือว่าฉันต้องกระทำธุระแห่งพระบิดาของฉัน” (เซิงอรรถ 3 … 3 ของดูกา 2:49) ธุระแห่งพระบิดาที่พระองค์ทรงหมายถึงคืออะไร

พระเจ้าทรงอธิบายความหมายของคำถามนี่ใวัในการเป็ดเผยอีกข้อหนึ่ง พระองค์ ทรงทำให้เหล่าเอ็ลเดอร์ฃองศาสนาจักรที่ชุมนุมกันในเคิร์ทแลนด์ โอไฮโอ เห็นความ สำคัญของความรับผิดชอบอันใหญ่หลวงของเขาในฐานะผู้ดำรงฐานะปุโรหิตอันศักดี้- สิทธี้ในตำแหน่งเอ็ลเดอร์ว่า “ดังนั้น” พระองค์ตรัส “ในเมื่อเจ้าเป็นตัวแทน เจ้าจึง อยู่กับธุระของพระเจ้า และอะไรที่เจ้าทำตามพระประสงค์ของพระเจ้าเป็นธุรกิจของ พระเจ้า” (ค.พ. 64:29)

เมื่อบุคคลหนึ่งกลายเป็นผู้ดำรงฐานะปุโรหิต เขาก็กลายเป็นตัวแทนของพระเจ้า เขาควรคิดถึงการเรียกของตนประหนึ่งว่าเขากำลังทำธุระของพระเจ้า นั่นคือความ หมายของการขยายฐานะปุโรหิต จงคิดว่าพระอาจารย์กำลังตรัสถามท่านแต่ละคน ตัง ที่พระกุมารองค์นี้ตรัสถามโยเซฟกับมารีย์ว่า “ท่านไม่ทราบหรือว่าฉันต้องกระทำ ธุระแห่งพระบิดาของฉัน? อะไรที่ท่านทำตามพระประสงค์ของพระเจ้าเป็นธุระของ พระเจ้า⁹

เมื่อเราปฏิบัติหน้าที่ในพระนามของพระเจ้า ในฐานะผู้ดำรงฐานะปุโรหิต เรา กำลังทำสิงนั้นในพระนามและในฐานะตัวแทนของพระบิดาบนสวรรค์ ฐานะปุโรหิต คือพลังที่พระบิดาบนสวรรค์ทรงทำงานผ่านมนุษย์ …

… ข้าพเจ้าเกรงว่าเอ็ลเดอร์บางคนของเราไม่เข้าใจสิงนี้ คือ เมื่อเขากำลังปฏิบัติ หน้าที่ในฐานะเอ็ลเดอร์ฃองศาสนาจักร … หรือในฐานะมหาปุโรหิต หรือแม้เมื่อเขา ประกอบพิธีการ พระเจ้าทรงกำลังกระทำบนคืรษะของผู้ที่เขาปฏิบัติโดยผ่านเขา ข้าพเจ้ามักจะคิดถึงเหตุผลประการหนึ่งที่ว่า ทำไมเราจึงไม่ขยายฐานะปุโรหิต นั่นก็ คือ เพราะเราไม่เข้าใจว่าในฐานะผู้ดำรงฐานะปุโรหิต พระองค์ทรงทำงานผ่านเราโดย พลังของฐานะปุโรหิตอันคักดี้สิทธี้ และข้าพเจ้าปรารถนาให้เราทุกคนมืความรูสิกนี้ และสอนเยาวชนของเราด้วยถึงความหมายของการดำรงฐานะปุโรหิตและการขยาย ฐานะปุโรหิตนั้น¹⁰

การวางมือบนคืรษะหมายความว่าอะไร? ข้าพเจ้าขอให้ท่านดูที่คำสอนและพันธ- สัญญาภาคสามสิบหก และข้าพเจ้าจะอ่านข้อหนึ่งให้ท่านฟังซึ่งท่านอาจจะอ่านผ่านไป และไม่เคยเห็นความสำคัญของข้อนี้ นึ่คือการเปิดเผยที่ประทานผ่านศาสดาโจเซฟ สมีธถึงเอ็ดเวิร์ด พาร์ทริจ ซึ่งเป็นอธิการควบคุมคนแรก นี่คือสิงที่พระเจ้าตรัส “และ เรา จะปรกมือของเราบนเจ้าโดยมือของผู้รับใข้ฃองเรา ซิดนี ริกคัน และเจ้าจะได้รับ พระวิญญาณของเรา พระวิญญาณบริสุทธี้ แม้พระผู้ปลอบโยน ซึ่งจะสอนเจ้าถึงสิงที่ รักสงบของอาณาจักร” (ค.พ. 36:2)

ท่านเข้าใจสิงที่พระองค์กำลังตรัสไหม นั้นคือ เมื่อใดที่ท่านประกอบพิธีโดยอำนาจ ฐานะปุโรหิตของท่าน นี่เป็นราวกับว่าพระเจ้าทรงกำลังวางพระหัตถ์บนบุคคลนั้น โดยมือของท่านเพื่อให้ท่านมอบพรแห่งชีวิต สุขภาพ ฐานะปุโรหิต หรืออะไรก็ตาม และเมื่อใดที่เราใช้ฐานะปุโรหิตของเรา เรากำลังท่าดังนั้นราวกับว่าพระเจ้าประทับอยู่ กับเราที่นั้น และทรงกำลังช่วยเราประกอบพิธีการนั้นโดยผ่านเรา¹¹

สำหรับท่านที่เป็นสมาชิกชายของศาสนาจักร ท่านมีสิทธี้ดำรงสิงที่เรียกว่าฐานะ ปุโรหิตของพระผู้เป็นเจ้า … บางคนได้รับการวางมือบนคิรษะเพื่อรับพลังและอำนาจ นี้ แต่ไม่เคยได้รับ และทำไมเขาจึงไม่ได้รับเล่า? พระเจ้าทรงบอกเราว่ามีเหตุผลสอง อย่างนั่นคือ เพราะใจเขาหมกมุ่นอยู่กับของของโลกนี้ และสอง เขาต้องการเกียรติ ของมนุษย์ (ดู ค.พ. 121:35) ขอให้ท่านหวนคิดถึงคนที่ท่านรู้จักและดูว่าทำไมบาง คนจึงขาดความสนใจในเรื่องทางวิญญาณ และท่านจะพบดำตอบจากหนึ่งในสองข้อ นี้ ถ้าใจเขาไม่หมกมุ่นอยู่กับของของโลกนี้-ซึ่งหมายถึงเงินทอง? ตำแหน่งทาง สังคม? สิงที่อยู่ในโลกของการคืกษา?—เขาก็คงต้องการเกียรติของมนุษย์มากจน ไม่อยากจะใสํไจเรื่องของศาสนาจักร แน่นอนว่าหากท่านอยากเป็นผู้น่าในศาสนาจักร และถือ … อภิสิทธี้เหล่านี้ ท่านต้องไม่คิดถึงของของโลกนี้และเกียรติของมนุษย์¹²

พี่น้องที่รัก ท่านได้รับความไว้วางใจอันศักดี้สิทธไม่เพียงเพื่อให้มีอำนาจที่จะกระ ทำในพระนามของพระเจ้าเท่านั้น แต่เพื่อเตรียมท่านให้เป็นภาชนะที่สะอาดและ บริสุทธี้ เพื่อพลังของพระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพจะเป็นที่ประจักษ์โดยทางท่าน เมื่อท่านประกอบพิธีการอันคักดสิทธึ๋ของฐานะปุโรหิต อย่าน่าฐานะปุโรหิตของท่าน เข้าไปในที่ที่จะท่าให้ท่านรู้สิกละอายใจหากประธานศาสนาจักรเห็นท่าน¹³

เราต้องพูดว่า “เพราะผมเป็นผู้ดำรงฐานะปุโรหิตของพระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงพระชนม์ ผมจึงเป็นตัวแทนของพระบิดาบนสวรรค์และดำรงฐานะปุโรหิตที่ท่าให้พระองค์สา- มารถท่างานผ่านทางผมได้ ผมจะไม่ลดตัวไปทำสิงที่ผมไม่พิงกระทำเพราะว่าผมมี ลัมพันธภาพกับฐานะปุโรหิตของพระผู้เป็นเจ้า” …

พี่น้องที่รัก เราหวังให้ท่านขยายฐานะปุโรหิตอันคักดึ้สิทธี้ของพระผู้เป็นเจ้า … ขอ ให้เรามองไปที่คุณค่าอันเป็นนิรันดรของเรื่องต่าง ๆ ด้วยตาที่เห็นแก่รัศมีภาพของ พระผู้เป็นเจ้าแต่อย่างเดียว และพูดกับตัวเองว่า “นับแต่นี้เป็นด้นไป ด้วยความช่วย เหลือของพระผู้เป็นเจ้า ผมจะไม่ข้องเกี่ยวกับกิจกรรมใดที่ไม่ได้ช่วยผลักตันผมให้ ก้าวไปข้างหน้าสู่เป็าหมายแห่งชีวิตนิรันดร เพื่อกลับไปยังที่ประทับของพระบิดาบน สวรรค์ในที่สุด”¹⁴

พี่น้องฐานะปุโรหิตทั้งหลาย เมื่อท่านได้รับเรียกสู่ตำแหน่ง ท่านที่เป็นบิดาในบ้าน ท่านมีสิทธี้รับพรของฐานะปุโรหิต ท่านมีสิทธี้รับการเปิดเผยจากพระวิญญาณเพื่อน่า ทางและซี้น่าท่านหากท่านดำเนินชีวิตจนพระเจ้าสามารถเปิดหน้าต่างสวรรค์ให้ท่าน ได้ และให้ค่าแนะนำท่านในการเรียกที่ท่านได้รับ พี่น้องที่รัก เพื่อ’ไห้ได้กี่งนี้ ท่านต้อง ดำเนินชีวิตเพื่อให้ได้มา ท่านต้องทำให้ตนเองมีคุณสมบัติเหมาะสม¹⁵

จงจำคำสัญญาอันน่าอัศจรรย์เหล่านั่นที่พระเจ้าทรงทำไว้กับท่านหากท่านอยาก จะเป็ยมไปด้วยความใจบุญต่อมนุษย์ทั้งปวง และ “ให้คุณธรรมประดับความนึกคิด ของท่านไม่เส์อมคลาย เมื่อนั้นความมั่นใจของท่านจะแข็งแกร่งขึ้นในการประทับอยู่ ของพระผู้เป็นเจ้า และคำสอนของฐานะปุโรหิตจะกลั่นลงมาบนจิตวิญญาณของท่าน ดังนั้าด้างจากสวรรค์

“พระวิญญาณบริสุทขึ้จะเป็นเพื่อนของท่านเสมอ และคทาของท่าน คทาแห่ง ความชอบธรรมอันไม่เปลี่ยนแปลงและความจริง และการครอบครองของท่านจะ เป็นการครอบครองอันเป็นนิจ และโดยปราศจากวิธีบีบคั้น มันจะไหลมาสู่ท่าน ตลอดกาลและตลอดไป” (ค.พ. 121:45-46)

ถ้อยคำที่ได้รับการดลใจเหล่านี้มาจากพระเจ้า และข้าพเจ้ากล่าวยํ้าถ้อยคำดัง กล่าว เพื่อเตือนท่านให้ระลึกถึงความรับผิดชอบของท่านในฐานะผู้ดำรงฐานะปุโรหิต และพรอันยิ่งใหญ่จะเป็นของท่านหากท่านขยายการเรียกในฐานะผู้รับใช้ของพระผู้ เป็นเจ้าสูงสุด¹⁶

ตามจริงแล้ว ผู้ดำรงฐานะปุโรหิตคือยามบนหอสูงของไซอัน ท่านคือผู้ได้รับการ กำหนดให้ดูแลสาขาต่างๆ ของศาสนาจักรและระแวดระวังภยันตรายที่รุมเร้าซาวโลก ทั้งที่มองเห็นและมองไม่เห็น ท่านคือผู้ดำรงฐานะปุโรหิตกลุ่มน้อยที่เป็นผู้ดูแลฝูง แกะ หรือสมาชิกทุกหนแห่งของศาสนาจักร ความรับผิดชอบของท่านมีมากมาย ท่านต้องผูกมิตรสมาชิกใหม่ที่เข้ามาสู่ศาสนาจักร ด้นหาผู้ที่ตั้งใจแสวงหาความจริง และพาเขามารู้จักกับผู้สอนศาสนา จงเอาใจใส่เด็กกำพร้าและหญิงม่ายอยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ดังที่อัครสาวกยากอบกล่าว การทำเซ่นนั้นและการรักษาตัวให้ หมดจดจากโลกคือ “ธัมมะ (ศาสนา) ที่บรืสุทธเว้มลทิน” (ยากอบ 1:27) ท่าน ต้องแน่ใจว่าความชั่วร้ายจะไม่แผ่กว้างออกไป และสมาชิกทุกคนได้รับการกระตุ้น ให้แข็งข้นในศาสนาจักร ท่านต้องสอนหลักธรรมที่ถูกต้องเพื่อให้สมาชิก ผู้นำ และ ครูรู้ว่าจะปกครองตนเองอย่างไร …

ท่านที่เป็นเจ้าหน้าที่ควบคุมได้รับมอบหมายความรับผิดชอบให้ดูแลฝูงแกะ หรือ สาขา ห้องถิ่น วอร์ด หรือสเตคของท่าน ท่านควรเป็นเสมือนพ่อ โดยพราสอนบิดาทั้ง หลายอย่างสมั่าเสมอและละเอียดถี่ถ้วนถึงความรับผิดชอบในการดูแลครอบครัว และปฏิบัติหน้าที่รับผิดชอบต่าง ๆ ตามการเรียกที่ได้รับในศาสนาจักรอย่างเต็มความ สามารถ และเป็นผู้’ปกบ้เองศรัทธา¹⁷

ความเข้มแข็งที่แทัจริงของศาสนาจักรนี้อยู่ที่พลังและอำนาจของฐานะปุโรหิตอัน ศักดี้สิทธี้ซึ่งพระบิดาบนสวรรค์ประทานแก่เราในยุคนี้ หากเราใช้พลังนั้นอย่างถูกต้อง และขยายการเรียกในฐานะปุโรหิต เราจะเห็นงานสอนศาสนาก้าวหน้า จะมีการจ่าย ส่วนสิบ แผนงานสวัสดิการจะคืบหน้า ครอบครัวจะปลอดภัย และศีลธรรมในบรรดา เยาวชนแห่งอิสราเอลจะไต้รับการปกใ]อง¹⁸

หลายปีก่อน ข้าพเจ้าไปร่วมการประชุมใหญ่สเตคแห่งหนึ่งซึ่งมีพระวิหารแมนไท ตั้งอยู่ทางยูท่าห์ตอนใต้ คืนนั้นเป็นคืนเดือนมืด มีพายุ และหิมะกำลังตก เมื่อเราออก จากการประชุมไปที่บ้านของประธานสเตค เราจอดรถและมองไปยังพระวิหารที่ตั้ง ตระหง่านอยู่บนเนินเขา ขณะนั่งตะลึงมองพระวิหารที่สว่างไสวสวยงามท่ามกลางคืน อันมืดมิดและมีหิมะโปรยปรายอยู่นั้น ประธานสเตคพูดสิงหนึ่งที่มีความหมายต่อ ข้าพเจ้ามาก เขาพูดว่า “พระวิหารที่สว่างไสวแห่งนั้นสวยงามมากขึ้นเมื่อมิพายุหรือ เมื่อหมอกลงจัด” เพื่อให้เข้าใจนัยสำคัญของก้อยคำดังกล่าว ข้าพเจ้าขอพูดกับท่าน ว่า พระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์จะมิความสำคัญต่อท่านมากขึ้นเมื่อเกิดพายุหรือ เมื่อท่านกำลังประสบกับความยากสำบากใหญ่หลวง พลังของฐานะปุโรหิตที่ท่านดำรง อยู่จะเลิศลํ้ามากขึ้นเมื่อมีวิกฤตกาลในบ้าน มีความเจ็บป่วยร้ายแรง หรือมีเรื่องใหญ่ ให้ตัดสินใจ มีการคุกคามของนี้าท่วม ไฟไหม้ หรือความอดอยากบางอย่าง สิงที่อยู่ ในพลังของฐานะปุโรหิต ซึ่งเป็นพลังของพระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงฤทธานุภาพ คือ พลังที่ จะกระทำสิงอัศจรรย์หากพระเจ้าทรงประสงค์ให้ทำเช่นนั้น แต่เพื่อให้เราใข้ฐานะปุ-โรหิต เราต้องมีค่าควร หากไม่เข้าใจหลักธรรมนี้ เราก็จะไม่ไต้รันพรของการดำรงฐานะ ปุโรหิตที่ใหญ่ยิ่งนั้น¹⁹